“เปิ้ล” ขอหน้าด้านไม่ลาวงการแล้ว ฉุน “ใบเตย” ไม่จบโพสต์เยาะเย้ย

  

“เปิ้ล ไอริณ” ไม่ลาวงการแล้ว บอกได้กำลังใจท่วมท้นขอหน้าด้านอยู่ต่อ และจะอยู่ยาวเล่นไปถึงบทแม่บทยาย ให้อภัย “วู้ดดี้” สัมภาษณ์ฆ่าคารายการ เพราะฝ่ายชายยอมขอโทษ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นคนไร้มนุษยธรรมแบบนี้ สาบานพูดแต่ความจริงถ้าโกหกขอให้มีอันเป็นไปภายใน 3 วัน จวก “ใบเตย” ไร้สปิริตถอนตัวจากหนังทั้งที่ตนก็ไม่ได้เล่นแล้ว สุดฉุนใบเตยไม่ยอมจบโพสต์ข้อความเยาะเย้ยกรณีที่เปิ้ลต้องไปฉี่ข้างทาง
      
       มีเรื่องไม่จบไม่สิ้นเลยทีเดียวสำหรับ “เปิ้ล ไอริณ ศรีแกล้ว” หลังจากโดน “ใบเตย อาร์สยาม” สุธีวัน ทวีสิน ประกาศไม่ร่วมงานในหนัง “สวยผ่าซาก” ประมาณว่ามีฉันต้องไม่มีเธอ เป็นเหตุให้เปิ้ลโดนปลดจากหนังเรื่องดังกล่าว ซ้ำในวันแถลงข่าวทีมงานก็ไม่ยอมให้เปิ้ลเหยียบเข้าไปในงาน โดยอ้างว่าถ้าก้าวขาเข้าไปใบเตยจะถอนตัว เรื่องนี้อื้อฉาวไปทั่วจน “วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา” ติดต่อให้เปิ้ลไปออกรายการ “วู้ดดี้เกิดมาคุย” เพื่อเปิดใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และเปิ้ลก็ประกาศจะพูดเรื่องนี้กับรายการนี้รายการเดียว
      
       แต่พอรายการออกอากาศเปิ้ลถึงกับอึ้ง เพราะรายการตัดคำสัมภาษณ์ของเปิ้ลไปมา สลับกับการที่วู้ดดี้วิพากษ์วิจารณ์คำตอบของเปิ้ล ดูๆ แล้วไม่เหมือนรายการทอล์กโชว์แต่เหมือนวิเคราะห์คำตอบของเปิ้ลมากกว่า จนทำให้หลายคนคิดว่า เป็นการเอาเปิ้ลไปฆ่าชัดๆ เรื่องนี้เป็นที่วิจารณ์กันแซดจนทำให้วู้ดดี้ต้องออกมาแถลงข่าวขอโทษเปิ้ลเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (4 มิ.ย. 57) พร้อมกับชี้แจงว่าเป็นรูปแบบรายการใหม่
      
       ด้านเปิ้ลล่าสุดได้ไปร่วมงานประกาศรางวัล ไนน์เอ็นเตอร์เทน อวอร์ด 2014 และได้เปิดใจให้สัมภาษณ์แบบจัดเต็ม ลั่นหากสิ่งที่พูดในรายการเป็นเรื่องโกหก ขอให้มีอันเป็นไปภายใน 3 วัน รับท้อแท้ถึงขั้นอยากออกจากวงการจริง แต่ได้รับกำลังใจล้นหลาม ประกาศหลังจากนี้ขอหน้าด้านทำงานในวงการไปจนแก่ ก่อนซัดใบเตยอีกดอก ไร้สปิริต หลังถอนตัวจากหนังสวยผ่าซากจนทำทีมงานป่วน นักแสดงต้องตกงานไปตามๆ กัน
      
       “เปิ้ลรู้สึกท้อจริงๆ ตอนนั้นเปิ้ลอยากออกจากวงการจริงๆ เพราะเรารู้สึกว่าเราไม่มีที่ยืนจริงๆ มันมีปัญหาไม่หยุดหย่อน อยากทำเพลงก็มีปัญหา พอเราไปทอล์กโชว์นี้ก็โดนดูถูกอีก พอเล่นหนังก็มีปัญหาเรื่องตัดฉาก พอมาเล่นหนังอีกเรื่องหนึ่งก็โดนถอด ไปอีกทอล์กโชว์หนึ่งก็โดนเหยียบย่ำอีก ความรู้สึกเหมือนไม่มีใครต้องการเราแล้ว เหมือนกับเราเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้ของวงการ ขยับไปทางไหนก็มีปัญหาตลอด เราก็ไม่รู้ว่าการที่ทุกวันนี้เราอยู่ในวงการมันคุ้มค่ากับความสุขไหม”
      
       “จริงๆ ก็ต้องขอบคุณเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะว่าเปิ้ลได้รับกำลังใจมหาศาลมากอย่างที่เปิ้ลไม่เคยคาดคิดมาก่อนในชีวิต เปิ้ลรู้สึกว่าเปิ้ลอยู่ได้เพราะข้อความเหล่านั้น เปิ้ลอยู่ได้เพราะกำลังใจเหล่านั้น ซึ่งมันมีค่ามหาศาลกับเปิ้ลมาก และที่สำคัญที่สุดที่เปิ้ลจะพูดก็คือ วันนั้นท่ามกลางเสียงที่ไล่เปิ้ล ว่า ไปออกไป แต่เปิ้ลได้ยินเสียงพี่ๆ สื่อตะโกนตลอดทางเลยว่า เปิ้ลสู้เขา เปิ้ลอย่ายอมนะ มันก็เลยเป็นความรู้สึกที่มีกำลังใจขึ้นมา”
      
       เผยกำลังใจล้นจนไม่คิดออกจากวงการ ขอหน้าด้านทำงานไปจนแก่
       “เปิ้ลสับสนมากค่ะว่าจะออกจากวงการดีไหม แต่คนแรกที่ติดต่อมาคือ อาพยุง วัฒนกุล เขาส่งข้อความมาบอกว่า อาผิดหวังในตัวเปิ้ลมาก อาเคยมองว่าเปิ้ลเป็นผู้หญิงเก่ง แต่วันนี้อาขอถอนคำพูด รวมไปถึงพระที่เปิ้ลรักท่านที่สุดในชีวิต เปิ้ลโทรไปหาท่านท่านไม่รับโทรศัพท์ แต่ท่านสั่งคนมาบอกว่า ท่านไม่มีลูกศิษย์ขี้แพ้แบบนี้เราก็เศร้ามาก และมีข้อความเยอะมากที่บอกว่าพี่เปิ้ลต้องอยู่ต่อนะทุกคนผิดหวัง พี่เปิ้ลสัญญาแล้วว่าจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังทำไมทำแบบนี้ เพราะฉะนั้นเปิ้ลเลยคิดว่า เปิ้ลก็จะหน้าด้านอยู่ในวงการนี้ต่อไปค่ะ ใครจะไม่รักช่างมัน เปิ้ลไม่อยากให้ชีวิตที่อยู่มา 20 ปีต้องมาพังทลายเพราะคนไม่กี่คน และเปิ้ลจะอยู่จนเล่นเป็นย่า เป็นยาย จนไม่มีแรงจะเล่น ไม่มีแรงทำงานแล้วค่ะ”
      
       ยอมรับเสียความรู้สึกหลังไปออกรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย ทั้งที่รู้ว่าพิธีกรคนดังสนิท “ใบเตย” แต่คิดว่าเป็นคนมีมนุษยธรรม เผยหลังอัดรายการเสร็จเดินคอตกออกมาและร้องไห้ทุกวัน แต่เลือกขออโหสิกรรมให้ทุกฝ่าย
       “ทางรายการได้โทร. มาจริงๆ ค่ะ กับส้ม (ณัชพร สายบัว) หุ้นส่วนรายการของวู้ดดี้เปิ้ลก็สนิทเคยเล่นละครด้วยกัน ส้มโทร. มาแล้วบอกว่า วู้ดดี้อยากขอโทษนะแต่ตัวเปิ้ลไม่ได้อยู่ในช่วงที่อยากคุยกับใครจริงๆ เมื่อวานเป็นวันที่แม้แต่เพื่อนสนิทก็ติดต่อเปิ้ลไม่ได้ นักข่าวพี่ๆ ที่เปิ้ลรักก็ไม่มีใครติดต่อเปิ้ลได้สักคนหนึ่ง เพราะเราไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่อยากจะคุยกับใครจริงๆ”
      
       “ตอนนี้ยังไม่ได้คุยตรงๆ เลยค่ะ เราเสียความรู้สึกจริงๆ เพราะเราก็ให้เกียรติเขามาก เปิ้ลเป็นคนประกาศทั่วประเทศเลยว่า เปิ้ลขอไปรายการเขาเพียงรายการเดียว เขาให้เราแต่งหน้าไปเอง ให้เราเลือกชุดไปเอง เราไปตั้งแต่บ่ายโมง ถ่ายเสร็จสี่ทุ่ม เสร็จแล้วเราก็เดินคอตกออกมา พอเห็นเทปแล้วจุกเลย เดือนนี้เป็นเดือนที่ร้องไห้เยอะมาก เกิดมาไม่เคยร้องไห้ขนาดนี้เลย ร้องไห้ในรถ ร้องไห้ในสตูดิโอ ร้องไห้ในรายการ กลับบ้านดูวู้ดดี้ก็ยังร้องไห้หน้าจอเลยค่ะ ส่วนที่บอกว่าเขาเอาเราไปฆ่า คงฆ่าไม่ได้ เพราะตอนนี้ยังไม่ตาย ยังยืนอยู่ตรงนี้”
      
       “เปิ้ลปฏิบัติธรรมมาค่ะ เพราะฉะนั้นอภัยทานเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เปิ้ลไม่อยากเป็นศัตรูกับใครอีกแล้วค่ะ แต่เปิ้ลอยากชี้แจง 2 เรื่อง เรื่องแรกก็คือมันมีหลายอย่างที่เปิ้ลอยากพูดในรายการแล้วเปิ้ลไม่ได้พูดเลย คือพูดไปแล้วไม่ได้ออกอากาศ ทุกคนไม่ได้รับรู้ นั่นคือเปิ้ลได้พูดไปว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะกรรมของเปิ้ลเอง เปิ้ลอาจจะเคยไปทำใครเขาเอาไว้ เปิ้ลขออโหสิกรรมเจ้ากรรมนายเวรอย่าจองเวรกันอีกเลย แต่ปรากฏว่าเขาเอาแค่คำว่าอย่าจองเวรกันอีกเลยไปออกหลายๆ รอบ ก็เลยดูเหมือนเราอาฆาตเจ้าคิดเจ้าแค้น แต่จริงๆ เปิ้ลกำลังขออโหสิกรรมอยู่”
      
       “เรื่องจะไม่รับคำขอโทษ เปิ้ลไม่ใช่คนที่อคติขนาดนั้น แต่ตอนนี้เปิ้ลยังไม่มีอารมณ์ที่จะโทรศัพท์คุยกับใคร และไม่อยากจะรื้อฟื้นเรื่องไหน แต่การที่เขาสร้างสปิริตด้วยการที่ออกมาขอโทษเปิ้ลแบบนั้น จริงๆ แล้วเปิ้ลก็ไม่ถือโทษโกรธใครแล้วค่ะ”
      
       นอกจากนี้ “เปิ้ล ไอริณ” ยังได้เปิดใจอีกว่าที่ผ่านมาตนรู้อยู่แล้วว่า “วู้ดดี้” นั้นสนิทกับ “ใบเตย” เป็นการส่วนตัว เพียงแต่ไม่คิดว่าจะไร้มนุษยธรรมขนาดนี้ ทั้งที่ครั้งหนึ่งเคยบุกไปขอถ่ายทำรายการที่บ้านของตนถึงเตียงนอนมาแล้ว
       “เปิ้ลทราบดีว่าเขาสนิทกัน แต่เปิ้ลคิดว่าเขาก็น่าจะมีมนุษยธรรม เพราะวู้ดดี้เคยไปถ่ายรายการที่บ้านเปิ้ลมาก่อน เคยไปนั่งถึงเตียงนอนเปิ้ล และอาจารย์เจน ญาณทิพย์ ยังพูดกับวู้ดดี้เลยว่า ผู้หญิงคนนี้เขาเหงามาก ชีวิตเขาว้าเหว่ เขาไม่มีใคร คนๆ นี้ทำบุญกับใครก็ไม่ขึ้น และภายนอกเขาดูเป็นคนอีกแบบหนึ่ง แต่บุคลิกข้างในเขาธรรมะธรรมโม เปิ้ลคิดว่าสิ่งนั้นคงจะทำให้เขาไม่อยากจะทำร้ายเรา”
      
       “เปิ้ลทำบุญเป็นปกติอยู่แล้วตั้งแต่คุณแม่เสียเราก็ใส่บาตรทุกเช้าและปฏิบัติธรรมทุกคืน เราไม่ได้สร้างภาพแต่ทำอย่างนี้มาตลอดและนี่เป็นเหตุผลอีกอย่างที่เปิ้ลอยากอยู่วงการต่อ เพราะเปิ้ลอยากจะเป็นตัวแทนของเยาวชน อยากเป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่า ดาราที่เซ็กซี่มั่นใจตัวเองคนที่เก่งคนที่แกร่งก็สามารถปฏิบัติธรรมได้ และไม่คิดจะสร้างภาพยึดถือศาสนาเป็นที่พึ่งเวลาทุกข์ค่ะ”
      
       โต้เปล่าจัดฉากสร้างกระแสให้ตัวเองโดยการโผล่เข้าไปหา “ใบเตย” ในวันแถลงข่าวเรื่องหนัง
       “เปิ้ลพูดไปแล้วในรายการซึ่งเป็นประโยคที่ไม่ได้ออนแอร์ ถ้าเปิ้ลอยากสร้างกระแสตอนที่มีข่าววันนั้นเปิ้ลควรจะเปิดมือถือไว้ และอยู่กรุงเทพฯ สแตนด์บายรับงานแล้วก็ไปทุกทอล์กโชว์ แต่เปิ้ลกลับปิดมือถือ 3 วัน เปิ้ลไปบวชชีปฏิบัติธรรมอยู่ในป่า 3 วันเต็มๆ ไม่รับงานเลย ไม่ไปทอล์กโชว์ไหน แล้วก็เลือกไปวู้ดดี้รายการเดียว ซึ่งคนที่จะสร้างกระแสเขาคงไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด”
      
       “อย่าซ้ำเติมเปิ้ลอีกเลยเพราะไม่มีใครรู้ความจริง วันนั้นกองถ่ายบอกเปิ้ลว่า ให้เปิ้ลรอแป๊บหนึ่งเพราะนักข่าวอยากสัมภาษณ์ มีน้องๆ นักข่าวเดินมาถึงรถบอกว่าอยากสัมภาษณ์ด้วย ทีมงานก็บอกว่าสัมภาษณ์ได้แต่ให้สัมภาษณ์ที่กำแพง ตรงพงหญ้าแถวโน้นเลย เปิ้ลก็ถามว่าทำไม เขาบอกว่ากองถ่ายไม่ให้เข้าไปเหยียบข้างใน คือทุกอย่างล้มเลิกหมดเลย เราก็ยังตกใจยังบอกไปว่า งั้นเราให้สัมภาษณ์ที่กำแพงก็ได้แต่พี่ๆ นักข่าวเขาไม่ยอม นั่นเป็นสาเหตุที่ว่าเปิ้ลรอ ทีนี้ทางกองถ่ายก็บอกว่า อีกครึ่งชั่วโมงนะให้เปิ้ลรอแป๊บหนึ่ง รอให้รถใบเตยออกไปก่อนแล้วเปิ้ลค่อยเข้ามา คิดดูสิว่าคนโดนถอดงาน ขนาดเข้าไปยังไม่ได้ เหมือนตัวน่ารังเกียจแต่เปิ้ลก็รอ รู้ว่าพี่ๆ นักข่าวรอ ที่สำคัญก็คือพอเข้าไปปุ๊บทีมงานก็ไล่เปิ้ลเหมือนหมูเหมือนหมา ซึ่งเปิ้ลไม่เคยได้รับสิ่งนั้นมาก่อน”
      
       ฝากไปถึง “ใบเตย” และ “อาร์สยาม” ถอนตัวไม่เล่นหนังทำไม ทั้งที่ “เปิ้ล” ก็โดนถอดไปแล้ว หรือถอนเพราะเห็นว่าตนเป็นตัวเสนียดเข้าไปเหยียบในงานแถลงข่าวงั้นหรือ
      
       “เปิ้ลอยากจะถามจริงๆ เปิ้ลฝากถามอาร์สยาม และฝากถามใบเตยว่าคุณถอนตัวทำไม คุณออกจากหนังเรื่องนี้ทำไม ทั้งๆ ที่เปิ้ลก็โดนถอดสมใจแล้ว คุณมีเหตุผลอะไรที่ต้องถอนตัว เพราะว่าเสนียดตัวนี้มันเหยียบเข้าไปในสตูดิโอเหรอ อยากรู้ว่าคุณมีเหตุผลอะไรถึงต้องทำให้ทีมงานต้องเดือดร้อน ทำให้นักแสดงอีกเป็นสิบคนต้องตกงาน และมันกลายเป็นความผิดมากขึ้นของเปิ้ลด้วย ทำให้กองถ่ายไม่คุยกับเปิ้ลและเกลียดเปิ้ลไปเลยด้วย แม้แต่ข้อความขอโทษหรือแม้แต่จะโทรหาเราก็ไม่มี เพราะเขาโกรธเราที่เราเหยียบเข้าไปในนั้น เปิ้ลอยากรู้ว่าการกระทำหักด้ามพร้าด้วยเข่าคุณทำทำไม เปิ้ลก็ไม่ได้เล่นแล้ว และที่สำคัญเรื่องนี้เปิ้ลก็ไม่ได้มีฉากเข้ากับใบเตยเลยนะคะ เปิ้ลเป็นผีแยกออกมาและแค่ร่วมโปสเตอร์ใบเดียวกันก็ไม่ได้เลยเหรอ ฝากตอบด้วยค่ะ”
      
       “อย่างที่บอกว่าสปิริตเปิ้ลสูงเปิ้ลไม่เคยเกี่ยงงานอยู่แล้ว ถ้างานติดต่อมาดีๆ เปิ้ลก็รับ แต่เปิ้ลก็เสียความรู้สึกกับกองถ่ายตรงที่ว่าพอมีปัญหาออกมาแถลงข่าวว่าเอาเราไปเป็นตัวประกอบแค่ 2 ฉาก ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเขาติดต่อเราให้เป็นตัวเอกของเรื่อง ผู้ติดตามเปิ้ลทุกคนได้ยินว่าหนังเรื่องนี้จะมีตัวเอก 3 คน และขอคิวไปทั้งหมด 17 คิวค่ะ แต่พอมีปัญหาบอกว่าเอาเปิ้ลไปเป็นตัวประกอบ มันทำให้อาพยุงโทรหาเปิ้ลแล้วบอกว่า เป็นนางเอกอา 2 เรื่อง แล้วทำไมถึงไปเป็นตัวประกอบ 2 ฉาก หรือคิดว่าเราคือ เปิ้ล ไอริณ ใครก็สามารถทำอะไรกับเราได้เพราะเราไม่มีผู้จัดการ เราไม่มีค่ายไม่มีสังกัดไม่มีแบ็คอะไรเลย บวกกับเราเป็นคนที่อะไรก็ได้ง่ายๆ แต่มันก็เป็นข้อดีที่ทำให้เราอยู่วงการนี้มาได้ 20 ปี”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่