ทริปนี้เกิดจากการ สอยโปรเส้นทางบินใหม่ ของแอร์เอเชีย เอ็กซ์ (D7) ในขณะนั้นเมื่อตอนจองยังทำงานและพำนักที่ประเทศมาเลเซีย เลยตั้งงบสำหรับทริปนี้แค่ 1000 ริงกิต หรือประมาณหนึ่งหมื่นบาท สำหรับทริป 5 วัน 4 คืน
แต่เนื่องจากมีเหตุให้ต้องเปลี่ยนงาน และย้ายมาทำงานที่เกาะสมุย ทริปนี้จึงต้องเริ่มต้นที่เกาะสมุยแทนที่จะเป็นอาคาร KLIA2
ตามดูรีวิวเดินทางจากเกาะสมุยที่นี่
http://ppantip.com/topic/32118469
และต่อด้วย อาคาร KLIA2 ที่นี่
http://ppantip.com/topic/32105548
โดยทริปนี้หมดไปกับค่าเดินทางโดยเครื่องบินเยอะเหมือนกัน เพราะต่อเครื่องหลายต่อมาก
โดยแบ่งเป็นค่าเดินทางโดยเครื่องบิน
USM to HKT by Bangkok Air 3250 บาท
HKT to KUL by Air Asia 1730 บาท
**คำถามทำไมไม่บินตรง USM to KUL เลย คำตอบ เพราะราคาตั๋วแพงมากๆ หมื่นกว่าอัพ
**คำถาม 2 แล้วทำไมไม่บินจาก URT แทนล่ะ ตอบ 2 เพราะไม่มีเที่ยวบินของวันที่จะเดินทางครับ
จากกัวลาลัมเปอร์ไปญี่ปุ่นผมซื้อตั๋วแยกครับ เพราะถูกกว่าแบบ ไป-กลับ
KUL to NGO by AirAsiaX 2010 บาท
NGO to KUL by AirAsiaX 2197 บาท
และ KUL to URT by AirAsia 1740 บาท
รวมแล้วก็ 10927 บาท
ส่วนค่าเดินทาง ผมใช้ kintetsu pass แบบ wide 5700 yen หรือประมาณ 1772 บาท
สามารถใช้เดินทางได้ 5 วัน สามารถนั้งรถด่วนแบบระบุที่นั่งได้ 3 ครั้ง เดินทางเข้า-ออก จากสนามบิน CENTRAL JAPAN INTERNATIONAL AIRPORT หรือ KANSAI INTERNATIONAL AIRPORT ได้ 2 ครั้ง โดยสารรถบัสในเมืองมิเอะ และ โทบะ รวมถึงรถไฟ ไปเมืองนินจาฮาโตริ(อิงะ) และรถไฟของบริษัท kintetsu ทุกขบวน รายละเอียดตาม link นี้เลยครับ
http://www.kintetsu.co.jp/foreign/english/useful/ticket/rpw1-2.html
ร่ายยาวไปไหมนิ มาเริ่มกันเลยครับ
เดินทางออกจากสนามบินกัวลาลัมเปอร์ อาคาร KLIA2
Flight D7542 ออกจากกัวลาลัมเปอร์ (KUL) 19 May 2014 เวลา 8:45 AM ถึง นาโกย่า – ชูบุ (NGO) เวลา 4:20 PM
ใช้เวลาเดินทางเกือบ 7 ชั่วโมง
เริ่มเดินทางจากอาคาร KLIA2 ใหญ่มาก
หางแดงจอดใกล้ๆมาลินโด
ไปที่เกทกันครับ
วันนี้เป็นเกท P6 ครับไกลได้ใจมาก
เดินมาถึงสักพักก็เรียกขึ้นเครื่อง
วันนี้ผู้โดยสารไม่เต็มลำครับ พอเครื่องขึ้นไฟสัญญาณรัดเข็มขัดดับลง ก็ย้ายที่นั้นกันใหญ่เลย
แล้วก็มาถึงการฆ่าเวลาด้วยการกิน อิอิ ผมสั่งอาหารไว้ล่วงหน้าแล้วครับ เป็นเมนูอาหารเกาหลี มาดูกันครับ
น่าตาไม่สวย แต่อร่อยครับ
ในเที่ยวบินมีพนักงานบริการบนเครื่อง เป็นคนญี่ปุ่นด้วยครับ มีการประกาศทั่งภาษาอังกฤษ มาเลย์ และ ญี่ปุ่น
ใกล้ลงจอดแล้วครับ
และแล้วก็มาถึงนาโกย่าจนได้ครับ
ภายในสนามบินขาเข้าครับ
เดินเข้าอาคารไม่นานก็เป็นด่าน ตม. ครับ คนเยอะนิดหน่อย พอผ่าน ตม. ออกมาก็จะเจอป้ายบอกทางครับ
แล้วก็เดินออกมาขึ้นรถไฟเข้าเมืองกันครับ แต่ต้องไปซื้อ kintetsu pass ก่อนครับ โดยซื้อจากเคาน์เตอร์ของ Meitetsu Travel Plaza ซึ่งอยู่ข้างๆช่องเสียบตั๋วรถไฟครับ
แล้วก็นั่งรถไฟของ Meitetsu เข้าเมืองกันครับ ประมาณ 45 นาทีก็ถึงสถานีนาโกย่าครับ
ที่สถานีนาโกย่าก็เหมื่อนหัวลำโพงที่บ้านเราครับ คนเยอะมากๆ มีล็อกเกอร์ฝากของด้วย
เรานอนที่นาโกย่า 1 คืนครับ โดยพักที่ Hotel MyStays Nagoya-Sakae สถานี Sakae
โดยเราต้องนั่งรถไฟสาย Higashiyama ไปอีก 2 สถานีครับ ค่าตั๋ว 200 เยนครับ (62บาท)
พอถึงสถานี Sakae ก็ออกตรงทางออกหมายเลข 12 ครับ แล้วเดินตรงไปเรื่อยๆครับ
ก็จะเจอโรงแรม ตรงสี่แยกเลยครับ
ลืมถ่ายรูปตัวตึกครับ เลยเอาภาพจากอินเตอร์เน็ตมานะครับ อิอิ
ราคาห้องพักแบบ 2 คน น่าคบมาก 3500 เยน (1089 บาท) มีหารกับเพื่อนตกคนละ 1750 เยน (544 บาท)
ชมห้องกันครับ มีอุปกรณ์ทุกอย่างครบถ้วนครับ ตู้เย็น เซฟ เครื่องฟอกอากาศ อินเตอร์เน็ต Lan, wifi กาต้มน้ำ ชา เตารีด ไดร์เป่าผม ฯลฯ
ชุดชา
วิวจากห้องพักครับ
เมื่อเข้าห้องพักเรียบร้อยก็ถึงเวลาหาของกินกันครับ จริงๆแล้วฝั่งตรงข้ามโรงแรมมีร้านข้าวหน้าปลาไหลอยู่ด้วยครับ แต่เราก็ไม่เคยข้ามไปฝั่งโน้นเลย จนวันกลับถึงได้รู้ เพราะวันกลับก็พักที่เดิมครับ เราจึงเดินไปตั้งต้นที่สถานี Sakae ที่สถานีนี้จะมีหอ Nagoya Tower และ Terminal 21 ด้วย
ซึ่ง Terminal 21 จะเป็นศูนย์รถบัสไปเมืองต่างๆครับ และเราก็ฝากท้องไว้ที่นี่ประจำ
เราเลือกทาน ราเม็งหมูดำครับ อร่อยมากๆครับ ทานแล้วอยากทานอีก ค่าเสียหาย 950 เยน(295 บาท)
ร้านจะอยู่ใกล้ๆกับ mcdonald ครับ
ทานเสร็จก็เดินชมวิวกันครับ
แล้วเราก็เดินเที่ยวสักพัก จึงเดินกลับโรงแรม ที่นาโกย่าร้านหลายร้านปิดไวมากๆครับ ห้างสรรพสินค้าปิด 2 ทุ่มครึ่ง (ไวไปใหน)
วันนี้ขอแค่นี้ก่อนนะครับ บางรูปอาจจะไม่ชัดเพราะใช้มือถือถ่าย ขอบคุณสำหรับคอมเม้นล่วงหน้านะครับ
[CR] ไม่ถึงสองหมื่นก็เที่ยวญี่ปุ่นได้ ไปเอง เที่ยวเอง
แต่เนื่องจากมีเหตุให้ต้องเปลี่ยนงาน และย้ายมาทำงานที่เกาะสมุย ทริปนี้จึงต้องเริ่มต้นที่เกาะสมุยแทนที่จะเป็นอาคาร KLIA2
ตามดูรีวิวเดินทางจากเกาะสมุยที่นี่
http://ppantip.com/topic/32118469
และต่อด้วย อาคาร KLIA2 ที่นี่
http://ppantip.com/topic/32105548
โดยทริปนี้หมดไปกับค่าเดินทางโดยเครื่องบินเยอะเหมือนกัน เพราะต่อเครื่องหลายต่อมาก
โดยแบ่งเป็นค่าเดินทางโดยเครื่องบิน
USM to HKT by Bangkok Air 3250 บาท
HKT to KUL by Air Asia 1730 บาท
**คำถามทำไมไม่บินตรง USM to KUL เลย คำตอบ เพราะราคาตั๋วแพงมากๆ หมื่นกว่าอัพ
**คำถาม 2 แล้วทำไมไม่บินจาก URT แทนล่ะ ตอบ 2 เพราะไม่มีเที่ยวบินของวันที่จะเดินทางครับ
จากกัวลาลัมเปอร์ไปญี่ปุ่นผมซื้อตั๋วแยกครับ เพราะถูกกว่าแบบ ไป-กลับ
KUL to NGO by AirAsiaX 2010 บาท
NGO to KUL by AirAsiaX 2197 บาท
และ KUL to URT by AirAsia 1740 บาท
รวมแล้วก็ 10927 บาท
ส่วนค่าเดินทาง ผมใช้ kintetsu pass แบบ wide 5700 yen หรือประมาณ 1772 บาท
สามารถใช้เดินทางได้ 5 วัน สามารถนั้งรถด่วนแบบระบุที่นั่งได้ 3 ครั้ง เดินทางเข้า-ออก จากสนามบิน CENTRAL JAPAN INTERNATIONAL AIRPORT หรือ KANSAI INTERNATIONAL AIRPORT ได้ 2 ครั้ง โดยสารรถบัสในเมืองมิเอะ และ โทบะ รวมถึงรถไฟ ไปเมืองนินจาฮาโตริ(อิงะ) และรถไฟของบริษัท kintetsu ทุกขบวน รายละเอียดตาม link นี้เลยครับ
http://www.kintetsu.co.jp/foreign/english/useful/ticket/rpw1-2.html
ร่ายยาวไปไหมนิ มาเริ่มกันเลยครับ
เดินทางออกจากสนามบินกัวลาลัมเปอร์ อาคาร KLIA2
Flight D7542 ออกจากกัวลาลัมเปอร์ (KUL) 19 May 2014 เวลา 8:45 AM ถึง นาโกย่า – ชูบุ (NGO) เวลา 4:20 PM
ใช้เวลาเดินทางเกือบ 7 ชั่วโมง
เริ่มเดินทางจากอาคาร KLIA2 ใหญ่มาก
หางแดงจอดใกล้ๆมาลินโด
ไปที่เกทกันครับ
วันนี้เป็นเกท P6 ครับไกลได้ใจมาก
เดินมาถึงสักพักก็เรียกขึ้นเครื่อง
วันนี้ผู้โดยสารไม่เต็มลำครับ พอเครื่องขึ้นไฟสัญญาณรัดเข็มขัดดับลง ก็ย้ายที่นั้นกันใหญ่เลย
แล้วก็มาถึงการฆ่าเวลาด้วยการกิน อิอิ ผมสั่งอาหารไว้ล่วงหน้าแล้วครับ เป็นเมนูอาหารเกาหลี มาดูกันครับ
น่าตาไม่สวย แต่อร่อยครับ
ในเที่ยวบินมีพนักงานบริการบนเครื่อง เป็นคนญี่ปุ่นด้วยครับ มีการประกาศทั่งภาษาอังกฤษ มาเลย์ และ ญี่ปุ่น
ใกล้ลงจอดแล้วครับ
และแล้วก็มาถึงนาโกย่าจนได้ครับ
ภายในสนามบินขาเข้าครับ
เดินเข้าอาคารไม่นานก็เป็นด่าน ตม. ครับ คนเยอะนิดหน่อย พอผ่าน ตม. ออกมาก็จะเจอป้ายบอกทางครับ
แล้วก็เดินออกมาขึ้นรถไฟเข้าเมืองกันครับ แต่ต้องไปซื้อ kintetsu pass ก่อนครับ โดยซื้อจากเคาน์เตอร์ของ Meitetsu Travel Plaza ซึ่งอยู่ข้างๆช่องเสียบตั๋วรถไฟครับ
แล้วก็นั่งรถไฟของ Meitetsu เข้าเมืองกันครับ ประมาณ 45 นาทีก็ถึงสถานีนาโกย่าครับ
ที่สถานีนาโกย่าก็เหมื่อนหัวลำโพงที่บ้านเราครับ คนเยอะมากๆ มีล็อกเกอร์ฝากของด้วย
เรานอนที่นาโกย่า 1 คืนครับ โดยพักที่ Hotel MyStays Nagoya-Sakae สถานี Sakae
โดยเราต้องนั่งรถไฟสาย Higashiyama ไปอีก 2 สถานีครับ ค่าตั๋ว 200 เยนครับ (62บาท)
พอถึงสถานี Sakae ก็ออกตรงทางออกหมายเลข 12 ครับ แล้วเดินตรงไปเรื่อยๆครับ
ก็จะเจอโรงแรม ตรงสี่แยกเลยครับ
ลืมถ่ายรูปตัวตึกครับ เลยเอาภาพจากอินเตอร์เน็ตมานะครับ อิอิ
ราคาห้องพักแบบ 2 คน น่าคบมาก 3500 เยน (1089 บาท) มีหารกับเพื่อนตกคนละ 1750 เยน (544 บาท)
ชมห้องกันครับ มีอุปกรณ์ทุกอย่างครบถ้วนครับ ตู้เย็น เซฟ เครื่องฟอกอากาศ อินเตอร์เน็ต Lan, wifi กาต้มน้ำ ชา เตารีด ไดร์เป่าผม ฯลฯ
ชุดชา
วิวจากห้องพักครับ
เมื่อเข้าห้องพักเรียบร้อยก็ถึงเวลาหาของกินกันครับ จริงๆแล้วฝั่งตรงข้ามโรงแรมมีร้านข้าวหน้าปลาไหลอยู่ด้วยครับ แต่เราก็ไม่เคยข้ามไปฝั่งโน้นเลย จนวันกลับถึงได้รู้ เพราะวันกลับก็พักที่เดิมครับ เราจึงเดินไปตั้งต้นที่สถานี Sakae ที่สถานีนี้จะมีหอ Nagoya Tower และ Terminal 21 ด้วย
ซึ่ง Terminal 21 จะเป็นศูนย์รถบัสไปเมืองต่างๆครับ และเราก็ฝากท้องไว้ที่นี่ประจำ
เราเลือกทาน ราเม็งหมูดำครับ อร่อยมากๆครับ ทานแล้วอยากทานอีก ค่าเสียหาย 950 เยน(295 บาท)
ร้านจะอยู่ใกล้ๆกับ mcdonald ครับ
ทานเสร็จก็เดินชมวิวกันครับ
แล้วเราก็เดินเที่ยวสักพัก จึงเดินกลับโรงแรม ที่นาโกย่าร้านหลายร้านปิดไวมากๆครับ ห้างสรรพสินค้าปิด 2 ทุ่มครึ่ง (ไวไปใหน)
วันนี้ขอแค่นี้ก่อนนะครับ บางรูปอาจจะไม่ชัดเพราะใช้มือถือถ่าย ขอบคุณสำหรับคอมเม้นล่วงหน้านะครับ