US Box Office May 23-25, 2014
(
www.boxofficemojo.com)
สุดสัปดาห์วันทหารผ่านศึก X-Men: Days of Future Past ครองอันดับ 1 หนังทำเงินในอเมริกาตามคาด แต่พลาดสร้างสถิติใหม่ให้กับหนังภาคต่ออายุ 14 ปีชุดนี้ แต่ในอีกด้านหนึ่งของเหรียญ Blended ของอดัม แซนด์เลอร์ดับอนาถ
นอกจากจะเปิดตัวในอเมริกาแล้ว หนัง X-Men: Days of Future Past ยังเปิดตัวในหลายประเทศพร้อมๆ กันอีกด้วย และกวาดเงินมาเป็นประวัติการณ์ด้วยตัวเลข 171.1 ล้านเหรียญ ในสัปดาห์หน้าหนังน่าจะทำเงินแซงหน้า The Wolverine (282 ล้านเหรียญ) เพื่อครองตำแหน่งหนัง X-Men ทำเงินสูงสุดทั่วโลกตลอดกาล ในอเมริกานั้น หนังเปิดตัวเกือบ 4,000 โรง ทำรายได้ 91.4 ล้านเหรียญ สำหรับรายได้ 3 วัน หากเทียบในกลุ่มหนังซูเปอร์ฮีโรเหมือนๆ กัน หนังทำรายได้ต่ำกว่า Captain America: The Winter Soldier (95 ล้านเหรียญ) และ The Amazing Spider-Man 2 (91.6 ล้านเหรียญ) เล็กน้อย แล้วกับกลุ่มหนัง X-Men ด้วยกัน X-Men: Days of Future Past รั้งอันดับ 2 หนัง X-Men เปิดตัวสูงสุดตลอดกาล เป็นรองแค่ X-Men: The Last Stand (102.8 ล้านเหรียญ) ซึ่งเปิดตัวในสุดสัปดาห์เดียวกันนี้เมื่อ 8 ปีก่อน หากดูยอดขายตั๋ว หนังจะขายได้น้อยกว่าหนัง 2 มิติล้วนๆ อย่าง X2: X-Men United และ X-Men Origins: Wolverine เล็กน้อย แต่ก็ดีกว่า The Wolverine เมื่อซัมเมอร์ก่อนเหยียบๆ 40 ล้านเหรียญ และทำได้ดีกว่า X-Men: First Class (55.1 ล้านเหรียญ) มาก .
แล้วถ้าดูรายได้ 4 วัน X-Men: Days of Future Past รับไปเหนาะๆ 111 ล้านเหรียญ ยึดอันดับ 5 หนังเปิดตัวสุดสัปดาห์ทหารผ่านศึกสูงสุดตลอดกาล แต่ก็น้อยกว่า The Last Stand ถึงราวๆ 12 ล้านเหรียญ เมื่อดูที่ช่วงห่างถึง 8 ปี ที่ทำให้ราคาตั๋วเปลี่ยนไป บวกกับการที่มีโรงสามมิติเพิ่มเข้ามา หลายๆ คนมองว่า X-Men: Days of Future Past น่าจะทำได้ใกล้เคียงกับ The Last Stand เป็นเพราะหนังไม่ได้เปิดตัวในช่วงพีคของตัวเองเหมือนที่ The Last Stand เป็นในตอนที่เข้าฉาย หากรายได้ที่ปรากฏออกมาก็มากพอที่จะส่งให้หนัง กลายเป็นหนึ่งในหนังเปิดตัวดีที่สุดของปี และเป็นก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับหนังชุดนี้ 2 เรื่องหลังสุด การผสมผสานตัวละครจากหนัง X-Men 2 ชุด และมีวูลเวอรีนเป็นตัวเชื่อม X-Men: Days of Future Past เลยมีความโดดเด่นต่างจากหนังเรื่องก่อนๆ คนที่ไปชม 56% เป็นผู้ชาย และ 59% อายุมากกว่า 25 และได้คะแนน A จากซีนีมาสกอร์
หนังชุด The X-Men มักจะทำรายได้ดีมากๆ ในวันแรกๆ แล้วก็แผ่ว แต่ก็มีเหตุผลให้เชื่อว่า X-Men: Days of Future Past อาจจะเป็นความแตกต่าง เพราะหนังได้คำวิจารณ์ที่ดีมากๆ ถึง 91% จากเว็บมะเขือเน่า รวมไปถึงปากต่อปากที่ดี และคู่ปรับในอีก 2-3 สัปดาห์ถัดไปไม่น่ากลัวอะไร X-Men: Days of Future Past ไม่น่ามีปัญหากับตัวเลขรายได้ระดับ 225 ล้านเหรียญ และน่าขึ้นไปแตะ 250 ล้านเหรียญเลยด้วยซ้ำ
ในอันดับ 2 Godzilla รายได้ร่วงถึง 67% ทำรายได้ไป 31.1 ล้านเหรียญ (39.4 ล้านเหรียญจาก 4 วัน) ถึงรายได้จะตกน้อยกว่า Cloverfield ที่ทำไว้ 68% แต่ก็ยังแย่กว่าหนังส่วนใหญ่ที่เอามาเทียบกันได้ ต้องขอบคุณแผนการตลาดที่แข็งแรง ทำให้คอหนังแห่กันมาดูเมื่อสัปดาห์ก่อน แล้วก็พบว่า หนังที่พวกเขาดูมันไม่ใช่อย่างที่โฆษณาเอาไว้ ทำให้หนังมีปากต่อปากที่ไม่ดีนัก บวกกับเจอคู่แข่งหินๆ อย่าง X-Men รายได้เลยลดฮวบฮาบอย่างที่เห็น หนังได้เงินไปแล้ว 156.8 ล้านเหรียญ และน่าจะปิดตัวที่ราวๆ 205 - 225 ล้านเหรียญ
Blended คว่ำสนิทด้วยรายได้แค่ 14.2 ล้านเหรียญ (18.2 ล้านเหรียญจากสี่วัน) น้อยกว่าหนังดับอนาถอีกเรื่องของอดัม แซนด์เลอร์เมื่อปี 2011 Jack and Jill ที่เปิดตัว 25 ล้านเหรียญ กว่า 10 ล้านเหรียญ แต่ก็มากกว่า หนังเน่าสนิทของเจาอีกเรื่องเมื่อปี 2012 That's My Boy (13.5 ล้านเหรียญ) ก่อนหนังจะฉายมีการคาดกันว่า การกลับมาประกบกันอีกหนของแซนด์เลอร์ และดรูว์ แบร์รีมอร์ คู่ขวัญจาก 50 First Dates และ The Wedding Singer น่าจะเรียกคนดูได้เป็นกอบเป็นกำ โชคร้ายที่หนังขาดตัวเรื่องที่น่าสนใจ แซนด์เลอร์เองอยู่ในขาลงมาพักใหญ่ๆ แล้ว และฐานแฟนหนังของเขาก็หดลงเรื่อยๆ แถมเจ้าตัวเองก็ดูจะไม่แยแสกับการดึงคนดูเอาไว้เสียอีก เพราะกับการออกรายการของจิมมี คิมเมลเมื่อสัปดาห์ก่อน เขายอมรับกลางรายการเลยว่า สร้าง Blended ก็เพื่อที่ตัวเองจะได้ไปพักผ่อน คนดูหนังของแซนด์เลอร์เรื่องนี้ 56% เป็นผู้หญิง และ 74% อายุมากกว่า 25 จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า สุดสัปดาห์นี้ คนดูกลุ่มครอบครัวไม่ใช่คนดูหนังส่วนใหญ หนังได้คะแนน A- แต่หนังแซนด์เลอร์ส่วนใหญ่จะยืนระยะได้ดี เพราะฉะนั้น Blended น่าจะปิดตัวที่กว่า 50 ล้านเหรียญ
อันดับ 4 เป็น Neighbors ที่รายได้ตก 45% ทำเงินไปอีก 13.9 ล้านเหรียญ (17.2 ล้านเหรียญจากสี่วัน) หนังเซ็ธ โรเกน-แซค แอฟรอนเรื่องนี้ทำรายได้ 116.9 ล้านเหรียญแล้ว ส่วน The Amazing Spider-Man 2 ที่เจอคู่แข่งจังๆ อย่าง X-Men รายได้ตกอีก 54% ทำรายได้ 7.8 ล้านเหรียญ (10 ล้านเหรียญใน 4 วัน) ตอนนี้หนังทำเงินไปแล้ว 187.1 ล้านเหรียญ และคงปิดตัวที่ราวๆ 200 - 203 ล้านเหรียญ
หนัง Chef ของจอน แฟฟโรว์ เพิ่มโรงเป็น 498 โรง ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ 2.27 ล้านเหรียญ (2.9 ล้านเหรียญใน 4 วัน) ส่วน Belle ของฟ็อกซ์ เซิร์ชไลท์ที่เพิ่มโรงเป็น 453 โรงทำรายได้ 1.67 ล้านเหรียญ (2.1 ล้านเหรียญจาก 4 วัน)
ไปดูรายได้นอกอเมริกากันบ้าง เปิดตัวใน 118 ประเทศ X-Men: Days of Future Past ทำรายได้แบบเน้นๆ 171.1 ล้านเหรียญ โดยเงินได้มากกว่าทั้ง The Amazing Spider-Man 2 และ Captain America: The Winter Soldier ในตลาดเดียวกัน โดยแหล่งทำเงินของหนังอยู่ที่จีน ซึ่งกวาดรายได้ 3 วันแรกไป 37.7 ล้านเหรียญ ซึ่งพอๆ กับ Captain America ที่ทำเงินในจีนไปถึงกว่า 120 ล้านเหรียญ ส่วนหนึ่งที่หนังออกตัวในจีนได้แรงก็เพราะมีซูเปอร์สตาร์ชาวจีนอย่าง ฟาน บิงบิง ร่วมแสดงด้วย แถมเหตุการณ์ในโลกอนาคตส่วนใหญ่ของหนังก็อยู่ในจีน นอกจากที่จีน หนังยังกลายเป็นหนังฟ็อกซ์เปิดตัวสูงสุดในอีก 11 ตลาด ได้แก่ เกาหลีใต้ (13.5 ล้านเหรียญ), บราซิล (8 ล้านเหรียญ), ฟิลลิปปินส์ (3.9 ล้านเหรียญ) และอินเดีย (3.9 ล้านเหรียญ) ตลาดหลักๆ อื่นๆ ที่หนังทำเงินได้ก็ยังมี อังกฤษ (14.2 ล้านเหรียญ), ฝรั่งเศส (10.6 ล้านเหรียญ), เม็กซิโก (10.4 ล้านเหรียญ), รัสเซีย (10.3 ล้านเหรียญ), ออสเตรเลีย (7.7 ล้านเหรียญ) และเยอรมันนี (4.7 ล้านเหรียญ)
สุดสัปดาห์หน้า Days of Future Past จะกลายเป็นหนัง X-Men ทำรายได้สูงสุดทั่วโลก แซงหน้า The Wolverine (282 ล้านเหรียญ) กับการที่ยังไม่เปิดตัวในญี่ปุ่นและสเปน ยากมากที่หนังจะทำเงินไม่ถึง 400 ล้านเหรียญ
Godzilla ได้เงินมาอีก 34.5 ล้านนอกอเมริกา ซึ่งตกจากสัปดาห์ก่อนถึง 67% แหล่งทำเงินหนักๆ ของหนังคือ อังกฤษ 4.3 ล้านเหรียญ ตอนนี้หนังทำเงินไปแล้ว 166.6 ล้านเหรียญ และน่าจะผ่าน 200 ล้านเหรียญได้ แต่หากจะให้ถึง 400 ล้านเหรียญ คงต้องหวังให้รายได้ที่จีน และญี่ปุ่นมาเป็นกอบเป็นกำแบบหนักๆ ขณะที่
The Amazing Spider-Man 2 ทำงินมาอีก 11.2 ล้านเหรียญ รายได้รวมกลายเป็น 489 ล้านเหรียญ และน่าจะแซง The Amazing Spider-Man (490.2 ล้านเหรียญ) ได้ในอีกไม่กี่วัน
Frozen ยังครองอันดับ 1 ในญี่ปุ่นเป็นสัปดาห์ที่ 11 ติดต่อกัน ตอนนี้หนังรั้งอันดับ 4 หนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลที่นี่ด้วยรายได้ 193.7 ล้านเหรียญ ส่วนรายได้ทั่วโลก หนังแซงหน้า Iron Man 3 กลายเป็นหนังจากปี 2013 ที่ทำเงินสูงสุด และเป็นหนังทำเงินทั่วโลกสูงสุดตลอดกาลอันดับที่ 5 ด้วยรายได้ 1.22 พันล้านเหรียญ
เฉลยฉากจบหลัง End Credit ของ X-Men: Days Of Future Past พร้อมคลิปให้ได้ชมกันอีกรอบ คลิกอ่านรายละเอียดได้ที่
http://bit.ly/1kBxxLJ
คลิกไลค์ให้กำลังใจได้ที่
www.facebook.com/Sadaos อ่านข่าวคราว-บทวิจารณ์ หนังและเพลง, ชมตัวอย่าง, มิวสิค วิดีโอ ได้ที่
www.sadaos.com
X-Men ครองแชมป์สุดสัปดาห์รำลึกทหารผ่านศึก แต่หวืดทำสถิติใหม่
(www.boxofficemojo.com)
สุดสัปดาห์วันทหารผ่านศึก X-Men: Days of Future Past ครองอันดับ 1 หนังทำเงินในอเมริกาตามคาด แต่พลาดสร้างสถิติใหม่ให้กับหนังภาคต่ออายุ 14 ปีชุดนี้ แต่ในอีกด้านหนึ่งของเหรียญ Blended ของอดัม แซนด์เลอร์ดับอนาถ
นอกจากจะเปิดตัวในอเมริกาแล้ว หนัง X-Men: Days of Future Past ยังเปิดตัวในหลายประเทศพร้อมๆ กันอีกด้วย และกวาดเงินมาเป็นประวัติการณ์ด้วยตัวเลข 171.1 ล้านเหรียญ ในสัปดาห์หน้าหนังน่าจะทำเงินแซงหน้า The Wolverine (282 ล้านเหรียญ) เพื่อครองตำแหน่งหนัง X-Men ทำเงินสูงสุดทั่วโลกตลอดกาล ในอเมริกานั้น หนังเปิดตัวเกือบ 4,000 โรง ทำรายได้ 91.4 ล้านเหรียญ สำหรับรายได้ 3 วัน หากเทียบในกลุ่มหนังซูเปอร์ฮีโรเหมือนๆ กัน หนังทำรายได้ต่ำกว่า Captain America: The Winter Soldier (95 ล้านเหรียญ) และ The Amazing Spider-Man 2 (91.6 ล้านเหรียญ) เล็กน้อย แล้วกับกลุ่มหนัง X-Men ด้วยกัน X-Men: Days of Future Past รั้งอันดับ 2 หนัง X-Men เปิดตัวสูงสุดตลอดกาล เป็นรองแค่ X-Men: The Last Stand (102.8 ล้านเหรียญ) ซึ่งเปิดตัวในสุดสัปดาห์เดียวกันนี้เมื่อ 8 ปีก่อน หากดูยอดขายตั๋ว หนังจะขายได้น้อยกว่าหนัง 2 มิติล้วนๆ อย่าง X2: X-Men United และ X-Men Origins: Wolverine เล็กน้อย แต่ก็ดีกว่า The Wolverine เมื่อซัมเมอร์ก่อนเหยียบๆ 40 ล้านเหรียญ และทำได้ดีกว่า X-Men: First Class (55.1 ล้านเหรียญ) มาก .
แล้วถ้าดูรายได้ 4 วัน X-Men: Days of Future Past รับไปเหนาะๆ 111 ล้านเหรียญ ยึดอันดับ 5 หนังเปิดตัวสุดสัปดาห์ทหารผ่านศึกสูงสุดตลอดกาล แต่ก็น้อยกว่า The Last Stand ถึงราวๆ 12 ล้านเหรียญ เมื่อดูที่ช่วงห่างถึง 8 ปี ที่ทำให้ราคาตั๋วเปลี่ยนไป บวกกับการที่มีโรงสามมิติเพิ่มเข้ามา หลายๆ คนมองว่า X-Men: Days of Future Past น่าจะทำได้ใกล้เคียงกับ The Last Stand เป็นเพราะหนังไม่ได้เปิดตัวในช่วงพีคของตัวเองเหมือนที่ The Last Stand เป็นในตอนที่เข้าฉาย หากรายได้ที่ปรากฏออกมาก็มากพอที่จะส่งให้หนัง กลายเป็นหนึ่งในหนังเปิดตัวดีที่สุดของปี และเป็นก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับหนังชุดนี้ 2 เรื่องหลังสุด การผสมผสานตัวละครจากหนัง X-Men 2 ชุด และมีวูลเวอรีนเป็นตัวเชื่อม X-Men: Days of Future Past เลยมีความโดดเด่นต่างจากหนังเรื่องก่อนๆ คนที่ไปชม 56% เป็นผู้ชาย และ 59% อายุมากกว่า 25 และได้คะแนน A จากซีนีมาสกอร์
หนังชุด The X-Men มักจะทำรายได้ดีมากๆ ในวันแรกๆ แล้วก็แผ่ว แต่ก็มีเหตุผลให้เชื่อว่า X-Men: Days of Future Past อาจจะเป็นความแตกต่าง เพราะหนังได้คำวิจารณ์ที่ดีมากๆ ถึง 91% จากเว็บมะเขือเน่า รวมไปถึงปากต่อปากที่ดี และคู่ปรับในอีก 2-3 สัปดาห์ถัดไปไม่น่ากลัวอะไร X-Men: Days of Future Past ไม่น่ามีปัญหากับตัวเลขรายได้ระดับ 225 ล้านเหรียญ และน่าขึ้นไปแตะ 250 ล้านเหรียญเลยด้วยซ้ำ
ในอันดับ 2 Godzilla รายได้ร่วงถึง 67% ทำรายได้ไป 31.1 ล้านเหรียญ (39.4 ล้านเหรียญจาก 4 วัน) ถึงรายได้จะตกน้อยกว่า Cloverfield ที่ทำไว้ 68% แต่ก็ยังแย่กว่าหนังส่วนใหญ่ที่เอามาเทียบกันได้ ต้องขอบคุณแผนการตลาดที่แข็งแรง ทำให้คอหนังแห่กันมาดูเมื่อสัปดาห์ก่อน แล้วก็พบว่า หนังที่พวกเขาดูมันไม่ใช่อย่างที่โฆษณาเอาไว้ ทำให้หนังมีปากต่อปากที่ไม่ดีนัก บวกกับเจอคู่แข่งหินๆ อย่าง X-Men รายได้เลยลดฮวบฮาบอย่างที่เห็น หนังได้เงินไปแล้ว 156.8 ล้านเหรียญ และน่าจะปิดตัวที่ราวๆ 205 - 225 ล้านเหรียญ
Blended คว่ำสนิทด้วยรายได้แค่ 14.2 ล้านเหรียญ (18.2 ล้านเหรียญจากสี่วัน) น้อยกว่าหนังดับอนาถอีกเรื่องของอดัม แซนด์เลอร์เมื่อปี 2011 Jack and Jill ที่เปิดตัว 25 ล้านเหรียญ กว่า 10 ล้านเหรียญ แต่ก็มากกว่า หนังเน่าสนิทของเจาอีกเรื่องเมื่อปี 2012 That's My Boy (13.5 ล้านเหรียญ) ก่อนหนังจะฉายมีการคาดกันว่า การกลับมาประกบกันอีกหนของแซนด์เลอร์ และดรูว์ แบร์รีมอร์ คู่ขวัญจาก 50 First Dates และ The Wedding Singer น่าจะเรียกคนดูได้เป็นกอบเป็นกำ โชคร้ายที่หนังขาดตัวเรื่องที่น่าสนใจ แซนด์เลอร์เองอยู่ในขาลงมาพักใหญ่ๆ แล้ว และฐานแฟนหนังของเขาก็หดลงเรื่อยๆ แถมเจ้าตัวเองก็ดูจะไม่แยแสกับการดึงคนดูเอาไว้เสียอีก เพราะกับการออกรายการของจิมมี คิมเมลเมื่อสัปดาห์ก่อน เขายอมรับกลางรายการเลยว่า สร้าง Blended ก็เพื่อที่ตัวเองจะได้ไปพักผ่อน คนดูหนังของแซนด์เลอร์เรื่องนี้ 56% เป็นผู้หญิง และ 74% อายุมากกว่า 25 จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า สุดสัปดาห์นี้ คนดูกลุ่มครอบครัวไม่ใช่คนดูหนังส่วนใหญ หนังได้คะแนน A- แต่หนังแซนด์เลอร์ส่วนใหญ่จะยืนระยะได้ดี เพราะฉะนั้น Blended น่าจะปิดตัวที่กว่า 50 ล้านเหรียญ
อันดับ 4 เป็น Neighbors ที่รายได้ตก 45% ทำเงินไปอีก 13.9 ล้านเหรียญ (17.2 ล้านเหรียญจากสี่วัน) หนังเซ็ธ โรเกน-แซค แอฟรอนเรื่องนี้ทำรายได้ 116.9 ล้านเหรียญแล้ว ส่วน The Amazing Spider-Man 2 ที่เจอคู่แข่งจังๆ อย่าง X-Men รายได้ตกอีก 54% ทำรายได้ 7.8 ล้านเหรียญ (10 ล้านเหรียญใน 4 วัน) ตอนนี้หนังทำเงินไปแล้ว 187.1 ล้านเหรียญ และคงปิดตัวที่ราวๆ 200 - 203 ล้านเหรียญ
หนัง Chef ของจอน แฟฟโรว์ เพิ่มโรงเป็น 498 โรง ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ 2.27 ล้านเหรียญ (2.9 ล้านเหรียญใน 4 วัน) ส่วน Belle ของฟ็อกซ์ เซิร์ชไลท์ที่เพิ่มโรงเป็น 453 โรงทำรายได้ 1.67 ล้านเหรียญ (2.1 ล้านเหรียญจาก 4 วัน)
ไปดูรายได้นอกอเมริกากันบ้าง เปิดตัวใน 118 ประเทศ X-Men: Days of Future Past ทำรายได้แบบเน้นๆ 171.1 ล้านเหรียญ โดยเงินได้มากกว่าทั้ง The Amazing Spider-Man 2 และ Captain America: The Winter Soldier ในตลาดเดียวกัน โดยแหล่งทำเงินของหนังอยู่ที่จีน ซึ่งกวาดรายได้ 3 วันแรกไป 37.7 ล้านเหรียญ ซึ่งพอๆ กับ Captain America ที่ทำเงินในจีนไปถึงกว่า 120 ล้านเหรียญ ส่วนหนึ่งที่หนังออกตัวในจีนได้แรงก็เพราะมีซูเปอร์สตาร์ชาวจีนอย่าง ฟาน บิงบิง ร่วมแสดงด้วย แถมเหตุการณ์ในโลกอนาคตส่วนใหญ่ของหนังก็อยู่ในจีน นอกจากที่จีน หนังยังกลายเป็นหนังฟ็อกซ์เปิดตัวสูงสุดในอีก 11 ตลาด ได้แก่ เกาหลีใต้ (13.5 ล้านเหรียญ), บราซิล (8 ล้านเหรียญ), ฟิลลิปปินส์ (3.9 ล้านเหรียญ) และอินเดีย (3.9 ล้านเหรียญ) ตลาดหลักๆ อื่นๆ ที่หนังทำเงินได้ก็ยังมี อังกฤษ (14.2 ล้านเหรียญ), ฝรั่งเศส (10.6 ล้านเหรียญ), เม็กซิโก (10.4 ล้านเหรียญ), รัสเซีย (10.3 ล้านเหรียญ), ออสเตรเลีย (7.7 ล้านเหรียญ) และเยอรมันนี (4.7 ล้านเหรียญ)
สุดสัปดาห์หน้า Days of Future Past จะกลายเป็นหนัง X-Men ทำรายได้สูงสุดทั่วโลก แซงหน้า The Wolverine (282 ล้านเหรียญ) กับการที่ยังไม่เปิดตัวในญี่ปุ่นและสเปน ยากมากที่หนังจะทำเงินไม่ถึง 400 ล้านเหรียญ
Godzilla ได้เงินมาอีก 34.5 ล้านนอกอเมริกา ซึ่งตกจากสัปดาห์ก่อนถึง 67% แหล่งทำเงินหนักๆ ของหนังคือ อังกฤษ 4.3 ล้านเหรียญ ตอนนี้หนังทำเงินไปแล้ว 166.6 ล้านเหรียญ และน่าจะผ่าน 200 ล้านเหรียญได้ แต่หากจะให้ถึง 400 ล้านเหรียญ คงต้องหวังให้รายได้ที่จีน และญี่ปุ่นมาเป็นกอบเป็นกำแบบหนักๆ ขณะที่
The Amazing Spider-Man 2 ทำงินมาอีก 11.2 ล้านเหรียญ รายได้รวมกลายเป็น 489 ล้านเหรียญ และน่าจะแซง The Amazing Spider-Man (490.2 ล้านเหรียญ) ได้ในอีกไม่กี่วัน
Frozen ยังครองอันดับ 1 ในญี่ปุ่นเป็นสัปดาห์ที่ 11 ติดต่อกัน ตอนนี้หนังรั้งอันดับ 4 หนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลที่นี่ด้วยรายได้ 193.7 ล้านเหรียญ ส่วนรายได้ทั่วโลก หนังแซงหน้า Iron Man 3 กลายเป็นหนังจากปี 2013 ที่ทำเงินสูงสุด และเป็นหนังทำเงินทั่วโลกสูงสุดตลอดกาลอันดับที่ 5 ด้วยรายได้ 1.22 พันล้านเหรียญ
เฉลยฉากจบหลัง End Credit ของ X-Men: Days Of Future Past พร้อมคลิปให้ได้ชมกันอีกรอบ คลิกอ่านรายละเอียดได้ที่ http://bit.ly/1kBxxLJ
คลิกไลค์ให้กำลังใจได้ที่ www.facebook.com/Sadaos อ่านข่าวคราว-บทวิจารณ์ หนังและเพลง, ชมตัวอย่าง, มิวสิค วิดีโอ ได้ที่ www.sadaos.com