เกริ่น
ผมมีสวนยางอยู่ที่เชียงใหม่ ตัวผมอยู่กทม. เพิ่งเปิดกรีด 16 พ.ค. 57 (อายุครบ 7 ปีกว่าๆ) และได้ทำการจ้างคนกรีด โดยแบ่งรายได้กันที่ 60:40 ผมในฐานะเจ้าของสวน ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด (ค่าปุ๋ย+ค่ายา+ค่าน้ำกรด) ยกเว้นค่าน้ำ+ค่าไฟ ที่ผู้กรีดอยู่อาศัยครับ
ที่อาจจะแตกต่างจากท่านอื่นๆ คือ คนกรีดขอเงินค่าดูแลสวนแยกต่างหากจากการแบ่งรายได้ข้างต้นเป็นจำนวน 4000 บาท
นั่นคือ
รายได้ผม = 60% จากการขายยางในแต่ละครั้ง - ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
รายได้คนกรีด = 40% จากการขายยางในแต่ละครั้ง + 4000 - ค่าน้ำ - ค่าไฟ
คำถามขอความช่วยเหลือ
[1] ประมาณกลางเดือน มิ.ย. 57 นี้ ก็จะเริ่มมีการขายยางครั้งแรก แต่ติดตรงที่ผมยังไม่มีรถขนยาง ผมจึงพยายามแก้ปัญหาตรงนี้ โดยมีทางออก 3 วิธี ดังนี้
1. ซื้อรถ Suzuki Carry แต่ก็ต้องลุ้นว่า ออกรถทันกลางเดือน มิ.ย. 58 หรือไม่ วิธีนี้ ผมจะต้องจ้างคนขนยางขึ้นรถ และขนยางไปขายเองในวันซื้อ-ขายยาง ปัญหาผม คือ ผมอยู่ กทม. บางครั้งก็ติดธุระที่นี่ อาจจะไม่สามารถไปขายยางเองได้ ซึ่งผมก็ได้รับคำแนะนำมาว่า ควรไปขายด้วยตัวเองมากกว่าให้ใครไปขายให้ สรุปถ้าออกรถคันนี้ ผมให้คนกรีดใช้เป็นหลักสำหรับทำงาน ผมอาจจะไปเชียงใหม่เดือนละครั้งเท่านั้น
2. ซื้อรถมือสอง โดยคนกรีดเสนอว่า ให้ผมช่วยออกค่าดาว์นรถ 20000 บาท แล้วเค้าจะผ่อนต่อเอง โดยชื่อรถจะเป็นชื่อเค้า และจะรับผิดชอบค่าน้ำมัน ค่าซ่อม เองทั้งหมด วิธีนี้คนกรีดจะยกยางไปขายเอง แต่วิธีนี้ก็เสี่ยงมากกับการถูกตุกติก เพราะเมื่อมีรถก็สามารถเอายางไปขายตอนไหนก็ได้
3. เช่ารถเป็นครั้งๆ ไป เพราะการซื้อ-ขาย มีประมาณ 2 ครั้งต่อเดือน ถ้าค่าเช่ารถกระบะประมาณ 1000-1500 บาท ต่อเดือนก็คิดเป็นค่าใช้จ่าย 2000-3000 บาท ซึ่งผมจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง แต่วิธีนี้ กรณีจะไปซื้อน้ำกรด ซื้อยาทาหน้ายาง ซื้อปุ๋ย ซึ่งคนสวนน่าจะต้องไปซื้อเองและเบิกกับผมตามใบเสร็จ เค้าจะไม่สะดวก
[2] ปกติรถขนยางเจ้าของสวนเป็นคนจัดหามาใช้และใช้สำหรับนำยางไปขาย หรือ ว่าคนกรีดควรจะมีรถไว้ใช้เองด้วยกรณีไปซื้อน้ำกรด ดินทาหน้ายาง ปุ๋ย
ในสวนยางของท่านๆ มีวิธีการอย่างไร หรือถ้าเป็นผมจะเลือกวิธีไหนครับ?
ขอบคุณที่ช่วยให้คำแนะนำครับ
[ขอความช่วยเหลือ] รถสำหรับการขนยางไปขาย
ผมมีสวนยางอยู่ที่เชียงใหม่ ตัวผมอยู่กทม. เพิ่งเปิดกรีด 16 พ.ค. 57 (อายุครบ 7 ปีกว่าๆ) และได้ทำการจ้างคนกรีด โดยแบ่งรายได้กันที่ 60:40 ผมในฐานะเจ้าของสวน ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด (ค่าปุ๋ย+ค่ายา+ค่าน้ำกรด) ยกเว้นค่าน้ำ+ค่าไฟ ที่ผู้กรีดอยู่อาศัยครับ
ที่อาจจะแตกต่างจากท่านอื่นๆ คือ คนกรีดขอเงินค่าดูแลสวนแยกต่างหากจากการแบ่งรายได้ข้างต้นเป็นจำนวน 4000 บาท
นั่นคือ
รายได้ผม = 60% จากการขายยางในแต่ละครั้ง - ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
รายได้คนกรีด = 40% จากการขายยางในแต่ละครั้ง + 4000 - ค่าน้ำ - ค่าไฟ
คำถามขอความช่วยเหลือ
[1] ประมาณกลางเดือน มิ.ย. 57 นี้ ก็จะเริ่มมีการขายยางครั้งแรก แต่ติดตรงที่ผมยังไม่มีรถขนยาง ผมจึงพยายามแก้ปัญหาตรงนี้ โดยมีทางออก 3 วิธี ดังนี้
1. ซื้อรถ Suzuki Carry แต่ก็ต้องลุ้นว่า ออกรถทันกลางเดือน มิ.ย. 58 หรือไม่ วิธีนี้ ผมจะต้องจ้างคนขนยางขึ้นรถ และขนยางไปขายเองในวันซื้อ-ขายยาง ปัญหาผม คือ ผมอยู่ กทม. บางครั้งก็ติดธุระที่นี่ อาจจะไม่สามารถไปขายยางเองได้ ซึ่งผมก็ได้รับคำแนะนำมาว่า ควรไปขายด้วยตัวเองมากกว่าให้ใครไปขายให้ สรุปถ้าออกรถคันนี้ ผมให้คนกรีดใช้เป็นหลักสำหรับทำงาน ผมอาจจะไปเชียงใหม่เดือนละครั้งเท่านั้น
2. ซื้อรถมือสอง โดยคนกรีดเสนอว่า ให้ผมช่วยออกค่าดาว์นรถ 20000 บาท แล้วเค้าจะผ่อนต่อเอง โดยชื่อรถจะเป็นชื่อเค้า และจะรับผิดชอบค่าน้ำมัน ค่าซ่อม เองทั้งหมด วิธีนี้คนกรีดจะยกยางไปขายเอง แต่วิธีนี้ก็เสี่ยงมากกับการถูกตุกติก เพราะเมื่อมีรถก็สามารถเอายางไปขายตอนไหนก็ได้
3. เช่ารถเป็นครั้งๆ ไป เพราะการซื้อ-ขาย มีประมาณ 2 ครั้งต่อเดือน ถ้าค่าเช่ารถกระบะประมาณ 1000-1500 บาท ต่อเดือนก็คิดเป็นค่าใช้จ่าย 2000-3000 บาท ซึ่งผมจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง แต่วิธีนี้ กรณีจะไปซื้อน้ำกรด ซื้อยาทาหน้ายาง ซื้อปุ๋ย ซึ่งคนสวนน่าจะต้องไปซื้อเองและเบิกกับผมตามใบเสร็จ เค้าจะไม่สะดวก
[2] ปกติรถขนยางเจ้าของสวนเป็นคนจัดหามาใช้และใช้สำหรับนำยางไปขาย หรือ ว่าคนกรีดควรจะมีรถไว้ใช้เองด้วยกรณีไปซื้อน้ำกรด ดินทาหน้ายาง ปุ๋ย
ในสวนยางของท่านๆ มีวิธีการอย่างไร หรือถ้าเป็นผมจะเลือกวิธีไหนครับ?
ขอบคุณที่ช่วยให้คำแนะนำครับ