เสียเงินค่าโดยสารพี่วิน 1,500 บาท ... เจ็บปวด

เรื่องมันมีอยู่ว่า ... เราต้องเดินทางจากกรุงเทพเพื่อกลับเชียงใหม่โดยสายการบินหนึ่งเวลา 20.00 ซึ่งก็ต้องเช็คอิน 19.00 น.

รายละเอียดก็คือ  เราเดินทางจากเชียงใหม่เพื่อไปกรุงเทพ พักที่บ้านอาที่บริเวณเลียบคันคลอง ถ.สรงประภา
เราทิ้งกระเป๋าเสื้อผ้าไว้ที่บ้านเพราะคิดว่าทำธุระแถวBTS ช่องนนทรี ซึ่งน่าจะเสร็จไม่เกิน 15.00น. แล้วค่อยกลับมาเอากระเป๋าเสื้อผ้าก่อนกลับบ้าน
หลังจากนั้นเราก็ไปทำธุระซึ่งเสร็จช้ากว่าที่คาดไว้เยอะเลย 17.30น.  เราตัดสินใจว่าจะนั่งบีทีเอสไปลงที่อนุสาวรีย์ชัย เพื่อต่อรถตู้ไปลงเมืองทองธานี แต่ปรากฏว่ามีการชุมนุมบริเวณนั้น บีทีเอสจะไม่จอดสามสถานีคือ อนุสาวรีย์ พญาไท และอีกหนึ่งสถานี เราจำไม่ได้ ... เราก็เลยเอาวะไปลงหมอชิตก็ได้ เดี๋ยวค่อยหาทางอีกทีนึงเพราะยังไงก็ใกล้กว่า

18.00น. เราถึงปลายทางสถานีหมอชิต คนเยอะมากรถติดยาวคือแทบไม่กระดิก พอดีเหลือบไปเห็นป้ายพี่วินเขียนราคาไว้ คงเอาไว้ใช้เป็นราคามาตรฐานของเค้า “ศูนย์ราชการ 160 บาท” เท่านั้นแหละ ตัดสินใจถามพี่วินแถวนั้นเลย
มีพี่วินใจดีคนหนึ่งบอกว่าไปครับแต่รอแปปนะ ลูกค้าพี่ไปกดเงินมาจ่ายอยู่ .... โอเคค่ะ รอต่อไปไม่เกิน 5 นาทีก็ได้ซ้อนท้ายพี่วิน
อัศวินขี่ม้าขาว

>>> พี่วินเทพมากค่ะ ขี่รถผ่านช่องแคบต่างๆ โดยที่เราไม่มีร่องรอยบาดแผล หรือมีการเบรกให้เราสะเทือนใจ การเดินทางเป็นไปแบบอบอุ่นและปลอดภัยมากๆ พี่วินบอกว่าเรามีอาชีพรับจ้างเราก็ต้องคอยระวังผู้โดยสารไม่ให้ได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่เดินทางกับเรา เรายังจำเบอร์เสื้อพี่วินได้ขึ้นใจ เพราะเราประทับใจมาก พี่วินบอกว่าขี่มา 8 ปี (โอ้ววว ... ภาษาคนทำงานก็ยกให้เป็นระดับ Manager กันเลย)

ระหว่างทางเราก็บอกว่า “พี่เข้าไปส่งหนูที่หมู่บ้านแถวเลียบคลองประปา ถ.สรงประภาได้มั้ย หนูจะได้ไม่ต้องต่อรถ กลัวไม่มีรถ แล้วพี่ก็บวกเพิ่มไปเนาะหนูต้องขึ้นเครื่องที่ดอนเมือง กลัวจะไม่ทันด้วย” (ศูนย์ราชการ 160 บาท เข้าไปตรงนั้นคงไม่เกิน 300 บาท)
พี่วิน : ได้สิ แถวหลังเมืองทองใช่มั้ย
เรา : ใช่ค่ะ
พี่วิน : ขึ้นเครื่องกี่โมง ?
เรา : หนูต้องไปถึงสนามบิน 19.00 น. อ่ะ พี่จะไปส่งหรอ หนูจะแวะเอาของที่บ้านแล้วไปต่อเลย
พี่วิน : แวะไม่นานใช่มั้ย งั้นก็ไปได้ เพราะถ้าพี่ตีรถกลับ พี่ก็ตีรถเปล่าอยู่ดี
เรา : ดีๆ งั้นโอเคเลย (สรุปว่าไปกะพี่วิน)

18.45 น. ถึงบ้านเก็บกระเป๋าเรียบร้อย อาเราเอาข้าวมันไก่ให้พี่วินหนึ่งห่อ ส่วนเราหิ้วซูชิไปด้วยก็กะเอาให้พี่แกนั่นแหละ อาเราจะจ่ายเงินให้พี่วินแต่พี่เค้าบอกว่า “ยังไม่รู้เลยครับ เดี๋ยวค่อยเก็บกับน้องละกัน ผมคิดน้องไม่แพง”
... เป็นอันว่าออกเดินทางจากบ้านไปสนามบินดอนเมือง รอบนี้มีให้ใส่หมวกกันน็อค ฝนโปรยเล็กน้อยพี่เค้าถาม”เอาเสื้อกันฝนมั้ย อันใหม่นะ ลูกค้าพี่ใช้พี่ก็ยกให้เค้าไปเลย พี่ก็ซื้อใหม่แทบทุกอัน”
คือเราไม่ชอบเสื้อกันฝนอยู่ละ เลยตอบว่า “ไม่เป็นไรพี่หนูโอเค นิดหน่อยหนูทนได้”

19.10 น. ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ คืนหมวกกันน็อคให้พี่เค้าไป แล้วก็ยกซูชิกล่องนั้นให้พี่เค้า แล้วถามราคา
เรา : เท่าไหร่คะพี่ ? (ศูนย์ราชการ 160 บาท + แวะเข้าบ้านที่ ถ. สรงประภา + สนามบินดอนเมือง ก็คงไม่เกิน500)
พี่วิน : พี่คิดราคาเหมาเราละกันเนาะ 1,500 บาท
เรา : ห๊ะ !!! จริงป่าวเนี่ยพี่ ล้อเล่นป่าวเนี่ยเม่าในกองไฟ
พี่วิน : จริงๆ ครับ ราคาพี่เหมา ราคานี้
เรา : ล้อเล่นป่าว จริงอ่ะพี่
พี่วิน : จริงๆ ครับ (ควักเงินให้แบบอาการเบลอๆ แล้วก็เดินจากไป)

.... สำหรับเรา คิดว่าเป็นราคาที่แพงเกินไป (ตั๋วเครื่องบิน BKK-CNX 1,200 บาท)
เป็นอันว่าเราเดินทางถึงที่หมายโดยปลอดภัย ภายใน1 ชั่วโมง ขึ้นเครื่องทันด้วย
โดยเสียเงินค่าพี่วิน 1,500 บาท (ไม่รวมข้าวมันไก่ และซูชิ เพราะเป็นน้ำใจ น้ำใจจริงๆ) นาทีนี้ไม่นับความคุ้มค่าของราคา
แต่เรียกได้ว่าบอบช้ำทางสภาพจิตใจแบบประเมินไม่ได้ เพราะเราเองก็ผิดที่ไม่สอบถามราคาก่อน
หรือต่อรองราคาก่อนจะจ่ายเงินให้พี่เค้า (เรา shock จริงๆ)
นานาเสียใจ

>>>  จริงๆ แล้วเราลืมบอกพี่วินไปว่า “เราทุกคนก็ล้วนมีภาระหน้าที่ที่แตกต่างกัน มีอาชีพที่แตกต่างกัน สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องเคารพอาชีพของเรา ยิ่งสำหรับพี่มันเป็นอาชีพที่เลี้ยงตัวพี่ (หรืออาจจะคนในครอบครัวของพี่ด้วย) 8 ปีที่พี่ได้ทำอาชีพนี้ อย่างน้อยพี่ก็ควรจะภูมิใจว่าพี่ได้ช่วยเหลือผู้โดยสารหลายคนให้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย แต่ไม่ควรที่จะฉวยโอกาสในภาวะที่คนอื่นกำลังเดือดร้อน” จริงอยู่ที่อาชีพของพี่เป็นอาชีพที่สุจริต แต่สิ่งที่พี่ได้ทำมันสะท้อนถึงตัวตนของพี่ ว่าตัวพี่เองก็ไม่ต่างอะไรกับโจรในชุดวินมอเตอร์ไซด์เลย

ปล. ขอบคุณที่อ่านนะคะ เราตั้งกระทู้นี้มาไม่ได้มีเจตนาเพื่อทำร้ายใคร แค่อยากบอกเล่าในสิ่งที่ตัวเองได้เจอ พี่วินที่ดีก็มีนะคะหนูก็เคยเจอมาเยอะ เยอะมากกว่าพี่วินที่ไม่ดีแบบนี้ด้วย กรณีนี้ขอให้มองเฉพาะพี่วินคนนี้คนเดียว เพราะทุกอาชีพก็ล้วนมีทั้งคนที่ดีและคนที่ไม่ดีปะปนกันไป

#ราชเทวี#10
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ระหว่างให้เงินก็คิดในใจว่า...

หลังจากนั้นก็แช่งให้มัน...
ความคิดเห็นที่ 84
จขกท.เจอเหตุการณ์คล้ายๆเราเลยค่ะ  ต่างแค่เวลาและสถานที่  ของเราเจอแถววัดเบญฯค่ะ  เราทำงานอยู่ในกองบัญชาการตำรวจนครบาล (เปิดร้านอยู่ในนั้น) ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เริ่มมีการประท้วงแถวๆนั้น  ทำให้ที่ร้านเราต้องปิด ไม่สามารถเข้าไปทำงานได้ แต่เราดันลืมเอกสารสำคัญไว้ที่ร้าน เลยต้องเข้าไปเอา เราเรียกแท็กซี่จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปค่ะ กะว่าจะให้แท็กซี่ขับเข้าไปส่งข้างในบชน.เลย แต่พอแท็กซี่ขับมาถึงบริเวณหน้าวัดเบญฯ ปรากฏว่ามีแนวแบริเออร์ปิดกั้นไม่ให้รถเข้า และมีตำรวจยืนคุ้มกันอยู่ด้วย  เราก็เอาไงดีล่ะ แท็กซี่เข้าไม่ได้แน่ๆ จะเดินไปก็ร้อนเหลือ เหนื่อยก็เหนื่อย เหลือบไปเห็นวินมอเตอร์ไซค์จอดอยู่แถวๆหน้าวัด เราเลยตัดสินใจลงจากแท็กซี่แล้วไปใช้บริการพี่วินแทน   เราเคยนั่งวินจากแถวหน้าวัดเบญฯไป บชน.ราคา 30 บาท ก็เลยคิดว่าเอาน่ะถึงจะต้องเสียค่าแท็กซี่ 60 กว่าบาทไปแล้ว และยังต้องมาเสียค่าวินอีก 30 บาทก็ไม่เป็นไร เพื่อความรวดเร็ว ดีกว่าเดินตากแดดร้อนๆเข้าไป(ปกติมาทำงานไม่ว่าจะนั่งวินหรือแท็กซี่มาจากอนุสาวรีย์ชัยฯก็ไม่เกิน 65 บาท) เลยเดินเข้าไปถามพี่วิน "พี่ๆ เข้าไปที่บชน.มั้ยคะ"  พี่วินก็ตอบมาอย่างกระฉับกระเฉงว่า "ไปครับๆขึ้นเลยๆ" เราก็ขึ้นเลยค่ะ ขึ้นปุ๊บพี่วินแกก็พาขับอ้อมไปอีกเส้นหนึ่ง  ไปทางถนนพระรามห้า  เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุโขทัย แล้วก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนนครราชสีมาแล้ววนมาเข้าด้านหน้าของบชน. เราบอกให้พี่เขาขับเข้าไปจอดรอหน้าร้านเลย แล้วเราก็เข้าไปหยิบเอกสารแค่แป๊บเดียว  (เปิดประตูร้าน เดินเข้าไปหยิบเอกสารในลิ้นชักรวมๆแล้วไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ) แล้วก็รีบวิ่งออกมาขึ้นรถ  "หนูไปอนุสาวรีย์ชัยฯต่อเลยค่ะพี่" พี่วินก็ "ครับๆ"  แล้วก็ขับปรู๊ดปร๊าด เบี่ยงซ้ายหลบขวาอย่างชำนาญและพาเราไปถึงอนุสาวรีย์ชัยฯโดยสวัสดิภาพ  ระหว่างที่นั่งอยู่บนรถพี่วิน เราก็คิดคำนวณค่ารถมาตลอดทางนะว่าน่าจะเท่าไร จากหน้าวัดเบญฯเข้าไปบชน. (ปกติ 30) เราว่าจะให้สัก 50 เพราะพี่เขาต้องพาเราอ้อมไป และกะว่าจะให้ค่าที่พี่เขาต้องเสียเวลามาจอดรอเราอีกสัก 20-30 บาทละกัน ส่วนค่าวินจากบชน.ไป อนุสาวรีย์ชัยฯ(ปกติ 60) เราให้สัก 70 ละกัน เพิ่มให้เขานิดหน่อย รวมๆก็ไม่น่าจะเกิน 150 บาท  พอลงรถเราก็ถามพี่วิน
"เท่าไรคะพี่"  
"....ร้อยเจ็ดสิบห้าบาทครับ" เสียงรถแถวนั้นดังทำให้เราได้ยินที่พี่วินพูดไม่ชัด เราเลยถามย้ำเพื่อความแน่ใจ
"สองร้อยเจ็ดสิบห้าบาทเหรอคะ?" ในใจคิดว่าถ้าเราได้ยินไม่ผิด ราคานี้ก็แพงมากนะ แต่เอาเถอะ อยากรีบกลับไม่อยากต่อล้อต่อเถียง ถ้าราคานี้จริงๆก็จะจ่าย รู้อยู่แล้วว่าต้องโดนชาร์จ แต่พอฟังคำตอบพี่วินอีกครั้งเท่านั้นล่ะ แทบลมจับ
"หกร้อยเจ็ดสิบห้าบาทครับ"
"ฮะ!!!! อะไรพี่ 675 เลยเหรอ อะไรมันจะแพงขนาดนี้อ่ะ"
"ก็ราคานี้แหละน้อง ใครๆเขาก็วิ่งราคานี้กัน"
"ปกติหนูนั่งจากบชน.มาที่นี่แค่ 60 เองนะ"
"ก็ตอนนี้มันไม่ปกติไงน้อง พี่ก็ไม่ได้วิ่งแถวนั้นประจำ มาจากวินอื่น ตอนนี้ไม่มีใครอยากวิ่งแถวนั้นหรอก มันมีม็อบ"
"งั้นพี่ช่วยแจงให้ฟังหน่อยได้มั้ยคะว่าไอ้หกร้อยกว่าบาทที่พี่ว่าเนี่ย มันค่าอะไรบ้าง ถ้ามันสมเหตุสมผลหนูจะจ่ายให้"
พี่วินก็อ้ำๆอึ้งๆแล้วก็บอกว่า
"น้องจะอะไรนักหนาเนี่ย พี่ต้องไปจอดรอน้องอีก แล้วสถานการณ์แบบนี้อีก มันก็ราคานี้แหละ"
"พี่ทำไมทำน่าเกลียดแบบนี้อ่ะ ทำไมเอาช่วงสถานการณ์บ้านเมืองที่มันแย่อยู่แล้วมาเป็นข้ออ้างในการหากินเบียดเบียนคนอื่นด้วย ทุกคนก็ต้องทำมาหากินเหมือนกัน พี่ทำแบบนี้มันขูดเลือดกันชัดๆเลยนะ (ตอนพูดนี่เราเกือบร้องไห้แล้วค่ะ โกรธมาก)
"น้อง พี่รีบกลับแล้ว พี่คิด 600 ละกัน"
เรายิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก ยังจะมีหน้ามาต่ออีก
ในช่วงนั้นเราพยายามมองหาตำรวจอยู่ตลอด เผื่อว่าคุณตำรวจจะเข้ามาช่วยอะไรได้บ้าง แต่หันไปทางไหนก็ไม่มี คิดว่าคงต้องพึ่งตัวเอง
"หนูให้ได้แค่ 300 พี่จะเอารึไม่เอา ทั้งกระเป๋าหนูมีอยู่แค่นี้(แบกระเป๋าให้ดูด้วยนะ) ขาไป 100 ค่ารอ 100 ขากลับ 100 พี่จะเอารึไม่เอา"
พี่วินทำท่าไม่เชื่อค่ะว่าเรามีเงินอยู่แค่นั้นจริงๆ แล้วก็พยายามต่อรองลงมาเหลือสี่ร้อย เราก็บอกว่าเราจ่ายให้ได้แค่นี้ สรุปคือพี่วินคนนั้นได้เงินจากเราไป 300 บาท แล้วก็รีบขับมอเตอร์ไซค์ไปเลย พอคล้อยหลังพี่วินคนนั้น  ก็มีพี่วินแถวนั้นเดินเข้ามาหาเราแล้วถามว่า
"มันเรียกน้องเท่าไร"
"675 ค่ะพี่"
"โห แล้วน้องไปจ่ายมันทำไม ไปยอมมันทำไม"
ตอนนั้นในใจคิดเลย 'ทำไมพี่เพิ่งเดินเข้ามา หนูเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆตัวคนเดียวที่โดนผู้ชายร่างถึกขูดรีดอยู่ หนูกลัว หนูต้องการความช่วยเหลือ ทำไมพี่เพิ่งเข้ามา' ตอนนั้นน้ำตาคลอแล้วค่ะ ทั้งโกรธตัวเองที่ไปยอมจ่าย โกรธที่ไม่รอบคอบถามราคาให้ดีก่อน โกรธพี่วินร่างถึกคนนั้นที่เอาเปรียบกันได้ลงคอ เราเลยเดินจากพี่วินคนที่เข้ามาถามโดยที่ไม่พูดอะไรต่อเลย  ประสบการณ์ครั้งนั้นทำให้เรารอบคอบมากขึ้นมากๆเลยค่ะ ต่อมาเวลาจะใช้บริการวินไปที่ไหน เนาต้องถามราคาก่อนทุกครั้ง วินไหนราคาแพงไม่ตรงตามราคาป้าย เรียกเก็บเกินราคาปกติที่เราเคยจ่ายเราก็ไม่ขึ้นเลยค่ะ ยอมเดินหรือหาทางอื่นเอา  จริงๆตอนเกิดเรื่องอยากจะมาตั้งกระทู้แบ่งปันประสบการณ์เหมือนกัน แต่ช่วงนั้นยุ่งๆเลยลืมไปเลย พอจขกท.มาตั้งกระทู้เลยได้โอกาสเข้ามาบ่นเลย  ให้กำลังเจ้าของกระทู้นะคะ เจอเรื่องแบบนี้ต่อไปจะได้ระวังมากขึ้น ^^
ความคิดเห็นที่ 22
1500 ผมบิดมอไซค์ไปเอง ได้ถึงเชียงใหม่ได้เลยนะนั่น เงินยังเหลือกิน mk ได้อีกมื้อ
ความคิดเห็นที่ 38
ในยามที่สังคมต้องคอยช่วยเหลือพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน กลับเจอเรื่องร้ายๆ
ถ้าเจอวินลักษณะนี้ ... บอกว่า จะไปทำธุระที่ข้าง สน. (เดี๋ยวให้เพิ่ม และให้ วิน รอหน้า สน.)
จากนั้น เดินเข้า ห้อง พนง.สอบสวน แจ้งว่าเจออะไรมาบ้าง?

เดี๋ยว ตร.จะเจรจากับ คนขี่วินคนนั้นให้เอง (ณ ตอนนี้ยังเชื่อว่า ตร.ยังคงเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อยู่)

หรือ ถ้าเร่งด่วนจริงๆ ยอมจ่ายไปก่อน จดจำหน้าตา ลักษณะรูปพรรณ ยานพาหนะที่ใช้ ทะเบียนรถ (เป็นไปได้ถ่ายรูปคนขี่ไว้)
และค่อยมาแจ้งความกับ ตร.ในท้องที่นั้นที่หลัง

ประชาสัมพันธ์ข้อมูลแจ้งเตือน ลงสื่อออนไลน์

เหตุการณ์นี้ เป็นการกระทำที่ค่อนข้างเลวและเอาเปรียบผู้บริโภค/คนไทยด้วยกัน อย่างร้ายแรง
ควรหาทางด้วยกันกำจัดพฤติกรรมนี้ให้หมดสิ้น และไม่สมควรที่จะต้องปกป้องแต่ประการใด
ความคิดเห็นที่ 10
วินตรงจตุจักร เค้าขึ้นชื่อเรื่องการขูดค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่