เนื่องจากว่าเจ้าของกระทู้เอง ชอบสิงอยู่ลับๆในพันทิป สอดส่องเงียบๆ ชอบเข้าห้องก้นครัว เสร็จนี่ก็ไป สยามแสควร์ ชานเรือน สวนลุม บางวันก็ได้อ่านกระทู้แนะนำที่เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับการเปิดธุรกิจต่างๆ จึงเป็นแรงบันดาลใจอย่างหนึ่งว่า อยากจะมีแบบนี้บ้าง อยากมีเรื่องเขียนแบบเค้าบ้าง อยากเป็นกระทู้แนะนำบ้าง ( แหมม ) วันนี้มีโอกาสเลยอยากแชร์ประสบการณ์ เผื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนวัยเดียวกันต่อไป
เริ่มกันเลยนะคะ จขกท พูดไม่ค่อยเก่ง เล่าเรื่องไม่เป็น มือรัว ถ้าหากพิมผิดบ้างถูกบ้างก็ขออภัย แต่อยากเล่า อิอิ
เรื่องของเรื่องก็คือว่า จขกท. เป็นนักศึกษาที่มหาลัยแห่งหนึ่ง ปัจจุบันอายุ 22 กำลังศึกษาชั้นปีที่ 4 ขึ้น 5 ( เรียนไม่จบนั่นเอง )ประกอบกับประเทศไทยกำลังจะก้าวเข้าสู้ AEC ทำให้ต้องเลื่อนเปิดภาคเรียนไปถึง 6 เดือน พ่อแม่ก็บ่น ทำไมไม่ตั้งใจเรียน จะทำอะไร 6 เดือน ไปทำมาหากินอะไรมั้ย ชีวิต นศ.เรียนไม่จบ แบมือขอตังพ่อ นั่งกินนอนกิน นั่งเลื่อนพันทิปไปวันๆ รู้สึกว่าเรามันไร้ประโยชน์สิ้นดี เราต้องทำงานสิ เราจะไม่ทนให้พ่อแม่นั่งบ่นอีกแล้วใน 6 เดือนนี้
วันหนึ่งเลื่อนดูกระทู้พันทิป ปกติชอบอ่านกระทู้แนะนำ ไปเจอกระทู้พี่วิศวะลาออกจากมนุษย์เงินเดือน มาเป็นมนุษย์เงินวัน เออออ เจ๋งว่ะ!!! อยากมีแบบนี้มั่ง อยากทำแบบนี้มั่ง ทำไงดี จะทำอะไรดี มีเราตัวคนเดียว จะทำได้อย่างเค้ามั้ย
จากนั้นก็ คิด คิด คิด คิด คิด คิด คิด
ความคิดอันดับ 1 (มโน ) ไปหาขายเสื้อผ้าไป
(สติ ) เฮ้ย เสื้อผ้าตกเทรนด์ง่าย คนขายเยอะ กำไรน้อย ถ้าขายไม่หมดทำไง
ความคิดอันดับ 2 (มโน ) ขายครีมสิวะ กำไรเยอะ
( สติ ) ดีออก ไม่ดูหนังหน้าตัวเองเลย หน้าดีจนกล้าขายครีมว่างั้น?
.
.
( มโน ) เค้กไง ขายได้กำไรตั้งเยอะ เคยทำแล้วไม่ใช่หรอ
เอออออออ อันนี้แหละ!!!
อ่านมาถึงตรงนี้อาจสงสัย ว่าทำไมถึงนึกถึงเค้ก สาเหตุมาจากว่า ในเทอมสุดท้ายของชั้นปีที่ 4 คณะและสาขาที่หนูเรียนนั้น มีกิจกรรมเบเกอรี่ คือ นศ.ชั้นปีที่ 4 จะทำเบเกอรี่ขายในช่วงปีใหม่ ซึ่งยอดขายมันเริ่ดดดด มันไม่คิดไม่ฝันว่าจะถล่มทลายขนาดนี้ กำไรมหาศาล แต่นั่นคือเพื่อนๆ กว่า 30 ชีวิตช่วยกันทำ ช่วยกันโฆษณา ช่วยกันหา แต่นี่หนูตอนนี้ คิดเงียบๆและยิ้มกรุบกริบอยู่หน้าจอเพียงลำพัง....
ความฝันเริ่มฟุ้งซ่าน มีแต่ว่าจะต้องทำ ต้องหาแนวร่วม เปิดเฟสบุ๊คเลย เพื่อนคณะและสนิทที่สุด ที่สำคัญนางยังไม่มีงานทำ!!!! ( มี 2 คน ขอใช้นามสมมติว่า เอ และ บี )
หนู : ( ทัก เอ ) เฮ้ยๆ guมีเรื่องจะคุยด้วย
เอ : ไรวะ
หนู : เรามาเปิดร้านเค้กกันมะ ทำขายส่งร้านกาแฟกัน
เอ: เอาดิวะ
หนู : ( ยิ้มอยู่หน้าจอ ง่ายจังวะ) เฮ้ย จริงจังนะ เดี๋ยวชวนบี
เอ : เออ เมิงว่า gu พูดเล่นหรอ เอาเลย
( ทักบี )
หนู : เมิงๆๆ gu มีเรื่องจะคุยด้วย
บี : ไรวะ
หนู : ทำร้านเค้กกับ gu มั้ย กับ เอ
บี : ทำที่ไหน อะไรยังไง
หนู : ทำที่บ้านเมิง ทำขายส่งร้านกาแฟ ถ้าเสนอขายที่ร้าน ได้อยู่แล้ว ยิ่งหลายๆที่นะ รวยเละ เชื่อ gu
บี : เอาจริงป้ะเนี่ย
หนู : จริงสิวะ เอตกลงแล้ว เราจะรวยไปด้วยกัน
บี : โอ้ยยย จะไปสมัครงานยุ
หนู : ไปทำไม ทำเค้กกับ gu หนิ เชื่อ gu รวยเละ!!!!
หลังจากหลอมสมองเพื่อน 2 คนมาได้แล้ว เราก็มาประชุมกันที่บ้านว่าจะทำอะไรกันบ้าง
1 . เค้กที่จะทำ เนื่องจากว่า ที่บ้านมีแค่เตาไมโครเวฟเล็กๆ และตู้เย็นหลังนึง เครื่องตีขนาดกะทัดรัด และตะกร้อมือ เค้กที่ได้รับการโหวตออกมาก็คือ เครปเค้ก!!!
หนู : เอารสอื่นดีป้ะวะ แบบธรรมดาคนทำเยอะแล้ว
บี : เออ อยากทำเครปชาไทย เคยไปกินมาที่นึง มีที่เดียวใน( ชื่อจังหวัด )ถ้าทำได้ขายดีแน่
เอ : งั้นทำชาเขียวด้วยเลย
หนู : เค เอาไรอีก ชาเขียว ชาไทย ชอคบานาน่าอีกมั้ย
เอ : อืมก็ดี ทำชีสพายกับบานอฟฟี่มั้ย สองอันนี้ทำง่ายไม่ต้องใช้เตาอบ
ตกลง เรื่องเค้กเสร็จไปละ
2 . โลโก้ วาดเอาตรงนั้นเลย จขกท เป็นคนออกแบบ เรื่องสูตรเรื่องเค้กทำไม่เป็น คุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่อง นั่งคิดชื่อแล้วก็วาดเล่นไปเลย
3. เงินทุน เนื่องจากไม่ต้องซื้อเตาอบ ไม่ต้องซื้อที่ตี ไม่ต้องซื้อตู้เย็น ซื้อแค่วัตถุดิบที่ต้องใช้ จากการคาดคะเน ทำเล่นทำหัวไปก่อน คนละ 3000 ก็พอ ( มั้ง) รวม 3 คนก็มี 9000 ทันใดนั้น จขกท รีบกดโทสับหาคุณพ่อทันที
หนู : พ่อ
พ่อ : มีอะไร
หนู : ยืมตังหน่อยได้มั้ย 3000 จะเปิดร้านเค้กกับเพื่อน
พ่อ : ตั้งใจจริงๆหรือเปล่า ไม่ใช่เอาไปใช้เล่นนะ
หนู : ไปจริงๆ นะ คืนภายในเดือนสองเดือนนี่แหละ
พ่อ : ไม่ต้องจะคืนหรอก แค่ว่าตั้งใจ อยากทำจริงๆ พ่อก็สนับสนุนนะ
หนู : ขอบคุณค่ะ
พ่อ : เดี๋ยวโอนให้ตอนนี้แหละ
น้ำตาแทบไหล นี่จะต้องเป็นครั้งแรกที่ทำให้พ่อภูมิใจ จะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า เราก็ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเหมือนกันนะเว้ยยย
จขกท ยิ้มระรื่นไปที่ตู้ atm กดตังค์ไปจ่ายเพื่อน 3000 แต่
บี : gu ไม่มีตังว่ะ
.
.
.
สรุป ทุนของเรามี 6000 !!!! ( พอมั้ย )
# วันนั้นก็ใช้เงินนั้นวันเดียวหมดเกลี้ยงเลย ได้วัตถุดิบครบทุกอย่าง สำหรับทำลอตแรก ถ้าขายไม่ออกก็คือจบแค่นั้น เงินหมดละ T T
4. การตลาด ร้านเราพึ่งตั้งใหม่สดๆ ไม่มีหน้าร้าน ที่คิดชวนเพื่อนมาทำคือ จะทำแล้วไปเสนอตามร้านกาแฟ แต่ก็หาข้อมูลจากพันทิป โดย search ว่า ทำเค้กขายส่งตามร้านกาแฟเป็นไง ส่วนใหญ่ความคิดเห็นเป็นลบ เหมือนว่ากำไรน้อย เหนื่อยอะไรประมาณนั้น ประกอบกับว่าต้องรอผลนาน กลัวจะล่ม จะท้อก่อน พวกเราก้เลยสุมหัวกัน ตกลงกันว่า ขายออนไลน์เลยละกัน โดยรับอินบ็อคทางเฟสบุ๊คและโทรมาสั่งเอา จากนั้นเปิดแฟนเพจ โพสต์เฟสกระหน่ำ ใช้สโลแกนของร้านเราว่า “ สั่งเลย กี่ชิ้นก็ส่ง “
ต่อไปนี้จะเป็นการอวดเมนูจากทางร้านเรานะคะ นี่เป็นเซตแรกที่เราเอาลงแฟนเพจ รูปทั้งหมดเป็นของวันแรกที่เริ่มขายค่ะ
( จะเซนเซอร์ชื่อร้านไว้นะคะ ไม่เป็นการโฆษณาให้เสียบรรยากาศ )
เริ่มต้นด้วย เครปเค้กเรนโบสุดฮิต
ขอจัดจาน ราดซอสแปบ
มีบานอฟฟี่ด้วยนะเออ
ชาไทยสักชิ้นมั้ยคะ
เครปชอคโกแลตก็มีนะคะ
ชอคบานาน่า แป้งเนื้อเนียนนุ่มๆ สอดไส้ชอคโกแลต
หรือว่าเป็นเซตก็ได้ สั่งเลย กี่ชิ้นก็ส่ง!!!!!
เท่านี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อค่ะ ต้องนอนแล้ว ต้องตื่นไปทำเค้กแต่เช้าแหละ ^^
พ่อ ยืมตังค์หน่อย 3000 จะเปิดร้านเค้ก!!!!
เริ่มกันเลยนะคะ จขกท พูดไม่ค่อยเก่ง เล่าเรื่องไม่เป็น มือรัว ถ้าหากพิมผิดบ้างถูกบ้างก็ขออภัย แต่อยากเล่า อิอิ
เรื่องของเรื่องก็คือว่า จขกท. เป็นนักศึกษาที่มหาลัยแห่งหนึ่ง ปัจจุบันอายุ 22 กำลังศึกษาชั้นปีที่ 4 ขึ้น 5 ( เรียนไม่จบนั่นเอง )ประกอบกับประเทศไทยกำลังจะก้าวเข้าสู้ AEC ทำให้ต้องเลื่อนเปิดภาคเรียนไปถึง 6 เดือน พ่อแม่ก็บ่น ทำไมไม่ตั้งใจเรียน จะทำอะไร 6 เดือน ไปทำมาหากินอะไรมั้ย ชีวิต นศ.เรียนไม่จบ แบมือขอตังพ่อ นั่งกินนอนกิน นั่งเลื่อนพันทิปไปวันๆ รู้สึกว่าเรามันไร้ประโยชน์สิ้นดี เราต้องทำงานสิ เราจะไม่ทนให้พ่อแม่นั่งบ่นอีกแล้วใน 6 เดือนนี้
วันหนึ่งเลื่อนดูกระทู้พันทิป ปกติชอบอ่านกระทู้แนะนำ ไปเจอกระทู้พี่วิศวะลาออกจากมนุษย์เงินเดือน มาเป็นมนุษย์เงินวัน เออออ เจ๋งว่ะ!!! อยากมีแบบนี้มั่ง อยากทำแบบนี้มั่ง ทำไงดี จะทำอะไรดี มีเราตัวคนเดียว จะทำได้อย่างเค้ามั้ย
จากนั้นก็ คิด คิด คิด คิด คิด คิด คิด
ความคิดอันดับ 1 (มโน ) ไปหาขายเสื้อผ้าไป
(สติ ) เฮ้ย เสื้อผ้าตกเทรนด์ง่าย คนขายเยอะ กำไรน้อย ถ้าขายไม่หมดทำไง
ความคิดอันดับ 2 (มโน ) ขายครีมสิวะ กำไรเยอะ
( สติ ) ดีออก ไม่ดูหนังหน้าตัวเองเลย หน้าดีจนกล้าขายครีมว่างั้น?
.
.
( มโน ) เค้กไง ขายได้กำไรตั้งเยอะ เคยทำแล้วไม่ใช่หรอ
เอออออออ อันนี้แหละ!!!
อ่านมาถึงตรงนี้อาจสงสัย ว่าทำไมถึงนึกถึงเค้ก สาเหตุมาจากว่า ในเทอมสุดท้ายของชั้นปีที่ 4 คณะและสาขาที่หนูเรียนนั้น มีกิจกรรมเบเกอรี่ คือ นศ.ชั้นปีที่ 4 จะทำเบเกอรี่ขายในช่วงปีใหม่ ซึ่งยอดขายมันเริ่ดดดด มันไม่คิดไม่ฝันว่าจะถล่มทลายขนาดนี้ กำไรมหาศาล แต่นั่นคือเพื่อนๆ กว่า 30 ชีวิตช่วยกันทำ ช่วยกันโฆษณา ช่วยกันหา แต่นี่หนูตอนนี้ คิดเงียบๆและยิ้มกรุบกริบอยู่หน้าจอเพียงลำพัง....
ความฝันเริ่มฟุ้งซ่าน มีแต่ว่าจะต้องทำ ต้องหาแนวร่วม เปิดเฟสบุ๊คเลย เพื่อนคณะและสนิทที่สุด ที่สำคัญนางยังไม่มีงานทำ!!!! ( มี 2 คน ขอใช้นามสมมติว่า เอ และ บี )
หนู : ( ทัก เอ ) เฮ้ยๆ guมีเรื่องจะคุยด้วย
เอ : ไรวะ
หนู : เรามาเปิดร้านเค้กกันมะ ทำขายส่งร้านกาแฟกัน
เอ: เอาดิวะ
หนู : ( ยิ้มอยู่หน้าจอ ง่ายจังวะ) เฮ้ย จริงจังนะ เดี๋ยวชวนบี
เอ : เออ เมิงว่า gu พูดเล่นหรอ เอาเลย
( ทักบี )
หนู : เมิงๆๆ gu มีเรื่องจะคุยด้วย
บี : ไรวะ
หนู : ทำร้านเค้กกับ gu มั้ย กับ เอ
บี : ทำที่ไหน อะไรยังไง
หนู : ทำที่บ้านเมิง ทำขายส่งร้านกาแฟ ถ้าเสนอขายที่ร้าน ได้อยู่แล้ว ยิ่งหลายๆที่นะ รวยเละ เชื่อ gu
บี : เอาจริงป้ะเนี่ย
หนู : จริงสิวะ เอตกลงแล้ว เราจะรวยไปด้วยกัน
บี : โอ้ยยย จะไปสมัครงานยุ
หนู : ไปทำไม ทำเค้กกับ gu หนิ เชื่อ gu รวยเละ!!!!
หลังจากหลอมสมองเพื่อน 2 คนมาได้แล้ว เราก็มาประชุมกันที่บ้านว่าจะทำอะไรกันบ้าง
1 . เค้กที่จะทำ เนื่องจากว่า ที่บ้านมีแค่เตาไมโครเวฟเล็กๆ และตู้เย็นหลังนึง เครื่องตีขนาดกะทัดรัด และตะกร้อมือ เค้กที่ได้รับการโหวตออกมาก็คือ เครปเค้ก!!!
หนู : เอารสอื่นดีป้ะวะ แบบธรรมดาคนทำเยอะแล้ว
บี : เออ อยากทำเครปชาไทย เคยไปกินมาที่นึง มีที่เดียวใน( ชื่อจังหวัด )ถ้าทำได้ขายดีแน่
เอ : งั้นทำชาเขียวด้วยเลย
หนู : เค เอาไรอีก ชาเขียว ชาไทย ชอคบานาน่าอีกมั้ย
เอ : อืมก็ดี ทำชีสพายกับบานอฟฟี่มั้ย สองอันนี้ทำง่ายไม่ต้องใช้เตาอบ
ตกลง เรื่องเค้กเสร็จไปละ
2 . โลโก้ วาดเอาตรงนั้นเลย จขกท เป็นคนออกแบบ เรื่องสูตรเรื่องเค้กทำไม่เป็น คุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่อง นั่งคิดชื่อแล้วก็วาดเล่นไปเลย
3. เงินทุน เนื่องจากไม่ต้องซื้อเตาอบ ไม่ต้องซื้อที่ตี ไม่ต้องซื้อตู้เย็น ซื้อแค่วัตถุดิบที่ต้องใช้ จากการคาดคะเน ทำเล่นทำหัวไปก่อน คนละ 3000 ก็พอ ( มั้ง) รวม 3 คนก็มี 9000 ทันใดนั้น จขกท รีบกดโทสับหาคุณพ่อทันที
หนู : พ่อ
พ่อ : มีอะไร
หนู : ยืมตังหน่อยได้มั้ย 3000 จะเปิดร้านเค้กกับเพื่อน
พ่อ : ตั้งใจจริงๆหรือเปล่า ไม่ใช่เอาไปใช้เล่นนะ
หนู : ไปจริงๆ นะ คืนภายในเดือนสองเดือนนี่แหละ
พ่อ : ไม่ต้องจะคืนหรอก แค่ว่าตั้งใจ อยากทำจริงๆ พ่อก็สนับสนุนนะ
หนู : ขอบคุณค่ะ
พ่อ : เดี๋ยวโอนให้ตอนนี้แหละ
น้ำตาแทบไหล นี่จะต้องเป็นครั้งแรกที่ทำให้พ่อภูมิใจ จะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า เราก็ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเหมือนกันนะเว้ยยย
จขกท ยิ้มระรื่นไปที่ตู้ atm กดตังค์ไปจ่ายเพื่อน 3000 แต่
บี : gu ไม่มีตังว่ะ
.
.
.
สรุป ทุนของเรามี 6000 !!!! ( พอมั้ย )
# วันนั้นก็ใช้เงินนั้นวันเดียวหมดเกลี้ยงเลย ได้วัตถุดิบครบทุกอย่าง สำหรับทำลอตแรก ถ้าขายไม่ออกก็คือจบแค่นั้น เงินหมดละ T T
4. การตลาด ร้านเราพึ่งตั้งใหม่สดๆ ไม่มีหน้าร้าน ที่คิดชวนเพื่อนมาทำคือ จะทำแล้วไปเสนอตามร้านกาแฟ แต่ก็หาข้อมูลจากพันทิป โดย search ว่า ทำเค้กขายส่งตามร้านกาแฟเป็นไง ส่วนใหญ่ความคิดเห็นเป็นลบ เหมือนว่ากำไรน้อย เหนื่อยอะไรประมาณนั้น ประกอบกับว่าต้องรอผลนาน กลัวจะล่ม จะท้อก่อน พวกเราก้เลยสุมหัวกัน ตกลงกันว่า ขายออนไลน์เลยละกัน โดยรับอินบ็อคทางเฟสบุ๊คและโทรมาสั่งเอา จากนั้นเปิดแฟนเพจ โพสต์เฟสกระหน่ำ ใช้สโลแกนของร้านเราว่า “ สั่งเลย กี่ชิ้นก็ส่ง “
ต่อไปนี้จะเป็นการอวดเมนูจากทางร้านเรานะคะ นี่เป็นเซตแรกที่เราเอาลงแฟนเพจ รูปทั้งหมดเป็นของวันแรกที่เริ่มขายค่ะ
( จะเซนเซอร์ชื่อร้านไว้นะคะ ไม่เป็นการโฆษณาให้เสียบรรยากาศ )
เริ่มต้นด้วย เครปเค้กเรนโบสุดฮิต
ขอจัดจาน ราดซอสแปบ
มีบานอฟฟี่ด้วยนะเออ
ชาไทยสักชิ้นมั้ยคะ
เครปชอคโกแลตก็มีนะคะ
ชอคบานาน่า แป้งเนื้อเนียนนุ่มๆ สอดไส้ชอคโกแลต
หรือว่าเป็นเซตก็ได้ สั่งเลย กี่ชิ้นก็ส่ง!!!!!
เท่านี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อค่ะ ต้องนอนแล้ว ต้องตื่นไปทำเค้กแต่เช้าแหละ ^^