ที่บ้านเราทำธุรกิจซักผ้า รีดผ้า น่าจะมีลูกค้าประมาณเกือบ 30 คน ชุดที่ซักก็เป็นชุดฟอมร์สีขาวเกือบทั้งหมด มีชุดใส่เล่นบ้าง
ที่บ้านเราก็ไม่ได้เป็นร้านใหญ่โตอะไรก็แค่รับซักผ้าในบ้าน ไม่ได้เปิดหน้าร้านอะไร
แต่แม่เราเป็นจริงจังในการซักผ้ามาก เราเคยเห็นแม่บ่อยๆ ชอบร้องไห้เวลาพ่อซักผ้าตกสี
แม่จะจริงจังมาก ผ้าเค้าเปื้อนหรือเป็นรอยอะไร กระดุมหลุดแม่นั้งเย็บ
ชุดบ้างชุดที่มันเป็นผ้าขาวแต่ซักจนเหลือง แม่ก็จะมานั้งแก้จนชุดเป็นสีขาวโอโมเลย แม่ก็จะดูภูมิใจมาก
เรากลับบ้านทีแม่ก็จะเล่าให้ฟังทุกครั้ง ว่าผ้าคนนี้นะก่อนมาซักกับแม่ผ้าเหลืองๆดูเดี่ยวนี้ซิ ขาวเชียว พูดไปยิ้มไป
กลิ่นในบ้านตลบอบอวนไปด้วยกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่ม ตัวไหนไม่หอม แม่จับแช่น้ำยาใหม่ทุกครั้ง
เรามั่นใจมากๆว่าแม่ซักผ้าไม่เคยเป้นรองใคร ผ้าเปื้อนหมึกปากกาแม่ก็จะใช้แอลกอฮอล์ บรรจงเช็ดจนหมดหมึกปากกา
แต่บางครั้งที่พ่อเป็นคนซัก พ่อก็จะไม่ค่อยละเอียดเท่าแม่ บางทีพ่อทำผ้าตกสี วันนั้นถึงครั้นบ้านแตกได้เลย แม่นั้งร้องไห้เป็นวันๆ
แม่ก็บ่นพ่อทุกครั้งที่พ่อพยายามจะช่วยซักผ้า แต่พ่อก็ช่วยแม่ซักทุกที
สำหรับเรื่องรีด แม่ใช้เตารีดตั้งแต่ราคาไม่กี่ร้อย จนเดี๋ยวนี้ราคาเป็นหมื่น เพราะพ่อผ่อนให้
แม่ใช้เตารีดไอน้ำอย่างดีเท่าที่จะมีปัญญาซื้อ แม่ตั้งใจบรรจงรีดทุกตัว แต่ละตัวไม่เคยมี2กลีบ
ไม่มีรอยกระเป๋าหน้าทะลุกระเป๋าหลัง กางเกงทรงกระบอกก็ไม่ได้มีกลีบข้างกางเกง แม่รีดตรงสวยงาม
แล้วราคาที่พ่อตั้งไว้ ซักรีดเดือนละ 450 ส่งผ้าวันละ 4 ตัว พ่อส่งผ้าตอนเช้าส่งถึงหน้าประตูห้อง พร้อมกับเก็บผ้ามาซักในตอนเช้า
ตอนกลางคืนแม่ก็รีดผ้าถึงตี1 ตี2 บางคืนก็แทบไม่ได้นอน เพราะตอนเช้าต้องมาจัดผ้าใส่รถตอนเช้าส่งอีก พอส่งก็รับมาซักอีก
เป็นแบบนี้ทุกวัน แม่ไปไหนไกลบ้านไม่ได้เลย กลัวลูกค้าไม่มีเสื้อผ้าใส่
แล้วทำไมต้องเก็บผ้าทุกวัน วันละ 4 ตัว ถ้าสมมุติ ลูกค้า 30 คนส่งผ้าที่ใส่อาทิตย์ทั้งอาทิตย์มา พ่อกับแม่ก็ต้องซักผ้าทั้งหมด 30 ตระกร้า เพื่อส่งในวันจันทร์ วันเรื่มทำงานก็ไม่ไหว พ่อเลยตั้งกฏมาให้ส่งทุกวัน วันละ 4 ตัว
แล้วปัญหาที่แม่บ่นให้เราฟัง แม่อยากเพิ่มราคาซักผ้า แต่ก็ไม่กล้าเพิ่ม ปัจจุบันนี้เดือน 450 แม่อยากจะเพิ่มเป็น500
แม่ก็ยังคิดว่าไม่คุ้ม ส่งวันละ 4 ตัวเดือนหนึ่ง ก็ผ้า 124 ชิ้น ก็ตกซักรีดตกละประมาณ 3 บาทเอง
แม่ลองถามลูกค้า ลูกค้าหาว่าแพงไปบ้าง ลูกค้าแต่คนก็รับราชการทั้งวัน ชุดขาวอีกตั้งหาก
เราก็ไม่เข้าใจ ว่าลูกค้าหาว่าแพง แล้วแม่เราละ ราคานี้มันสมเหตุสมผลแล้วหรอ หรือว่าราคา 450 นี่ดีแล้ว
รายจ่ายค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าผงซักฟอก ค่าน้ำยาต่างๆ ค่าเสื่อมภาพเครื่องซักผ้า ค่าเสื่อมเตารีด ค่าแรงแม่ ค่าแรงพ่อ
แล้วที่สำคัญสูขภาพก็แม่ แม่บ่นปวดขา นอนไม่พอ ไหนจะฝุ่นละอองจากเศษไยผ้าอีก ไอน้ำจากเตารีดทำให้หน้าแม่เป็นกระอีกตั้งหาก
เราก็เคยบอกแม่ ถ้าไหวก็ทำไม่ไหวก็ค่อยหยุด ก็ทำเฉพาะที่แม่ทำได้ แต่แม่เราก็พวกบ้างานเราไม่เคยเห็นแม่หยุดเลย
ที่อื่นๆเป็นยังไงยังบ้างค่ะ ร้านซักผ้าที่ไหนเป็นเหมือนบ้านเราบ้าง แล้วที่ไหนเค้าคิดราคากันกันค่ะเท่าไหร่
เพิ่มแก้ไขนะ
ที่บ้านเรา ซักรีด เดือนละ 450 บาท ราคานี้คงต้องบอกให้แม่ขึ้นแน่นอน
ส่วนรีดอย่างเดียว เดือนหนึ่ง จะส่งกี่ครั้งก็ได้ หรือไม่ลูกค้าบางคน เดือนหนึ่งส่ง4ครั้งผ้าเต็มตระกร้าส่งรีดอย่างเดียว 300 บาทเอง
จะปรับราคาเท่าไหร่ดี พอจะขึ้นราคา ลูกค้ามีคิดแบบนี้ใส่แม่เรา เดือน 300 ก็แพงแล้วนะ ปีหนึ่งก็ตั้ง 3600 แพงนะพี่
อ้าวเราก็คิดในใจ 3600 นั้นราคาเกือบค่าไฟค่าน้ำบาทเราต่อเดือนเลยนะ เราเลยบอกแม่ปล่อยเค้าไปรีดเองเถอะ
ธุรกิจซักผ้า รีดผ้าของแม่เรา
ที่บ้านเราก็ไม่ได้เป็นร้านใหญ่โตอะไรก็แค่รับซักผ้าในบ้าน ไม่ได้เปิดหน้าร้านอะไร
แต่แม่เราเป็นจริงจังในการซักผ้ามาก เราเคยเห็นแม่บ่อยๆ ชอบร้องไห้เวลาพ่อซักผ้าตกสี
แม่จะจริงจังมาก ผ้าเค้าเปื้อนหรือเป็นรอยอะไร กระดุมหลุดแม่นั้งเย็บ
ชุดบ้างชุดที่มันเป็นผ้าขาวแต่ซักจนเหลือง แม่ก็จะมานั้งแก้จนชุดเป็นสีขาวโอโมเลย แม่ก็จะดูภูมิใจมาก
เรากลับบ้านทีแม่ก็จะเล่าให้ฟังทุกครั้ง ว่าผ้าคนนี้นะก่อนมาซักกับแม่ผ้าเหลืองๆดูเดี่ยวนี้ซิ ขาวเชียว พูดไปยิ้มไป
กลิ่นในบ้านตลบอบอวนไปด้วยกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่ม ตัวไหนไม่หอม แม่จับแช่น้ำยาใหม่ทุกครั้ง
เรามั่นใจมากๆว่าแม่ซักผ้าไม่เคยเป้นรองใคร ผ้าเปื้อนหมึกปากกาแม่ก็จะใช้แอลกอฮอล์ บรรจงเช็ดจนหมดหมึกปากกา
แต่บางครั้งที่พ่อเป็นคนซัก พ่อก็จะไม่ค่อยละเอียดเท่าแม่ บางทีพ่อทำผ้าตกสี วันนั้นถึงครั้นบ้านแตกได้เลย แม่นั้งร้องไห้เป็นวันๆ
แม่ก็บ่นพ่อทุกครั้งที่พ่อพยายามจะช่วยซักผ้า แต่พ่อก็ช่วยแม่ซักทุกที
สำหรับเรื่องรีด แม่ใช้เตารีดตั้งแต่ราคาไม่กี่ร้อย จนเดี๋ยวนี้ราคาเป็นหมื่น เพราะพ่อผ่อนให้
แม่ใช้เตารีดไอน้ำอย่างดีเท่าที่จะมีปัญญาซื้อ แม่ตั้งใจบรรจงรีดทุกตัว แต่ละตัวไม่เคยมี2กลีบ
ไม่มีรอยกระเป๋าหน้าทะลุกระเป๋าหลัง กางเกงทรงกระบอกก็ไม่ได้มีกลีบข้างกางเกง แม่รีดตรงสวยงาม
แล้วราคาที่พ่อตั้งไว้ ซักรีดเดือนละ 450 ส่งผ้าวันละ 4 ตัว พ่อส่งผ้าตอนเช้าส่งถึงหน้าประตูห้อง พร้อมกับเก็บผ้ามาซักในตอนเช้า
ตอนกลางคืนแม่ก็รีดผ้าถึงตี1 ตี2 บางคืนก็แทบไม่ได้นอน เพราะตอนเช้าต้องมาจัดผ้าใส่รถตอนเช้าส่งอีก พอส่งก็รับมาซักอีก
เป็นแบบนี้ทุกวัน แม่ไปไหนไกลบ้านไม่ได้เลย กลัวลูกค้าไม่มีเสื้อผ้าใส่
แล้วทำไมต้องเก็บผ้าทุกวัน วันละ 4 ตัว ถ้าสมมุติ ลูกค้า 30 คนส่งผ้าที่ใส่อาทิตย์ทั้งอาทิตย์มา พ่อกับแม่ก็ต้องซักผ้าทั้งหมด 30 ตระกร้า เพื่อส่งในวันจันทร์ วันเรื่มทำงานก็ไม่ไหว พ่อเลยตั้งกฏมาให้ส่งทุกวัน วันละ 4 ตัว
แล้วปัญหาที่แม่บ่นให้เราฟัง แม่อยากเพิ่มราคาซักผ้า แต่ก็ไม่กล้าเพิ่ม ปัจจุบันนี้เดือน 450 แม่อยากจะเพิ่มเป็น500
แม่ก็ยังคิดว่าไม่คุ้ม ส่งวันละ 4 ตัวเดือนหนึ่ง ก็ผ้า 124 ชิ้น ก็ตกซักรีดตกละประมาณ 3 บาทเอง
แม่ลองถามลูกค้า ลูกค้าหาว่าแพงไปบ้าง ลูกค้าแต่คนก็รับราชการทั้งวัน ชุดขาวอีกตั้งหาก
เราก็ไม่เข้าใจ ว่าลูกค้าหาว่าแพง แล้วแม่เราละ ราคานี้มันสมเหตุสมผลแล้วหรอ หรือว่าราคา 450 นี่ดีแล้ว
รายจ่ายค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าผงซักฟอก ค่าน้ำยาต่างๆ ค่าเสื่อมภาพเครื่องซักผ้า ค่าเสื่อมเตารีด ค่าแรงแม่ ค่าแรงพ่อ
แล้วที่สำคัญสูขภาพก็แม่ แม่บ่นปวดขา นอนไม่พอ ไหนจะฝุ่นละอองจากเศษไยผ้าอีก ไอน้ำจากเตารีดทำให้หน้าแม่เป็นกระอีกตั้งหาก
เราก็เคยบอกแม่ ถ้าไหวก็ทำไม่ไหวก็ค่อยหยุด ก็ทำเฉพาะที่แม่ทำได้ แต่แม่เราก็พวกบ้างานเราไม่เคยเห็นแม่หยุดเลย
ที่อื่นๆเป็นยังไงยังบ้างค่ะ ร้านซักผ้าที่ไหนเป็นเหมือนบ้านเราบ้าง แล้วที่ไหนเค้าคิดราคากันกันค่ะเท่าไหร่
เพิ่มแก้ไขนะ
ที่บ้านเรา ซักรีด เดือนละ 450 บาท ราคานี้คงต้องบอกให้แม่ขึ้นแน่นอน
ส่วนรีดอย่างเดียว เดือนหนึ่ง จะส่งกี่ครั้งก็ได้ หรือไม่ลูกค้าบางคน เดือนหนึ่งส่ง4ครั้งผ้าเต็มตระกร้าส่งรีดอย่างเดียว 300 บาทเอง
จะปรับราคาเท่าไหร่ดี พอจะขึ้นราคา ลูกค้ามีคิดแบบนี้ใส่แม่เรา เดือน 300 ก็แพงแล้วนะ ปีหนึ่งก็ตั้ง 3600 แพงนะพี่
อ้าวเราก็คิดในใจ 3600 นั้นราคาเกือบค่าไฟค่าน้ำบาทเราต่อเดือนเลยนะ เราเลยบอกแม่ปล่อยเค้าไปรีดเองเถอะ