“ทีมดราก้อน” หรือ “ทีมแพทที่ยอดเยี่ยมที่สุด” จากเรื่อง “IRYU : Team Medical Dragon” ได้กลับมาโชว์ความสามารถอันเฉียบคมในการผ่าตัด การทำงานเป็นทีมที่แท้จริง และอุดมการณ์ของแพทย์ที่ดีให้พวกเราได้รับชมกันอีกครั้ง
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
สำหรับ IRYU ภาค 4 นี้ก็จะเป็นตอนที่เล่าเรื่องต่อจากภาค 3 ที่สมาชิกในทีมดราก้อนต่างก็แยกย้ายกันออกไป ส่วนเจ้าโนงุจิจอมเจ้าเล่ห์ก็ลาออกจากผอ. ส่วนหมออาซาดะก็ปลีกวิเวก เดินทางมายังฐานทัพทหารสงครามอันไกลโพ้น เพื่อมารักษาคนไข้ และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่นี่
ส่วนในญี่ปุ่นเองก็มีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้น มีโรงพยาบาลสุดหรูที่มีชื่อว่า
L&P ได้ถูกก่อตั้งขึ้น ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่เต็มไปด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ขนาดของโรงพยาบาลก็ดูกว้างใหญ่ตระการตา เต็มไปด้วยคุณหมอระดับคุณภาพ โดยมีนักธุรกิจหนุ่มมากฝีมือเข้ามาดูแลบริหารจัดการ
“เรามีโรงละครชั้นดีอยู่ในมือ ที่เหลือก็แค่นักแสดง เราต้องการซุปเปอร์สตาร์ เพื่อให้ผู้ชมตื่นตาตื่นใจ”
หมอนี่กำลังจะวางแผนทำอะไรสักอย่าง...
และในขณะเดียวกันโรงพยาบาลเก่าแก่ในย่านนั้น ซึ่งก็คือ
โรงพยาบาล “ซากุไร” ก็กำลังเข้าสู่วิกฤติ มีผู้ป่วยเข้าใช้บริการอย่างบางตา ทั้งหมอ พยาบาลก็พากันลาออกไปเกือบหมด อุปกรณ์ทางการแพทย์ก็ขาดแคลน บรรยากาศโรงพยาบาลนั้นดูเงียบเหงา วังเวงจนเข้าขั้นน่าจะปิดตัวไปได้แล้ว ซึ่งผิดจากโรงพยาบาล L&P โดยสิ้นเชิง
คนไข้ที่กำลังรอรับการรักษาในโรงพยาบาลซากุไรก็เริ่มหมดความเชื่อมั่น ท้อแท้ใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่ผอ.ของโรงพยาบาลนี้กลับให้ความเชื่อมั่นว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาจะรักษาคนไข้ของเขาให้กลับมามีชีวิตได้อย่างปกติอีกครั้ง
แต่ไม่ว่าโรงพยาบาลซากุไรมีใจอยากจะช่วยเหลือคนไข้มากสักขนาดไหน แต่บางครั้งก็ไม่อาจทำได้ตามความต้องการ เพราะไม่มีทั้งอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัย และที่สำคัญยังขาดบุคลากรทางการแพทย์อีกด้วย หมอที่เก่งที่สุดของโรงพยาบาลนี้มีเพียงผอ.ของโรงพยาบาลเท่านั้น ด้วยสถานการณ์แบบนี้โรงพยาบาลซากุไรจึงเป็นที่จับตามองของ L&P ที่ต้องการจะเข้ามาฮุบโรงพยาบาล!
แต่แล้วก็เหมือนโชคได้หันมาเข้าข้างโรงพยาบาลซากุไรบ้าง โรงพยาบาลแห่งนี้ได้รับสิ่งที่วิเศษที่สุด แม้แต่โรงพยาบาล L&P ก็ไม่สามารถครอบครองได้
นั่นก็คือ ....
“อาซาดะ ริวทาโร่”
ศัลยแพทย์มากฝีมือ ผู้มีฝีมือการผ่าตัดที่เฉียบคม เขากลับมาทำตามอุดมการณ์แพทย์
“หากปิดโรงพยาบาลแห่งนี้ไป จะมีผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการช่วยชีวิตอีก ดังนั้นผมจึงกับมาที่นี่”
และแล้ว IRYU4 ก็เปิดฉากเริ่มต้นอย่างสมบูรณ์เมื่อตัวละครเอกของเรื่องปรากฏตัว เหลือแค่เพียงสมาชิกเท่านั้นที่อาซาดะต้องไปรวบรวมกลับมาให้เป็น “ทีมดราก้อน” อีกครั้งให้ได้
“ผมจะรวบรวมคนในอุดมคติของอ.ซากุไร ทีมที่เยี่ยมยอดที่สุด”
เนื่องจากว่า IRYU ได้ดำเนินมาถึงภาคที่ 4 แล้ว บางคนก็เกิดความรู้สึกว่า สร้างมาหลายภาคขนาดนี้มันจะไม่วนอยู่แต่เรื่องเดิมๆ เหรอ คราวนี้ชามะนาวก็ขอรีวิวความน่าสนใจและไม่น่าสนใจของเรื่องนี้ผ่านเรื่องความแปลกใหม่และมุกเก่าๆ ของ IRYU ค่ะ จะมีอะไรกันบ้าง ตามไปอ่านกันเลย !
สิ่งแปลกใหม่
- การต่อสู้กันระหว่าง 2 โรงพยาบาล
สำหรับภาคนี้ก็จะมีโรงพยาบาลใหม่ 2 แห่งเกิดขึ้น แห่งหนึ่งเป็นโรงพยาบาลใหม่เอี่ยม ซึ่งก็คือโรงพยาบาล L&P ส่วนอีกแห่งหนึ่งเป็นโรงพยาบาลที่มีมานานแล้ว แต่ไม่ค่อยถูกพูดถึงมากนัก ซึ่งก็คือโรงพยาบาลซากุไร โรงพยาบาลทั้ง 2 แห่งนี้ก็จะต่างกันทั้งด้านกายภาพ และอุดมการณ์ของคนในโรงพยาบาล เป็นการต่อสู้ระหว่างโรพยาบาลที่แสวงหาผลกำไรแบบธุรกิจ กับโรงพยาบาลก่อตั้งขึ้นมาเพื่ออุดมการณ์ของแพทย์กลุ่มหนึ่ง ที่ไม่สนใจเงินทอง ขอเพียงแค่ได้ใช้กำลังกายและใจเพื่อช่วยเหลือคนไข้ให้ปลอดภัย และการต่อสู้นี้ไม่ใช่เป็นการต่อสู้แค่เรื่องที่ว่าโรงพยาบาลไหนจะอยู่รอด หรือรักษาได้ดีที่สุด แต่มันน่ากลัวตรงที่เป็น
การต่อสู้แย่งชิงทีมแพทย์ที่เก่งที่สุด นั่นก็คือการแย่งชิงสมาชิกทีมดราก้อน พวกเขาจะสามารถรวมกลุ่มอยู่ด้วยกันได้ตลอดไปหรือไม่ และผลสุดท้ายพวกเขาจะต้องตกไปอยู่โรงพยาบาลอะไรต้องคอยติดตาม
- Plot ด้านธุรกิจ
สำหรับภาคนี้จะเน้นหนักไปที่ด้านธุรกิจด้วยค่ะ จะไม่นำเสนอแค่ความรู้ด้านการแพทย์อย่างเดียว แต่จะนำเสนอการบริหารโรงพยาบาลในเชิงธุรกิจมากขึ้น เป็นองค์ประกอบย่อย แต่ดูๆ ไปกลับได้ความรู้ด้านการบริหารจัดการอย่างไม่รู้ตัวเลยล่ะ
- ตัวละครใหม่
แน่นอนว่าภาคนี้ก็ยังมีนักแสดงจากภาคเดิมๆ แต่ในขณะเดียวกันก็เพิ่มตัวละครใหม่มาด้วยก็คือ
คุณหมอซากุไร ผอ.ของโรงพยาบาลซากุไร ครูผู้สอนวิชาการแพทย์ให้หมออาซาดะ ในวันนี้เขาได้มีโอกาสได้กลับมาร่วมงานกับลูกศิษย์มากฝีมืออีกครั้ง
“โอคามูระ” ที่ปรึกษาการจัดการโรงพยาบาล L&P ต่อหน้าก็จะเป็นชายหนุ่มที่ใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่เบื้องลึกนั้นจอมเจ้าเล่ห์ไม่แพ้เจ้าโนงุจิเจ้าเก่าเลยล่ะ!
นักศึกษาแพทย์จอมรู้มาก แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ทึ่งกับความสามารถของอาซาดะ และในชีวิตนี้ก็อยากจะลองเป็นศิษย์ของเขาดูสักครั้ง
- ความแอดวานซ์ของเคสผ่าตัด และความระทึกใจ
ดูๆ ไปแล้ว รู้สึกว่าภาคนี้การผ่าตัดมันล้ำขึ้นนะคะ เป็นเคสที่มีความยาก และภาพการผ่าตัดก็ถึงใจมากอ่ะ เห็นตับ ไต้ ไส้ พุงแบบเต็มๆ กว่าเดิม
(ปล. ขอแนะนำนะคะว่า อย่าดูเรื่องนี้พร้อมกับการกินเครื่องในสัตว์ ต้มเลือดหมู หรืออะไรพวกนี้ค่ะ เพราะกินของแบบนั้นไปด้วยดูไปด้วย มันเหมือนกับว่าไม่ได้กินเครื่องในสัตว์ค่ะ แต่เป็น.....เคยกินไปดูไปค่ะ รู้สึกว่ามันไม่อร่อยเอาเสียเลย (. . ))
และความล้ำของเคสผ่าตัดไม่ได้อยู่แค่วิธีการผ่าตัดเท่านั้น แต่สถานการณ์ที่อยู่รอบๆ ก็มีส่วนทำให้การผ่าตัดมันยากขึ้นค่ะ เช่น ในฉากนี้เลยค่ะ แค่อาการคนป่วยก็ผ่ายากอยู่แล้ว อุปกรณ์ที่มีก็ไม่พอ ยังจะมีคนไข้ฉุกเฉนเข้ามาเพิ่มอีก ทั้งๆ ที่แพทย์ก็ไม่พอ นึกว่าอุปสรรคจะมีแค่นี้ แต่มันไม่จบง่ายๆ หรอกนะคะ... จู่ๆ ไฟก็ดันมาดับอีก ! เอาสิ!
คราวนี้เพื่อนๆ จะได้เห็นการผ่าตัดสุดเมพท่ามกลางความมืด เคสยากๆ แบบนี้ต้องอาซาดะเท่านั้น! อีกทั้งนี่ไม่ใช่การผ่าตัดที่มีอาซาดะลงมือแค่คนเดียว แต่นี่คือการทำงานเป็นทีม ในนามของ “ทีมดราก้อน” ทีมผ่าตัดที่เยี่ยมยอดที่สุด
- เบื้องหลังของแผนร้ายที่ยากจะคาดเดา
ดีกรีความร้ายของเหล่าตัวละครปฏิปักษ์นี่ไม่ธรรมดาเลยค่ะ ภาคนี้โนงุจิเขาได้วางแผนแผนร้ายเอาไว้ โดยในเนื้อเรื่องก็จะค่อยๆ เปิดเผยออกมาค่ะ เราจะไม่สามารถรู้ถึงความต้องการที่แท้จริงเขาได้ เพียงการดูเรื่องนี้แค่ตอนเดียว แผนซ้อนแผนก็มีอยู่ในเรื่องนี้เช่นกัน!
มุกเก่า
- ฉากลุ้นเว่อร์ๆ จนทำให้ก้นแทบจะไม่ติดเก้าอี้
ฉากพวกนี้ก็คือฉากผ่าตัด ที่พวกทีมดราก้อนต้องเจอจุดวิกฤต และอุปสรรค์ก่อน และเป็นอุปสรรคที่ยาดจะรับมือ ประมาณว่า “ให้ตายก็ทำไม่สำเร็จหรอกย่ะ!” ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ทำไม่ได้หรอก ไอ้คนดูก็จะลุ้นเอามากๆ ไม่เคยมีการผ่าตัดครั้งไหนที่คนดูจะได้นั่งดูอย่างสบายใจ ไร้ความกังวลเลย (แต่แอบคิดว่าการผ่าตัดจริงๆ มันก็น่าจะยังงี้แหละนะ การทำงานยาก มันไม่เคยง่ายอยู่แล้ว) พอดูไปก็จะเกิดคำถามว่า เฮ้ยย! จะทำสำเร็จเหรอว่ะ เปอร์เซ็นต์ที่คนไข้จะรอดมันน้อยมากเลยนะเฟ้ย บางทีก็แค่ 1% แต่หมออาซาดะเราไม่แคร์ และกลับคิดว่าต่อให้เหลือแค่ 1% นั่นก็คือความหวัง ความเป็นได้ของการมีชีวิตต่อของคนไข้จะมีเท่าไรไม่สำคัญ แต่มันสำคัญที่ว่าหมออย่างพวกเขาได้ใช้ความสามารถที่มีอยู่ได้ครบ 100% แล้วหรือยัง!
โอ้โห้ ! เท่ตลอด! พูดสั้นๆ ก็หล่อขึ้นมาได้ บอกเลย...
แล้วก็จะกลับมาอีหร็อบเดิม จู่ๆ อาซาดะก็จะคิดวิธีการรักษาได้ในเวลาฉิวเฉียด และผ่าตัดได้อย่างสำเร็จด้วยกำลังกายและกำลังใจทั้งหมดที่มี
- ตัวละครเก่า
ก็ตามที่ทุกคนคาดแหละค่ะ ทีมนักแสดงก็ยังเป็นกลุ่มเดิม แห่ทัพกันมาหมด ทั้งทีมดราก้อน, คิโตะ โชโกะ, โนะกุจิ เคะโนะ ตาเฒ่าจอมขี้โกงก็ยังคงมาสร้างความวุ่นวายตามเดิม แถมกลับมาภาคนี้เวเวลอัพกว่าเดิมอีก อาจจะมีบางคนที่อาจจะมาสมทบทีหลัง ต้องติดตามตอนต่อไป
- ยังต่อสู้กับพวกเดิมๆ
แม้ว่าจะมีโรงพยาบาลซากุไรโผล่เข้ามาร่วมด้วย แต่การต่อสู้ที่แท้จริงก็ยังเป็นระหว่างเหล่าทีมดราก้อนกับโนงุจิ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีความพิเศษเพิ่มเข้ามา เพื่อเพิ่มอรรถรส ไม่ให้ซ้ำซากจำเจมากไป ก็คือ โนกุจิมีระดับความร้ายที่สูงขึ้นกว่าเดิม แถมได้มาร่วมทีมกับเจ้า “โอคุมูระ” ตัวโกงหน้าใหม่ ก็ยิ่งเพิ่มความร้ายเข้าไปอีก แล้วอย่างนี้ทีมดราก้อนจะต่อกรกับพวกนี้ได้ไหมนะ !
- หมออาซาดะก็ยังคงรำไทเก๊กอยู่บนดาดฟ้าเหมือนเดิมนั่นแหละ
แหม! ฉากนี้ถือว่าเป็นขนบของทีมดราก้อนเลยก็ว่าได้ วันก่อนการผ่าตัดหมออาซาะดะจะชอบออกมารำไทเก๊ก ไม่รำกลางสนาม หรือในห้องแบบธรรมดาด้วยนะ ถ้าจะรำ หมออาซาดะเขาบอกว่าต้องเป็นที่ดาดฟ้า และยามวิกาลเท่านั้น! ใครรอดูหุ่นคุณหมอ ก็ยังคงมีให้รับชมตามเดิมค่ะ ฮี่ๆ
- เรื่องข้อคิดในการใช้ชีวิต แรงบันดาลใจในการทำงานก็ยังคงจัดเต็มในแบบของละครญี่ปุ่นที่ไม่เคยทำให้คนดูผิดหวัง
และนี่ก็คือ “IRYU : Team Medical Dragon” ภาค4 แบบคร่าวๆ ค่ะ ใครที่เป็นแฟนละครเรื่องนี้ไม่ควรพลาดเลย ส่วนคนที่ชอบละครแนวอาชีพ สนใจการผ่าตัด อยากได้ความรู้เกี่ยวกับการแพทย์ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจค่ะ ถึงแม้ละครเรื่องนี้จะเดินมาถึงภาคที่4 แล้ว อาจจะมีพล็อตเดิมๆ ซ้ำอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ถือว่ามันเดิมไปซะทีเดียว ยังมีปมปัญหา เรื่องราวใหม่ๆ ให้ได้ติดตามค่ะ
มาเอาใจช่วยว่า "ทีมดราก้อน" ทีมแพทย์ที่เยี่ยมยอดที่สุดจะหลุดจาดเงื้อมมือจากศัตรูได้หรือไม่
สามารถเข้าไปรับชมได้ที่บ้าน Dark-Dramas>>>https://www.facebook.com/FC.DarkDramas
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณเพื่อนๆ ที่แวะเข้ามาอ่านกันนะคะ
สามารถแวะมาพูดคุย และตามอ่านสาระดีๆ เกี่ยวกับละครญี่ปุ่นกับเจ้าของกระทู้หรือชามะนาวคนนี้กันต่อได้ที่เพจ Sakura Drama เลยค่ะ>>>https://www.facebook.com/sakuradramas
แล้วพบกันใหม่กับรีวิวละครญี่ปุ่นเรื่องหน้าค่ะ
[Review J-Drama] Team Dragon “ทีมแพทย์ฝีมือชั้นยอดของญี่ปุ่น” เขากลับมาแล้ว!
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
สำหรับ IRYU ภาค 4 นี้ก็จะเป็นตอนที่เล่าเรื่องต่อจากภาค 3 ที่สมาชิกในทีมดราก้อนต่างก็แยกย้ายกันออกไป ส่วนเจ้าโนงุจิจอมเจ้าเล่ห์ก็ลาออกจากผอ. ส่วนหมออาซาดะก็ปลีกวิเวก เดินทางมายังฐานทัพทหารสงครามอันไกลโพ้น เพื่อมารักษาคนไข้ และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่นี่
ส่วนในญี่ปุ่นเองก็มีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้น มีโรงพยาบาลสุดหรูที่มีชื่อว่า L&P ได้ถูกก่อตั้งขึ้น ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่เต็มไปด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ขนาดของโรงพยาบาลก็ดูกว้างใหญ่ตระการตา เต็มไปด้วยคุณหมอระดับคุณภาพ โดยมีนักธุรกิจหนุ่มมากฝีมือเข้ามาดูแลบริหารจัดการ
หมอนี่กำลังจะวางแผนทำอะไรสักอย่าง...
และในขณะเดียวกันโรงพยาบาลเก่าแก่ในย่านนั้น ซึ่งก็คือโรงพยาบาล “ซากุไร” ก็กำลังเข้าสู่วิกฤติ มีผู้ป่วยเข้าใช้บริการอย่างบางตา ทั้งหมอ พยาบาลก็พากันลาออกไปเกือบหมด อุปกรณ์ทางการแพทย์ก็ขาดแคลน บรรยากาศโรงพยาบาลนั้นดูเงียบเหงา วังเวงจนเข้าขั้นน่าจะปิดตัวไปได้แล้ว ซึ่งผิดจากโรงพยาบาล L&P โดยสิ้นเชิง
คนไข้ที่กำลังรอรับการรักษาในโรงพยาบาลซากุไรก็เริ่มหมดความเชื่อมั่น ท้อแท้ใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่ผอ.ของโรงพยาบาลนี้กลับให้ความเชื่อมั่นว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาจะรักษาคนไข้ของเขาให้กลับมามีชีวิตได้อย่างปกติอีกครั้ง
แต่ไม่ว่าโรงพยาบาลซากุไรมีใจอยากจะช่วยเหลือคนไข้มากสักขนาดไหน แต่บางครั้งก็ไม่อาจทำได้ตามความต้องการ เพราะไม่มีทั้งอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัย และที่สำคัญยังขาดบุคลากรทางการแพทย์อีกด้วย หมอที่เก่งที่สุดของโรงพยาบาลนี้มีเพียงผอ.ของโรงพยาบาลเท่านั้น ด้วยสถานการณ์แบบนี้โรงพยาบาลซากุไรจึงเป็นที่จับตามองของ L&P ที่ต้องการจะเข้ามาฮุบโรงพยาบาล!
แต่แล้วก็เหมือนโชคได้หันมาเข้าข้างโรงพยาบาลซากุไรบ้าง โรงพยาบาลแห่งนี้ได้รับสิ่งที่วิเศษที่สุด แม้แต่โรงพยาบาล L&P ก็ไม่สามารถครอบครองได้
ศัลยแพทย์มากฝีมือ ผู้มีฝีมือการผ่าตัดที่เฉียบคม เขากลับมาทำตามอุดมการณ์แพทย์
“หากปิดโรงพยาบาลแห่งนี้ไป จะมีผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการช่วยชีวิตอีก ดังนั้นผมจึงกับมาที่นี่”
และแล้ว IRYU4 ก็เปิดฉากเริ่มต้นอย่างสมบูรณ์เมื่อตัวละครเอกของเรื่องปรากฏตัว เหลือแค่เพียงสมาชิกเท่านั้นที่อาซาดะต้องไปรวบรวมกลับมาให้เป็น “ทีมดราก้อน” อีกครั้งให้ได้
เนื่องจากว่า IRYU ได้ดำเนินมาถึงภาคที่ 4 แล้ว บางคนก็เกิดความรู้สึกว่า สร้างมาหลายภาคขนาดนี้มันจะไม่วนอยู่แต่เรื่องเดิมๆ เหรอ คราวนี้ชามะนาวก็ขอรีวิวความน่าสนใจและไม่น่าสนใจของเรื่องนี้ผ่านเรื่องความแปลกใหม่และมุกเก่าๆ ของ IRYU ค่ะ จะมีอะไรกันบ้าง ตามไปอ่านกันเลย !
สิ่งแปลกใหม่
- การต่อสู้กันระหว่าง 2 โรงพยาบาล
สำหรับภาคนี้ก็จะมีโรงพยาบาลใหม่ 2 แห่งเกิดขึ้น แห่งหนึ่งเป็นโรงพยาบาลใหม่เอี่ยม ซึ่งก็คือโรงพยาบาล L&P ส่วนอีกแห่งหนึ่งเป็นโรงพยาบาลที่มีมานานแล้ว แต่ไม่ค่อยถูกพูดถึงมากนัก ซึ่งก็คือโรงพยาบาลซากุไร โรงพยาบาลทั้ง 2 แห่งนี้ก็จะต่างกันทั้งด้านกายภาพ และอุดมการณ์ของคนในโรงพยาบาล เป็นการต่อสู้ระหว่างโรพยาบาลที่แสวงหาผลกำไรแบบธุรกิจ กับโรงพยาบาลก่อตั้งขึ้นมาเพื่ออุดมการณ์ของแพทย์กลุ่มหนึ่ง ที่ไม่สนใจเงินทอง ขอเพียงแค่ได้ใช้กำลังกายและใจเพื่อช่วยเหลือคนไข้ให้ปลอดภัย และการต่อสู้นี้ไม่ใช่เป็นการต่อสู้แค่เรื่องที่ว่าโรงพยาบาลไหนจะอยู่รอด หรือรักษาได้ดีที่สุด แต่มันน่ากลัวตรงที่เป็นการต่อสู้แย่งชิงทีมแพทย์ที่เก่งที่สุด นั่นก็คือการแย่งชิงสมาชิกทีมดราก้อน พวกเขาจะสามารถรวมกลุ่มอยู่ด้วยกันได้ตลอดไปหรือไม่ และผลสุดท้ายพวกเขาจะต้องตกไปอยู่โรงพยาบาลอะไรต้องคอยติดตาม
- Plot ด้านธุรกิจ
สำหรับภาคนี้จะเน้นหนักไปที่ด้านธุรกิจด้วยค่ะ จะไม่นำเสนอแค่ความรู้ด้านการแพทย์อย่างเดียว แต่จะนำเสนอการบริหารโรงพยาบาลในเชิงธุรกิจมากขึ้น เป็นองค์ประกอบย่อย แต่ดูๆ ไปกลับได้ความรู้ด้านการบริหารจัดการอย่างไม่รู้ตัวเลยล่ะ
- ตัวละครใหม่
แน่นอนว่าภาคนี้ก็ยังมีนักแสดงจากภาคเดิมๆ แต่ในขณะเดียวกันก็เพิ่มตัวละครใหม่มาด้วยก็คือ
คุณหมอซากุไร ผอ.ของโรงพยาบาลซากุไร ครูผู้สอนวิชาการแพทย์ให้หมออาซาดะ ในวันนี้เขาได้มีโอกาสได้กลับมาร่วมงานกับลูกศิษย์มากฝีมืออีกครั้ง
“โอคามูระ” ที่ปรึกษาการจัดการโรงพยาบาล L&P ต่อหน้าก็จะเป็นชายหนุ่มที่ใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่เบื้องลึกนั้นจอมเจ้าเล่ห์ไม่แพ้เจ้าโนงุจิเจ้าเก่าเลยล่ะ!
นักศึกษาแพทย์จอมรู้มาก แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ทึ่งกับความสามารถของอาซาดะ และในชีวิตนี้ก็อยากจะลองเป็นศิษย์ของเขาดูสักครั้ง
- ความแอดวานซ์ของเคสผ่าตัด และความระทึกใจ
ดูๆ ไปแล้ว รู้สึกว่าภาคนี้การผ่าตัดมันล้ำขึ้นนะคะ เป็นเคสที่มีความยาก และภาพการผ่าตัดก็ถึงใจมากอ่ะ เห็นตับ ไต้ ไส้ พุงแบบเต็มๆ กว่าเดิม (ปล. ขอแนะนำนะคะว่า อย่าดูเรื่องนี้พร้อมกับการกินเครื่องในสัตว์ ต้มเลือดหมู หรืออะไรพวกนี้ค่ะ เพราะกินของแบบนั้นไปด้วยดูไปด้วย มันเหมือนกับว่าไม่ได้กินเครื่องในสัตว์ค่ะ แต่เป็น.....เคยกินไปดูไปค่ะ รู้สึกว่ามันไม่อร่อยเอาเสียเลย (. . ))
และความล้ำของเคสผ่าตัดไม่ได้อยู่แค่วิธีการผ่าตัดเท่านั้น แต่สถานการณ์ที่อยู่รอบๆ ก็มีส่วนทำให้การผ่าตัดมันยากขึ้นค่ะ เช่น ในฉากนี้เลยค่ะ แค่อาการคนป่วยก็ผ่ายากอยู่แล้ว อุปกรณ์ที่มีก็ไม่พอ ยังจะมีคนไข้ฉุกเฉนเข้ามาเพิ่มอีก ทั้งๆ ที่แพทย์ก็ไม่พอ นึกว่าอุปสรรคจะมีแค่นี้ แต่มันไม่จบง่ายๆ หรอกนะคะ... จู่ๆ ไฟก็ดันมาดับอีก ! เอาสิ!
คราวนี้เพื่อนๆ จะได้เห็นการผ่าตัดสุดเมพท่ามกลางความมืด เคสยากๆ แบบนี้ต้องอาซาดะเท่านั้น! อีกทั้งนี่ไม่ใช่การผ่าตัดที่มีอาซาดะลงมือแค่คนเดียว แต่นี่คือการทำงานเป็นทีม ในนามของ “ทีมดราก้อน” ทีมผ่าตัดที่เยี่ยมยอดที่สุด
- เบื้องหลังของแผนร้ายที่ยากจะคาดเดา
ดีกรีความร้ายของเหล่าตัวละครปฏิปักษ์นี่ไม่ธรรมดาเลยค่ะ ภาคนี้โนงุจิเขาได้วางแผนแผนร้ายเอาไว้ โดยในเนื้อเรื่องก็จะค่อยๆ เปิดเผยออกมาค่ะ เราจะไม่สามารถรู้ถึงความต้องการที่แท้จริงเขาได้ เพียงการดูเรื่องนี้แค่ตอนเดียว แผนซ้อนแผนก็มีอยู่ในเรื่องนี้เช่นกัน!
มุกเก่า
- ฉากลุ้นเว่อร์ๆ จนทำให้ก้นแทบจะไม่ติดเก้าอี้
ฉากพวกนี้ก็คือฉากผ่าตัด ที่พวกทีมดราก้อนต้องเจอจุดวิกฤต และอุปสรรค์ก่อน และเป็นอุปสรรคที่ยาดจะรับมือ ประมาณว่า “ให้ตายก็ทำไม่สำเร็จหรอกย่ะ!” ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ทำไม่ได้หรอก ไอ้คนดูก็จะลุ้นเอามากๆ ไม่เคยมีการผ่าตัดครั้งไหนที่คนดูจะได้นั่งดูอย่างสบายใจ ไร้ความกังวลเลย (แต่แอบคิดว่าการผ่าตัดจริงๆ มันก็น่าจะยังงี้แหละนะ การทำงานยาก มันไม่เคยง่ายอยู่แล้ว) พอดูไปก็จะเกิดคำถามว่า เฮ้ยย! จะทำสำเร็จเหรอว่ะ เปอร์เซ็นต์ที่คนไข้จะรอดมันน้อยมากเลยนะเฟ้ย บางทีก็แค่ 1% แต่หมออาซาดะเราไม่แคร์ และกลับคิดว่าต่อให้เหลือแค่ 1% นั่นก็คือความหวัง ความเป็นได้ของการมีชีวิตต่อของคนไข้จะมีเท่าไรไม่สำคัญ แต่มันสำคัญที่ว่าหมออย่างพวกเขาได้ใช้ความสามารถที่มีอยู่ได้ครบ 100% แล้วหรือยัง!
แล้วก็จะกลับมาอีหร็อบเดิม จู่ๆ อาซาดะก็จะคิดวิธีการรักษาได้ในเวลาฉิวเฉียด และผ่าตัดได้อย่างสำเร็จด้วยกำลังกายและกำลังใจทั้งหมดที่มี
- ตัวละครเก่า
ก็ตามที่ทุกคนคาดแหละค่ะ ทีมนักแสดงก็ยังเป็นกลุ่มเดิม แห่ทัพกันมาหมด ทั้งทีมดราก้อน, คิโตะ โชโกะ, โนะกุจิ เคะโนะ ตาเฒ่าจอมขี้โกงก็ยังคงมาสร้างความวุ่นวายตามเดิม แถมกลับมาภาคนี้เวเวลอัพกว่าเดิมอีก อาจจะมีบางคนที่อาจจะมาสมทบทีหลัง ต้องติดตามตอนต่อไป
- ยังต่อสู้กับพวกเดิมๆ
แม้ว่าจะมีโรงพยาบาลซากุไรโผล่เข้ามาร่วมด้วย แต่การต่อสู้ที่แท้จริงก็ยังเป็นระหว่างเหล่าทีมดราก้อนกับโนงุจิ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีความพิเศษเพิ่มเข้ามา เพื่อเพิ่มอรรถรส ไม่ให้ซ้ำซากจำเจมากไป ก็คือ โนกุจิมีระดับความร้ายที่สูงขึ้นกว่าเดิม แถมได้มาร่วมทีมกับเจ้า “โอคุมูระ” ตัวโกงหน้าใหม่ ก็ยิ่งเพิ่มความร้ายเข้าไปอีก แล้วอย่างนี้ทีมดราก้อนจะต่อกรกับพวกนี้ได้ไหมนะ !
- หมออาซาดะก็ยังคงรำไทเก๊กอยู่บนดาดฟ้าเหมือนเดิมนั่นแหละ
แหม! ฉากนี้ถือว่าเป็นขนบของทีมดราก้อนเลยก็ว่าได้ วันก่อนการผ่าตัดหมออาซาะดะจะชอบออกมารำไทเก๊ก ไม่รำกลางสนาม หรือในห้องแบบธรรมดาด้วยนะ ถ้าจะรำ หมออาซาดะเขาบอกว่าต้องเป็นที่ดาดฟ้า และยามวิกาลเท่านั้น! ใครรอดูหุ่นคุณหมอ ก็ยังคงมีให้รับชมตามเดิมค่ะ ฮี่ๆ
- เรื่องข้อคิดในการใช้ชีวิต แรงบันดาลใจในการทำงานก็ยังคงจัดเต็มในแบบของละครญี่ปุ่นที่ไม่เคยทำให้คนดูผิดหวัง
และนี่ก็คือ “IRYU : Team Medical Dragon” ภาค4 แบบคร่าวๆ ค่ะ ใครที่เป็นแฟนละครเรื่องนี้ไม่ควรพลาดเลย ส่วนคนที่ชอบละครแนวอาชีพ สนใจการผ่าตัด อยากได้ความรู้เกี่ยวกับการแพทย์ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจค่ะ ถึงแม้ละครเรื่องนี้จะเดินมาถึงภาคที่4 แล้ว อาจจะมีพล็อตเดิมๆ ซ้ำอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ถือว่ามันเดิมไปซะทีเดียว ยังมีปมปัญหา เรื่องราวใหม่ๆ ให้ได้ติดตามค่ะ
มาเอาใจช่วยว่า "ทีมดราก้อน" ทีมแพทย์ที่เยี่ยมยอดที่สุดจะหลุดจาดเงื้อมมือจากศัตรูได้หรือไม่
สามารถเข้าไปรับชมได้ที่บ้าน Dark-Dramas>>>https://www.facebook.com/FC.DarkDramas
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณเพื่อนๆ ที่แวะเข้ามาอ่านกันนะคะ
สามารถแวะมาพูดคุย และตามอ่านสาระดีๆ เกี่ยวกับละครญี่ปุ่นกับเจ้าของกระทู้หรือชามะนาวคนนี้กันต่อได้ที่เพจ Sakura Drama เลยค่ะ>>>https://www.facebook.com/sakuradramas
แล้วพบกันใหม่กับรีวิวละครญี่ปุ่นเรื่องหน้าค่ะ