รีวิวครั้งแรก หากผิดพลาดประการใดขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

เราจะแบ่งเป็น 4 ส่วนในรีวิวนี้นะคะ
1.ส่วนก่อนไปญี่ปุ่น ..ทำพาสปอร์ตแบบเร่งด่วน
2.หาข้อมูลไปเที่ยวญี่ปุ่นแบบด่วน ...จัดทริปยังไงในโตเกียวในเที่ยวทันในหนึ่งวัน (กรณีไปกับทัวร์ แล้วมีวันอิสระให้แค่ 1 วัน)
3.เที่ยวกับทัวร์ 2 วัน ไข่ดำ + เอาท์เลท + ซากุระชิบะ + ฟูจิซัง + ชินจูกุ
4.เที่ยวเอง 1 วัน ตามฝันสาววายที่ โอโตเมะโรด + อากิฮาบาระ + ฮาราจุกุ + ชิบุยะ + ตลาดปลาทสึคิจิ



เริ่มกันเลยค่ะ ^^



นี่เป็นทริปการไปญี่ปุ่นคั้งแรกของเรา แบบกระทันหันสุดๆคือรู้ตัวล่วงหน้าเพียง 6 วันเท่านั้น
เพื่อนโทรมาชวนเพราะคนรู้จักในทริปไปไม่ได้ เลยขายต่อให้ในราคาถูก
ตอนนั้นเราก็รีบติดต่อไปที่บ้าน ที่บ้านก็ไฟเขียวทันทีเพราะด้วยราคาที่หน้าสนใจมาก

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเราเป็นคนที่เติบโตมาพร้อมกับการ์ตูนญี่ปุ่น ทั้งอนิเมะ และหนังสือการ์ตูน
รวมถึงเพลงญี่ปุ่น ซีรี่ส์ญี่ปุ่น ...เรียกได้ว่าเป็นติ่งญี่ปุ่นไปซะทุกสิ่ง  
ญี่ปุ่นจึงคล้ายเป็นประเทศในฝันที่อยากไปมากที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว
จริงๆก็แอบวางแผนไปเที่ยวเองอยู่บ้างเหมือนกันกัน แต่อะไรหลายอย่างยังไม่ลงตัว ก็เลยเลือนออกไป


จนกระทั้งทริปนี้เกิดขึ้น ..แต่ปัญหาคือ พาสปอร์ของเรามหดอายุไปหลายเดือนแล้ว
ตอนนั้นหลังเพื่อนโทรมาชวน ที่บ้านโอเค เราก็เข้าเน็ตพยายามหาวิธีที่จะทำพาสปอร์ตให้ได้เร็วที่สุด



+++ตรงนี้จะแนะนำเรื่องการทำพาสปอร์ตให้ได้เร็วที่สุด ในกรณีเร่งด่วนค่ะ+++

โดยทั่วไปแล้วพาสปอร์ตจะต้องใช้เวลา 7 วันได้รับของ ..แต่เราร็ล่วงหน้าเพียง 6 วัน แถมตอนนั้นเย็นแล้วไปทำคงไม่ทัน
เราจึงไปทำในวัยรุ่นขึ้นแต่เช้าตรู่ในวันที่ 23 พค หลังจากใช้เวลาเมื่อวานหาข้อมูลคอนเฟิร์มทุกสิ่ง
ให้แน่ชัดว่าเราจะได้พาสปอร์ตทัน เพราะต้องจ่ายเงินค่าทริปให้กับคนรู้จักของเพื่อนเพื่อเป็นการยืนยันว่าจะไปแน่ๆ
ไม่งั้นเค้าก็ต้องเอาไปขายให้คนอื่นค่ะ ...ตอนั้นใจตุ่มต่อมมาก

โดยตอนนั้นเราได้เข้าเชค สอบถามในพันทิป แล้วพยายามโทรติดต่อเบอร์กงศุล ที่ทำพาสปอร์ต
ขอบอกเลยว่าโทรติดต่อยากมาก โทรยังไงก็ไม่ติด ในระหว่างเวลาทำการก็โทรไม่ติด
ก็ขอติไว้ตรงนี้แล้วกันว่าจะมีเบอร์ไปทำไม โทรไม่ได้สักเบอร์ ....

แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องขอชื่นชมทางเฟสบุ๊คกงศุล ที่พอเราส่งข้อความไปถาม ก็ตอบมาค่อนข้างรวจเร็วทีเดียวค่ะ
แนะนำเลยว่าใครอยากติดต่อกงศุลเรื่องพาสปอร์ต ...ให้ใช้ช่องทางเฟสบุ๊คคค่ะ ตอบเร็วทีเดียว

https://www.facebook.com/pages/Thai-Consular-QA/154354274701729?fref=ts

เมื่อสอบถามไปก็ได้ใจความว่า ถ้าเราไปทำวันศุกร์ที่ 23 เนื่องจากติดเสาร์อาทิตย์ จะได้เร็วสุดก็วันที่ 28
ซึ่งก็คือวันเดียวกันกับที่เราจะต้องบิน ...

จากตรงนี้จะเห็นว่า เราสามารถได้รับพาสปอร์ตเร็วสุดอยู่ที่ 3-4 วันทำการค่ะ
โดยการไปรับพาสปอร์ตเองค่ะ ...เราทำพาสปอร์ตที่สาขาแจ้งวัฒนะ ตรงศูนย์ราชการตึก B ค่ะ

เมื่อจ่ายเงินค่าทำพาสปอร์ตในตอนท้าย ให้ลองถามเจ้าหน้าที่ดูค่ะว่า ถ้าจะไปรับพาสปอร์ตเองที่ไปรษณี จะได้เร็ซสุดที่วันไหน
ของเราคือเราถามจากเฟสบุ๊คไปแล้วบอก 28 พอไปถามที่เคาท์เตอร์ที่นั้นเค้าบอกว่าให้นับไปอีก 4 วันค่ะ ไม่นับเสาร์อาทิตย์
ตอนนั้นเราก็ใจตุ้มต่อมกลัวไปไม่ได้

ก็โทรไปที่ทำการไปรษณีหลัก 4 ค่ะ  เพราะที่ทำการไปรษณ์สาขานี้ คือสาขาที่จะทำการส่งพาสปอร์ตให้เราค่ะ
โดยเบอร์ของไปรษณีเนี่ย ในใบเสร็จค่าทำพาสปอร์ต จะมีบอกเบอร์ไว้อยู่แล้วนะคะ

( ...เราไม่สามารถขอมารับที่กงศุลที่จัดทำพาสปอร์ตค่ะ ..ดูเหมือนว่าแต่ก่อนเคยได้ แต่ยกเลิกไปแล้ว ...ซึ่งแย่มากค่ะ
เวลาคนที่มีกรณีกระทันหันแบบเรา ...ก็ต้องเสียเวลาไปอีกวันเพื่อรอให้พาสปอร์ทไปไปรษณีอีก - -" )

เบอร์กลางของไปรษณีคือ 1545 กดโทรไป ต้องรอนานทีเดียวนะคะ แต่อย่าหมดหวังวางก่อนค่ะ ทนรอสายต่อไปค่ะ
มีโฆษณาให้ฟัง น่ารำคาญไปสักหน่อย นานไปสักหน่อย แต่มีคนรับแน่ค่ะ เราเคยรอเกือบสิบนาทีกว่าจะมีคนรับ

ก็บอกเค้าไปว่าจะสอบถามเรื่องขอไปรับพาสปอร์ตเองที่ไปรษณีหลักสี่ค่ะ
เดี๋ยวเค้าจะบอกเราเองว่าต้องทำอะไรยังไง ..แต่จะมีให้เราโทรไปที่ไปรษณีหลักสี่อีกค่ะ
แล้วเค้าก็จะเชควันทีเราจะไปรับพาสปอร์ตได้ เอาเป็นว่าทางนั้นจะบอกเราเองค่ะว่าต้องทำอะไร

ขอตัดไปวันที่ 28 เลยนะคะ ผู้ที่ต้องการไปรับเอง
ให้โทรไปที่ ไปรษณีหลักสี่ไม่รู้เบอร์ โทรไม่ติดยังไง ก็กด 1545 ไปสอบถามได้หมดค่ะ
(เราเองไม่ได้เมมไว้ ขอโทษด้วยนะคะ เลยรีวิวไม่สมบูรณ์เลย)

โทรไปเช้านะคะ สัก 9 โมง ไปแจ้งเลขพัสดุพาสปอร์ตไว้ค่ะ ว่าเราจะเข้าไปเอา ย้ำอีกทีไม่ให้พลาด
พาสปอร์ตจะเข้าที่ทำการไปรษณีราวๆบ่าย 3 ค่ะ ถ้าเราจำไม่ผิดนะคะ
เราไปรอตั้งแต่บ่ายหนึ่งกว่าค่ะ เพื่อความชัวร์ ในไปรษณีย์มีแอร์ มีเก้าอี้ นั่งรอเย็นสบาย กดมือถือเล่นไปก่อนค่ะ

แนะนำว่าควรมารอก่อนเวลาค่ะ เพราะทางไปรษณ์ย์เค้าจะพูดกลายๆตลอดค่ะ ทำนองว่าเค้าไม่ชัวร์นะ
ไอ้จะไปหวังความเป๊ะจากระบบราชการ รัฐวิสาหกิจไทยคงยาก เราต้องช่วยตัวเองให้มากที่สุดค่ะ

เรารอถึงช่วงบ่ายสามพาสปอร์ตมาค่ะ ที่ไปรษณ์จะค่อยๆทยอดประกาศชื่อ ค่อยข้างนานค่ะ
เพราะเค้าต้องคุ้ยในกองใหญ่ๆ หยิบมาประกาศทีละเล่ม
พร้อมบอกว่า ใครที่มารอรับ เค้าไม่รับประกันนะว่าจะได้ทุกคน ยังไงเค้าก็เน้นส่งทางไปรษณีอยู่แล้ว
คงกลายๆว่าชั้นไม่รับผิดชอบนะ ถ้าชั้นพลาดเล่มของเธอไป
(ในใจเราก็แอบคิดว่าจะให้ติดต่อเสียเวลาทำไมขนาดนั้นถ้าจะไม่ยืนยันอะไรเลย ...ควรมีบริการประชาชนให้เป็นรูปธรรมกว่านี้ไหม)


เราก็รอเค้าประกาศหลายรอบอยู่ค่ะกว่าจะได้พาสปอร์ต ลุ้นแทบแย่
แต่ก็เย่ ...ได้ไปญี่ปุ่นแล้ว ^^





แผนที่ google map ไปรษณีหลักสี่ค่ะ ^^
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.google.co.th/maps/place/%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%8C+%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%88/@13.888336,100.573672,17z/data=!3m1!4b1!4m2!3m1!1s0x30e28320bbf46c27:0x561b8dc8d2aaef24





2.หาข้อมูลไปเที่ยวญี่ปุ่นแบบด่วน ...จัดทริปยังไงในโตเกียวในเที่ยวทันในหนึ่งวัน (กรณีไปกับทัวร์ แล้วมีวันอิสระให้แค่ 1 วัน)
ใส่ไว้ในสปอยนะคะ อันนี้คิดว่าคนคงไม่ค่อยอยากอ่าน 555

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ในระหว่างรอพาสปอร์ตที่จะได้รับในวันที่ 28 ช่วงบ่าย ก่อนจะบินในช่วงค่ำ
เราจัดแจงหาข้อมูลตั้งแต่ วันที่ 24 ค่ะ มานั่งลิสต์ก่อนเลยว่า เราต้องการไปที่ไหนบ้าง
เพราะจากโปรแกรมทัวร์มีฟรี 1 วัน

ส่วนตัวเราอยากไปกินซูชิที่ตลากปลา tsukiji ค่ะ ก็จัดการหาข้อมูลได้ว่า
ร้านดังคือ sushi dai เปิดตีห้า คนไปรอคิวกันตั้งแต่ตี 3-4
แต่ปัญหาคือรถไฟในญี่ปุ่นเริ่มวิ่ง ตี 5 ...คิวยาวแน่ ตอนนั้นทำใจค่ะ
เข้าไปเชคตารางรถไฟจากโรงแรม ไปเร็วสุดก็ตี 5.20 โดยประมาณ ซึ่งเวลานั้นแถวก็คงยาว
ต้องรอไปอีกสองชั่วโมงแน่ๆ ซึ้งเรารับได้ ก็เลยตัดสินใจไปค่ะ

ต่อมาก็พวกฮาราจุกุ ชินจูกุ สองที่นี้ไม่ได้เน้นมาก อยากไปเดินดูเฉยๆค่ะ
แล้วก็โอโตเมะ กับอากิบะ สองที่นี้เน้นมาก เพราะเราชอบการ์ตูนญี่ปุ่นค่ะ อิอิ

เที่ยวญี่ปุ่นนี่ต้องมีเวลาหาข้อมุลนะคะ ที่เที่ยวเยอะมาก
แต่หากมีเวลาน้อยกระชั้นชิดแบบเรา คงต้องเจาะจงไปเลยค่ะ
ชอบอะไร ก็ตัดสินใจไปเลย ของเราตัดสินใจกะไว้ 4 ที่ เน้นสองที่ วางแผนนั่งรถให้ดี จะได้ไม่ย้อนไปย้อนมาค่ะ

สำหรับญี่ปุ่น เราว่าอัดแน่นสุดๆวันหนึ่งก็ไม่ควร 4 ที่ค่ะ เพราะหนึ่งจะได้ชมอะไรน้อยมาก
ยกเว้นแค่อยากแวะถ่ายรูปหน้าสถานี อันนี้แวะแป๊ปๆได้ค่ะ อิอิ แต่ถ้าอยากเดินดูย่าน 4 ที่ก็ยากแล้วค่ะ

ถ้าไปกับทัวร์ ก่อนวางแผนควร สอบถามทางทัวร์ให้แน่ชัดว่านอนโรงแรมไหน
แล้วก็หาแผนที่รถไฟโตเกียวของญี่ปุ่นมาดูกันค่ะ
ซึ่งจะมีสองอันคือ แผนที่รถไฟ JR บนดิน กับรถไฟ metro ใต้ดินค่ะ
โรงแรมเราอยู่ตรงเมโทร kiba ออกนอกเมืองไปพอสมควรค่ะ
แต่ว่าใกล้ตลาดปลาทสึคิจิค่ะ อิอิ
หากเรารู้ว่าว่านอนโรงแรมไหน เราจะสามารถหาที่เที่ยวล่วงหน้าแถวๆนั้นได้เพิ่มอีกค่ะ
ไปทั้งทีเอาให้คุ้ม ทัวร์พากลับโรงแรม เราก็ยังต้องเที่ยวต่อค่ะ

หลายๆคนเปิดแผนที่รถไฟของญี่ปุ่นครั้งแรก มักจะตกใจ งง และสุดท้ายท้อใจไม่อยากดูไปซะงั้น
แต่เราจะบอกว่ามันไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ ค่อยๆไลสายรถไฟจากที่โรงแรมเราพักค่ะ ส่วนตัวเราเน้นดู metro ค่ะ
เพราะที่พักเรานั่ง metro ใต้ดินสะดวกกว่า และการเปลี่ยนสถานี ซึ่งไกด์แอบขู่ว่างงนะ
อาจจะหลงได้นะ ...ซึ่งขอบอกเลยว่า ตอนวันที่เราไปเองคนเดียว เราไม่หลงเลยค่ะ มันไม่ได้ดูยากเลย
ป้ายบอกสถานีต่างๆในญี่ปุ่นบอกละเอียดมากค่ะ ขอแค่ตั้งใจดูให้ดีตลอด ยังไงก็ไม่หลงค่ะ
หรือถ้างงไม่ชัวร์ ก็เดินเข้าไปถามเจ้าหน้าที่ หรือคนแถวนั้นที่ดูท่าทางใจดีหน่อยก็ได้ค่ะ

แล้วเราก็แนำนำให้เข้าเว็บ hyperdia  http://www.hyperdia.com/en/
เป็นเว็บที่มีประโยชน์อย่างหาที่เปรียบมิได้เลยค่ะ
เราใช้ในการวางแผนก่อนไปญี่ปุ่น เพื่อกะเวลาคร่าวๆในการไปแต่ละที่ที่เราสนใจค่ะ
เว็บนี้บอกละเอียดทุกสิ่งเลย ทั้งสถานีที่ลง ราคา เปลี่ยนสถานีตรงไหน
ช่วยได้มากค่ะ ลองเข้าไปเล่นดูค่ะ ...เห็นในพันทิปมีคนทำรีวิวไว้มากมาย อิอิ

คือถ้าทำความเข้าใจสั้นรถไฟ จนพอจะดูออกระดับหนึ่งแล้ว พอไปถึงญี่ปุ่นจะไม่งงอีกเลยค่ะ
ยิ่งถ้าคุณพักในเมือเส้น yamanote line เส้นที่วิ่งเป้นวงกลมผ่านสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ที่นักท่องเที่ยวนิยมกัน
อันนี้จะยิ่งง่ายกับชีวิตเลยค่ะ ไม่มีงงแน่ๆ แต่พอดีที่พักที่เราไปกับทัวร์มันอยู่ไกลออกไปทีเดียว 555

แนะนำว่า ควรปริ้นแผนที่รถไฟไป และปริ้นตารางเที่ยวที่วางแผนไว้
หรือกาจจะไปตามรอยเที่ยวร์ของใครในพันทิปก็ควรปริ้นหรือจดไปให้ละเอียดค่ะ
เพราะเราไม่มีทางรู้ว่ามือถือเราจะแบตหมดตอนไหน หรือถ้าเผื่อทำมือถือตกแล้วใช้งานไม่ได้กระทันหันจะทำยังไง
เพราะงั้นยังไงการจด หรือปริ้นออกมาก็จำเป็นค่ะ  มันช่วยเราได้ในกรณีฉุกเฉินจริงๆ

เที่ยวญี่ปุ่นเอง เราว่าเปิดเน็ตไปก็ดีค่ะ จะซื้อเป็นซิมส์ที่ญี่ปุ่น หรือพอกเกทไวไฟ หรือ เปิดโรมมิ่งไปก็สุดแล้วแต่
แต่อย่างที่บอก ของเรากระชั้นชิดมาก สุดท้ายเลยไม่ได้เปิดเน็ตเลยค่ะ เลยต้องจดข้อมูลการเดินทางจากไทยไปละเอียดพอควรกันไว้ก่อน

แต่ถ้าเปิดเน็ตไปนี่สบายค่ะ พกพาวเวอร์แบงค์มือถือไปด้วย เปิด google map รับรองไม่มีหลง



แผนที่ metro http://ashleeoverseas.files.wordpress.com/2012/01/tk-map.jpg
(ตรงที่เป้นเส้นประอ่อนๆ ..เป็นเส้น yamanote line  ยอดฮิตของนักท่องเที่ยว ของ jr ค่ะ)

แผนที่ jr http://ashleeoverseas.files.wordpress.com/2012/01/jr-map.jpg
(เส้น yamanote line ที่นักท่องเที่ยวนิยมคือเส้นตรงกลางที่วิ่งวนเป็นลูปสีเขียวอ่อน)

แผนที่รถไฟสาย  yamanote line  http://www.japanvisitor.com/images/content_images/yamanote-map.gif

เว็บ hyperdia  http://www.hyperdia.com/en/

มีสามสิ่งนี้ วางแผนเที่ยวโตเกียวสบายเลยค่ะ ^^

---

จบสองพาร์ทแรก
ต่อไปจะรีวิวการเที่ยวในญี่ปุ่นแล้วค่ะ ^^