เรื่องนี้ดิฉันตั้งใจสมัคร pantip และ log in เข้ามาเพื่อจะตั้งกระทู้นี้โดยตรงนะค่ะ อยากให้เพื่อนๆช่วยคิดว่า เราควรทำไงดี ถ้าพวกคุณเจอแบบฉัน พวกคุณจะทำอย่างไรค่ะ
ก่อนอื่นจะขอเล่ารายละเอียดก่อน เรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณ 7 ปีที่แล้ว ฉันเกิดในครอบครัวที่ไม่ค่อย perfect เท่าไหร่
คุณพ่อทำงานเดินทางต่างจังหวัดบ่อย และคุณแม่ก้อทำงานเข้ากะ แม่เรยต้องเอาฉันไปฝากกับน้า(ลูกพี่ลูกน้องของแม่มีศักดิ์เปนน้า)ทุกๆอาทิตย์
ซึ่งครอบครัวน้าเป็นครอบครัวใหญ่ที่อบอุ่น แต่ก้อเปนครอบครัวใหญ่ที่มีกฏระเบียบเคร่งครัด อย่างเช่น กินข้าวพร้อมกัน ไปไหนด้วยกันทุกๆวันหยุด เพื่อนสร้างความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว ในครอบครัวน้าจะมี 7-8คน ในขณะที่ครอบครัวฉันต่างกันมาก
พ่อจะแก่กว่าคุณแม่มากกว่า ประมาณ 3 รอบ (ตอนนั้นพ่ออายุ 60 แม่อายุ 30) พอพ่ออายุมากขึ้น ท่านก้อเริ่มทำงานไม่ไหว จึงเปนหน้าที่ของแม่ที่เลี้ยงฉันคนเดียว
ประเด็นคือ ครอบครัวน้าชอบพูดถึงพ่อหนุไม่ดี ประมาณว่างานการก้อไม่ได้ทำ เกาะเมียกิน ซี่งต่างจากครอบครัวของน้าที่ สามีเขามีที่มีทางให้น้าทำมาหากิน มีงานการดีๆทำ มีบ้านอยู่เปนหลักเป็นฐาน ประมาณเนี้ย ซึ่งเปนเรื่องที่หนูเสียใจและเก็บไว้ในใจมาตลอด
จนมาวันนึง ลูกน้า (อายุเท่ากันเกิดห่างกันแค่วันเดียว ซึ่งฉันจะถูกเปรียบเทียบกันมาตลอดในทุกๆเรื่อง เช่น หน้าที่การงาน การเรียน การแต่งตัว )
ได้มาคอมเม้นใน hi5 ของฉัน ซึ่งเมื่อก่อนฮิตมาก ก้อคุยกัน แต่มีอยู่ประโยคนึงที่ฉันเหมือนโดนตบหน้า...
ลูกของน้าเขาพูดกับฉันประมาณว่า
''เรียนจบปริญญาตรี ก้อดีกว่าบางคนแล้วกันที่ เรียนไม่จบ จบแค่ปวส.ต่างจังหวัด อย่างน้อยเขาก้อได้รับปริญญา''
ฉันเปนคนที่ เกลียดมากคนที่ชอบดูถูกการศึกษาคนอื่น ซึ่งฉันรุ้ว่าเขาหมายถึงฉัน แม่ฉันส่งเรียนได้แค่ปวส เพราะแม่หาเงินคนเดียว จะให้ส่งเรียนอีกก้อคงไม่ไหว ฉันเรยต้องออกมาทำงาน ต่างจากเขาซึ่งมีกิจการส่วนตัว มีเงิน ซึ่งก้อไม่แปลกที่จะส่งเรียนถึงปริญญาตรี ฉันบอกตรงๆว่าตอนนั้นโกรธมาก และเก็บความรุ้สึกโดนดูถูกมาโดยตลอด
จนวันนั้น มันทนไม่ไหว ความรุ้สึกมันเก็บมามากจนมันแย่ ความที่ตอนนั้น ก้อยังเด็ก ยังไม่มีความคิดแบบผู้ใหญ่ประกอบกับโมโห มันคับแค้นใจมานาน ฉันจึงพูดออกไปว่า
''มันไม่มีใครเพอเฟคหรอก ขนาดครอบครัวที่อบอุ่นอย่างเธอ พ่อเธอยังมีเมียน้อยเรย''
(ลืมบอกว่าตอนนั้น สถานะการณ์ที่บ้านน้าไม่ค่อยดี คือแฟนน้าเขาก้อทนไม่ได้กับระเบียบบ้านน้ามี่ต้องอยู่ในกรอบ และอะไรอีกเยอะ เขาเรยมีเรื่องมือที่สามเข้ามาเรยต้องหย่าขาดกับน้า)
นั่นเป็นครั้งแรกและครั้งที่รุนแรงที่สุด ที่ทำให้ทั้งสองบ้านมองหน้ากันไม่ติด น้าโทรสับมาหาแม่แล้วก้อขอสายเรา แล้วเราก้อขอโทษและร้องไห้บอกว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่น้าฉันด่าฉันด้วยถ้อยคำคำหยาบ อีสัส (ขออภัยที่พูดคำหยาบนะค่ะ) บอกว่าเคยเลี้ยงมาแล้วเนรคุณ มาพูดอย่างนี้ได้ยังไง อี ด่าต่างๆนานา จากนั้น เรากับครอบครัวนั้นไม่เคยพูดกันอีกเรย
มาถึงตรงนี้ฉันรุ้สึกผิดมาตลอดเวลา 10 ปี จนพ่อมาเสีย เขาก้อไม่มางานศพพ่อเรา แถมยังขนเสื้อผ้าที่พ่อใส่โยนออกมาจะเอาไปเผาทิ้ง เนื่องจากบ้านหลังที่พ่ออยู่เป็นบ้านของพ่อแม่น้าซึ่งพ่อขอเช่าในราคา 3000 บาทต่อเดือน แต่ฉันขอเก็บเสื้อผ้าพ่อไว้ เรารู้ว่าตอนนั้นเราพูดแรงไป เพราะอารมณ์และความรุ้สึกชั่วขณะ เรารุ้สึกผิดและขอโทษไปแล้ว แต่ทำไมเขาถึงทำกับเราแบบนี้ เราก้อรู้สึกสำนึกผิดแล้ว แต่กับการกระทำของพวกเขามันรุนแรงไปไหม ใช้ฉันเก็บกวาดบ้านเหมือนบ้านหลังนั้นมันสกปรกมากที่มีพ่อฉันอยุ่ ฉันว่าการกระทำของเขามันรุนแรงกว่าคำพูดฉันเสียอีก
จนมาวันนี้ ฉันอยากจะถามเพื่อนๆว่า
1.ถ้าเป็นคุณ คุณจะทำอย่างไร กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
2.เรากำลังจะแต่งงานต้นปีหน้านี้ แล้วเราควรจะเชิญเขามาเป้นผู้ใหญ่ในงานไหม (เพราะญาติผุ้ใหญ่ฝ่ายเราก้อไม่มีแล้ว ปุ่ย่าตายายก้อเสียหมดแล้ว)
3.เราควรทำใจอย่างไร ในเมื่อมันเหมือนตราบาปที่เขาไม่ให้อภัยเราแล้ว ในเรื่องที่เราเคยล่วงเกินว่าเขา เพราะในใจฉันก้อยังติดในใจ รุ้สึกผิดตลอดมาและอยากให้ยกโทษให้ แต่มันไม่มีวันนั้นแล้ว
ขอบคุณล่วงหน้าทุกคนที่เข้ามาอ่านและมาตอบนะค่ะ
ปล.เรื่องที่เล่ามาทั้งหมด ดิฉันยืนยังว่าทุกอย่างเปนเรื่องที่เกิดขึ้นจริงทุกประการ ดิฉันแค่คิดไม่ออกจริงๆว่าจะทำอย่างไรดี
ถ้าพวกคุณเป็นฉัน คุณจะทำอย่างไรค่ะ??
ก่อนอื่นจะขอเล่ารายละเอียดก่อน เรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณ 7 ปีที่แล้ว ฉันเกิดในครอบครัวที่ไม่ค่อย perfect เท่าไหร่
คุณพ่อทำงานเดินทางต่างจังหวัดบ่อย และคุณแม่ก้อทำงานเข้ากะ แม่เรยต้องเอาฉันไปฝากกับน้า(ลูกพี่ลูกน้องของแม่มีศักดิ์เปนน้า)ทุกๆอาทิตย์
ซึ่งครอบครัวน้าเป็นครอบครัวใหญ่ที่อบอุ่น แต่ก้อเปนครอบครัวใหญ่ที่มีกฏระเบียบเคร่งครัด อย่างเช่น กินข้าวพร้อมกัน ไปไหนด้วยกันทุกๆวันหยุด เพื่อนสร้างความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว ในครอบครัวน้าจะมี 7-8คน ในขณะที่ครอบครัวฉันต่างกันมาก
พ่อจะแก่กว่าคุณแม่มากกว่า ประมาณ 3 รอบ (ตอนนั้นพ่ออายุ 60 แม่อายุ 30) พอพ่ออายุมากขึ้น ท่านก้อเริ่มทำงานไม่ไหว จึงเปนหน้าที่ของแม่ที่เลี้ยงฉันคนเดียว
ประเด็นคือ ครอบครัวน้าชอบพูดถึงพ่อหนุไม่ดี ประมาณว่างานการก้อไม่ได้ทำ เกาะเมียกิน ซี่งต่างจากครอบครัวของน้าที่ สามีเขามีที่มีทางให้น้าทำมาหากิน มีงานการดีๆทำ มีบ้านอยู่เปนหลักเป็นฐาน ประมาณเนี้ย ซึ่งเปนเรื่องที่หนูเสียใจและเก็บไว้ในใจมาตลอด
จนมาวันนึง ลูกน้า (อายุเท่ากันเกิดห่างกันแค่วันเดียว ซึ่งฉันจะถูกเปรียบเทียบกันมาตลอดในทุกๆเรื่อง เช่น หน้าที่การงาน การเรียน การแต่งตัว )
ได้มาคอมเม้นใน hi5 ของฉัน ซึ่งเมื่อก่อนฮิตมาก ก้อคุยกัน แต่มีอยู่ประโยคนึงที่ฉันเหมือนโดนตบหน้า...
ลูกของน้าเขาพูดกับฉันประมาณว่า
''เรียนจบปริญญาตรี ก้อดีกว่าบางคนแล้วกันที่ เรียนไม่จบ จบแค่ปวส.ต่างจังหวัด อย่างน้อยเขาก้อได้รับปริญญา''
ฉันเปนคนที่ เกลียดมากคนที่ชอบดูถูกการศึกษาคนอื่น ซึ่งฉันรุ้ว่าเขาหมายถึงฉัน แม่ฉันส่งเรียนได้แค่ปวส เพราะแม่หาเงินคนเดียว จะให้ส่งเรียนอีกก้อคงไม่ไหว ฉันเรยต้องออกมาทำงาน ต่างจากเขาซึ่งมีกิจการส่วนตัว มีเงิน ซึ่งก้อไม่แปลกที่จะส่งเรียนถึงปริญญาตรี ฉันบอกตรงๆว่าตอนนั้นโกรธมาก และเก็บความรุ้สึกโดนดูถูกมาโดยตลอด
จนวันนั้น มันทนไม่ไหว ความรุ้สึกมันเก็บมามากจนมันแย่ ความที่ตอนนั้น ก้อยังเด็ก ยังไม่มีความคิดแบบผู้ใหญ่ประกอบกับโมโห มันคับแค้นใจมานาน ฉันจึงพูดออกไปว่า
''มันไม่มีใครเพอเฟคหรอก ขนาดครอบครัวที่อบอุ่นอย่างเธอ พ่อเธอยังมีเมียน้อยเรย''
(ลืมบอกว่าตอนนั้น สถานะการณ์ที่บ้านน้าไม่ค่อยดี คือแฟนน้าเขาก้อทนไม่ได้กับระเบียบบ้านน้ามี่ต้องอยู่ในกรอบ และอะไรอีกเยอะ เขาเรยมีเรื่องมือที่สามเข้ามาเรยต้องหย่าขาดกับน้า)
นั่นเป็นครั้งแรกและครั้งที่รุนแรงที่สุด ที่ทำให้ทั้งสองบ้านมองหน้ากันไม่ติด น้าโทรสับมาหาแม่แล้วก้อขอสายเรา แล้วเราก้อขอโทษและร้องไห้บอกว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่น้าฉันด่าฉันด้วยถ้อยคำคำหยาบ อีสัส (ขออภัยที่พูดคำหยาบนะค่ะ) บอกว่าเคยเลี้ยงมาแล้วเนรคุณ มาพูดอย่างนี้ได้ยังไง อี ด่าต่างๆนานา จากนั้น เรากับครอบครัวนั้นไม่เคยพูดกันอีกเรย
มาถึงตรงนี้ฉันรุ้สึกผิดมาตลอดเวลา 10 ปี จนพ่อมาเสีย เขาก้อไม่มางานศพพ่อเรา แถมยังขนเสื้อผ้าที่พ่อใส่โยนออกมาจะเอาไปเผาทิ้ง เนื่องจากบ้านหลังที่พ่ออยู่เป็นบ้านของพ่อแม่น้าซึ่งพ่อขอเช่าในราคา 3000 บาทต่อเดือน แต่ฉันขอเก็บเสื้อผ้าพ่อไว้ เรารู้ว่าตอนนั้นเราพูดแรงไป เพราะอารมณ์และความรุ้สึกชั่วขณะ เรารุ้สึกผิดและขอโทษไปแล้ว แต่ทำไมเขาถึงทำกับเราแบบนี้ เราก้อรู้สึกสำนึกผิดแล้ว แต่กับการกระทำของพวกเขามันรุนแรงไปไหม ใช้ฉันเก็บกวาดบ้านเหมือนบ้านหลังนั้นมันสกปรกมากที่มีพ่อฉันอยุ่ ฉันว่าการกระทำของเขามันรุนแรงกว่าคำพูดฉันเสียอีก
จนมาวันนี้ ฉันอยากจะถามเพื่อนๆว่า
1.ถ้าเป็นคุณ คุณจะทำอย่างไร กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
2.เรากำลังจะแต่งงานต้นปีหน้านี้ แล้วเราควรจะเชิญเขามาเป้นผู้ใหญ่ในงานไหม (เพราะญาติผุ้ใหญ่ฝ่ายเราก้อไม่มีแล้ว ปุ่ย่าตายายก้อเสียหมดแล้ว)
3.เราควรทำใจอย่างไร ในเมื่อมันเหมือนตราบาปที่เขาไม่ให้อภัยเราแล้ว ในเรื่องที่เราเคยล่วงเกินว่าเขา เพราะในใจฉันก้อยังติดในใจ รุ้สึกผิดตลอดมาและอยากให้ยกโทษให้ แต่มันไม่มีวันนั้นแล้ว
ขอบคุณล่วงหน้าทุกคนที่เข้ามาอ่านและมาตอบนะค่ะ
ปล.เรื่องที่เล่ามาทั้งหมด ดิฉันยืนยังว่าทุกอย่างเปนเรื่องที่เกิดขึ้นจริงทุกประการ ดิฉันแค่คิดไม่ออกจริงๆว่าจะทำอย่างไรดี