เจอมาในเฟสบุ๊คของคุณหมอคนหนึ่งครับ

กระทู้สนทนา
ผมอ่านแล้วรู้สึกชื่นชมคุณหมอครับ แต่ก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นครับ


เวลาเจอเคสที่ 'เพศหญิง' ไม่อยากใช้คำว่า 'แม่'
ไปเหน็บยาขับเด็กออกมา แล้วปวดท้องจะคลอดมาที่รพ. มันรู้สึกแย่นะ..
นี่คืออีกหนึ่งเรื่องราวที่อยากเล่าไว้เป็นอุทาหรณ์ให้คนที่เป็น 'เพศหญิง' และ 'เพศชาย'
ที่มักง่ายมีอะไรกันแล้วไม่ป้องกัน ไม่ควบคุมแล้วทำให้คนอื่นเค้าเดือดร้อนนะครับ

ล่าสุด
มี case ผู้หญิง ไม่ได้ฝากครรภ์ แถมยังเหน็บยาทำแท้งทั้งๆ ที่อายุครรภ์ก็น่าจะไม่ใช่น้อยจากขนาดหน้าท้อง เข็นเข้ามาในห้องฉุกเฉิน ปวดท้องมาก

เพื่อนหมอคลำหน้าท้องได้ยอดมดลูกเหนือสะดือ คาดอายุครรภ์อย่างน้อยก็ 20 สัปดาห์ (ยังจะอุตส่าห์เหน็บอะไรตอนนี้!) แล้วจึง ultrasound ดูพบว่าเด็กยังหัวใจเต้นดี step ต่อไปคือตรวจภายใน หลังจากจัดท่าเสร็จเรียบร้อย

พี่ผู้ช่วย: หมอ ตรวจภายในได้เลยคร่าาา เอ๊ะแต่ทำไมมันมีอะไรโป่งๆนูนๆ เหมือนลูกโป่งเลยหมอ!! เอ้ยมันปลิ้นด้วยคร่าาาา!!!

เพื่อนหมอรีบหันไปมองโดยพลัน,, ลูกโป่งจริงๆ ครับบบบบบบ !!! ลูกโป่งคือถุงน้ำที่หุ้มตัวเด็กอยู่นั่นเอง นึกภาพลูกโป่งใส่น้ำอัดแน่นกะลังย้อยลงมาเลยครับบ

เพื่อนหมอตะโกนลั่น ER: setคลอดด่วนครับบบบบบ จะหลุดแล้ว(ว้อยยยยย)

พี่พยาบาลอีกคนรีบเอาถังมารอง
ส่วบบบบ!! หลุดออกมาทั้งถุงทั้งรกเลยครับบ

เพื่อนหมอจึงรีบฉีกถุงน้ำเอาเด็กออกมาทันที ตัวเล็กมากกกก น้ำหนักน้อยมากแน่นอน
แล้วก็รีบให้พยาบาล โทร notify หมอเด็ก ซึ่งตอนนี้ก็คือ ผม =='

บุคลากรทั้งER กรูกันเข้ามาช่วยเด็ก,,
ทุกคนคิดว่ายังไงก็ไม่รอด แต่ยังไงเด็กยังดิ้น ต้องช่วยชีวิตไว้ก่อน หลังจากเข้าradiant warmer ให้อุ่น เช็ดแห้ง ก็ฟัง heart rate ทันที
คือต่ำกว่า 60>> ก็ปั๊มหน้าอก+PPV(ช่วยหายใจ) กันอยู่นาน...
น้องก็ยังสู้จ๊ะ!!! ตัวเริ่มแดง HR มากกว่า 100 tone ดี เริ่มร้องเริ่มหายใจ สรุปหนักแค่ 550 กรัมเท่านั้น>>ย้ายเข้า ICU เด็กแรกเกิดได้
ซึ่งบุคลาการณ์ทางการแพทย์ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็ดีใจกันมากครับ

หลายคนๆอ่านมาถึงตรงนี้คงคิดว่าเรื่องมันควรจะจบสวยหรูใช่ไหมครับ...,, อ่านต่อครับ
หลังจากที่เข็นเด็กเข้าห้อง ICU ครับ
เด็กก็มีหายใจหอบมากขึ้น อกบุ๋มมาก ออกซิเจนในเลือดเหลือ 30-40
ก็ต้องบีบลมช่วยหายใจให้ตลอด
ผมจึงพิจารณาใส่ท่อช่วยหายใจครับ
ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งที่ 3 ในชีวิตที่ได้ใส่ท่อช่วยหายใจในเด็กแรกเกิดแต่ครั้งนี้ไม่เหมือน 2 ครั้งแรกครับ
เพราะเด็กตัวเล็กมาก 550 กรัม
แรกเริ่มที่ใส่อุปกรณ์เค้าไปกวาดลิ้นเด็กน้อยให้หลีกทางนี่ก็สอดเข้าไปยากมากครับ
เพราะขนาดอุปกรณ์ที่เล็กที่สุดก็ยังใหญ่กว่าปากของเด็กน้อย
ทีนี ก็ต้องใช้กรรมวิธีต่างๆอย่างใจเย็นที่สุด
รอบแรก.. กวาดลิ้น ใส่รู เจอรูแล้วววว แต่รูมันเล็กมาก มากกกกกกกเลยครับ
ใส่เข้าไป เย้ !!!! .... ทำไมท้องป่อง Y^Y
ตั้งสติ เอาใหม่ๆ
รอบสอง.. กวาดลิ้น เจอรูอีกแล้วววว คิดว่าเป็นรูเดิมมมม พยายามทำตาให้เล็กที่สุด มือนิ่งที่สุด
ค่อยสอดท่อช่วยหายใจเข้าไป เข้าไป เข้าไปป... จนเห็นรูอีกรูหนึ่ง แล้วก็ พรึ่บบบ
เย้ !!!!!!! อกกระเพื่อมมครับ รอดไปได้เปราะหนึ่ง..,,

ต่อไปก็ต้องใส่สายทางสะดือเอาไว้ให้สารน้ำในเด็กแรกเกิดครับ
แต่ระหว่างที่กำลังจะเริ่มทำครับ
'เพศชาย ที่เป็นผู้ที่มีส่วนทำให้เด็กเกิด' เดินเข้ามาแล้วพูดกับหมอว่า
' ผมเคยเห็นนะครับ 700 กรัม นี่ยังตายเกลื่อนเลย ไม่เห็นรอดสักราย 550 กรัม ไม่น่ารอดนะผมว่า แล้วก็ทำน้ำเสียงหัวเราะ'
ผม : มีความเป็นคนอยู๋หรือเปล่าครับ (มองด้วยสายตาที่คิดว่าน่าจะดุที่สุดในชีวิต) พยาบาลให้ญาติออกไปรอข้างนอก ถ้ายังไม่อนุญาติห้ามเข้าในทุกกรณี !!
แล้วก็ใส่สายทางสะดือได้สำเร็จ
ก็จัดการนู่นนี่นั่น ต่อไป เรื่อยๆ ตาม guideline ที่ควรทำในเด็กปริกำเนิดก่อนกำหนดขนาดนี้
กว่าจะเสร็จก็ปาไปอยู่ 2-3 ชม. ตั้งแต่เริ่ม นั่งเฝ้า นั่งดู นั่งปรับนู่นปรับนี่
จนทุกอย่างมันดู stable ก็ใช้เวลาอีกสักพัก

พอเลิกเวลาราชการ กำลังเดินกลับหอ
พยาบาลโทรมาบอกว่า เด็กหัวใจหยุดเต้น จับชีพจร กับ วัดออกซิเจนไม่ได้เลยค่ะ
ตอนนี้เริ่ม CPR (ปั๊ม) หัวใจคนไข้แล้ว
พอไปถึง ภาพที่เห็นคือ พ่อแม่เด็ก นั่งไขว่ห้างคุยกันท่าทางปราศจากความเศร้า
ในขณะที่พยาบาลกำลังกรูอยู่ที่เด็กน้อย ต่างฝ่ายต่างมีหน้าที่ของตัวเอง
'เพศชาย ที่เป็นผู้ที่มีส่วนทำให้เด็กเกิด' พอเจอเราก็พูดว่า
หมอ ผมว่าพอแค่นี้เหอะ ต่อให้ยื้อไว้ เดี๋ยวก็ตายอยู่ดี
หรือถ้ามันรอดก็พิการ สมองไม่ดี อวัยวะก็เสียหาย มีแต่แย่กับแย่
ให้เค้านอนหลับสบายเถอะ....

(โอยยยยยยยยยยย !!!! พูดซะ คือ แบบ เหมือนว่าถ้าเราพยายามยื้อชีวิตเด็กนี่
เป็นความผิดของเรามากอะ..,, แต่ไม่รุ้สิในอารมณ์นั้นคือ ก็ประคองช่วยเด็กต่อไปอยู่นะ
คือจริงๆ ในหลักการคือ ถ้าผู้ปกครอง หรือ คนที่มีสิทธฺในการดูแลแทนคนไข้ ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ ปั๊ม หมอต้องหยุด..,, แต่ในเวลานั้นคือ ยังทำใจไม่ทันจริงๆ)
สุดท้ายก็ทำไป 30 นาที ตามที่ควรจะเป็น ..,,
แต่ก็ยื้อไว้ไม่ไหมครับ.. น้องก็จากพวกเราไป

ทีนี้ก็จัดเลยจ๊ะ !!
'เพศหญิง กับ เพศชาย ที่เป็นผู้ให้กำเนิดเด็ก' ไม่มีน้ำตาสักหยด
แต่ฉันนี่ เต็มเบ้าตาเลยยยยยย ,, คือพยาบาลร้องนำ
ก็เลยเรียกมาคุย ว่า ทำไมพึ่งมาคิดว่าจะเอาเด็กออกตอนอายุเท่านี้
'เพศหญิง' เด็กบอกว่าอยากเอาไว้ แต่ ฝ่ายชาย อยากให้เอาออก
ก็เลยหาใน internet แล้วก็ไปไปซื้อยามาเหน็บ (หน้าแบบเหวี่ยงๆ)

ผม : ช่วยมีมารยาทด้วยครับ ที่ถามจริงๆคือ อยากตำหนิ แต่จริงๆคือเด็กก็เสียไปแล้ว
พูดถึงอดีตมันก็แค่นั้น
แต่อนาคตต่อไปก็ระวังหน่อยครับ มีอะไรก็ป้องกัน ถ้ารู้ว่ายังไม่พร้อม

'เพศชาย ที่เป็นผู้ที่มีส่วนทำให้เด็กเกิด' : ต่อไปก็คงจะให้เค้ากินยาคุม
แต่ก็ไม่รุ้จะกินได้ตลอดหรือเปล่านะ

ผม : คือพูดตรงๆนะ วุฒิภาวะ และ ความรับผิดชอบ ศีลธรรม จรรยาบรรณ คุณแย่มาก
คุณอาจคิดว่าการตายของเด็กคนนึงเป็นเรื่องธรรมดา เด็กยังไม่รับรู้
แต่คุณเห็นไหมว่าขนาดผม เพื่อนร่วมงานผมทุกคนเค้าเต็มที่กับการรักษา
เค้าตั้งใจทำมันออกมาให้ดีที่สุด ในขณะที่คุณสองคนนั่งดูอย่างสบายใจ
ไม่ใช่ลุ้นให้เค้ารอด แต่นั่งรอว่าเมื่อไหร่เด็กจะไป
ถ้าคิดว่า มันคุมกำเนิดยากขนาดนั้น กลัวผ่ายหญิงคุมได้ไม่ดี
ฝ่ายชายทำหมันเลยก็ได้นะ น้อยกว่าทำหมันหญิงอีก จะได้ไม่เป้นภาระต่อสังคม !

พยาบาล : หมอใจเย็นนๆๆ จับแขนๆ

เราก็เลย มานั่งเขียนใบรับรองการตาย แล้วก็ให้พี่พยาบาลเค้าจัดการเรื่องอื่นๆต่อ

.....

เราก็มานั่งคิดนะว่า เราไม่ชอบเจออะไรแบบนี้เลย
นี่จริงๆก็กลัวนะว่าพูดออกไปแบบนี้ แล้วต่อไปจะโดนดักตีหัวไหม
แต่ตอนนั้นคือ มันอยากจะพูด มันอยากจะสอน มันรุ้สึกว่านี่เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและไม่ควรจะเกิดขึ้น !!

ก็เลยอยากฝากเอาไว้เป้นข้อคิดกับคนที่มักง่ายนะครับ
ว่าไม่ใช่แค่คนคนเดียวจะเดือดร้อนต่อการกระทำของคุณ
แต่มันคือ หลายคน !!!!


ขออนุญาตลบที่มานะคับ เป็นกำลังให้คุณหมอในการทำงานนะคับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่