ก่อนอื่นเลยคือเรื่องนี้ เกิดจากความสงสัยของเรากับเพื่อนสนิท เหตุเริ่มจากForward Mailมากมายในin boxประเภทว่างานออนไลน์ ทำที่บ้าน เดือนละเป็นหมื่นเป็นแสน บลาๆๆ เลยลองกรอกข้อมูลกันเข้าไป เราทำทุกขั้นตอนที่ไม่เสียเงิน พอมีเรื่องเสียเงินปุ๊บขอบายทันที แต่ด้วยความที่เพื่อนสนิทนางตัดสินใจว่าจะขอลองซักตั้ง เราเองก็ไม่ได้ห้ามอะไรเพราะก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เรื่องที่จะเล่าทั้งหมดนี้ แม้เราไม่ได้ทำด้วยตัวเอง แต่บอกได้เลยว่าอยู่ด้วย ไปด้วยตลอด(ตอนที่เข้าประชุมเสียเงิน ไม่ได้เข้าไปนั่งด้านในก็จริง แต่ก็รอในโรงแรมนั่นแหละ)
สำหรับเรา มันคือการหลอกลวง โดยเริ่มจาก..
1. โทรมาตามเบอที่เรากรอก(ด้วยความรำคาญเพราะมันforwardมาเยอะจนล้นเมล์) สาธยายว่างานเกี่ยวกับการโปรโมท ทำในเน็ต ที่ไหนก็ได้
2. นัดให้ไปที่อิ บ. global advertising แล้วก็ให้ไปฟังมันไซโคโดยการเอาคนขึ้นมาพูดจาหยาบๆคายๆแต่ยังคงใจความโน้มน้าว เช่น "กูบอกเลยว่ามันดี ไม่ดีพวกกูจะอยู่ได้ยังไง กินทุกวัน ที่พูดอย่างงี้เพราะอยากให้รู้สึกว่าเป็นกันเอง ให้กูมานั่งพูดครับๆค่ะๆหลอกลวงกูทำไม่ได้หรอก" เป็นต้น คนเกือบครึ่งนึงก็จะคล้อยตามไป ต่อมามีการยกสมุดบัญชี/รูปภาพการไปเที่ยวต่างประเทศ/รูปรถหรู แล้วเริ่มเอาจุดอ่อนของมนุษย์มาเล่น "เงิน" อีกกว่าครึ่งจึงคล้อยตามไป
3. ปิดjobด้วยการบอกว่า "เนี้ย! คุณโชคดีมากเลยนะ ..หากต้องการรู้เรื่องรายละเอียดหรือแนวทางหาเงินดีๆ(ปั้นคำพูดล้านแปดให้ดูสวยหรูและน่าสนใจ) วันเสาร์/อาทิตย์นี้ ทางบริษัทเชิญ xxxมาแนะนำเองเลย ที่โรงแรมxxx แต่ว่าต้องสำรองที่นั่ง 200 นะ เสียแค่นี้ถือว่าคุ้มมากเลยนะ ไม่ทำไม่เป็นไร แต่อยากให้ไปลองฟัง บลาๆๆๆๆๆ
------ สมมติว่าไปอีโรงแรมxxx---------
4. ลงชื่อหน้าห้องแล้วเดินเข้าไป ก็จะเจอแบบข้อ 2 อีกครั้ง แต่แอดว๊านซ์กว่าเดิมโดยเอาของที่เป็นชิ้นเป็นอันมาอวดอาจจะเป็นกุญแจรถ/เช็คเงินสด/เจ้าของจอมลวงโลกมาเอง(ไมเคิล) หรือใดๆก็ตาม ตามโอกาส
--------- สมมติว่าตกลงทำและ ------------
5. ก็ต้องหาเงินมาซื้อสินค้ามันเพื่อเปิดเป็นเมมเบอร์ของมัน ก็ต้องซื้ออิสินค้านั่นแหละ ให้ได้แต้มตามที่มันกำหนด อย่างขี้ๆกากๆก็เหยียบหมื่น
6. เมื่อได้ของมาตุนไว้แล้ว(ซึ่งก็ไม่รู้จะขายออกได้ยังไง) ก็จะมีคนมาคอยแนะนำว่าควรทำอะไรยังไง เช่น "เราขายเลยไม่ได้หรอก เพราะของเรามันไม่ได้มีตามตลาด ลองให้เค้าไปลองก่อนซิ ของมันดีเดี๋ยวเค้าก็มาซื้อเองแหละ" เป็นต้น แต่ในความเป็นจริง ของฟรีน่ะใครมันก็เอา แต่อะไรมันจะวิเศษขนาดนั้น! กินขวดเดียว ซองเดียว รู้เรื่องเลย!? ต้องตะกายมาซื้ออีกเลย!? แพงก็แพง ทีนี้เป็นไง ของก็หมดไป แต่ขาดทุนยับเยิน ไม่นานเดือนใหม่ก็วนมา ต้อซื้อของมันอีกแล้ว เพื่อคงสภาพสมาชิก ตายห่า! ของเก่าก็ยังขายไม่ได้เลย แต่ก็ต้องซื้อ เพราะลงทุนไปแล้ว(หนี้สินพอกพูน)
7. ระหว่างนั้นคนที่คอยแนะนำเรา(คนที่โทรติดต่อเรามาตั้งแต่แรกเลย)จะคอยโน้มน้าวให้เข้าไปฟังอบรม(?)เชิงไซโค เอาคนรวยๆ ระดับสูงๆ มาบอกเรื่องเดิม เหมือนพยามสร้างแรงผลักดัน
8. ในขณะเดียวกันเค้าก็จะพยามเทรนด์ให้เราหาทายาทอสูร(?) คือการให้โปรแกรมมา 1 โปรแกรมบวกกับกระดาษA4 1 แผ่น
- 8.1 โปรแกรมคือโปรแกรม "กรองเมล์" วิธีใช้คือ เราเข้าเน็ตไปตามเว็บต่างๆข่าวอะไรก็ได้ที่เค้ามีการให้แสดงความเห็นแล้วโชว์อีเมล์ เราcopyทั้งหน้ามาเลย จากนั้นเอาไป paste ใส่ในโปรแกรม มันจะคัดมาให้เราแต่อีเมล์
- 8.2 กระดาษ 1 แผ่นที่ได้มาเป็นรายละเอียดการพูดจาเชิญชวนหาทายาทอสูรมาทำงานนรกนี่นั่นเอง(เดาว่าหลายท่านคงเคยได้ยินมาบ้าง แพทเทิร์นเดิมๆนั่นล่ะค่ะ) ตัวอย่างเช่น "กรณีโทรหาเพื่อนเก่า หวัดดีเพื่อน เป็นไง สบายดีมั้ย ตอนนี้ทำอะไร เรียนเป็นไง งานเป็นไง บลาๆๆ จากนั้น.. เออเนี้ย เรามีงานดีๆมาแนะนำนะ นี่ถ้าไม่เห็นเป็นเพื่อนไม่มาบอกเลยนะ คืองี้..." เป็นต้น
9. อ้างอิงจากข้อ 8 ส่วนใหญ่8.2มักพังไม่เป็นท่า จึงขอเล่าต่อจาก8.1ก็แล้วกัน คือ... เมื่อคุณได้อีเมล์นับพันนับหมื่นมาแล้ว คุณก็ต้องมานั่งสมัครอีเมล์ใหม่อีกนับร้อย เพื่อส่งไอ้ลิ้งค์ที่คุณโดนไปในข้อ1นั่นแหละ แล้วเมื่อมีคนกรอกเข้ามา มันก็จะเตือนไปในระบบคุณ(เป็นโปรแกรมสำเร็จรูป ทำได้ง่ายๆทางเว็บของอากู๋ คือเมื่อมีคนตอบแแบสอบถามมา ให้รีเฟอร์ไปที่อีเมล์ของคุณ)
10. คุณก็จะต้องเอาโทรศัพ(ของคุณ)โทรไปยังเบอนั่นๆ แล้วเริ่มพูดตามอีกระดาษA4ในข้อ8 แต่เลือก "กรณีลูกค้า" แล้วก็ว่าไปตามที่คุณโดนนั่นแหละ ไล่ไปเป็นข้อๆเลย คนที่ทนอยู่ได้ก็อาจจะดี(ล่ะมั้ง) แต่มาถึงตรงนี้ทุกคนก็คงมองออกแล้วว่าลวงโลกสัส แล้วส่วนใหญ่จะยอมถอยออกมาทั้งที่ยังมีสติดี(ประเด็นนี้อาจจะทำให้คนส่วนใหญ่ที่ว่าไม่ได้ขับLamboghiniหรือไปพักร้อนแถบEurope เหมือนที่Up lineอ้างไว้บ่อยๆ)
ปล. สังเกตว่าธุรกิจประเภทนี้ ไม่ว่าจะยี่ห้อไหน คนทำมักจะเพ้อเจ้อถึงเรื่องราวในอนาคต พูดจาสวยหรู หาดูได้ง่ายๆตามFacebook
" ขายตรง" ดีจริงเหรอ?? เล่าจากประสบการณ์จริง เห็นกับตา ได้ยินกับหู
สำหรับเรา มันคือการหลอกลวง โดยเริ่มจาก..
1. โทรมาตามเบอที่เรากรอก(ด้วยความรำคาญเพราะมันforwardมาเยอะจนล้นเมล์) สาธยายว่างานเกี่ยวกับการโปรโมท ทำในเน็ต ที่ไหนก็ได้
2. นัดให้ไปที่อิ บ. global advertising แล้วก็ให้ไปฟังมันไซโคโดยการเอาคนขึ้นมาพูดจาหยาบๆคายๆแต่ยังคงใจความโน้มน้าว เช่น "กูบอกเลยว่ามันดี ไม่ดีพวกกูจะอยู่ได้ยังไง กินทุกวัน ที่พูดอย่างงี้เพราะอยากให้รู้สึกว่าเป็นกันเอง ให้กูมานั่งพูดครับๆค่ะๆหลอกลวงกูทำไม่ได้หรอก" เป็นต้น คนเกือบครึ่งนึงก็จะคล้อยตามไป ต่อมามีการยกสมุดบัญชี/รูปภาพการไปเที่ยวต่างประเทศ/รูปรถหรู แล้วเริ่มเอาจุดอ่อนของมนุษย์มาเล่น "เงิน" อีกกว่าครึ่งจึงคล้อยตามไป
3. ปิดjobด้วยการบอกว่า "เนี้ย! คุณโชคดีมากเลยนะ ..หากต้องการรู้เรื่องรายละเอียดหรือแนวทางหาเงินดีๆ(ปั้นคำพูดล้านแปดให้ดูสวยหรูและน่าสนใจ) วันเสาร์/อาทิตย์นี้ ทางบริษัทเชิญ xxxมาแนะนำเองเลย ที่โรงแรมxxx แต่ว่าต้องสำรองที่นั่ง 200 นะ เสียแค่นี้ถือว่าคุ้มมากเลยนะ ไม่ทำไม่เป็นไร แต่อยากให้ไปลองฟัง บลาๆๆๆๆๆ
------ สมมติว่าไปอีโรงแรมxxx---------
4. ลงชื่อหน้าห้องแล้วเดินเข้าไป ก็จะเจอแบบข้อ 2 อีกครั้ง แต่แอดว๊านซ์กว่าเดิมโดยเอาของที่เป็นชิ้นเป็นอันมาอวดอาจจะเป็นกุญแจรถ/เช็คเงินสด/เจ้าของจอมลวงโลกมาเอง(ไมเคิล) หรือใดๆก็ตาม ตามโอกาส
--------- สมมติว่าตกลงทำและ ------------
5. ก็ต้องหาเงินมาซื้อสินค้ามันเพื่อเปิดเป็นเมมเบอร์ของมัน ก็ต้องซื้ออิสินค้านั่นแหละ ให้ได้แต้มตามที่มันกำหนด อย่างขี้ๆกากๆก็เหยียบหมื่น
6. เมื่อได้ของมาตุนไว้แล้ว(ซึ่งก็ไม่รู้จะขายออกได้ยังไง) ก็จะมีคนมาคอยแนะนำว่าควรทำอะไรยังไง เช่น "เราขายเลยไม่ได้หรอก เพราะของเรามันไม่ได้มีตามตลาด ลองให้เค้าไปลองก่อนซิ ของมันดีเดี๋ยวเค้าก็มาซื้อเองแหละ" เป็นต้น แต่ในความเป็นจริง ของฟรีน่ะใครมันก็เอา แต่อะไรมันจะวิเศษขนาดนั้น! กินขวดเดียว ซองเดียว รู้เรื่องเลย!? ต้องตะกายมาซื้ออีกเลย!? แพงก็แพง ทีนี้เป็นไง ของก็หมดไป แต่ขาดทุนยับเยิน ไม่นานเดือนใหม่ก็วนมา ต้อซื้อของมันอีกแล้ว เพื่อคงสภาพสมาชิก ตายห่า! ของเก่าก็ยังขายไม่ได้เลย แต่ก็ต้องซื้อ เพราะลงทุนไปแล้ว(หนี้สินพอกพูน)
7. ระหว่างนั้นคนที่คอยแนะนำเรา(คนที่โทรติดต่อเรามาตั้งแต่แรกเลย)จะคอยโน้มน้าวให้เข้าไปฟังอบรม(?)เชิงไซโค เอาคนรวยๆ ระดับสูงๆ มาบอกเรื่องเดิม เหมือนพยามสร้างแรงผลักดัน
8. ในขณะเดียวกันเค้าก็จะพยามเทรนด์ให้เราหาทายาทอสูร(?) คือการให้โปรแกรมมา 1 โปรแกรมบวกกับกระดาษA4 1 แผ่น
- 8.1 โปรแกรมคือโปรแกรม "กรองเมล์" วิธีใช้คือ เราเข้าเน็ตไปตามเว็บต่างๆข่าวอะไรก็ได้ที่เค้ามีการให้แสดงความเห็นแล้วโชว์อีเมล์ เราcopyทั้งหน้ามาเลย จากนั้นเอาไป paste ใส่ในโปรแกรม มันจะคัดมาให้เราแต่อีเมล์
- 8.2 กระดาษ 1 แผ่นที่ได้มาเป็นรายละเอียดการพูดจาเชิญชวนหาทายาทอสูรมาทำงานนรกนี่นั่นเอง(เดาว่าหลายท่านคงเคยได้ยินมาบ้าง แพทเทิร์นเดิมๆนั่นล่ะค่ะ) ตัวอย่างเช่น "กรณีโทรหาเพื่อนเก่า หวัดดีเพื่อน เป็นไง สบายดีมั้ย ตอนนี้ทำอะไร เรียนเป็นไง งานเป็นไง บลาๆๆ จากนั้น.. เออเนี้ย เรามีงานดีๆมาแนะนำนะ นี่ถ้าไม่เห็นเป็นเพื่อนไม่มาบอกเลยนะ คืองี้..." เป็นต้น
9. อ้างอิงจากข้อ 8 ส่วนใหญ่8.2มักพังไม่เป็นท่า จึงขอเล่าต่อจาก8.1ก็แล้วกัน คือ... เมื่อคุณได้อีเมล์นับพันนับหมื่นมาแล้ว คุณก็ต้องมานั่งสมัครอีเมล์ใหม่อีกนับร้อย เพื่อส่งไอ้ลิ้งค์ที่คุณโดนไปในข้อ1นั่นแหละ แล้วเมื่อมีคนกรอกเข้ามา มันก็จะเตือนไปในระบบคุณ(เป็นโปรแกรมสำเร็จรูป ทำได้ง่ายๆทางเว็บของอากู๋ คือเมื่อมีคนตอบแแบสอบถามมา ให้รีเฟอร์ไปที่อีเมล์ของคุณ)
10. คุณก็จะต้องเอาโทรศัพ(ของคุณ)โทรไปยังเบอนั่นๆ แล้วเริ่มพูดตามอีกระดาษA4ในข้อ8 แต่เลือก "กรณีลูกค้า" แล้วก็ว่าไปตามที่คุณโดนนั่นแหละ ไล่ไปเป็นข้อๆเลย คนที่ทนอยู่ได้ก็อาจจะดี(ล่ะมั้ง) แต่มาถึงตรงนี้ทุกคนก็คงมองออกแล้วว่าลวงโลกสัส แล้วส่วนใหญ่จะยอมถอยออกมาทั้งที่ยังมีสติดี(ประเด็นนี้อาจจะทำให้คนส่วนใหญ่ที่ว่าไม่ได้ขับLamboghiniหรือไปพักร้อนแถบEurope เหมือนที่Up lineอ้างไว้บ่อยๆ)
ปล. สังเกตว่าธุรกิจประเภทนี้ ไม่ว่าจะยี่ห้อไหน คนทำมักจะเพ้อเจ้อถึงเรื่องราวในอนาคต พูดจาสวยหรู หาดูได้ง่ายๆตามFacebook