ความรู้สึกหลังชม ตำนานสมเด็จพระนเรศวรฯภาค5 กินอาหารที่อุดมด้วยคุณค่า แต่ไม่อร่อย(สปอยล้วนๆ)



วันนี้ ได้มีโอกาสไปชม ภ.ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค5 ยุทธหัตถีมา  ขอเล่าสรุปให้ฟังตามความรู้สึก เผื่อเป็นข้อมูลแก่ผู้ที่ยังไม่ได้ชม หรือ ผู้ที่อยากอ่านก่อนไปชม ดังนี้ครับ

1. หนังทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยมในฐานะของหนังเชิดชูเทิดพระเกียรติพระปรีชาสามารถของพระนเรศวรมหาราช ฉากรบฉากต่อสู้ ผู้พันเบิร์ดถ่ายทอดออกมาได้ค่อนข้างดี น้ำเสียง สีหน้าท่าทางยามออกศึก วางกลศึก ทำให้รู้สึกฮึกเหิม (แต่ในซีนอารมณ์ตอนก่อนพระมหาธรรมราชาจะสวรรคต รู้สึกน่าจะดราม่าได้มากกว่านี้)

ส่วนฉากที่ช้างทรงพระนเรศ เกือบจะเพลี่ยงพล้ำช้างหงสา ตอนนั้นผมก็น้ำตาซึมออกมา เพราะรู้สึกว่า ถ้าไม่มีท่านวันนั้น ก็คงไม่มีแผ่นดินให้เกรียนๆคีย์บอร์ดอย่างเราๆได้มา โพสด่ากันในวันนี้ บรรพบุรุษท่านลำบากกว่าประชาชนยุคสมัยปัจจุบันมากๆครับ

2. หนังสอบตกในแง่ของความเป็น "หนัง" กล่าวคือ การตัดต่อห้วน อารมณ์กระชาก และที่ผิดหวังที่สุดคือการตัดจบ ยอมรับว่าจบกับการทำยุทธหัตถี เป็นจุดไคลแมกซ์ ไคลแมกซ์แล้วก็จบเลย ตัวหนังสือเครดิตท้ายขึ้น ไฟในโรงเปิด ฮะ ห้ะ หา.. นี่จบแล้วเหรอ ไม่มีบทสรุป กล่าวถึง อาทิ
- พระสุพรรณกัลยาหลังจากนั้น ตามที่เคยศึกษามา ท่านมีฉากจบที่ชอกช้ำมาก จองจำทั้งตอนมีชีวิต และตอนเป็นวิญญาณ   (บางท่านว่าจะมีภาพยนตร์ของพระสุพรรณกัลยาออกมาอีก ไม่ทราบข้อเท็จจริงนะครับ)
- พระเจ้านันทบุเรงหลังจากนั้น  ที่จัดการประหารอย่างเหี้ยมโหดเชลย และแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกดีขึ้นหรือไม่
- พอเลอขิ่นตาย (นางโดนจัดบุฟเฟต์ลูกดอกธนู ) พระราชมนูเป็นเช่นไรต่อ
- พระอัครมเหสี มณีจันทร์ มีลูกหรือไม่อย่างไร   อยากเห็นความสุขหลังผ่านพ้นสงครามของคู่พระนาง
หมายเหตุ  ฉากเข้าพระเข้านาง ไม่โป๊ แต่ฟินมาก เสริมสร้างจินตนาการสุดๆ  

เราคนไทยชมหนังด้วยความชื่นชมในพระเกียรติของพระองค์ดำ และภูมิใจในเอกราชของรากเหง้าของเรา แต่ถ้าฝรั่งหรือคนต่างชาติ หรือเอาง่ายๆ คนไทยด้วยกันที่ค่อนข้างจะ Liberal คงชมหนังด้วยความเบื่อหน่าย และหนังจบชนิดที่ว่า "ดูไม่อิ่ม" เอาเสียเลย เหมือนกินอาหารที่มีประโยชน์อุดมคุณค่า แต่ไม่อร่อย และไม่รู้สึกน่าจดจำ

3. CG ถือว่าทำออกมาได้ดีพอสมควร แต่ก็ไม่ถึงกับดีเทียบเท่าหนังใหญ่ฮอลลีวูด ยังแอบเห็นร่องรอย แต่ก็ถือว่า ไม่ลดความสมจริงของหนังเท่าไร (ถ้าไม่จับผิดมากนะ)
ฉากช้างชนช้าง ทำได้ดีมากๆ สมกับที่เสียเวลาทำเป็นปีๆ และผ่านเหตุการณ์ไฟไหม้ฟิล์มต้องถ่ายทำซ่อมค่อนข้างมาก

สุดท้ายนี้ ขอสดุดีในวีรกรรมที่บรรพบุรุษของชาติได้เคยร่วมกันสละเลือดเนื้อ สละชีพเพื่อแลกกับเอกราชและผืนแผ่นดิน เพื่อให้พวกเราได้ใช้ชีวิตอยู่บนแผ่นดินของเรา แม้ทุกวันนี้ ศึกนอกไม่น่าห่วงเท่า ศึกภายใน แต่ก็ยังภูมิใจที่ได้เกิดในผืนแผ่นดินที่มีประวัติศาสตร์อันน่าภาคภูมิใจแห่งนี้ครับ

(แก้ไขคำผิดครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่