สวัสดีค่ะ กลับมาตั้งกระทู้รีวิวอีกแล้ว
เป็นกระทู้รีวิวที่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้ตั้งเลยนะนี่ 5555
แต่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นบ้าง ก็เลยตัดสินใจรีวิว

เราเพิ่งกลับมาจากฮ่องกงค่ะ ทริปนี้ไปกับแฟน ไปกัน 2 คน
มีแพลนว่าจะข้ามไปเซิ่นเจิ้น 1 วัน ไม่ค้างคืน ขอวีซ่าหน้าด่าน (visa on arrival)
เพราะว่าไม่เคยไปเลยค่ะ ครั้งนี้อยากลองไปดูบ้านเมืองเค้าหน่อย
ก็ปกติตามสเตปของคนไปเที่ยวที่นี่เนาะ
คือถ้าไม่แวะไปเซิ่นเจิ้น ก็มาเก๊า หรือไปทั้ง 3 ประเทศเลย


ในพาสปอร์ตเรา ได้ผ่านการประทับตามนี้นะคะ
ฮ่องกง 4 ครั้ง (รวมครั้งนี้ด้วย)
จีน 1 ครั้ง (ครั้งนี้)
มาเก๊า 3 ครั้ง
สิงคโปร์ 1 ครั้ง

พอถึงวันที่ 22 พฤษภาคม 2557
(นี้เลือกไปถูกวันซะด้วย วันรัฐประหารเลยนะ 555)
เราไปถึง Lo wu สถานีที่เชื่อมกับเซิ่นเจิ้น ประมาณบ่ายๆ ค่ะ
ผ่านกระบวนการออกจากฮ่องกง (ตม.ฮ่องกง)
และกระบวนการเข้าเมืองจีน (ตม.จีน) แบบเรียบร้อยผ่านฉลุย
ไม่มีสัมภาระอะไรนะคะ มีกระเป๋าเป้คนละใบ มีกล้อง
ของเราใบเล็กนิดเดียวด้วย ใส่เอกสารสำคัญ เงินสด
เอาไปให้น้อยที่สุดค่ะ ขี้เกียจแบก

เราเที่ยวแค่ที่ ตงเหมินค่ะ
เดินๆ เที่ยวถ่ายรูป กินขนม แล้วก็กลับตอนเย็นๆ ราวๆ เกือบ 6 โมงละมั้งคะ
ก็ออกจาก ด่านตม.ที่จีน ได้ตามปกติ
พอถึงที่ด่านตม. ฮ่องกง คนเยอะมากเลยค่ะ
ถ้าคนเคยไปคงจะพอนึกออกว่า มันจะมี 2 ชั้น ชั้นนึงสำหรับคนฮ่องกง
อีกชั้นนึงสำหรับคนต่างชาติ แถวสำหรับคนต่างชาติ (ที่ไม่ใช่จีน,ไต้หวัน)
จะมีแค่ช่องเดียว แล้วก็เป็นช่องสำหรับคนชราและผู้พิการ

ตอนนั้นคนเยอะมากค่ะ คิวก็ยาวเกือบทุกช่อง
เจ้าหน้าที่จึงให้ตัดแถวมาช่องสำหรับคนชราและผู้พิการ

เท่าที่ดูด้วยสายตาตอนนั้น ไม่น่ามีคนไทยนะคะ น่าจะมีแค่เรากับแฟน 2 คน
เราก็ยืนรอคิวไปเรื่อยๆ เห็นฝรั่งผู้ชายช่องข้างๆ คุยมือถือตลอดเวลา
ขนาดตอนยื่น Passport ยังคุยมือถือไม่วางเลย (แต่ก็ผ่านฉลุยนะคะ ปกติ)

เรายังคิดว่า เอออออ น่าจะสบายๆ มั้งด่านนี้
แต่เหมือนมีอะไรดลใจค่ะ เราหันไปขอ ipad ฝากไว้กับแฟน
ในนั้นมีไฟล์ E-ticket ตั๋วเครื่องบินอยู่ค่ะ
เราพูดขำๆ กับแฟนว่า ...
"เป็นผู้ชาย ไม่ค่อยโดนหรอก เอามาให้หนูดีกว่า สตรีไทยเสี่ยงกว่า"

ก่อนถึงคิวเรา ก็มีผู้ชายจีน 2 คน โดนเชิญเข้าห้องเย็นนะคะ
พอถึงคิวเรา ..... ตม. เปลี่ยนกะพอดีค่ะ จากหญิงสาว เป็นชายหนุ่มใส่แว่น

เราก็ยื่น Passport ตามปกติค่ะ ยิ้มนิดนึง มองหน้าตรง
( Passport เราจะใส่ปกไว้นะคะ ในปกก็เอาไว้เสียบหางตั๋ว , ใบตม.ขาเข้าไทย เอกสารพวกนี้ )
ตม. หนุ่มแว่นก็ยิ้มรับนิดนึง รับเอา Passport ไปไล่เช็คดูค่ะ

* ต่อไปนี้บทพูดกับตม. จะเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดนะคะ แต่เราแปลไทยเลยละกัน จำไม่ได้เป๊ะๆ แล้ว*

ก่อนจะบอกว่า "รอแป้ปนึงนะครับ"
แล้วเค้าก็เรียกตม. ช่องข้างๆ คุยกันเป็นภาษากว่างตุ้งค่ะ
เราก็คิดในใจ "เอาแล้วววววววววววววววววววววว"

แล้วเค้าก็ให้ยืนหลบมา รอคนมารับ (ไปเข้าห้องเย็น)
คิวต่อมาก็แฟนเราเอง แฟนเราก็ชี้ๆ บอกว่า "นี่มาด้วยกันนะครับ"
ตม. ก็ยิ้มๆ บอกว่า "โอเคๆ รอแป้ปนึงนะครับ"

สักพักนึง ก็มีตม.อีกคนมาเชิญเราไปอีกห้องที่อยู่ข้างหลังค่ะ
ใช้คำว่าเชิญนะคะ เพราะเป็นไปอย่างสุภาพ ปกติค่ะ ไม่ได้ทำเสมือนเราเป็นผู้ต้องหาร้ายแรงอะไร