ก่อนเกมแชมเปี้ยนส์ ลีกนัดชิงชนะเลิศเมื่อคืนนี้ ติอาโก้เปรียบเปรยดีเอโก้ ซิเมโอเน่เทรนเนอร์คนเก่งของแอตเลติโก มาดริดว่าเป็นพระเจ้า "ทุกอย่างที่เขาพูดกลายเป็นจริง"คือสิ่งที่มิดฟิลด์ชาวโปรตุกีสบอก โชคไม่ดีที่มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นตลอดรอดฝั่ง นายใหญ่ชาวอาร์เจนไตน์ไม่ใช่ผู้ที่ผิดพลาดไม่เป็นและเกมเมื่อวานนี้ก็พิสูจน์แล้วอย่างเจ็บปวด

บางคนอาจเข้าใจได้ถึงการตัดสินใจเสี่ยงส่งดีเอโก้ คอสต้าลงเล่นที่ลิสบอน ดาวเตะทีมชาติสเปนเป็นดาวซัลโวของทีมและเป็นแนวรุกที่สำคัญที่สุด ดังนั้นซิเมโอเน่จึงอยากให้เขาลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างมาก เขาถูกส่งไปเบลเกรดในสัปดาห์นี้เพื่อเข้ารับการรักษาด้วยรกม้า เมื่อชื่อของคอสต้าปรากฎในรายชื่อนัดชิง มันก็เหมือนราวกับว่าซิเมโอเน่ได้สร้างปาฏิหารย์ขึ้นอีกครั้งแล้ว อย่างไรก็ตามการเลือกดังกล่าวเป็นการเดิมพันที่ได้ผลตรงกันข้าม

ความคิดอาจเป็นว่ามันคงจะดีกว่าในการเสี่ยงส่งคอสต้าลงเป็นตัวจริงเพราะหากเขาได้รับบาดเจ็บ อย่างน้อยแอตเลติโกก็สามารถเปลี่ยนนักเตะลงไปแทนที่เขาได้ ในทางตรงกันข้ามหากใช้คอสต้าเป็นตัวสำรองเปลี่ยนลงสนามไปในช่วงใกล้หมดเวลา พวกเขาอาจเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนหากอาการบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายของเขากำเริบขึ้นมาอีก

อย่างไรก็ตามการลงสนามของคอสต้าก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด หาไม่แล้วอาจเป็นแผนการเล่นที่ไร้ที่ติอีกครั้งของซิเมโอเน่ ดาวเตะวัย 25 ปีลงเล่นได้เพียง 8 นาทีกับอีก 50 วินาทีก่อนถูกเปลี่ยนตัวออก

หลังจากนั้นมันดูเหมือนว่าแอตเลติโกจะรับมือได้แม้ไร้นักเตะคนสำคัญรายนี้เหมือนอย่างที่พวกเขาทำได้ในการคว้าแชมป์ลา ลีกาในการเสมอกับบาร์เซโลน่าเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

แอตเลติโกได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจากดีเอโก้ โกดินเพียง 9 นาทีก่อนหมดครึ่งเวลาแรกและดูเหมือนไม่น่าจะโดนตามตีเสมอได้เลย พวกเขาหยุดยั้งมาดริดซึ่งเป็นหนึ่งในทีมที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์เอาไว้ได้จากโอกาสที่มีอยู่เล็กน้อย โอกาสทำประตูที่จะแจ้งเพียงครั้งเดียวจากการจ่ายบอลผิดพลาดของติอาโก้

แม้แต่การตัดฟาวล์ของแอตเลติโกก็เป็นการเล่นอย่างชาญฉลาด ทั้งราอูล การ์เซียและมิรานด้าถูกใบเหลืองจากการทำฟาวน์ดิ มาเรียที่กำลังจะเข้าไปทำประตูแต่นั่นก็สมเหตุสมผลแล้ว

ท้ายที่สุดพวกเขาเหลืออีกเพียง 90 วินาทีก็จะเป็นแชมป์ยุโรปสมัยแรกและเพียง 7 วันหลังจากที่คว้าแชมป์ลา ลีกาได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1996 อย่างไรก็ตามแซร์คิโอ รามอสก็มาทำประตูตามตีเสมอให้มาดริดก่อนหมดเวลาปกติ

มาตรงถึงจุดนี้แอตเลติโกได้ใช้โควต้าเปลี่ยนตัวไปครบแล้ว ทีมเล็กที่ประกอบด้วยค่าตัวรวมกันเพียง 79.05 ล้านยูโรเมื่อเปรียบเทียบกับมาดริดที่มีมูล 521.9 ล้านยูโรก็ทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว ฆวนฟรานแข้งขาเหนื่อยอ่อนและมันไม่น่าประหลาดใจเลยที่แข้งขาที่อ่อนแรงของเขาจะนำมาซึ่งประตูที่ 2 และ 3 ที่จริงแล้วความแตกต่างระหว่างทั้ง 2 ทีมถูกตัดสินใจด้วยนักเตะตัวสำรองคนหนึ่งของมาดริดนั่นก็คือมาร์เซโล่ที่ผ่านแผงมิดฟิลด์ของแอตเลติโกขึ้นไปทำประตูที่จบฆ่าเกมนี้

ไม่มีอะไรสมควรจะถูกพรากไปจากความสำเร็จของแอตเลติโกในฤดูกาลนี้ได้ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมความล้มเหลวที่หลายคนคาดการณ์ไว้เป็นเรื่องยากที่จะยอมรับเมื่อมันเกิดขึ้นจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับซิเมโอเน่ที่มีส่วนโดยตรงกับความล้มเหลวนี้

"ผมต้องขอขอบคุณบรรดามารดาของนักเตะที่ให้กำลังผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้"กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ให้สัมภาษณ์หลังความสำเร็จเหนือเชลซีในรอบรองชนะเลิศ นี่คือโค้ชที่ต่อสู้อย่างกล้าหาญเหนือสิ่งอื่นใด

อย่างไรก็ตามก็เหมือนอย่างที่มีคนบอกว่ามันมีเส้นบางๆระหว่างความกล้าหาญกับความเขลา โชคไม่ดีที่เขาก้าวข้ามมันโดยเลือกที่จะใช้นักเตะที่ไม่ฟิตอย่างคอสต้าเมื่อคืนนี้ เขาเองก็รู้ถึงเรื่องนั้น เขาอารมณ์เสียอย่างชัดเจนจากสิ่งที่ราฟาเอล วารานได้ดีในไม่กี่วินาทีสุดท้ายแต่ซิเมโอเน่ต้องหัวเสียมากกว่ากับตัวเองจากความผิดหวังที่เขาได้ทำก่อนหน้าตอนที่เลือกนักเตะลงสนาม

ปล. แปลจากบทความของมาร์ค ดอยล์นักข่าวของโกล

http://www.goal.com/en-us/news/174/uefa-champions-league/2014/05/24/4838814/diego-costa-gamble-costs-simeone-as-atletico-suffers

แปลโดย http://www.soccersuck.com/boards/topic/1062752