The Best ‘Big Three’ in NBA History
ในแง่ของจิตวิญญาณบอกไว้ว่า "
สาม คือเลขแห่งความน่าอัศจรรย์!"
ถ้าหากทีมคุณสามารถมี
ดาวเด่นหนึ่งคน....คุณมีทีมที่ดี
สองคน....ทีมคุณเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่
แต่ถ้ามีสามคน....กองกำลังในตำนานยืนอยู่ตรงหน้าคุณแล้ว !!
1. Bill Russell, Bob Cousy,John Havlicek - Celtics
ทีม Celtics ปกครองในยุค 50s - 60s และได้ 11 NBA Championships ในระยะเวลาเพียง 13 ปี
และเป็นมากกว่าคำว่า 'Big Three' ถ้าจะเรียกให้ถูกอาจเรียกว่า Big eight
( เทพทั้งทีมว่างั้นเถอะ บรรจุชื่อลง Hall of Fame เกือบทั้งทีม 55555 )
แต่เราจะมาพูดถึง Russell, Cousy, และ Havlicek
ถ้าพิจารณาที่แหวน (ใน NBA เราจะไม่เรียกถ้วย เราจะเรียกแหวนนะครับ)
Bill Russell คือ ชิ้นส่วนส่วนสำคัญในการได้รับชัยชนะของพวกเขา
แต่ทั้ง Cousy และ Havlicek ก็ทำหน้าที่ของตนเองได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้ Bill
นอกจากนี้ยังต้องยกความความดีความชอบในช่วงยุคนี้ให้กับ Sam Jones, Tom Heinsohn, KC Jones, Tom Sanders และ Frank Ramsey
แต่ Big Three ทีมนี้ไปไวมาก เพราะ Cousy และ Havlicek ได้เล่นเพียงหนึ่งฤดูกาลด้วยกัน ( Havlicek เพิ่งเข้า NBA ในปี 62 - 63 แต่ Cousy ย้ายทีมตอนปี 63-64 )
และในปี 1963 ทีม Cetics ต้องต่อกรกับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง Lakers ซึ่ง Celtics เอาชนะไปได้ในรอบ NBA Final 4-2 )
2. Jerry West, Wilt Chamberlain, Gail Goodrich - Lakers
เมื่อ Lakers เทรด Wilt Chamberlain มาเสริมทีมในปี 1968
ทำให้โลกของ NBA ถึงกับสั่นสะท้าน
เมื่อ Wilt (หนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดที่เคยมีมาในบาสเก็ตบอล) กำลังจะร่วมทีมกับ Jerry West และ Elgin Baylor
สองนักบาสเก็ตบอลที่เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในตอนนั้นกำลังจะร่วมทีมกัน
แต่โชคไม่เข้าข้างWilt, Jerry และ Elgin เหมือนทีมจะไม่ประสบความสำเร็จตามที่แฟนๆ คาดการณ์เอาไว้ เพราะ Lakers ยังไม่สามารถได้ NBA Championship มาไว้ในครอบครองตอนปีนี้ได้
แต่ในปี 1971 - 72 Elgin Baylor รีไทร์และสร้างโอกาสให้ความสามารถของ Gail Goodrich ได้ปะทุออกมา
Goodrich นำ Lakers ในด้านทำแต้ม, West ในด้าน แอสซิส และ Wilt ในด้านรีบาว
ทำให้ทีมได้รับชัยชนะใน Regular season ชนะติดต่อกันถึง 33 เกม ( แถมจบฤดูกาลอย่างดงาม 69-13 )
เหมือนเส้นทางโรยด้วยกลีบกุหลาบไว้ให้ Lakers เป็นทางไปสู่ NBA Championship อย่างง่ายดาย
Wilt ได้รับ NBA Final MVP ขณะที่ทั้งสามคน ( Wilt, Goodrich, West) ได้เป็น All-Star ในปีนั้นด้วย
3. Magic Johnson, Kareem Abdul-Jabbar, James Worthy - Lakers
หลังจากที่ Magic และ Kareem ได้รับ 2 NBA Championships ไปเป็นที่เรียบร้อย และกำลังจะได้ทุกบรรจุชื่อใน Hall of Fame
เมื่อ Jame Worthy ถูกดราฟเข้ามาในฐานะ Top pick จาก North Carolina
พร้อมกับทำให้เป็นที่ยืนยันแล้วว่าทีม LA Lakers คือทีมแห่งยุค 80s อย่างแท้จริง
Lakers ได้รับรางวัล 3 NBA Championships ในยุค 80s และทั้งสามคนถูกเลือกให้เป็น NBA Final MVP ไปคนละหนึ่งรางวัล
Magic ถูกจดจำในฐานะหรืออาจจะเป็น Point Guard ที่ดีที่สุดตลอดกาล
Kaream เป็นหนึ่งในผู้เล่น Big man ที่ดีที่สุดตลอดกาล
ขณะที่ Worthy ได้รับฉายาว่า ' Big Game James' ฉายามาจากการที่เมื่อถึงช่วงเวลาท้ายสำคัญเขาจะแสดงความเป็นผู้นำออกมา
แถมพวกเขาทั้งสามยังเล่น NBA All Star ด้วยกันถึง 3 ครั้งด้วย
4. Larry Bird, Kevin McHale, Robert Parish - Celtics
การประจันหน้ากันอีกครั้งของ Lakers จอมทรงพลัง และ Celtics จอมทรนงในยุค 80s
ของซูปเปอร์สตาร์ (Bird) และจอมสนับสนุน ( McHale และ Parish)
บางทีทีม Celtics ในตอนยุค 80s อาจเรียกได้ว่าเป็นผู้เล่น Frontcourt ที่ยอดเยี่ยมตลอดกาลคือ
Bird, McHale และ Parish เล่นด้วยกันถึง 12 ปี
ทั้งสามเป็นรูปแบบของ Frontcourt ของฝั่งตะวันออก ในเกมส์เกือบทุกเกมส์ของ NBA All star ในยุค 80s
แถมทั้งสามคนยังได้ NBA Champions ถึง 3 ครั้ง
และทั้งสามได้ทุกบรรจุชื่อใน NBA's Hall of Fame
ก่อนปี 1985 มีประโยคหนึ่งที่พูดต่อๆ กันว่า 'Lakers have never beaten the Celtics' (ภายหลังปี 85 ซึ่ง Lakers ได้แชมป์ประโยคนี้ก็เงียบลง 55555)
5. Micheal Jordan, Scottie Pippen, Dennis Rodman - Bulls
นี่คือตัวอย่างของผลลัพธ์ทีมที่โคตรแจ่มสุด : ผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ NBA + หนึ่งในผู้ช่วยที่ดีที่สุด, จอมป้องกันที่ดีที่สุด, All Round Superstar + จอมรีบาวที่ดีที่สุดตลอดกาล = ชนะ ชนะ ชนะ และโคตรพ่อโคตรแม่ชนะ
Jordan และ Pippen คู่หูที่พา Chicago ได้รับชัยชนะ NBA Championships ถึงสามครั้ง ในต้นยุค 90s ก่อนที่ Jordan จะประกาศรีไทร์อย่างกระทันหัน
โชคดีของ Bulls ที่จอมตำนาน Air Walk กลับมาอีกครั้งหลังจากพลาดไปเกือบสองปี และในปี 1995-96 Bulls ได้รับ Dennis Rodman
ทั้งสามชนะ NBA Championships ด้วยกันถึง 3 ครั้ง
ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ทั้งสามร่วมศึกใน NBA คือในปี 1995-1998 สามสหายกระทิงเดือด ได้รับชัยชนะด้วยกันถึง 203 แพ้เพียง 43 เกมส์ (82.5 %)
ในเวลาต่อมาทั้งสาม ได้ทุกบรรจุชื่อใน NBA's Hall of Fame
6. Paul Pierce, Kevin Garnett, Ray Allen - Celtics
พวกเขาคือทีมที่มีไม่ลงตัวต่างจากรายชื่อใน 'Big threes' ของบทความนี้
แต่สิ่งที่พวกเขาทำเป็นสิ่งที่จะเป็นตำนานกล่าวขานกันไปรุ่นต่อรุ่นของแฟนบาสเก็ตบอล
เมื่อ Cetics ได้นำ Garnett และ Allen เข้ามาร่วมกับ Pierce ใน Boston ในซีซั่น 2007-08
และในทันทีที่มพวกเขาเข้ามา พวกเขาทำให้ Celtics กลับสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้งเฉกเช่นอดีตแสนนานนนนนมาแล้ว !
Celtics ได้พลิกจากสถิติแย่ที่สุดใน NBA ไปสู่สถิติที่ดีที่สุดใน NBA ชนะ 66 แพ้ 16 เกมส์ ( 80.5% ) ในซีซั่นแรกด้วยกัน และได้ 1 NBA Championship
แต่อาการบาดเจ็บและอายุทำให้ความสามารถพวกเขาลดลงจากคำว่า 'Big Three'
และแม้ว่าเขาจะเอื้อมไปถึงอีกหนึ่ง Final แต่พวกเขาก็ไม่สามารถนำ NBA Championship มาได้ (แพ้ Lakers 4-3 ปี 2009 - 10 )
แม้กระนั้น KG, Pierce และ Allen ก็เล่นด้วยกันอย่างแฮปปี้ตลอดระยะเวลา 5 ปี และทำให้บาสเก็ตบอลแบบฉบับ Boston กลับคืนมาอีกครั้ง
7. Tim Duncan, Tony Parker, Manu Ginobili - Spurs
เล่นด้วยกัน จนวันตาย แพ้ชนะด้วยกัน (เวอร์ไป) และจขกท. ก็จะรัก Spurs จนวันตาย
นี่คือแบบฉบับของ Big Three ที่ทนกันได้มานานแสนนาน หรืออาจเรียก Big Four ( รวมโค้ช Gregg Popovich )
Duncan, Parker, และ Ginobili ร่วมงานกันตั้งแต่ปี 2002 ในทีม San Antonio Spurs
ทั้งสามคว้า 3 NBA Championships และเข้าแข่งรอบ NBA Final ถึง 4 ครั้ง
ทั้งสามเก็บสะสมรวม All-Star Game รวมกันได้ถึง 23 ครั้ง และยังช่วย Spurs ได้รับชัยชนะมากกว่า 50 ครั้งในทุกปี เป็นระยะเวลาถึง 12 ปี ( Pop + Timmy = ชนะติดต่อกัน 15 ปี ไม่นับฤดูกาล 1998-1999 เพราะแข่งแค่ 50 เกมส์ )
ด้วยความที่ Duncan และ Ginobili อายุค่อนข้างมากแล้ว ในปัจจุบัน Parker ทำหน้าที่แบกทีม และควบคุมในด้านทิศทางของทีมอยู่เป็นประจำ
และในปี 2014 นี้ พวกเขาจะสามารถได้รับชัยชนะใน NBA Championship หรือไม่ ? ( ได้สิๆๆๆ 555555 อวยยกใหญ่ )
8. LeBron James, Dwyane Wade, Chris Bosh - Heat
หลายครั้งแล้ว เมื่อสามผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมได้มาเล่นด้วยกัน พวกเขาต้องเลือกว่าแค่พัฒนามาเป็นกำลังของทีมหรือเพื่อหวัง Championship ประดับประวัติอาชีพของพวกเขา
เมื่อปี 2010 โลกของ NBA สั่นอีกครั้ง เมื่อ Superstar 3 คน กำลังจะร่วมทีมกัน The King รถถัง SF ครบเครื่อง, The Flash SG มีดีกรี 1 NBA Chapionship, Mr.Dinosaur ผู้ตื่นจากการนอนหลับสิบล้านปีและหนีมาจากทีม Toronto (คิดฉายาเมื่อกี้เอง)
แต่ในปี 2010 Miami Heat กลับไม่ได้รับความสำเร็จตามที่ทุกคนคาดการณ์ไว้ เพราะพ่ายแพ้ใน NBA Final : แต่ในปีถัดมา เมื่อ Heat มีผู้เล่นระดับ Superstar ในช่วง Prime ของอาชีพ
ได้แก่ LeBron, Wade และ Bosh ตั้งแต่นั้นมาทีมได้รับความสนใจอย่างล้นหล่าม อีกทั้งทั้งสามยังพาทีมไปยัง NBA Finals ทุกๆ ปี และได้รับชัยชนะในศึก NBA Championships ถึง 2 ครั้งติดกัน
มาดูกันว่า ปีหน้าทีม Heat จะเป็นเช่นไร จะแยกหรือจะอยู่ จะรวมหมู่หรือแยกเดี่ยว
พวกเขาจะได้อีก Champ สำหรับความสามารถ Trio นี้หรือไม่ ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาจะถูกจดจำในฐานะ One of The best 'Big Three' NBA History
ปล.
เพื่อนๆ ละคิดว่า Big Three ชุดใดใน NBA ที่ยอดเยี่ยมที่สุด ?
ปล.2 ในบทความต่อไปจะกล่าวถึง Pat Riley VS. Phill Jaskson ตั้งแต่ตอนเป็นผู้เล่น จนถึงตอนปัจจุบัน
ปล.3 อีก 5 วัน NBA Final Heat @ Spurs ก็จะเริ่มแข่ง
ปล.4 ขอบคุณข้อมูลจากคุณ Karan Madhok
The Best ‘Big Three’ in NBA History
ในแง่ของจิตวิญญาณบอกไว้ว่า "สาม คือเลขแห่งความน่าอัศจรรย์!"
ถ้าหากทีมคุณสามารถมี
ดาวเด่นหนึ่งคน....คุณมีทีมที่ดี
สองคน....ทีมคุณเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่
แต่ถ้ามีสามคน....กองกำลังในตำนานยืนอยู่ตรงหน้าคุณแล้ว !!
1. Bill Russell, Bob Cousy,John Havlicek - Celtics
ทีม Celtics ปกครองในยุค 50s - 60s และได้ 11 NBA Championships ในระยะเวลาเพียง 13 ปี
และเป็นมากกว่าคำว่า 'Big Three' ถ้าจะเรียกให้ถูกอาจเรียกว่า Big eight
( เทพทั้งทีมว่างั้นเถอะ บรรจุชื่อลง Hall of Fame เกือบทั้งทีม 55555 )
แต่เราจะมาพูดถึง Russell, Cousy, และ Havlicek
ถ้าพิจารณาที่แหวน (ใน NBA เราจะไม่เรียกถ้วย เราจะเรียกแหวนนะครับ)
Bill Russell คือ ชิ้นส่วนส่วนสำคัญในการได้รับชัยชนะของพวกเขา
แต่ทั้ง Cousy และ Havlicek ก็ทำหน้าที่ของตนเองได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้ Bill
นอกจากนี้ยังต้องยกความความดีความชอบในช่วงยุคนี้ให้กับ Sam Jones, Tom Heinsohn, KC Jones, Tom Sanders และ Frank Ramsey
แต่ Big Three ทีมนี้ไปไวมาก เพราะ Cousy และ Havlicek ได้เล่นเพียงหนึ่งฤดูกาลด้วยกัน ( Havlicek เพิ่งเข้า NBA ในปี 62 - 63 แต่ Cousy ย้ายทีมตอนปี 63-64 )
และในปี 1963 ทีม Cetics ต้องต่อกรกับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง Lakers ซึ่ง Celtics เอาชนะไปได้ในรอบ NBA Final 4-2 )
2. Jerry West, Wilt Chamberlain, Gail Goodrich - Lakers
เมื่อ Lakers เทรด Wilt Chamberlain มาเสริมทีมในปี 1968
ทำให้โลกของ NBA ถึงกับสั่นสะท้าน
เมื่อ Wilt (หนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดที่เคยมีมาในบาสเก็ตบอล) กำลังจะร่วมทีมกับ Jerry West และ Elgin Baylor
สองนักบาสเก็ตบอลที่เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในตอนนั้นกำลังจะร่วมทีมกัน
แต่โชคไม่เข้าข้างWilt, Jerry และ Elgin เหมือนทีมจะไม่ประสบความสำเร็จตามที่แฟนๆ คาดการณ์เอาไว้ เพราะ Lakers ยังไม่สามารถได้ NBA Championship มาไว้ในครอบครองตอนปีนี้ได้
แต่ในปี 1971 - 72 Elgin Baylor รีไทร์และสร้างโอกาสให้ความสามารถของ Gail Goodrich ได้ปะทุออกมา
Goodrich นำ Lakers ในด้านทำแต้ม, West ในด้าน แอสซิส และ Wilt ในด้านรีบาว
ทำให้ทีมได้รับชัยชนะใน Regular season ชนะติดต่อกันถึง 33 เกม ( แถมจบฤดูกาลอย่างดงาม 69-13 )
เหมือนเส้นทางโรยด้วยกลีบกุหลาบไว้ให้ Lakers เป็นทางไปสู่ NBA Championship อย่างง่ายดาย
Wilt ได้รับ NBA Final MVP ขณะที่ทั้งสามคน ( Wilt, Goodrich, West) ได้เป็น All-Star ในปีนั้นด้วย
3. Magic Johnson, Kareem Abdul-Jabbar, James Worthy - Lakers
หลังจากที่ Magic และ Kareem ได้รับ 2 NBA Championships ไปเป็นที่เรียบร้อย และกำลังจะได้ทุกบรรจุชื่อใน Hall of Fame
เมื่อ Jame Worthy ถูกดราฟเข้ามาในฐานะ Top pick จาก North Carolina
พร้อมกับทำให้เป็นที่ยืนยันแล้วว่าทีม LA Lakers คือทีมแห่งยุค 80s อย่างแท้จริง
Lakers ได้รับรางวัล 3 NBA Championships ในยุค 80s และทั้งสามคนถูกเลือกให้เป็น NBA Final MVP ไปคนละหนึ่งรางวัล
Magic ถูกจดจำในฐานะหรืออาจจะเป็น Point Guard ที่ดีที่สุดตลอดกาล
Kaream เป็นหนึ่งในผู้เล่น Big man ที่ดีที่สุดตลอดกาล
ขณะที่ Worthy ได้รับฉายาว่า ' Big Game James' ฉายามาจากการที่เมื่อถึงช่วงเวลาท้ายสำคัญเขาจะแสดงความเป็นผู้นำออกมา
แถมพวกเขาทั้งสามยังเล่น NBA All Star ด้วยกันถึง 3 ครั้งด้วย
4. Larry Bird, Kevin McHale, Robert Parish - Celtics
การประจันหน้ากันอีกครั้งของ Lakers จอมทรงพลัง และ Celtics จอมทรนงในยุค 80s
ของซูปเปอร์สตาร์ (Bird) และจอมสนับสนุน ( McHale และ Parish)
บางทีทีม Celtics ในตอนยุค 80s อาจเรียกได้ว่าเป็นผู้เล่น Frontcourt ที่ยอดเยี่ยมตลอดกาลคือ
Bird, McHale และ Parish เล่นด้วยกันถึง 12 ปี
ทั้งสามเป็นรูปแบบของ Frontcourt ของฝั่งตะวันออก ในเกมส์เกือบทุกเกมส์ของ NBA All star ในยุค 80s
แถมทั้งสามคนยังได้ NBA Champions ถึง 3 ครั้ง
และทั้งสามได้ทุกบรรจุชื่อใน NBA's Hall of Fame
ก่อนปี 1985 มีประโยคหนึ่งที่พูดต่อๆ กันว่า 'Lakers have never beaten the Celtics' (ภายหลังปี 85 ซึ่ง Lakers ได้แชมป์ประโยคนี้ก็เงียบลง 55555)
5. Micheal Jordan, Scottie Pippen, Dennis Rodman - Bulls
นี่คือตัวอย่างของผลลัพธ์ทีมที่โคตรแจ่มสุด : ผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ NBA + หนึ่งในผู้ช่วยที่ดีที่สุด, จอมป้องกันที่ดีที่สุด, All Round Superstar + จอมรีบาวที่ดีที่สุดตลอดกาล = ชนะ ชนะ ชนะ และโคตรพ่อโคตรแม่ชนะ
Jordan และ Pippen คู่หูที่พา Chicago ได้รับชัยชนะ NBA Championships ถึงสามครั้ง ในต้นยุค 90s ก่อนที่ Jordan จะประกาศรีไทร์อย่างกระทันหัน
โชคดีของ Bulls ที่จอมตำนาน Air Walk กลับมาอีกครั้งหลังจากพลาดไปเกือบสองปี และในปี 1995-96 Bulls ได้รับ Dennis Rodman
ทั้งสามชนะ NBA Championships ด้วยกันถึง 3 ครั้ง
ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ทั้งสามร่วมศึกใน NBA คือในปี 1995-1998 สามสหายกระทิงเดือด ได้รับชัยชนะด้วยกันถึง 203 แพ้เพียง 43 เกมส์ (82.5 %)
ในเวลาต่อมาทั้งสาม ได้ทุกบรรจุชื่อใน NBA's Hall of Fame
6. Paul Pierce, Kevin Garnett, Ray Allen - Celtics
พวกเขาคือทีมที่มีไม่ลงตัวต่างจากรายชื่อใน 'Big threes' ของบทความนี้
แต่สิ่งที่พวกเขาทำเป็นสิ่งที่จะเป็นตำนานกล่าวขานกันไปรุ่นต่อรุ่นของแฟนบาสเก็ตบอล
เมื่อ Cetics ได้นำ Garnett และ Allen เข้ามาร่วมกับ Pierce ใน Boston ในซีซั่น 2007-08
และในทันทีที่มพวกเขาเข้ามา พวกเขาทำให้ Celtics กลับสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้งเฉกเช่นอดีตแสนนานนนนนมาแล้ว !
Celtics ได้พลิกจากสถิติแย่ที่สุดใน NBA ไปสู่สถิติที่ดีที่สุดใน NBA ชนะ 66 แพ้ 16 เกมส์ ( 80.5% ) ในซีซั่นแรกด้วยกัน และได้ 1 NBA Championship
แต่อาการบาดเจ็บและอายุทำให้ความสามารถพวกเขาลดลงจากคำว่า 'Big Three'
และแม้ว่าเขาจะเอื้อมไปถึงอีกหนึ่ง Final แต่พวกเขาก็ไม่สามารถนำ NBA Championship มาได้ (แพ้ Lakers 4-3 ปี 2009 - 10 )
แม้กระนั้น KG, Pierce และ Allen ก็เล่นด้วยกันอย่างแฮปปี้ตลอดระยะเวลา 5 ปี และทำให้บาสเก็ตบอลแบบฉบับ Boston กลับคืนมาอีกครั้ง
7. Tim Duncan, Tony Parker, Manu Ginobili - Spurs
เล่นด้วยกัน จนวันตาย แพ้ชนะด้วยกัน (เวอร์ไป) และจขกท. ก็จะรัก Spurs จนวันตาย
นี่คือแบบฉบับของ Big Three ที่ทนกันได้มานานแสนนาน หรืออาจเรียก Big Four ( รวมโค้ช Gregg Popovich )
Duncan, Parker, และ Ginobili ร่วมงานกันตั้งแต่ปี 2002 ในทีม San Antonio Spurs
ทั้งสามคว้า 3 NBA Championships และเข้าแข่งรอบ NBA Final ถึง 4 ครั้ง
ทั้งสามเก็บสะสมรวม All-Star Game รวมกันได้ถึง 23 ครั้ง และยังช่วย Spurs ได้รับชัยชนะมากกว่า 50 ครั้งในทุกปี เป็นระยะเวลาถึง 12 ปี ( Pop + Timmy = ชนะติดต่อกัน 15 ปี ไม่นับฤดูกาล 1998-1999 เพราะแข่งแค่ 50 เกมส์ )
ด้วยความที่ Duncan และ Ginobili อายุค่อนข้างมากแล้ว ในปัจจุบัน Parker ทำหน้าที่แบกทีม และควบคุมในด้านทิศทางของทีมอยู่เป็นประจำ
และในปี 2014 นี้ พวกเขาจะสามารถได้รับชัยชนะใน NBA Championship หรือไม่ ? ( ได้สิๆๆๆ 555555 อวยยกใหญ่ )
8. LeBron James, Dwyane Wade, Chris Bosh - Heat
หลายครั้งแล้ว เมื่อสามผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมได้มาเล่นด้วยกัน พวกเขาต้องเลือกว่าแค่พัฒนามาเป็นกำลังของทีมหรือเพื่อหวัง Championship ประดับประวัติอาชีพของพวกเขา
เมื่อปี 2010 โลกของ NBA สั่นอีกครั้ง เมื่อ Superstar 3 คน กำลังจะร่วมทีมกัน The King รถถัง SF ครบเครื่อง, The Flash SG มีดีกรี 1 NBA Chapionship, Mr.Dinosaur ผู้ตื่นจากการนอนหลับสิบล้านปีและหนีมาจากทีม Toronto (คิดฉายาเมื่อกี้เอง)
แต่ในปี 2010 Miami Heat กลับไม่ได้รับความสำเร็จตามที่ทุกคนคาดการณ์ไว้ เพราะพ่ายแพ้ใน NBA Final : แต่ในปีถัดมา เมื่อ Heat มีผู้เล่นระดับ Superstar ในช่วง Prime ของอาชีพ
ได้แก่ LeBron, Wade และ Bosh ตั้งแต่นั้นมาทีมได้รับความสนใจอย่างล้นหล่าม อีกทั้งทั้งสามยังพาทีมไปยัง NBA Finals ทุกๆ ปี และได้รับชัยชนะในศึก NBA Championships ถึง 2 ครั้งติดกัน
มาดูกันว่า ปีหน้าทีม Heat จะเป็นเช่นไร จะแยกหรือจะอยู่ จะรวมหมู่หรือแยกเดี่ยว
พวกเขาจะได้อีก Champ สำหรับความสามารถ Trio นี้หรือไม่ ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาจะถูกจดจำในฐานะ One of The best 'Big Three' NBA History
ปล. เพื่อนๆ ละคิดว่า Big Three ชุดใดใน NBA ที่ยอดเยี่ยมที่สุด ?
ปล.2 ในบทความต่อไปจะกล่าวถึง Pat Riley VS. Phill Jaskson ตั้งแต่ตอนเป็นผู้เล่น จนถึงตอนปัจจุบัน
ปล.3 อีก 5 วัน NBA Final Heat @ Spurs ก็จะเริ่มแข่ง
ปล.4 ขอบคุณข้อมูลจากคุณ Karan Madhok