สวัสดีครับ ผองเพื่อนขุนพลนักออมนักลงทุน ฉายา..นักรบกองทุนทุกท่าน ^.^
....พบกันวันจันทร์ เรามีนัดกับโปรเจค DDT ออมกันอย่างสม่ำเสมอแบบ DCA ...สร้างวินัย สร้างไพร่พล เพื่ออิสรภาพทางการเงินกันครับ
....เวลาที่ทำงานบ้าน เสาร์-อาทิตย์ ผมชอบเปิดวิทยุฟังโน่นนี่ไปเรื่อย มีสาระมากน้อย ยังไงก็กระตุ้นความคิดไอเดียสร้างสรรค์ได้ไม่น้อย
ได้ฟังเรื่องสไตล์การท่องเที่ยวของชาวต่างชาติที่มาเที่ยวในเมืองไทย จะเห็นว่าแตกต่างจากรูปแบบการเที่ยวแบบไทยๆ ที่มักจะเป็น "ชะโงกทัวร์"
ชนิดคนละขั้วกันเลย ....
....มีชาวต่างชาติมิใช่น้อยที่เข้าพักแบบ Long stay ...กินเวลาเป็นเดือนๆ หรืออาจจะยาวนานถึงครึ่งปีทีเดียว... หลายครั้งที่ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยเก็บข้อมูลโดยตรงก็มักจะพบเห็นได้เสมอๆ
....นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติพวกนี้เค้าบอกว่า งานของเค้าจะทำแค่ช่วงเวลาหนึ่งๆ ตามแต่ลักษณะของงาน บางคนทำเต็มที่ไม่มีวันหยุดเลยตลอด 1 เดือน แล้วก็พักไปเดือนนึงเต็มๆ เช่นกัน
บางคนก็ทำแค่ 7-8 เดือน ที่เหลือก็จะมาเที่ยวมาพักผ่อนที่เมืองไทยเป็นประจำ โดยจองเช่าบ้านไว้ล่วงหน้าทุกปี จนกลายเป็นลูกค้าขาประจำของโรงแรม รีสอร์ต บังกะโล หรือบ้านเช่าไปเลยก็มี
...เวลาที่เค้ามาอยู่ก็จะกินง่าย อยู่ง่าย เดินทางไปพักที่ไหนก็อยู่นานๆ เป็นสัปดาห์ ไม่เป็นตะลอนทัวร์หรือชะโงกทัวร์อย่างเรา การใช้จ่ายจึงประหยัดมาก
จากเรื่องราวข้างต้นทำให้เราน่าจะนำมาปรับใช้กับพวกเรากันบ้าง ...โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ค้าขายเป็นนายตัวเอง (Self Employed) น่าจะมีความเป็นไปได้มากที่สุด
โดยวางแผนทำงานสร้างรายได้แบบ Active income เป็นจำนวนเดือนที่เหมาะสม สอดคล้องกับภาวะตลาดของสินค้าและบริการที่เราทำธุรกิจอยู่
ในขณะเดียวกันก็มีจำนวนเดือนที่จะอาศัย Passive income อยู่ด้วยจำนวนหนึ่ง ยกตัวอย่างงานของผมเป็นงานฝึกอบรม มักจะมีช่วงที่ว่างเว้น
ไม่มีลูกค้ามาอบรมประมาณเดือนเมษายน(มีวันหยุดเยอะ)และช่วงปลายปีคือ พ.ย-ธ.ค. ซึ่งมีวันหยุดเยอะเช่นกัน อีกทั้งยังเป็นช่วงเวลาที่ปิดงบ รีไวซ์งานประจำปี รวมทั้งเป็นเวลาที่บริษัทส่วนใหญ่จะมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย ไม่เหมาะที่จะส่งพนักงานมาอบรม
....ดังนั้นผมจึงควรวางเป้าหมายการสร้าง passive income เพื่ออุดช่องโหว่ตรงนี้ในเบื้องต้นเป็นเวลา 3 เดือน ส่วนอีก 9 เดือนก็ก้มหน้าก้มตาทำงานและรับรายได้แบบ active ตามปรกติ
....ช่วงเวลา 3 เดือนนั้นจะทำอะไรบ้าง นอกจากพักผ่อน ท่องเที่ยว เติมพลังแล้ว ก็ใช้เวลาปรับปรุงงานการที่บกพร่องและพัฒนาสินค้าบริการใหม่ๆ ขึ้น
....ครับ ...สรุปว่า เราอาจจะอาศัยโดเมนของเวลาในกรอบ 1 ปี เป็นตัวกำหนดว่า เราควรจะเริ่มสร้าง passive income จำนวนเท่าไหร่
เมื่อเวลาผ่านไป เรี่ยวแรงถดถอย หรือวัฏจักรธุรกิจเป็นขาลง รายได้ active อาจจะลดลง เราก็จะมี passive มาชดเชย
...และจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นๆ ทุกปี จาก passive 3 เดือนกลายเป็น 4 เดือน ..5 เดือน ครึ่งปี
...จนในที่สุด เราก็จะมีอิสรภาพทางการเงิน พร้อมที่จะเกษียณได้ในที่สุดครับ ....นักรบกองทุน Fighting+++
กระทู้เดิม
http://ppantip.com/topic/32125102
$$ นักรบกองทุน พรานหุ้นเม่าแสยง $$ วันจันทร์ DDT ...ค่อยๆ ลงทุน ค่อยๆ สร้างรายได้ passive ทีละนิด
....พบกันวันจันทร์ เรามีนัดกับโปรเจค DDT ออมกันอย่างสม่ำเสมอแบบ DCA ...สร้างวินัย สร้างไพร่พล เพื่ออิสรภาพทางการเงินกันครับ
....เวลาที่ทำงานบ้าน เสาร์-อาทิตย์ ผมชอบเปิดวิทยุฟังโน่นนี่ไปเรื่อย มีสาระมากน้อย ยังไงก็กระตุ้นความคิดไอเดียสร้างสรรค์ได้ไม่น้อย
ได้ฟังเรื่องสไตล์การท่องเที่ยวของชาวต่างชาติที่มาเที่ยวในเมืองไทย จะเห็นว่าแตกต่างจากรูปแบบการเที่ยวแบบไทยๆ ที่มักจะเป็น "ชะโงกทัวร์"
ชนิดคนละขั้วกันเลย ....
....มีชาวต่างชาติมิใช่น้อยที่เข้าพักแบบ Long stay ...กินเวลาเป็นเดือนๆ หรืออาจจะยาวนานถึงครึ่งปีทีเดียว... หลายครั้งที่ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยเก็บข้อมูลโดยตรงก็มักจะพบเห็นได้เสมอๆ
....นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติพวกนี้เค้าบอกว่า งานของเค้าจะทำแค่ช่วงเวลาหนึ่งๆ ตามแต่ลักษณะของงาน บางคนทำเต็มที่ไม่มีวันหยุดเลยตลอด 1 เดือน แล้วก็พักไปเดือนนึงเต็มๆ เช่นกัน
บางคนก็ทำแค่ 7-8 เดือน ที่เหลือก็จะมาเที่ยวมาพักผ่อนที่เมืองไทยเป็นประจำ โดยจองเช่าบ้านไว้ล่วงหน้าทุกปี จนกลายเป็นลูกค้าขาประจำของโรงแรม รีสอร์ต บังกะโล หรือบ้านเช่าไปเลยก็มี
...เวลาที่เค้ามาอยู่ก็จะกินง่าย อยู่ง่าย เดินทางไปพักที่ไหนก็อยู่นานๆ เป็นสัปดาห์ ไม่เป็นตะลอนทัวร์หรือชะโงกทัวร์อย่างเรา การใช้จ่ายจึงประหยัดมาก
จากเรื่องราวข้างต้นทำให้เราน่าจะนำมาปรับใช้กับพวกเรากันบ้าง ...โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ค้าขายเป็นนายตัวเอง (Self Employed) น่าจะมีความเป็นไปได้มากที่สุด
โดยวางแผนทำงานสร้างรายได้แบบ Active income เป็นจำนวนเดือนที่เหมาะสม สอดคล้องกับภาวะตลาดของสินค้าและบริการที่เราทำธุรกิจอยู่
ในขณะเดียวกันก็มีจำนวนเดือนที่จะอาศัย Passive income อยู่ด้วยจำนวนหนึ่ง ยกตัวอย่างงานของผมเป็นงานฝึกอบรม มักจะมีช่วงที่ว่างเว้น
ไม่มีลูกค้ามาอบรมประมาณเดือนเมษายน(มีวันหยุดเยอะ)และช่วงปลายปีคือ พ.ย-ธ.ค. ซึ่งมีวันหยุดเยอะเช่นกัน อีกทั้งยังเป็นช่วงเวลาที่ปิดงบ รีไวซ์งานประจำปี รวมทั้งเป็นเวลาที่บริษัทส่วนใหญ่จะมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย ไม่เหมาะที่จะส่งพนักงานมาอบรม
....ดังนั้นผมจึงควรวางเป้าหมายการสร้าง passive income เพื่ออุดช่องโหว่ตรงนี้ในเบื้องต้นเป็นเวลา 3 เดือน ส่วนอีก 9 เดือนก็ก้มหน้าก้มตาทำงานและรับรายได้แบบ active ตามปรกติ
....ช่วงเวลา 3 เดือนนั้นจะทำอะไรบ้าง นอกจากพักผ่อน ท่องเที่ยว เติมพลังแล้ว ก็ใช้เวลาปรับปรุงงานการที่บกพร่องและพัฒนาสินค้าบริการใหม่ๆ ขึ้น
....ครับ ...สรุปว่า เราอาจจะอาศัยโดเมนของเวลาในกรอบ 1 ปี เป็นตัวกำหนดว่า เราควรจะเริ่มสร้าง passive income จำนวนเท่าไหร่
เมื่อเวลาผ่านไป เรี่ยวแรงถดถอย หรือวัฏจักรธุรกิจเป็นขาลง รายได้ active อาจจะลดลง เราก็จะมี passive มาชดเชย
...และจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นๆ ทุกปี จาก passive 3 เดือนกลายเป็น 4 เดือน ..5 เดือน ครึ่งปี
...จนในที่สุด เราก็จะมีอิสรภาพทางการเงิน พร้อมที่จะเกษียณได้ในที่สุดครับ ....นักรบกองทุน Fighting+++
กระทู้เดิม http://ppantip.com/topic/32125102