ฝากเป็นอุทาหรณ์เตือนสติสำหรับผู้ที่ต้องการทำศัลยกรรม
โดยน้องบอย บัณฑิตใหม่คนหนึ่งที่ตากำลังเริ่มบอด เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ที่จมูก แม้น้องบอยจะได้หาข้อมูลแล้วมาเป็นอย่างดีว่าเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐานมีแพทย์เป็นเจ้าของ แต่คนฉีดไม่น่าจะใช้แพทย์
ขณะที่ฉีดน้องบอยก็รู้สึกได้ว่า ตาข้างขวาเริ่มพร่ามัว ตัวสั่น อาเจียร ทางคลินิกจึงรีบนำส่งโรงพยาบาล เมื่อถึงโรงพยาบาลหมอก็บอกว่าได้เสียดวงตาไปข้างหนึ่งแล้ว หากมาถึงโรงพยาบาลช้ากว่านี้อาจเป็นอัมพาตได้
รศ. นพ. นภดล นพคุณ นายก สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ยำว่าการใช้สารฟิลเลอร์ฉีดจมูกแทนซิลิโคนนั้นเกิดความเสียหายมาแล้วหลายครั้ง ฉีดแล้วมีโอกาสอุดตันหลอดเลือดเหมือนผู้ป่วยรายล่าสุด และอาจกดทับหลอดเลือด โดยคุณหมอเปิดเผยว่าถึงแม้จะเป็นสารที่สลายไปได้เองภายในระยะเวลา 6 เดือน ถึง 1 ปี แต่ ทาง อย. ไม่ได้อนุญาตให้ฉีดบริเวณจมูก หากฉีดไปแล้วเข้าไปในหลอดเลือดทำให้เส้นประสาทตาเสียทำให้ตาบอดอย่างถาวร
ซึ่งเมื่อตรวจสอบคลินิกนี้ก็พบของกลาง ฟิลเลอร์และเข็มฉีดยา สำหรับคลินิกนี้ตรวจสอบก็พบว่าได้ย้ายมาจากย่านพญาไท ซึ่งไม่ใช่แพทย์เป็นผู้ให้บริการ ผู้ที่อ้างตัวเป็นแพทย์ก็ได้หลบหนีไปเรียบร้อยทั้งที่ก่อนหน้านี้แจ้งว่าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นให้ทั้งหมด
กรณีดังกล่าวอยากขอให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจ โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบในการจัดการคลินิกหรือสถานพยาบาลเถื่อนเหล่านี้คือ
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข โดยมีช่องทางในการติดต่อคือ facebook:มือปราบสถานพยาบาลเถื่อน หรือสายด่วน 02 193 7999
ซึ่งสามารถร้องเรียนและแจ้งเบาะแสเรื่องสถานพยาบาลเถื่อน หมอเถื่อน จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ เพื่อร่วมกันกวาดล้างสถานพยาบาลเหล่านี้ให้หมดไปและขอฝากกดไลค์ เพจมือปราบสถานพยาบาลเถื่อน กันเยอะๆ ด้วยนะครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจากข่าว 3 มิติ
อุทาหรณ์... กรณีฉีดฟิลเลอร์ จนตาบอด!!!!
โดยน้องบอย บัณฑิตใหม่คนหนึ่งที่ตากำลังเริ่มบอด เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ที่จมูก แม้น้องบอยจะได้หาข้อมูลแล้วมาเป็นอย่างดีว่าเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐานมีแพทย์เป็นเจ้าของ แต่คนฉีดไม่น่าจะใช้แพทย์
ขณะที่ฉีดน้องบอยก็รู้สึกได้ว่า ตาข้างขวาเริ่มพร่ามัว ตัวสั่น อาเจียร ทางคลินิกจึงรีบนำส่งโรงพยาบาล เมื่อถึงโรงพยาบาลหมอก็บอกว่าได้เสียดวงตาไปข้างหนึ่งแล้ว หากมาถึงโรงพยาบาลช้ากว่านี้อาจเป็นอัมพาตได้
รศ. นพ. นภดล นพคุณ นายก สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ยำว่าการใช้สารฟิลเลอร์ฉีดจมูกแทนซิลิโคนนั้นเกิดความเสียหายมาแล้วหลายครั้ง ฉีดแล้วมีโอกาสอุดตันหลอดเลือดเหมือนผู้ป่วยรายล่าสุด และอาจกดทับหลอดเลือด โดยคุณหมอเปิดเผยว่าถึงแม้จะเป็นสารที่สลายไปได้เองภายในระยะเวลา 6 เดือน ถึง 1 ปี แต่ ทาง อย. ไม่ได้อนุญาตให้ฉีดบริเวณจมูก หากฉีดไปแล้วเข้าไปในหลอดเลือดทำให้เส้นประสาทตาเสียทำให้ตาบอดอย่างถาวร
ซึ่งเมื่อตรวจสอบคลินิกนี้ก็พบของกลาง ฟิลเลอร์และเข็มฉีดยา สำหรับคลินิกนี้ตรวจสอบก็พบว่าได้ย้ายมาจากย่านพญาไท ซึ่งไม่ใช่แพทย์เป็นผู้ให้บริการ ผู้ที่อ้างตัวเป็นแพทย์ก็ได้หลบหนีไปเรียบร้อยทั้งที่ก่อนหน้านี้แจ้งว่าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นให้ทั้งหมด
กรณีดังกล่าวอยากขอให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจ โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบในการจัดการคลินิกหรือสถานพยาบาลเถื่อนเหล่านี้คือ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข โดยมีช่องทางในการติดต่อคือ facebook:มือปราบสถานพยาบาลเถื่อน หรือสายด่วน 02 193 7999
ซึ่งสามารถร้องเรียนและแจ้งเบาะแสเรื่องสถานพยาบาลเถื่อน หมอเถื่อน จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ เพื่อร่วมกันกวาดล้างสถานพยาบาลเหล่านี้ให้หมดไปและขอฝากกดไลค์ เพจมือปราบสถานพยาบาลเถื่อน กันเยอะๆ ด้วยนะครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจากข่าว 3 มิติ