**ความคิดเห็น ทัศนคติ ของบทความที่ผมได้เขียนลงไปนั้นเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ถ้าไม่ถูกใจหรือไม่พอใจอะไรก็ของอภัยไว้ล่วงหน้า**

“ I have become Death the shatterer off worlds.”
J. Robert Oppenheimer บิดาแห่งปรมาณู

ใน Godzilla ฉบับ 2014 นี้ถือว่าเป็นการ รีบูต ใหม่โดยเอา Godzilla ต้นฉบับ ของปี1954 เป็นพื้นฐาน..


โดยในหนังต้นฉบับ Godzilla ของปี1954 Godzilla เป็นสิ่งมีชีวิตที่เชื่อกันมามีมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์
ซึ่งมันได้ตื่นจากการหลับใหลอันยาวนาน เพราะแรงสั่นสะเทือนจากการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ของอเมริกา
และจากนั้นก็มุ่งสู่ญี่ปุ่นและอาละวาดทำลายกรุงโตเกียว จนเป็นทะเลเพลิง...
สิ่งที่หนังจะสื่อคือ ก็อตซิลล่าคือรอยแผลของชาวญี่ปุ่นจากการที่ญี่ปุ่นถูกทิ้งระเบิดปรมาณู ที่ เมืองฮิโรชิมา
กับ นางาซากิ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็อตซิลล่าจึงถูกเปรียบเปรยว่าเป็นผลลัพธ์อันเลวร้ายของการใช้
หรือ ทดลอง อาวุธนิวเคลียร์

โดยในหนังGodzilla 2014 จะมีการเล่นประเด็น เรื่อง นิวเคลียร์ หรือ ผลกระทบจากนิวเคลียร์ ในหนัง จะมีการเอ่ยถึง
การทดลองของระเบิดนิวเคลียร์ ที่หมู่เกาะ บิกินี ในปี 1954 จนทำให้ “บางสิ่ง” มีการเคลื่อนไหว จนในที่สุด จึงจำต้องใช้
ระเบิดนิวเคลียร์ จัดการกับ “บางสิ่ง” โดนกลบเกลื่อนประชาชนว่า เป็นแค่การทดลองนิวเคลียร์...




ในหนัง Godzilla ฉบับ 2014 นั้นทางอเมริกาต้องการจะสังหารเหล่า สัตว์ประหลาด โดยการใช้อาวุธ นิวเคลียร์เพราะความเชื่อมั่นใน
อานุภาพของอาวุธนิวเคลียร์ ด้วยความคิดที่ว่ามันจะสามารถแก้ปัญหาได้และนั้น..ไม่ใช่เพราะ อาวุธนิวเคลียร์ เหรอ

ที่ทำให้เกิดหายนะ..ตามมา
ไม่ว่า โจ โบรดี้ ที่ต้องเสียภรรยาไป หรือ พ่อของ ดร.เซริซาวะ ที่ต้องตายเพราะกัมมันตภาพรังสี ก็ล้วนเป็นเหยื่อที่ได้รับผลกระทบ
ของโศกนาฏกรรมของนิวเคลียร์ หรือแม้แต่ เจ้า (God) zilla 1998 ก็เป็นเหยื่อและผลพวงของผู้ได้รับผลกระทบจากนิวเคลียร์ เช่นกัน
ร่วมถึง ก็อดซิล่า 2014 ตัวนี้ก็มีบาดแผลจากระเบิดนิวเคลียร์ด้วย...


ในภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่อง อาวุธนิวเคลียร์ ถูกมองในเชิงว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังอำนาจ พลังอำนาจที่อยากจะมีเอาไว้ครอบครอง
(โดยเฉพาะประเทศประหาอำนาจที่มี นิวเคลียร์ เอาไว้ครอบครอง อยู่เป็นจำนวนมาก)
บ้างคน(บางประเทศ) พยายามขนแขวน ที่จะมีเอาไว้ครอบครอง และอ้างว่า เพื่อความมั่นคง เพื่อต่อรอง หรือเพื่อปกป้องประเทศ...
โดยหลายคนที่แลเห็นแต่..พลัง..และอานุภาพของมัน โดยคิดไปว่ามันคือ..สิ่งที่จะทำให้ทุกๆคนต้องยอม ทุกๆคนต้องฟัง
หรือทำให้ทุกๆคนยินดีที่จะยอมจ่ายด้วยทุกสิ่ง..ทุกอย่างที่มี...ขอแค่ได้มีมันเอาไว้ครอบครองจนคิดไปว่า มันเป็น พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์  
อำนาจที่ทำให้มนุษย์หยิ่งผยองว่าตนเหนือกว่าธรรมชาติ...



...นับตั้งแต่มนุษย์ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก...มนุษย์อาศัยอยู่กับธรรมชาติ ธรรมชาติผู้มอบทุกสิ่งให้กับเหล่ามนุษย์...เมื่อมนุษย์เริ่มที่จะเรียนรู้
เริ่มที่จะหาประโยชน์จากธรรมชาติ จากการเริ่มหาของในป่า ไปสู่การเก็บเกี่ยวจากการเก็บเกี่ยวไปสู่การหาผลประโยชน์จนไปสู่การกอบโกย...
หลายครั้งที่มนุษย์เก็บเกี่ยวความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติโดยลืมถึงบางสิ่ง..








ทำไมมนุษย์ต่างชอบสร้างตัวละครโดยมักจะเปรียบเทียบกับพลังของธรรมชาติ หรือจินตนาการ ถึงบางสิ่งที่สามารถ
สร้างพายุ หรือ ทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้ ทำไมเราชอบคิดถึงสัตว์ประหลาดหรือมังกร และทำไมเราถึงหลงไหลมัน
ทั้งๆที่มันไม่มีอยู่จริง...เพราะ..มันสะท้อนปมบางอย่างของมนุษย์...
ปมที่ว่าถึง ความอ่อนแอและความกระจิ๊ดริ๊ดของมนุษย์ เมื่อต้องอยู่ต่อหน้ากับพลังของธรรมชาติ




เมื่อธรรมชาติปลดปล่อยพลังออกมา ทำไมมนุษย์จึงยำเกรง ต่อพลังธรรมชาติ...นั้นเพราะ "ขนาด" ของพลังนั้นใหญ่โตและมหาศาล
เกินกว่าที่มนุษย์จะจินตนาการหรือคาดการณ์ได้...พลังจะสอดคล้องกับขนาด

“ถ้าคุณต้องการน้ำ คุณจะทำยังไง?”
“จะหาภาชนะ มารองรับเพื่อกักเก็บ...”
“และถ้า คุณต้องการน้ำปริมาณที่เยอะขึ้น คุณจะทำยังไง..?
“..จะหาภาชนะที่ ใหญ่กว่า มารองรับ..”


Godzilla 2014 ที่มีร่างกายที่ใหญ่โตดุจภูเขา เปรียบดังขนาดของพลังธรรมชาติ หรือขนาดของพลังที่ได้ครอบครอง...พลังที่จะสามารถเรียกความสมดุลให้กลับมาสู่ดังเดิม... เช่นเดียวกับพลังธรรมชาติ ที่ทุกคนคิดว่ามันคือภัยธรรมชาติ..บ้างครั้งที่เราก็อดคิดไม่ได้ว่าหรือ..ธรรมชาติกำ
ลังลงโทษมนุษย์โดย
การแสดงพลังที่น่าสะพรึงเพื่อเป็นการบอกให้มนุษย์ยำเกรงต่อธรรมชาติ….พลังที่สามารถ ทำให้แผ่นดินสะเทือน หรือ ทำให้เกิดคลื่นสึนามิ ได้
มนุษย์อย่างเราที่ไม่อาจทำอะไรได้ ได้แค่มองความเสียหายที่เกิดจากผลของพลังธรรมชาติ และมองว่าพลังธรรมชาติตนนี้...คือ ปีศาจ หรือ monsters
แต่บางคนที่ยำเกรงต่อพลังธรรมชาติก็คิดไปว่าทุกๆอย่างที่เกิด ล้วนมีสาเหตุหรือเป็นความประสงค์ของธรรมชาติ ทำให้พลังจากธรรมชาติ ถูกมองว่าเป็นอำนาจของ god

เช่นในตอนท้ายเรื่องในหนัง Godzilla ที่ข่าวนำเสนอว่า Godzilla ช่วยกอบกู้เมืองเอาไว้ ทำให้เราเห็นว่า แล้วแต่ว่าเรา
จะมองว่า พลังธรรมชาติตนนี้ว่า เป็น monsters หรือเป็น god

และสิ่งใดที่แยกกับคำว่า monsters กับ god
มีคำกล่าวว่า “พลังที่ยิ่งใหญ่ ย่อมมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง”

ผู้ใดที่ใช้พลังโดยไม่ตะหนักถึงสิ่งใดๆ แม้จะมีพลังสูงส่งป่านใดก็จะถูกมองว่าเป็น monsters ขณะที่ผู้ที่ครองพลังแต่ยังตระหนัก
ถึงหน้าที่และความรับผิดชอบ แม้จะมีพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่จนน่าสะพรึ่ง แต่ก็จะได้รับการเคารพ และถูกเทิดทูล จนถูกขนานนามว่า god

..”พลัง” จึงอาจเป็นได้ทั้ง monsters หรือ god..

เราไม่อาจจะพูดได้ว่า พายใต้ฝุ่น สึนามิ หรือ แผ่นดินไหว เป็น monsters หรือเป็น god เราไม่อาจรู้ได้ว่าภัยจากพลังของธรรมชาติ
มีเพื่อการใดหรือเพื่อสิ่งใด...หากแต่เมื่อโลกมีการเคลื่อนไหวพลังที่ถูกสร้างเนื่องการขยับของโลกจะสร้างพลังงานมหาศาลเหนือคนานับ...
พลัง นิวเคลียร์ อันเป็นพลังอำนาจสูงสุดของมนุษย์ที่พึงจะมีได้ ช่างน้อยนิด...นัก...
เมื่อเรามองมดตัว กระจิ๊ดริ๊ด ว่าช่างด๋อยค่าเช่นไร พลังของมนุษย์ก็ด๋อยค่าเช่นนั้น


ยิ่งฉากที่ MUTO กำลังเขมือบหัวรบนิวเคลียร์ เป็นการบอกเป็นนัยๆว่าพลังของมนุษย์จิ้บจ๋อยเมื่ออยู่หน้าพลังธรรมชาติ
ตัวสัตว์ประหลาด MUTO ที่สามารถกินรังสีหรือหัวรบนิวเคลียร์ แถมยังสามารถสร้าง EMP ได้นั้นยังสามารถมองได้อีกอย่าง
ว่า MUTO คือผลลัพธ์อันเลวร้ายของใช้ นิวเคลียร์ นั้นขณะที่ Godzilla คือผู้สร้างสมดุลให้กับธรรมชาติ

ฉากที่ Godzilla สู้กับ MUTO จึงสามารถมองเป็นการต่อสู้ของ พลังธรรมชาติที่สร้างความสมดุล กับ พลังธรรมชาติที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์
แน่นอนว่า เมื่อธรรมชาติต้องการสร้างความสมดุล ก็ไม่มีใครจะหยุดยังหรือห้าม

อย่างที่ ดร.เซริซาวะ พูดเอาไว้ในเรื่องว่า "ปล่อยให้พวกมันสู้กันเอง" หรืออีกนั้ยก็คือให้เป็นไปตามกฎของธรรมชาติ...