หนึ่งวัน ..กับ ป้าพนอจัน และ เรื่องราวดีๆ .....แชร์ประสบการณ์ ได้ร่วมงานถ่ายภาพกิโมโนที่ญี่ปุ่น กับป้าพนอจัน
รู้สึกดีใจมากๆ ที่ได้รับโอกาสให้ไปบันทึกภาพให้กับผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่ง ... ใครๆ ในพันทิพ หรือ ในเฟสบุค ต่างก็รู้จักกันในนามว่า “ป้าพนอจัน” น้อยคนนักที่จะรู้ว่าจริง ๆ แล้วคุณป้าไม่ได้ชื่อว่า พนอจัน เพียงแต่ใช้เป็นนามแฝงในโลกไซเบอร์เท่านั้น คุณป้ามีชื่อเล่นว่า “ป้าต้อย” สำหรับส่วนตัวครั้งแรกที่ได้รู้จักคุณป้า ก็เริ่มจากการค้นหาเรื่องราวเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ในอินเตอร์เน็ต ก็ได้พบกับบล็อกที่คุณป้าเขียนเอาไว้ ซึ่งมีหลากหลายเรื่องที่เป็นประโยชน์มากมายกับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องกิน เรื่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น ไม่เพียงแต่เรื่องกินเรื่องเที่ยวเท่านั้น คุณป้ายังคงให้แง่คิดต่างๆ เกี่ยวกับการดำรงชีวิต อีกทั้งยังได้รับรู้เรื่องราวในชีวิตประจำวันของคุณป้า และเรื่องราวความรักของ คุณป้ากับคุณลุง ที่เราต่างก็รู้จักกันในนามว่า “คุณลุงสาหร่าย” ซึ่งยิ่งทำให้เรารู้สึกประทับใจในความรัก ความผูกพันธ์ที่คุณป้าและคุณลุงมีให้กันเป็นอย่างมาก อย่างนี้สินะที่เค้าเรียกว่า “คู่ชีวิต”
เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเดือนที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกต่างก็มุ่งตรงสู่นครโตเกียว (ไม่เพียงแค่นครโตเกียวเท่านั้น ยังรวมถึงอีกหลายๆ เมืองในญี่ปุ่นด้วย) เนื่องจากเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวหลายๆ คนต่างก็วางแผนเดินทางมายังประเทศญี่ปุ่นเพื่อที่จะชื่นชมความงามของดอกซากุระ ซึ่งมักจะบานในช่วงปลายเดือนมีนาคม - ต้นเดือนเมษายน ของทุกปีขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในปีนั้นๆ และแน่นอนสถานที่สำหรับการชมซากุระในโตเกียว นอกจาก สวนUeno ,ย่านKudanshita ,ย่านNakamekuro ,สวน Inokashira แล้วยังมีอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาด นั่นก็คือ วัดเซนโซจิ หรือ วัดอาซากุสะ (วัดโคมแดง) ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วงซากุระที่จะมีความงดงามเท่านั้น ช่วงฤดูอื่นๆที่วัดนี้ก็มักจะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนผ่านเข้ามาเพื่อเคารพสักการะ เจ้าแม่กวนอิม องค์ทองที่จัดได้ว่าเล็กที่สุดในโลกซึ่งมีขนาดเพียง 5cm. ซึ่งบริษัททัวร์ หลายๆ ที่ได้บอกเล่าว่าที่วัดแห่งนี้มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมากโดยเฉพาะใบเซียมซี ถ้ามีโอกาสไม่ควรพลาดที่จะไปเคารพสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล อีกทั้งยังได้รับคำยืนยันจากหลายๆ ท่านรอบตัวว่ามีความศักดิ์สิทธิ์จริง ขอพรอะไรสำเร็จเกือบทุกครั้ง รวมถึงคำบอกเล่าของคุณป้าพนอจันเช่นกัน ขอวกกลับมาเล่าเรื่องเดิมว่า ทำไมถึงได้รับโอกาสมาถ่ายภาพให้คุณป้า .... วันหนึ่งเห็นคุณป้าโพสท์ภาพในเฟสบุค เป็นภาพของสาวๆนักท่องเที่ยวชาวไทยสวมใส่ชุดกิโมโน เดินเล่นภายในวัดอาซากุสะ แล้วคุณป้าโพสท์ว่า “อยากใส่แบบนี้บ้างจัง” เมื่อเราได้อ่านข้อความดังกล่าวก็เกิดปิ๊งไอเดียว่า ในเมื่อเราเป็นช่างภาพ ชอบถ่ายภาพ ชอบทำงานกับความรัก ชอบเห็นคนมีความสุข แล้วทำไมเราไม่ไปขอโอกาสนี้สานความฝันให้คุณป้าบ้าง ในเมื่อเราก็อยู่โตเกียว เราอาศัยข้อมูลการท่องเที่ยวของคุณป้ามาก็นาน น่าจะถึงเวลาที่ได้ตอบแทนคุณป้าซะที
...เอาละ ครั้งนี้ก็น่าจะเป็นโอกาสที่ดีในการขออนุญาติถ่ายภาพให้คุณป้าซักครั้ง แล้วยังเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับเราด้วย ก็เลยรวบรวมความกล้าติดต่อคุณป้าทันที หลังจากได้รับคำตอบตกลงจากคุณป้า...มันทำให้เราดีใจอย่างบอกไม่ถูก ตื่นเต้นเป็นที่สุด และดูเหมือนซากุระ ท้องฟ้า แสงแดด และอากาศจะเป็นใจไปซะจริงๆ อีกทั้งน้ำเสียงที่คุณป้ากล่าวทิ้งท้ายกับเราว่า “ผู้ใหญ่ก็มีหัวใจนะหนู ขอบคุณมากๆนะคะที่จะมาถ่ายภาพให้ป้า” มันยิ่งทำให้เรามีความสุขอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ และแล้ววันบันทึกภาพก็มาถึง เรานัดกับคุณป้าเวลา 11.00 น. บริเวณหน้าวัดอาซากุสะ ซึ่งในวันนั้นคุณลุงสาหร่ายขอตามมาด้วยเนื่องจาก คุณลุงไม่เชื่อว่าคุณป้าจะมาเป็นแบบให้เราถ่ายภาพจริงๆ คิดว่าคุณป้าล้อเล่น วันนั้นเราก็ได้เจอทั้งคุณลุงและคุณป้าแบบตัวเป็น ๆ ซะที หลังจากที่ติดตามความเคลื่อนไหวและเรื่องราวต่างๆ ของคุณป้าผ่านทางโลกไซเบอร์ และแล้วคุณป้าก็ไปแปลงโฉมเป็นสาวญี่ปุ่นแต่งกายชุดกิโมโนสีชมพูม่วงอ่อนๆ สมดังความตั้งใจ หลังจากที่คุณป้าแปลงโฉมเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ครั้งแรกที่คุณลุงได้เห็นคุณป้าในชุดกิโมโน ถึงกลับร้อง Wow แววตาของคุณลุงที่มองมายังคุณป้า เสมือนหนึ่งว่า ชายหนุ่มเพิ่งตกหลุมรักหญิงสาวเมื่อแรกเห็น มันช่างเป็นภาพที่ประทับใจจริง ๆ เข้าใจเลยว่า “ผู้ใหญ่ก็มีหัวใจนะหนู” ความรู้สึกมันเป็นอย่างนี้นี่เอง
งานถ่ายภาพกับความรักของเราไม่เพียงแต่เก็บบันทึกเรื่องราวความรักของวัยหนุ่มสาวเท่านั้น ความรักของรุ่นใหญ่เค้าก็โรแมนติกไม่แพ้ใครเหมือนกัน ปกติคนญี่ปุ่นเค้าจะเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกในที่สาธารณะชน ยิ่งเป็นคนรุ่นเก่าๆ ด้วยแล้ว ยากนักที่จะได้เห็นการแสดงความรู้สึกเช่นนั้นออกมา ตลอดการถ่ายภาพ คุณลุงจะคอยสอบถาม ดูแลความเรียบร้อยคอยจัดท่าให้กับคุณป้าเวลานั่ง คอยประคองเวลาเดินขึ้นลงบันได และคอยเป็นห่วงเป็นใยไถ่ถามคุณป้าเสมอ ทั้งๆ ที่คุณลุงเองสุขภาพก็เพิ่งจะกลับมาแข็งแรงเมื่อไม่นานมานี้ เราในฐานะช่างภาพเห็นความรัก ความห่วงใยของคู่รักรุ่นใหญ่แล้วยังอดอิจฉาไม่ได้เลย ...
“จะมีซักกี่อ้อมกอด ที่อบอุ่น เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความเอาใจใส่ นอกจากพ่อแม่ผู้เป็นที่รักแล้ว ...ก็คงจะเป็นอ้อมกอดของผู้ชายคนนี้สินะ ที่พร้อมจะดูแล และปกป้องเธออันเป็นที่รักตลอดไป”
...ในเมื่อคนหนึ่งชอบถ่าย กับอีกคนหนึ่งชอบถูกถ่าย (แม้ในหลายๆ ครั้งอาจจะต้องถ่ายด้วยตัวเองบ่อยๆ ก็ตาม)
คงเป็นพหรมลิขิตสินะ ที่ทำให้เราได้มาพบ มาเจอกับมิตรภาพดีดี เราขอบคุณทุกๆคำพูด ทุกๆเวลา และทุกๆโอกาส ที่คุณป้ามีให้เราเสมอๆ คงไม่มีอะไรสนุก และมีความสุขไปกว่าการได้ทำสิ่งที่ตัวเองรัก ทำงานกับความรัก และมีความสุขในทุกๆวัน ..อย่างคำที่คุณป้าบอก “ถ้าเรามีความสุข ใจเราสุข แววตา ความรู้สึกและการกระทำที่แสดงออกมามันจะแสดงออกให้เห็นว่าเราสุข และคนรอบข้างเราก็จะรับรู้ถึงความสุขของเราไปด้วย ป้าชอบดูภาพถ่าย ป้าดูรูปที่ป้าถ่ายทุกวัน มีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็น เพราะป้าไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดในอนาคต ถ้าเกิดวันหนึ่งเราเกิดลุกไม่ไหว อย่างน้อยเราก็ยังได้ดูรูปถ่าย รูปที่บันทึกทุกความทรงจำ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว”
どうもありがとうございます。(^-^)
ปล.ติดตามภาพถ่ายบันทึกความทรงจำดีดี ได้ที่ Tokyo love studio
https://www.facebook.com/tokyolovestudio
เครดิต : เรื่องราวจริงที่เกิดขึ้นและบางคำกล่าวจริง จาก ป้าพนอจัน (ได้ทำการขออนุญาติเขียนเล่าเรื่องความประทับใจที่เกิดขึ้นจากป้าพนอจันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว)
หนึ่งวัน ..กับ ป้าพนอจัน และ เรื่องราวดีๆ (แชร์ประสบการณ์ได้ร่วมงานถ่ายภาพกับป้าพนอจันที่ญี่ปุ่น)
รู้สึกดีใจมากๆ ที่ได้รับโอกาสให้ไปบันทึกภาพให้กับผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่ง ... ใครๆ ในพันทิพ หรือ ในเฟสบุค ต่างก็รู้จักกันในนามว่า “ป้าพนอจัน” น้อยคนนักที่จะรู้ว่าจริง ๆ แล้วคุณป้าไม่ได้ชื่อว่า พนอจัน เพียงแต่ใช้เป็นนามแฝงในโลกไซเบอร์เท่านั้น คุณป้ามีชื่อเล่นว่า “ป้าต้อย” สำหรับส่วนตัวครั้งแรกที่ได้รู้จักคุณป้า ก็เริ่มจากการค้นหาเรื่องราวเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ในอินเตอร์เน็ต ก็ได้พบกับบล็อกที่คุณป้าเขียนเอาไว้ ซึ่งมีหลากหลายเรื่องที่เป็นประโยชน์มากมายกับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องกิน เรื่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น ไม่เพียงแต่เรื่องกินเรื่องเที่ยวเท่านั้น คุณป้ายังคงให้แง่คิดต่างๆ เกี่ยวกับการดำรงชีวิต อีกทั้งยังได้รับรู้เรื่องราวในชีวิตประจำวันของคุณป้า และเรื่องราวความรักของ คุณป้ากับคุณลุง ที่เราต่างก็รู้จักกันในนามว่า “คุณลุงสาหร่าย” ซึ่งยิ่งทำให้เรารู้สึกประทับใจในความรัก ความผูกพันธ์ที่คุณป้าและคุณลุงมีให้กันเป็นอย่างมาก อย่างนี้สินะที่เค้าเรียกว่า “คู่ชีวิต”
เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเดือนที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกต่างก็มุ่งตรงสู่นครโตเกียว (ไม่เพียงแค่นครโตเกียวเท่านั้น ยังรวมถึงอีกหลายๆ เมืองในญี่ปุ่นด้วย) เนื่องจากเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวหลายๆ คนต่างก็วางแผนเดินทางมายังประเทศญี่ปุ่นเพื่อที่จะชื่นชมความงามของดอกซากุระ ซึ่งมักจะบานในช่วงปลายเดือนมีนาคม - ต้นเดือนเมษายน ของทุกปีขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในปีนั้นๆ และแน่นอนสถานที่สำหรับการชมซากุระในโตเกียว นอกจาก สวนUeno ,ย่านKudanshita ,ย่านNakamekuro ,สวน Inokashira แล้วยังมีอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาด นั่นก็คือ วัดเซนโซจิ หรือ วัดอาซากุสะ (วัดโคมแดง) ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วงซากุระที่จะมีความงดงามเท่านั้น ช่วงฤดูอื่นๆที่วัดนี้ก็มักจะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนผ่านเข้ามาเพื่อเคารพสักการะ เจ้าแม่กวนอิม องค์ทองที่จัดได้ว่าเล็กที่สุดในโลกซึ่งมีขนาดเพียง 5cm. ซึ่งบริษัททัวร์ หลายๆ ที่ได้บอกเล่าว่าที่วัดแห่งนี้มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมากโดยเฉพาะใบเซียมซี ถ้ามีโอกาสไม่ควรพลาดที่จะไปเคารพสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล อีกทั้งยังได้รับคำยืนยันจากหลายๆ ท่านรอบตัวว่ามีความศักดิ์สิทธิ์จริง ขอพรอะไรสำเร็จเกือบทุกครั้ง รวมถึงคำบอกเล่าของคุณป้าพนอจันเช่นกัน ขอวกกลับมาเล่าเรื่องเดิมว่า ทำไมถึงได้รับโอกาสมาถ่ายภาพให้คุณป้า .... วันหนึ่งเห็นคุณป้าโพสท์ภาพในเฟสบุค เป็นภาพของสาวๆนักท่องเที่ยวชาวไทยสวมใส่ชุดกิโมโน เดินเล่นภายในวัดอาซากุสะ แล้วคุณป้าโพสท์ว่า “อยากใส่แบบนี้บ้างจัง” เมื่อเราได้อ่านข้อความดังกล่าวก็เกิดปิ๊งไอเดียว่า ในเมื่อเราเป็นช่างภาพ ชอบถ่ายภาพ ชอบทำงานกับความรัก ชอบเห็นคนมีความสุข แล้วทำไมเราไม่ไปขอโอกาสนี้สานความฝันให้คุณป้าบ้าง ในเมื่อเราก็อยู่โตเกียว เราอาศัยข้อมูลการท่องเที่ยวของคุณป้ามาก็นาน น่าจะถึงเวลาที่ได้ตอบแทนคุณป้าซะที
...เอาละ ครั้งนี้ก็น่าจะเป็นโอกาสที่ดีในการขออนุญาติถ่ายภาพให้คุณป้าซักครั้ง แล้วยังเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับเราด้วย ก็เลยรวบรวมความกล้าติดต่อคุณป้าทันที หลังจากได้รับคำตอบตกลงจากคุณป้า...มันทำให้เราดีใจอย่างบอกไม่ถูก ตื่นเต้นเป็นที่สุด และดูเหมือนซากุระ ท้องฟ้า แสงแดด และอากาศจะเป็นใจไปซะจริงๆ อีกทั้งน้ำเสียงที่คุณป้ากล่าวทิ้งท้ายกับเราว่า “ผู้ใหญ่ก็มีหัวใจนะหนู ขอบคุณมากๆนะคะที่จะมาถ่ายภาพให้ป้า” มันยิ่งทำให้เรามีความสุขอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ และแล้ววันบันทึกภาพก็มาถึง เรานัดกับคุณป้าเวลา 11.00 น. บริเวณหน้าวัดอาซากุสะ ซึ่งในวันนั้นคุณลุงสาหร่ายขอตามมาด้วยเนื่องจาก คุณลุงไม่เชื่อว่าคุณป้าจะมาเป็นแบบให้เราถ่ายภาพจริงๆ คิดว่าคุณป้าล้อเล่น วันนั้นเราก็ได้เจอทั้งคุณลุงและคุณป้าแบบตัวเป็น ๆ ซะที หลังจากที่ติดตามความเคลื่อนไหวและเรื่องราวต่างๆ ของคุณป้าผ่านทางโลกไซเบอร์ และแล้วคุณป้าก็ไปแปลงโฉมเป็นสาวญี่ปุ่นแต่งกายชุดกิโมโนสีชมพูม่วงอ่อนๆ สมดังความตั้งใจ หลังจากที่คุณป้าแปลงโฉมเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ครั้งแรกที่คุณลุงได้เห็นคุณป้าในชุดกิโมโน ถึงกลับร้อง Wow แววตาของคุณลุงที่มองมายังคุณป้า เสมือนหนึ่งว่า ชายหนุ่มเพิ่งตกหลุมรักหญิงสาวเมื่อแรกเห็น มันช่างเป็นภาพที่ประทับใจจริง ๆ เข้าใจเลยว่า “ผู้ใหญ่ก็มีหัวใจนะหนู” ความรู้สึกมันเป็นอย่างนี้นี่เอง
งานถ่ายภาพกับความรักของเราไม่เพียงแต่เก็บบันทึกเรื่องราวความรักของวัยหนุ่มสาวเท่านั้น ความรักของรุ่นใหญ่เค้าก็โรแมนติกไม่แพ้ใครเหมือนกัน ปกติคนญี่ปุ่นเค้าจะเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกในที่สาธารณะชน ยิ่งเป็นคนรุ่นเก่าๆ ด้วยแล้ว ยากนักที่จะได้เห็นการแสดงความรู้สึกเช่นนั้นออกมา ตลอดการถ่ายภาพ คุณลุงจะคอยสอบถาม ดูแลความเรียบร้อยคอยจัดท่าให้กับคุณป้าเวลานั่ง คอยประคองเวลาเดินขึ้นลงบันได และคอยเป็นห่วงเป็นใยไถ่ถามคุณป้าเสมอ ทั้งๆ ที่คุณลุงเองสุขภาพก็เพิ่งจะกลับมาแข็งแรงเมื่อไม่นานมานี้ เราในฐานะช่างภาพเห็นความรัก ความห่วงใยของคู่รักรุ่นใหญ่แล้วยังอดอิจฉาไม่ได้เลย ...
“จะมีซักกี่อ้อมกอด ที่อบอุ่น เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความเอาใจใส่ นอกจากพ่อแม่ผู้เป็นที่รักแล้ว ...ก็คงจะเป็นอ้อมกอดของผู้ชายคนนี้สินะ ที่พร้อมจะดูแล และปกป้องเธออันเป็นที่รักตลอดไป”
...ในเมื่อคนหนึ่งชอบถ่าย กับอีกคนหนึ่งชอบถูกถ่าย (แม้ในหลายๆ ครั้งอาจจะต้องถ่ายด้วยตัวเองบ่อยๆ ก็ตาม)
คงเป็นพหรมลิขิตสินะ ที่ทำให้เราได้มาพบ มาเจอกับมิตรภาพดีดี เราขอบคุณทุกๆคำพูด ทุกๆเวลา และทุกๆโอกาส ที่คุณป้ามีให้เราเสมอๆ คงไม่มีอะไรสนุก และมีความสุขไปกว่าการได้ทำสิ่งที่ตัวเองรัก ทำงานกับความรัก และมีความสุขในทุกๆวัน ..อย่างคำที่คุณป้าบอก “ถ้าเรามีความสุข ใจเราสุข แววตา ความรู้สึกและการกระทำที่แสดงออกมามันจะแสดงออกให้เห็นว่าเราสุข และคนรอบข้างเราก็จะรับรู้ถึงความสุขของเราไปด้วย ป้าชอบดูภาพถ่าย ป้าดูรูปที่ป้าถ่ายทุกวัน มีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็น เพราะป้าไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดในอนาคต ถ้าเกิดวันหนึ่งเราเกิดลุกไม่ไหว อย่างน้อยเราก็ยังได้ดูรูปถ่าย รูปที่บันทึกทุกความทรงจำ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว”
どうもありがとうございます。(^-^)
ปล.ติดตามภาพถ่ายบันทึกความทรงจำดีดี ได้ที่ Tokyo love studio https://www.facebook.com/tokyolovestudio
เครดิต : เรื่องราวจริงที่เกิดขึ้นและบางคำกล่าวจริง จาก ป้าพนอจัน (ได้ทำการขออนุญาติเขียนเล่าเรื่องความประทับใจที่เกิดขึ้นจากป้าพนอจันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว)