เรื่องเกิดคืนเคอร์ฟิว

สวัสดีค่ะ เรื่องที่จะนำมาเล่านี้เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 พ.ค. ที่มีการเคอร์ฟิว
โดยที่ทุกๆคน จะรีบกลับบ้านก่อน 4 ทุ่ม
ในปกติทุกๆอาทิตย์ จขกท. จะขายของที่ตลาดนัด เพื่อหารายได้เสริมค่ะ หยุดเรียนด้วย ^^
นั้นคือวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ โดยจะเก็บร้านประมาณ 2 ทุ่มค่ะ สบายใจได้ค่ะเพราะถึงบ้านก่อน 4 ทุ่มแน่นอน


เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จขกท. เก็บร้านและเตรียมกลับบ้านเมื่อทุกครั้ง
คุณแม่ก็วนรถมอเตอร์ไซด์มารับกลับบ้านตามปกติ
วันนี้น้องสาวอายุ 3 ขวบ มาช่วยขายของด้วยค่ะ
พอขึ้นรถมอเตอร์ไซด์ก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ จึงลงจากรถสำรวจความเรียบร้อย
พบว่ายางหลังแตก ตายละหว่า เวลาประมาณ 2 ทุ่มครึ่งจะมีร้านปะยางเปิดไหมนิ
จขกท. จึงอาสาเดินไปถามวินมอไซด์ถึงร้านปะยาง และให้คุณแม่ขับบดยางมาคนเดียว เพราะจะได้ไม่เพิ่มน้ำหนักให้รถมาก
เดินอุ้มน้องสาวมาถามวินมอไซด์เรื่องร้านปะยาง วินมอไซด์ก็บอกมาค่ะว่าร้านอยู่ตรงไหน
เราจึงพยายามขับรถไปตามที่พี่วินบอก ตลาดที่มาขายค่อนข้างไกลจากบ้าน จึงไม่คุ้นเคยเรื่องร้านรอบๆตลาดเลยค่ะ


พอไปถึงปรากฎว่าร้านปิดแล้วค่ะ คนแถวนั้นก็บอกว่า ไปปั๊มข้างหน้าสิ ลองเติมลมยางไป เผื่อจะขับได้ถึงบ้าน
เราก็ทำตามค่ะ ขับบดไป แต่เติมไม่เข้า ที่นี้คนขับแท๊กซี่แถวนั้นก็บอกว่า ถ้ามันลมหมดขนาดนี้เติมก็เติมไม่เข้าหรอก

ป้าดดด ยางแตกว่าซวยแล้ว แตกเวลากลางคืนที่ร้านปิดนี่ซวยกว่า และยางแตกในคืนที่มีเคอร์ฟิวยิ่งซวยสุดๆ

เราจึงค่อยๆขับบดๆไปค่ะ ขับค่อนข้างช้ามากๆเลยที่เดียว (เร็วกว่าเดินนิดนึง) พอขับบดๆไปถึงที่ชุมชนใหญ่ ก็แวะถามวินอีกครั้งว่าแถวนี้มีร้านปะยางไหม

แต่วินมอไซด์หัวเราะค่ะ "นี่เจ้ ตอนนี้เขาก็ปิดกันหมดแล้ว 555"
เราก็คิดในใจว่า ไม่อยากให้ยางแตกตอนนี้น้าาา ถ้าเลือกได้ ฮือๆๆๆ
โชคดียังมีคนดีมีน้ำใจ บอกว่าข้างหน้ามีปั๊มรับปะยางอยู่ ลองไปดูนะ

ด้วยความหวังอีกครั้งเราจึงขับบดๆไป
พอไปถึงปั๊ม ด้วยความหวัง เดินเข้าไป ใจเต้นตึกๆๆๆ
.
.
ปิดค่ะ

.
เอิ่ม ก็เริ่มคิดต่อค่ะ ว่าจะทำยังไงดี
ขับอย่างนี้ต่อไปไม่ถึงบ้านแน่
ทางกลับบ้านก็เปลี่ยวมาก น่ากลัวสุดๆ
จะออกถนนใหญ่ ก็กลัวจะเลยเวลา 4 ทุ่ม
รู้สึกได้ถึงความซวยซับซวยซ้อน ซวยซ่อนเงื่อน

เราจึงขับบดไปต่อด้วยความหวังที่ริบหรี่
ข้างหน้าเป็นสี่แยกไฟแดง เราก็จอดติดไฟตามปกติ (คุณแม่ขับนะคะ ขอใช้คำว่าเราน้า)
พอไฟเขียว เราก็ค่อยๆ ขับข้างทาง แต่มันต้องขับช้าจริงๆ เพราะว่าขับบดมาไกล และยางเริ่มปัดๆ แล้ว
เราก็พยายามขับเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่รถเก๋งข้างหลังเขาคงไม่เข้าใจ บีบแตรไล่ ขับจี้ตูด พอแซงได้ก็มองหน้าเหมือนจะกินหัวกัน
เราน้ำตาจะไหลเลยค่ะ เพราะไม่ได้ตั้งใจจะขับช้า
แต่รถเรามีปัญหาจริงๆ เราก็เข้าใจนะ ว่าจะ 4 ทุ่มเขาคงรีบกลับบ้าน แต่ถ้าเป็นไปได้เราก็อยากให้เขาใจเย็น เพราะว่าไม่เกิน 3 นาที เราก็คงค่อยๆบดพ้นทางคุณแล้ว
ผู้หญิง 2 คนและเด็กตัวเล็กๆ 1 คนกำลังประสบปัญหาที่ซวยซับซ้อน คนอะไรจะซวยได้ขนาดนี้
สงสัยกรรมตามสนองพร้อมกันพอดี 55
ไม่รู้จะแก้ปัญหายังไงดี เพราะว่า ถ้าบดถึงบ้านยางไม่ไหวแน่ แถมทางก็เปลี่ยวมาก

แต่ยังโชคดีค่ะ ขับไปอีกนิดถึงบ้านคนรู้จัก จึงฝากมอไซด์เขาไว้แล้วโบกแท๊กซี่กลับบ้านค่ะ
ดีที่ทัน 4 ทุ่ม

เรื่องนี้เครียดไปไหมคะ แค่อยากแชร์ประสบการณ์ค่า
ปล. อยากเตือนสาวๆในการใช้รถใช้ถนนค่ะ ว่าเราควรจะรู้วิธีแก้ไขเบื้องต้นบ้าง ไม่ใช่เหมือนเค้านะ เคว้งคว้างมากกกกกก
ปล. 2 ขับรถกันใจเย็นๆนิดนึงนะคะ บางทีก็อยากขับเร็วๆเพื่อเปิดทางให้ค่า แต่มันมีปัญหาจริงๆ อย่าให้อารมณ์เป็นใหญ่เลยนะคะ

ขอบคุณที่อ่านเรื่องที่เรามาระบายค่ะ ^___^
ตอนนี้ซ่อมรถเรียบร้อยแล้วค่ะ แล้วก็ตลกความซวยของตัวเอง จึงอยากนำมาแชร์เฉยๆค่ะ ;)


แท๊กผิดขออภัยนะคะ พยายามแล้ว ^^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่