ECOSPORT
ตัวรถ ถ้าคุณได้ดูจากในรูป คุณจะไม่เห็นความสวยในแบบที่ดีไซเนอร์อยากให้เห็นเท่าไหร่ คงจะคิดเพียงแค่ว่า Design ต่อยอดมาจาก Fiesta เอาหน้าตา Aston Martin มาใช้งาน ดูไปดูมา เริ่มเหมือน Iron Man พอมาได้ดูตัวจริง ได้เดินรอบคัน มันสวยลงตัวในระดับหนึ่งเลย เส้นสายของมันลากออกมาให้ตัวรถมีใบหน้ากลม โค้งเข้ารูป ไฟหน้าสวยในทุกมุมมอง เป็นดีไซน์ในแบบ Hexadecimal หรือหกเหลี่ยมเอามาประกบกัน เป็น Design ของความแข็งแรง ความทันสมัย หน้าตาล้ำแบบไม่เกรงใจตลาดคนสูงอายุบ้างเลย ท้ายรถ ก็ดันเอาที่เก็บล้ออะไหล่มาใส่ซะอีก แต่ขาออฟโร๊ด คงชอบ น่าใส่จักรยานได้ 2 คันน ก็ถอดล้อหน้าไปใส่ที่เก็บล้ออะไหล่ท้ายรถ แล้วพับเบาะหลังใส่จักรยานได้เลย ประตูหลังเป็นแบบเปิดประตูบ้าน แนวดี เปิดได้ที่ไฟท้าย เปิดออกมาพบพื้นผิวเหล็กหรือพลาสติกไม่รู้เป็นลอนกระบะ ดูแข็งแรงและดีมากกว่า Future Board ของ Altis มาที่เบาะหลัง นอกจากมันนั่งสบายใช้ได้ มันยังดีดขึ้นไปเก็บตัวให้โดยอัตโนมัติ เนื้อที่น่าจะพอใส่เครื่องซักผ้าได้ นี่แหละข้อดีที่ผมจะไม่มองรถ 4 ประตูเลยซักนิด ตัวรถมาพร้อม ฐาน Rack ที่สามารถต่อ Rack โดยไม่รู้สึกว่ามันน่าเกลียด หากล่องใบใหญ่ๆ มาใส่บน Rack ก็เท่ห์ไปอีกแบบ พับเบาะแล้วมันน่าปูผ้านวม ได้เสียกันบนรถซะจริง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ป๊อกเด้ง หลายคนอาจชอบกระจังหน้าตัว Top แต่ผมชอบกระจังหน้าตัวล่างสุด มันเอาโครเมี่ยมออกหมด บางอย่างก็ดูแปลกเกิน แบบล้อแม๊กซ์ตัว Top ก็ชวนให้นึกถึงเหล็กดัดที่บ้าน
Console
ยกเอา Fiesta มาทั้งดุ้น ปุ่มเต็มไปหมด เสา A ใหญ่มาก ต้องอาศัยความเคยชิน แลกมากับความแข็งแรงของแชสซี่ ผมยอมเลือกเสา A หนาๆ ดีกว่า เพราะจุดนี้ เรียกได้ว่า วัดความเป็นความตายของคนขับได้เลย ตัวรถสูงเอาเรื่อง สิ่งที่ชอบเป็นพิเศษคือที่พิงศอกขวา เสริมฟองน้ำบุหนัง ทำให้สบายศอกขวา เพราะเวลาขับรถทางไกลนานๆ ไม่รู้เป็นเหมือนผมกันไหม ผมจะเอาศอกขวาพิงขอบประตู จับใต้พวงมาลัย เนื่องจากรถที่ขับ มันทำเป็นผ้าเรียบๆ พอพิงไปนานๆ ทั้งเจ็บ ทั้งช้ำ ดำเป็นศอกหมาเลย จุดนี้ผมให้คะแนน Ecosport ที่ทำฟองน้ำไว้พิง พวงมาลัย ไม่ได้ให้ความรู้สึกหนักแน่นเวลาจับ ผมชอบพวงมาลัยแข็งแรงที่กดจิกยางของมันได้เต็มๆ ของ Ecosport เหมือนท่อ PVC แข็งแรง แต่กลวงหน่อยๆ แต่อย่างน้อยก็ยังดีกว่าพลาสติกพวงมาลัยของ Vios ที่นิ่มและดูไม่แข็งแรงเลย แถมยังทำทรงพวงมาลัยเป็นก้อนๆ เวลารูดมือตอนพวงมาลัยคืนตัว จะไม่สมูทเท่าพวงมาลัยกลมๆ เบสิคๆ ตอนถอย ก็มีเซนเซอร์หลังแสดงในจอด้วย ไม่ธรรมดา เบาะฟองน้ำนั่งสบายเอาเรื่อง นี่ขนาดเบาะผ้านะ แอร์ออโต้ ชัดเจน จากที่เซลล์เปิดจนเย็นแทบปวดมือ พอเพิ่มอุณหภูมิ รู้สึกได้ว่าลมนั้นอุ่นขึ้น ไม่ใช่แอร์ที่ปรับความแรงของลมแบบ Toyota ที่อ้างว่าออโต้แต่แค่ปรับลมแรง หรืออ่อนลง
ขับขี่
ข้อเสียใหญ่ที่สุดของ Ecosport คือ ออกตัวช้า กดคันเร่ง มีแต่เสียง แต่ไม่พุ่ง จุดนี้เป็นจุดสำคัญที่คนจะเป็นเจ้าของ ต้องเข้าใจ พอเร็วได้ซักระยะ ทีนี้ เหยียบเป็นพุ่งแล้ว สิ่งที่ต้องชมมากๆ คือ เก็บเสียงได้เยี่ยมจริงๆ ได้ยินเสียงภายนอกน้อยมาก ที 120 แทบไม่มีเสียงลม และไม่รู้สึกสั่นเลย เปลี่ยนเลนไม่รู้สึกถึงอาการเหวี่ยง (แต่ผมชอบรถเหวี่ยงๆ นะ มันส์ดี) ทีโค้งเกือกม้าตอนกลับรถ ผมไม่กล้าโยกเยอะ และต้องชะลอ คงเป็นบุคลิกของ SUV (ผมขับแต่เก๋ง) ช่วงล่างดีครับ ขณะที่กำลังเหยียบลูกเหล็กที่มีแถบมะท้อนสีเหลือง (ไม่รู้เรียกว่าอะไร) ที่มันไว้กั้นเลนทางที่จะเชื่อมเข้าถนนใหญ่ แทบไม่รู้สึกอะไร แต่ได้ยินเสียงว่าเหยียบอยู่ นิ่มสะใจดีมาก ด้วยความเป็นรถที่สูง ทำให้มองเห็นข้างหน้าได้ไกลกว่าเก๋ง รู้ว่าควรจะเปลี่ยนเลนตอนไหน นับว่า OK เลย เกียร์ีลูกเล่น ปรับเพิ่ม ลดเกียร์บนคันเกียร์ได้ แต่อนิจา ตัวเลขบนคอนโซลก็เล็กเกิน หรือผมสายตาสั้นไม่รู้ อัตราการบริโภค เช็คไม่ได้ครับ ขับแค่ 15 นาที
สรุป
บุคลิกที่ออกตัวช้า แต่ที่ย่านความเร็วสูง ทำได้ดีมาก แต่ก็ต้องระวังทางโค้งโหดๆ บ้าง ถ้าผมอยู่ต่างจังหวัด คันนี้ตอบโจทย์ได้ดีครับ ถ้าไม่รีบ และไม่รู้เมื่อไหร่ ก็รอ Ecoboost ได้ก็รอครับ แต่ต้องทำใจนะ ว่าราคาคงดันไปต่ออีก 5 หมื่น (รึปล่าว)
ปากงี้แหละ เท่ห์โคตร ทำไมรุ่นล่างๆ ดันสวยกว่ารุ่น Top เหมือน Yaris หว่า
ได้ไปลองขับ ECOSPORT มารีวิวให้ฟัง
ตัวรถ ถ้าคุณได้ดูจากในรูป คุณจะไม่เห็นความสวยในแบบที่ดีไซเนอร์อยากให้เห็นเท่าไหร่ คงจะคิดเพียงแค่ว่า Design ต่อยอดมาจาก Fiesta เอาหน้าตา Aston Martin มาใช้งาน ดูไปดูมา เริ่มเหมือน Iron Man พอมาได้ดูตัวจริง ได้เดินรอบคัน มันสวยลงตัวในระดับหนึ่งเลย เส้นสายของมันลากออกมาให้ตัวรถมีใบหน้ากลม โค้งเข้ารูป ไฟหน้าสวยในทุกมุมมอง เป็นดีไซน์ในแบบ Hexadecimal หรือหกเหลี่ยมเอามาประกบกัน เป็น Design ของความแข็งแรง ความทันสมัย หน้าตาล้ำแบบไม่เกรงใจตลาดคนสูงอายุบ้างเลย ท้ายรถ ก็ดันเอาที่เก็บล้ออะไหล่มาใส่ซะอีก แต่ขาออฟโร๊ด คงชอบ น่าใส่จักรยานได้ 2 คันน ก็ถอดล้อหน้าไปใส่ที่เก็บล้ออะไหล่ท้ายรถ แล้วพับเบาะหลังใส่จักรยานได้เลย ประตูหลังเป็นแบบเปิดประตูบ้าน แนวดี เปิดได้ที่ไฟท้าย เปิดออกมาพบพื้นผิวเหล็กหรือพลาสติกไม่รู้เป็นลอนกระบะ ดูแข็งแรงและดีมากกว่า Future Board ของ Altis มาที่เบาะหลัง นอกจากมันนั่งสบายใช้ได้ มันยังดีดขึ้นไปเก็บตัวให้โดยอัตโนมัติ เนื้อที่น่าจะพอใส่เครื่องซักผ้าได้ นี่แหละข้อดีที่ผมจะไม่มองรถ 4 ประตูเลยซักนิด ตัวรถมาพร้อม ฐาน Rack ที่สามารถต่อ Rack โดยไม่รู้สึกว่ามันน่าเกลียด หากล่องใบใหญ่ๆ มาใส่บน Rack ก็เท่ห์ไปอีกแบบ พับเบาะแล้วมันน่าปูผ้านวม ได้เสียกันบนรถซะจริง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ หลายคนอาจชอบกระจังหน้าตัว Top แต่ผมชอบกระจังหน้าตัวล่างสุด มันเอาโครเมี่ยมออกหมด บางอย่างก็ดูแปลกเกิน แบบล้อแม๊กซ์ตัว Top ก็ชวนให้นึกถึงเหล็กดัดที่บ้าน
Console
ยกเอา Fiesta มาทั้งดุ้น ปุ่มเต็มไปหมด เสา A ใหญ่มาก ต้องอาศัยความเคยชิน แลกมากับความแข็งแรงของแชสซี่ ผมยอมเลือกเสา A หนาๆ ดีกว่า เพราะจุดนี้ เรียกได้ว่า วัดความเป็นความตายของคนขับได้เลย ตัวรถสูงเอาเรื่อง สิ่งที่ชอบเป็นพิเศษคือที่พิงศอกขวา เสริมฟองน้ำบุหนัง ทำให้สบายศอกขวา เพราะเวลาขับรถทางไกลนานๆ ไม่รู้เป็นเหมือนผมกันไหม ผมจะเอาศอกขวาพิงขอบประตู จับใต้พวงมาลัย เนื่องจากรถที่ขับ มันทำเป็นผ้าเรียบๆ พอพิงไปนานๆ ทั้งเจ็บ ทั้งช้ำ ดำเป็นศอกหมาเลย จุดนี้ผมให้คะแนน Ecosport ที่ทำฟองน้ำไว้พิง พวงมาลัย ไม่ได้ให้ความรู้สึกหนักแน่นเวลาจับ ผมชอบพวงมาลัยแข็งแรงที่กดจิกยางของมันได้เต็มๆ ของ Ecosport เหมือนท่อ PVC แข็งแรง แต่กลวงหน่อยๆ แต่อย่างน้อยก็ยังดีกว่าพลาสติกพวงมาลัยของ Vios ที่นิ่มและดูไม่แข็งแรงเลย แถมยังทำทรงพวงมาลัยเป็นก้อนๆ เวลารูดมือตอนพวงมาลัยคืนตัว จะไม่สมูทเท่าพวงมาลัยกลมๆ เบสิคๆ ตอนถอย ก็มีเซนเซอร์หลังแสดงในจอด้วย ไม่ธรรมดา เบาะฟองน้ำนั่งสบายเอาเรื่อง นี่ขนาดเบาะผ้านะ แอร์ออโต้ ชัดเจน จากที่เซลล์เปิดจนเย็นแทบปวดมือ พอเพิ่มอุณหภูมิ รู้สึกได้ว่าลมนั้นอุ่นขึ้น ไม่ใช่แอร์ที่ปรับความแรงของลมแบบ Toyota ที่อ้างว่าออโต้แต่แค่ปรับลมแรง หรืออ่อนลง
ขับขี่
ข้อเสียใหญ่ที่สุดของ Ecosport คือ ออกตัวช้า กดคันเร่ง มีแต่เสียง แต่ไม่พุ่ง จุดนี้เป็นจุดสำคัญที่คนจะเป็นเจ้าของ ต้องเข้าใจ พอเร็วได้ซักระยะ ทีนี้ เหยียบเป็นพุ่งแล้ว สิ่งที่ต้องชมมากๆ คือ เก็บเสียงได้เยี่ยมจริงๆ ได้ยินเสียงภายนอกน้อยมาก ที 120 แทบไม่มีเสียงลม และไม่รู้สึกสั่นเลย เปลี่ยนเลนไม่รู้สึกถึงอาการเหวี่ยง (แต่ผมชอบรถเหวี่ยงๆ นะ มันส์ดี) ทีโค้งเกือกม้าตอนกลับรถ ผมไม่กล้าโยกเยอะ และต้องชะลอ คงเป็นบุคลิกของ SUV (ผมขับแต่เก๋ง) ช่วงล่างดีครับ ขณะที่กำลังเหยียบลูกเหล็กที่มีแถบมะท้อนสีเหลือง (ไม่รู้เรียกว่าอะไร) ที่มันไว้กั้นเลนทางที่จะเชื่อมเข้าถนนใหญ่ แทบไม่รู้สึกอะไร แต่ได้ยินเสียงว่าเหยียบอยู่ นิ่มสะใจดีมาก ด้วยความเป็นรถที่สูง ทำให้มองเห็นข้างหน้าได้ไกลกว่าเก๋ง รู้ว่าควรจะเปลี่ยนเลนตอนไหน นับว่า OK เลย เกียร์ีลูกเล่น ปรับเพิ่ม ลดเกียร์บนคันเกียร์ได้ แต่อนิจา ตัวเลขบนคอนโซลก็เล็กเกิน หรือผมสายตาสั้นไม่รู้ อัตราการบริโภค เช็คไม่ได้ครับ ขับแค่ 15 นาที
สรุป
บุคลิกที่ออกตัวช้า แต่ที่ย่านความเร็วสูง ทำได้ดีมาก แต่ก็ต้องระวังทางโค้งโหดๆ บ้าง ถ้าผมอยู่ต่างจังหวัด คันนี้ตอบโจทย์ได้ดีครับ ถ้าไม่รีบ และไม่รู้เมื่อไหร่ ก็รอ Ecoboost ได้ก็รอครับ แต่ต้องทำใจนะ ว่าราคาคงดันไปต่ออีก 5 หมื่น (รึปล่าว)
ปากงี้แหละ เท่ห์โคตร ทำไมรุ่นล่างๆ ดันสวยกว่ารุ่น Top เหมือน Yaris หว่า