X-Men: Days of Future Past : เอ็กซ์-เม็น สงครามวันพิฆาตกู้อนาคต
จากมุมมองของ
- แฟนหนังมาร์เวล
- แฟนเอกซ์เมนของไบรอัน ซิงเกอร์
- แฟนเกิร์ลพี่ฮิวจ์ แจ็คเมน
- ดูภาพยนตร์เอกซ์เมนครบทุกภาค (X-Men / X2 / Last Stand / Origin: Wolverine / First Class / The Wolverine)
เอ่อ...อันนี้จริงๆ ไม่ค่อยอยากบอก แต่ทำคุณผู้ชายที่หลงเข้ามาอ่านรีวิวช็อกไปหลายทีแล้ว บอกก็ได้ค่ะ
จขกท.เป็นสาววายนะคะ แต่คิดว่ารีวิวอันนี้ไม่ได้เขียนวายนะ จริง! ฮ่า... /ก้มกราบขออภัยล่วงหน้า
เมื่อไหร่ / ที่ไหน / เท่าไร
- โรงภาพยนตร์ลิโด้ 1 รอบ 12.00 วันที่ 23/05/2014
- 100 บาท
หลังดูจบ
- สนุกดี ไม่ปังเท่าไร แต่สนุก
- งานรวมรุ่น รำลึกอดีต ย้อนความ
- นั่งดูพี่ฮิวจ์เต่งตึงอยู่นานเกือบทั้งเรื่อง (ไม่นับตอนแรก) พอพี่แกย้อนเวลากลับมา เอ้อ...สตันท์ไปแป้บ บางทีก็ลืมค่ะว่าพี่เหี่ยวและโรยรามาก
- ตูดพี่ฮิวจ์แน่นมากอ่ะคู๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน ตูดแน่น สวยมาก จริงๆ เรคคอมเมนด์ #มันใช่เหรอ
- พี่ฟาสเบนเดอร์หล่อล้ำปะล่ำปะเหลือมากค่ะ ฮึกๆ ;___;
- ฟ่านปิงปิงเลอค่ามากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เรื่องราวของภาคนี้มันเกี่ยวกับว่าในอนาคต X-Men และเหล่ามวลมนุษยชาติกำลังถูกคุกคามจากเซนติเนล
สิ่งมีชีวิต อุปกรณ์ เครื่องจักร หรืออะไรก็ตามที่ถูกสร้างและพัฒนาขึ้นเพื่อฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เหล่ามิวแทนท์
และมนุษย์ที่มีแนวโน้มว่าจะให้กำเนิดมนุษย์กลายพันธุ์ในอนาคต
เป็นเหตุให้มนุษย์กลายพันธุ์ทั้งอย่าง Professor X และแมกนีโตจับมือร่วมกัน เพื่อจะหาทางยับยั้งสงครามในครั้งนี้ที่พวกเขาแทบจะไม่มีทางรอด
สิ่งที่พวกเขาจะลองเสี่ยง...คือการย้อนเวลากลับไปแก้ไขสิ่งที่ทำให้เรื่องทั้งหมดมันมาไกลได้ขนาดนี้ตั้งแต่ยุค 70 โน่น
สำหรับเรามันเหมือนกับสภาพของหนังชุด X-Men ที่เดินทางมาตั้งแต่ปี 2000 จนถึงตอนนี้ 14 ปี
พวกเรามากันไกลเหลือเกิน...ถ้าหาไปไกลไปกว่านี้ โดยไม่ทำอะไรสักอย่าง มันก็คงจะพังน่าดู
แต่จริงๆ ก็ดูเหมือนว่าฟอกซ์เองก็พอจะรู้ตัวอยู่นะ ไม่อย่างนั้น First Class ก็คงไม่เกิดขึ้นมาหรอก
ก็ถ้าเรื่องมันเละเทะออกทะเลไปขนาดนั้นแล้ว ก็เริ่มใหม่เลยดิ! แถมยังทำออกมาได้ดีมาก...ทีเดียวเชียวล่ะ
แต่มันก็อุตส่าห์เป๋ไปอี๊ก! กับ The Wolverine ที่ขนาดเราเป็นแฟนเกิร์ลพี่ฮิวจ์ ตีตั๋วไปดูสองรอบยังทำหน้ากระอั่กกระอ่วนตอนดูเลยอ่ะ 555
คือมันก็สนุกดีนะ แต่มันเบา...แบบเบ๊า เบา ก็เข้าใจแหล่ะ ภาคสปินนี่ แต่เราว่าตอนออริจินก็ยังไม่ได้ทำให้อึ้งๆ ไปเท่านี้
สำหรับเราภาคนี้มันก็เลยเหมือนการรวบทุกภาคเข้าด้วยกัน ว่าทำไมแต่ละเรื่องมันถึงได้กระจัดกระจายและขัดแข้งขัดขากันซะขนาดนี้
จะว่าไปมันก็เหมือนคอมมิคล่ะนะ 555
X-Men เป็นคอมมิคที่เล่นได้เยอะมาก เพราะแทนที่จะมานั่งนึกเรื่องและปูมหลังให้ตัวละครเอกสักตัว ไอเดียมันเยอะนักก็ปั่นรวมกันเลยดิ
แต่ด้วยความที่ตัวละครมันเยอะมากกกกกกกกกกกก ก.ไก่ล้านตัว เรื่องมันจะเป๋ไปเรื่อย และขัดแย้งกันตลอดก็ไม่แปลก
วิธีแก้ปัญหาจากในคอมมิค ก็มาเป็นพอยท์ของภาคนี้แหล่ะ เราจะไปแก้ไขอดีตกัน
จริงๆ ก็คิดอยู่เหมือนกันว่านี่มันโคตรขัดกับเหตุผลทั้งปวงที่เคยดู เคยอ่านมาตลอดชีวิตว่า
คุณจะทำอะไร คุณต้องคิดให้มากที่สุด ให้ดีที่สุด เพราะเวลามันย้อนไม่ได้ มันแก้ไขไม่ได้ และต่อให้แก้ไขได้ มันก็จะต้องมีใครสักคนตะโกนขึ้นมาอีกว่า
เวลาเป็นสิ่งที่ไม่ควรไปยุ่งกับมากที่สุด ไม่อย่างนั้นมันจะบิดเบี้ยว
แต่ก็นั่นล่ะ สิ่งที่ทำให้เกิดความวินาศสันตะโรอย่างในตอนต้นของเรื่องที่ทำให้เหล่ามิวแทนท์และมนุษย์ต้องถึงกาลอวสาน
ก็เพราะว่า "การกระทำ" ของราเวน หรือ มิสทีค ที่โกรธและต้องการจะแก้แค้นให้กับเพื่อนของเธอ
มันก็เหมือนหนังทุกเรื่อง ถ้าหากตอนนั้นฉันรู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ ฉันก็จะไม่ทำ...
แต่กับภาคนี้มันไม่ง่ายแบบนั้นสิ มิสทีครู้แล้ว แล้วไง ฮูแคร์
ไหนจะเอริคกับชาร์ลส์อีก นี่ก็ดื้อฉิบ 55555
ไม่แปลกใจเลยที่ Professor X และแมกนีโตในอนาคตจะรู้สึกกังวลแทนวูล์ฟเวอรีน
ว่าพวกเขาไม่ได้ผ่านช่วงเวลามามากจนมองโลกอีกแบบ ทั้งใจร้อน หุนหัน น่ารำคาญ และประสาทแ-ก
แถมพี่วูล์ฟเอง แม้จะผ่านช่วงเวลามาเยอะแยะมากมาย แต่พี่แกก็ไม่ได้...เป็นคนใจเย็นเล้ย
ดูได้จากทุกภาคนั่นล่ะ แม้แต่ภาค First Class ที่โผล่มานิดๆ ให้พอได้ติ่งอย่างดิฉันได้จิกแขนคนข้างๆ ก็แบบ อั๊ย...คงคอนเซปท์มากค่ะพี่ขา
ฉันรักผู้ชายขนดก สูบซิการ์จัด และพ่นคำว่า Fu*k Off ออกมาได้ง่ายๆ อย่างพี่ละเกิล 5555
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาก่อนการลงทุน
แต่ถ้าพวกเขาไม่มีอะไรจะต้องเสียไปมากกว่านี้แล้ว เสี่ยงก็รอด ไม่เสี่ยงก็ตาย แล้วทำไมจะไม่ลองเสี่ยงถ้ามีทางรอดล่ะ?
ความพยายามในการจะเปลี่ยนแปลงไม่ให้โครงการเซนติเนลเกิดขึ้นของพี่วูล์ฟ ทั้งสะดุด ทั้งหน้าคะมำจนแทบจะล้มคว่ำเทกระดาน
ทำให้ใจตุ๊มๆ ต่อมๆ ไปทั้งเรื่อง ทั้งเหตุการณ์ในตอนยุค 70 และแม้แต่ช่วงใกล้ๆ จะจบอย่างที่เซนติเนลหาพวก Professor X ที่มาซ่อนตัวเจอก็ด้วย
อดีตก็วัดใจกับราเวนเสียเหลือเกิน กับเหตุการณ์ในอนาคตก็ลุ้น
จนเหยี่ยวเหนียวว่านี่เมิงจะตายก่อนแก้ปัญหาได้ม้ายยยยย???
แต่แหงล่ะ...นี่หนังตลาดนะ ถึงมันจะพลิกล็อกก็ไม่ถึงกับคอหักมากหรอก ทุกคนก็รู้กันอยู่ละว่าไงๆ ก็รอด
ก็แค่ลุ้นตามพอเป็นกระสัยไง 555
สำหรับเราที่เป็นแฟนหนังชุดนี้ ก็บอกตามตรงว่ามันก็คงไบแอสอยู่แล้วแหล่ะ 555
แต่มันก็สนุกดีนะ ไม่ได้น่าเกลียดมาก แต่สิ่งที่ขาดหายไปสำหรับหนังชุดนี้ก็คือฉากแอคชั่นเจ๋งๆ
แม้จะมีให้ได้วาดลวดลายแบบประชิดตัวนิดหน่อยสำหรับวูล์ฟเวอรีนและราเวน
แต่แบบระเบิดภูเขา เผากระท่อม แลกหมัดกัน ตูมตาม โบ้มๆ มันไม่ค่อยจะมี
ซึ่งเราเข้าใจได้ว่าพอยท์ของภาคนี้มันคือการปรับความเข้าใจระหว่าง ราเวน ชาร์ลส์และอีริค
สัดส่วนฉากแอคชั่นมันจึงน้อยลงไป เพื่อให้พื้นที่กับความดราม่า
แต่ที่ประทับใจมาก แน่นอนว่าเป็นในส่วนของ Quick Silver พี่แกได้โชว์เต็มๆ เลย แม้จะมีส่วนไม่มากนัก แต่ฉากปล่อยของจัดเต็มมาก
ทั้งน่ารักมาก ยียวนมาก และขโมยซีนเต็มๆ ประทับใจจริงๆ ในส่วนนั้น
ส่วนฉากเปิดที่บู้กับเซนติเนลก็ไม่เลว รวมถึงฉากที่เซนติเนลบุกประชิดตัวกันแล้วด้วย
แต่ละคนก็ได้โชว์ของว่าทำอะไรได้นิดๆ หน่อยๆ แต่มันก็ยังไม่อิ่มเท่าไรล่ะนะ 555
โดยรวมแล้วสำหรับเรา ภาคนี้ถือว่าเป็นแค่จุดเชื่อม เพื่อจะเดินหน้าต่อไปในอนาคต
เพราะฉะนั้นถ้ามันจะดูไม่ค่อยสุดเท่าไรในส่วนของความบู๊ การตอบโจทย์ข้อสงสัยต่างๆ และความอิ่ม
แต่ในส่วนของความประทับใจในการกลับมาของบรรดา X-Men 1-3 เราบวกให้เยอะมาก
ด้วยรักและคิดถึงทุกๆ คนจริงๆ อ่ะ 555
ถึงเราจะชอบ First Class มากๆ จะเรียกว่าชอบมากที่สุดในบรรดาทุกภาคที่มีมาเลยก็ได้
แต่เราก็ยังคิดถึงบรรยากาศแบบ X-Men และ X-2 อยู่ดี (Last Stand ก็หยวนๆ เพราะไม่ปลื้มเจ๊จีน 555)
เพราะฉะนั้นการกลับมาของทุกๆ คนที่เราคิดถึง มันทำให้เรารู้สึกดีกับภาคนี้ และแทบจะกลบความเฉยชาในส่วนอื่นๆ ของหนังไปเลย
แม้จะไม่ชอบยัยจีนเท่าไร แต่การเห็นเธอกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เช่นเดียวกับสก๊อต ซัมเมอร์อปปร้า ก็ทำให้ดิฉันรู้สึกปริ่มเวอร์จริงๆ
(ถึงแม้ดิฉันจะไม่แฮปปี้เลยก็ตามที่ยัยจีนรอดมาพร้อมๆ กับสก็อตอปปร้า ทำให้พี่วูล์ฟของฉันอกหักซ้ำซาก และเอาสก็อตอปปร้าของพี่วูล์ฟไป เชอะ)
รวมทั้งโร้ค บ็อบบี้ คิตตี้ สตอร์ม และทุกๆ คนที่กลับมาในภาคนี้และน่าจะเป็นในภาคต่อๆ ไป
ถ้าจะไปดู
- ควรจะดูหนังเอกซ์เมนมาให้ครบทุกภาคก็ดีนะคะ มันจะได้ไม่งงมาก เพราะเราดูครบทุกภาค ภาคละหลายรอบยังแบบลืมๆ งงๆ เลย 55
- อย่าลืมรอฉากแถมหลัง End Credit อันที่สองจ้า ^^
บ่น
- ฟานปิงปิงงามหยาดเยิ้มมาก แต่ฉันเสียดายของลื๊ม...ออกมาได้พูดสองประโยค แค่ Time's up กับ Run ...
- ทีแรกตั้งใจจะไปดูตั้งแต่วันแรกที่เข้าโรง แต่...นั่นล่ะค่ะ 55 มีเคอร์ฟิวซะก่อน กลับบ้านก็ได้ ชิ
แล้วไงต่อ?
- เรารู้สึกว่าภาคนี้ก็ดีนะ อย่างน้อยเราก็ฟีลกู๊ดกว่า ที่ส่งพี่วูลฟ์ไปญี่ปุ่น...แต่มันก็ยังไม่แบบ ปังงง เลิฟๆ ชูป้ายไฟเท่าตอน First Class
แต่ก็จัดว่าใช้ได้ทีเดียว คิดถึงพี่ซิงเกอร์ค่ะ 555 ก็เอาเป็นว่าจะตามดู X-Men ต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ ไม่ว่ามันจะออกทะเล หรือจะเข้ารูปเข้ารอยต่อไปยังไงก็ตาม
ฮาาาาาาาาาาา ♥
สรุป
- ให้ 7.5/10
- สนุกดี ถ้าเป็นแฟนหนังเอกซ์เมนของไบรอัน ซิงเกอร์ก็คิดว่าเป็นการรวมรุ่นที่ดีมากๆ
อย่าลืมเข้ามาคุยกันนะคะ ว่าชอบไม่ชอบยังไง
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ
[CR] [Review] X-Men: Days of Future Past ... เรามาเริ่มกันใหม่นะ (Spoil)
X-Men: Days of Future Past : เอ็กซ์-เม็น สงครามวันพิฆาตกู้อนาคต
จากมุมมองของ
- แฟนหนังมาร์เวล
- แฟนเอกซ์เมนของไบรอัน ซิงเกอร์
- แฟนเกิร์ลพี่ฮิวจ์ แจ็คเมน
- ดูภาพยนตร์เอกซ์เมนครบทุกภาค (X-Men / X2 / Last Stand / Origin: Wolverine / First Class / The Wolverine)
เอ่อ...อันนี้จริงๆ ไม่ค่อยอยากบอก แต่ทำคุณผู้ชายที่หลงเข้ามาอ่านรีวิวช็อกไปหลายทีแล้ว บอกก็ได้ค่ะ
จขกท.เป็นสาววายนะคะ แต่คิดว่ารีวิวอันนี้ไม่ได้เขียนวายนะ จริง! ฮ่า... /ก้มกราบขออภัยล่วงหน้า
เมื่อไหร่ / ที่ไหน / เท่าไร
- โรงภาพยนตร์ลิโด้ 1 รอบ 12.00 วันที่ 23/05/2014
- 100 บาท
หลังดูจบ
- สนุกดี ไม่ปังเท่าไร แต่สนุก
- งานรวมรุ่น รำลึกอดีต ย้อนความ
- นั่งดูพี่ฮิวจ์เต่งตึงอยู่นานเกือบทั้งเรื่อง (ไม่นับตอนแรก) พอพี่แกย้อนเวลากลับมา เอ้อ...สตันท์ไปแป้บ บางทีก็ลืมค่ะว่าพี่เหี่ยวและโรยรามาก
- ตูดพี่ฮิวจ์แน่นมากอ่ะคู๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน ตูดแน่น สวยมาก จริงๆ เรคคอมเมนด์ #มันใช่เหรอ
- พี่ฟาสเบนเดอร์หล่อล้ำปะล่ำปะเหลือมากค่ะ ฮึกๆ ;___;
- ฟ่านปิงปิงเลอค่ามากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เรื่องราวของภาคนี้มันเกี่ยวกับว่าในอนาคต X-Men และเหล่ามวลมนุษยชาติกำลังถูกคุกคามจากเซนติเนล
สิ่งมีชีวิต อุปกรณ์ เครื่องจักร หรืออะไรก็ตามที่ถูกสร้างและพัฒนาขึ้นเพื่อฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เหล่ามิวแทนท์
และมนุษย์ที่มีแนวโน้มว่าจะให้กำเนิดมนุษย์กลายพันธุ์ในอนาคต
เป็นเหตุให้มนุษย์กลายพันธุ์ทั้งอย่าง Professor X และแมกนีโตจับมือร่วมกัน เพื่อจะหาทางยับยั้งสงครามในครั้งนี้ที่พวกเขาแทบจะไม่มีทางรอด
สิ่งที่พวกเขาจะลองเสี่ยง...คือการย้อนเวลากลับไปแก้ไขสิ่งที่ทำให้เรื่องทั้งหมดมันมาไกลได้ขนาดนี้ตั้งแต่ยุค 70 โน่น
สำหรับเรามันเหมือนกับสภาพของหนังชุด X-Men ที่เดินทางมาตั้งแต่ปี 2000 จนถึงตอนนี้ 14 ปี
พวกเรามากันไกลเหลือเกิน...ถ้าหาไปไกลไปกว่านี้ โดยไม่ทำอะไรสักอย่าง มันก็คงจะพังน่าดู
แต่จริงๆ ก็ดูเหมือนว่าฟอกซ์เองก็พอจะรู้ตัวอยู่นะ ไม่อย่างนั้น First Class ก็คงไม่เกิดขึ้นมาหรอก
ก็ถ้าเรื่องมันเละเทะออกทะเลไปขนาดนั้นแล้ว ก็เริ่มใหม่เลยดิ! แถมยังทำออกมาได้ดีมาก...ทีเดียวเชียวล่ะ
แต่มันก็อุตส่าห์เป๋ไปอี๊ก! กับ The Wolverine ที่ขนาดเราเป็นแฟนเกิร์ลพี่ฮิวจ์ ตีตั๋วไปดูสองรอบยังทำหน้ากระอั่กกระอ่วนตอนดูเลยอ่ะ 555
คือมันก็สนุกดีนะ แต่มันเบา...แบบเบ๊า เบา ก็เข้าใจแหล่ะ ภาคสปินนี่ แต่เราว่าตอนออริจินก็ยังไม่ได้ทำให้อึ้งๆ ไปเท่านี้
สำหรับเราภาคนี้มันก็เลยเหมือนการรวบทุกภาคเข้าด้วยกัน ว่าทำไมแต่ละเรื่องมันถึงได้กระจัดกระจายและขัดแข้งขัดขากันซะขนาดนี้
จะว่าไปมันก็เหมือนคอมมิคล่ะนะ 555
X-Men เป็นคอมมิคที่เล่นได้เยอะมาก เพราะแทนที่จะมานั่งนึกเรื่องและปูมหลังให้ตัวละครเอกสักตัว ไอเดียมันเยอะนักก็ปั่นรวมกันเลยดิ
แต่ด้วยความที่ตัวละครมันเยอะมากกกกกกกกกกกก ก.ไก่ล้านตัว เรื่องมันจะเป๋ไปเรื่อย และขัดแย้งกันตลอดก็ไม่แปลก
วิธีแก้ปัญหาจากในคอมมิค ก็มาเป็นพอยท์ของภาคนี้แหล่ะ เราจะไปแก้ไขอดีตกัน
จริงๆ ก็คิดอยู่เหมือนกันว่านี่มันโคตรขัดกับเหตุผลทั้งปวงที่เคยดู เคยอ่านมาตลอดชีวิตว่า
คุณจะทำอะไร คุณต้องคิดให้มากที่สุด ให้ดีที่สุด เพราะเวลามันย้อนไม่ได้ มันแก้ไขไม่ได้ และต่อให้แก้ไขได้ มันก็จะต้องมีใครสักคนตะโกนขึ้นมาอีกว่า
เวลาเป็นสิ่งที่ไม่ควรไปยุ่งกับมากที่สุด ไม่อย่างนั้นมันจะบิดเบี้ยว
แต่ก็นั่นล่ะ สิ่งที่ทำให้เกิดความวินาศสันตะโรอย่างในตอนต้นของเรื่องที่ทำให้เหล่ามิวแทนท์และมนุษย์ต้องถึงกาลอวสาน
ก็เพราะว่า "การกระทำ" ของราเวน หรือ มิสทีค ที่โกรธและต้องการจะแก้แค้นให้กับเพื่อนของเธอ
มันก็เหมือนหนังทุกเรื่อง ถ้าหากตอนนั้นฉันรู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ ฉันก็จะไม่ทำ...
แต่กับภาคนี้มันไม่ง่ายแบบนั้นสิ มิสทีครู้แล้ว แล้วไง ฮูแคร์
ไหนจะเอริคกับชาร์ลส์อีก นี่ก็ดื้อฉิบ 55555
ไม่แปลกใจเลยที่ Professor X และแมกนีโตในอนาคตจะรู้สึกกังวลแทนวูล์ฟเวอรีน
ว่าพวกเขาไม่ได้ผ่านช่วงเวลามามากจนมองโลกอีกแบบ ทั้งใจร้อน หุนหัน น่ารำคาญ และประสาทแ-ก
แถมพี่วูล์ฟเอง แม้จะผ่านช่วงเวลามาเยอะแยะมากมาย แต่พี่แกก็ไม่ได้...เป็นคนใจเย็นเล้ย
ดูได้จากทุกภาคนั่นล่ะ แม้แต่ภาค First Class ที่โผล่มานิดๆ ให้พอได้ติ่งอย่างดิฉันได้จิกแขนคนข้างๆ ก็แบบ อั๊ย...คงคอนเซปท์มากค่ะพี่ขา
ฉันรักผู้ชายขนดก สูบซิการ์จัด และพ่นคำว่า Fu*k Off ออกมาได้ง่ายๆ อย่างพี่ละเกิล 5555
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาก่อนการลงทุน
แต่ถ้าพวกเขาไม่มีอะไรจะต้องเสียไปมากกว่านี้แล้ว เสี่ยงก็รอด ไม่เสี่ยงก็ตาย แล้วทำไมจะไม่ลองเสี่ยงถ้ามีทางรอดล่ะ?
ความพยายามในการจะเปลี่ยนแปลงไม่ให้โครงการเซนติเนลเกิดขึ้นของพี่วูล์ฟ ทั้งสะดุด ทั้งหน้าคะมำจนแทบจะล้มคว่ำเทกระดาน
ทำให้ใจตุ๊มๆ ต่อมๆ ไปทั้งเรื่อง ทั้งเหตุการณ์ในตอนยุค 70 และแม้แต่ช่วงใกล้ๆ จะจบอย่างที่เซนติเนลหาพวก Professor X ที่มาซ่อนตัวเจอก็ด้วย
อดีตก็วัดใจกับราเวนเสียเหลือเกิน กับเหตุการณ์ในอนาคตก็ลุ้น
จนเหยี่ยวเหนียวว่านี่เมิงจะตายก่อนแก้ปัญหาได้ม้ายยยยย???แต่แหงล่ะ...นี่หนังตลาดนะ ถึงมันจะพลิกล็อกก็ไม่ถึงกับคอหักมากหรอก ทุกคนก็รู้กันอยู่ละว่าไงๆ ก็รอด
ก็แค่ลุ้นตามพอเป็นกระสัยไง 555
สำหรับเราที่เป็นแฟนหนังชุดนี้ ก็บอกตามตรงว่ามันก็คงไบแอสอยู่แล้วแหล่ะ 555
แต่มันก็สนุกดีนะ ไม่ได้น่าเกลียดมาก แต่สิ่งที่ขาดหายไปสำหรับหนังชุดนี้ก็คือฉากแอคชั่นเจ๋งๆ
แม้จะมีให้ได้วาดลวดลายแบบประชิดตัวนิดหน่อยสำหรับวูล์ฟเวอรีนและราเวน
แต่แบบระเบิดภูเขา เผากระท่อม แลกหมัดกัน ตูมตาม โบ้มๆ มันไม่ค่อยจะมี
ซึ่งเราเข้าใจได้ว่าพอยท์ของภาคนี้มันคือการปรับความเข้าใจระหว่าง ราเวน ชาร์ลส์และอีริค
สัดส่วนฉากแอคชั่นมันจึงน้อยลงไป เพื่อให้พื้นที่กับความดราม่า
แต่ที่ประทับใจมาก แน่นอนว่าเป็นในส่วนของ Quick Silver พี่แกได้โชว์เต็มๆ เลย แม้จะมีส่วนไม่มากนัก แต่ฉากปล่อยของจัดเต็มมาก
ทั้งน่ารักมาก ยียวนมาก และขโมยซีนเต็มๆ ประทับใจจริงๆ ในส่วนนั้น
ส่วนฉากเปิดที่บู้กับเซนติเนลก็ไม่เลว รวมถึงฉากที่เซนติเนลบุกประชิดตัวกันแล้วด้วย
แต่ละคนก็ได้โชว์ของว่าทำอะไรได้นิดๆ หน่อยๆ แต่มันก็ยังไม่อิ่มเท่าไรล่ะนะ 555
โดยรวมแล้วสำหรับเรา ภาคนี้ถือว่าเป็นแค่จุดเชื่อม เพื่อจะเดินหน้าต่อไปในอนาคต
เพราะฉะนั้นถ้ามันจะดูไม่ค่อยสุดเท่าไรในส่วนของความบู๊ การตอบโจทย์ข้อสงสัยต่างๆ และความอิ่ม
แต่ในส่วนของความประทับใจในการกลับมาของบรรดา X-Men 1-3 เราบวกให้เยอะมาก
ด้วยรักและคิดถึงทุกๆ คนจริงๆ อ่ะ 555
ถึงเราจะชอบ First Class มากๆ จะเรียกว่าชอบมากที่สุดในบรรดาทุกภาคที่มีมาเลยก็ได้
แต่เราก็ยังคิดถึงบรรยากาศแบบ X-Men และ X-2 อยู่ดี (Last Stand ก็หยวนๆ เพราะไม่ปลื้มเจ๊จีน 555)
เพราะฉะนั้นการกลับมาของทุกๆ คนที่เราคิดถึง มันทำให้เรารู้สึกดีกับภาคนี้ และแทบจะกลบความเฉยชาในส่วนอื่นๆ ของหนังไปเลย
แม้จะไม่ชอบยัยจีนเท่าไร แต่การเห็นเธอกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เช่นเดียวกับสก๊อต ซัมเมอร์อปปร้า ก็ทำให้ดิฉันรู้สึกปริ่มเวอร์จริงๆ
(ถึงแม้ดิฉันจะไม่แฮปปี้เลยก็ตามที่ยัยจีนรอดมาพร้อมๆ กับสก็อตอปปร้า ทำให้พี่วูล์ฟของฉันอกหักซ้ำซาก และเอาสก็อตอปปร้าของพี่วูล์ฟไป เชอะ)รวมทั้งโร้ค บ็อบบี้ คิตตี้ สตอร์ม และทุกๆ คนที่กลับมาในภาคนี้และน่าจะเป็นในภาคต่อๆ ไป
ถ้าจะไปดู
- ควรจะดูหนังเอกซ์เมนมาให้ครบทุกภาคก็ดีนะคะ มันจะได้ไม่งงมาก เพราะเราดูครบทุกภาค ภาคละหลายรอบยังแบบลืมๆ งงๆ เลย 55
- อย่าลืมรอฉากแถมหลัง End Credit อันที่สองจ้า ^^
บ่น
- ฟานปิงปิงงามหยาดเยิ้มมาก แต่ฉันเสียดายของลื๊ม...ออกมาได้พูดสองประโยค แค่ Time's up กับ Run ...
- ทีแรกตั้งใจจะไปดูตั้งแต่วันแรกที่เข้าโรง แต่...นั่นล่ะค่ะ 55 มีเคอร์ฟิวซะก่อน กลับบ้านก็ได้ ชิ
แล้วไงต่อ?
- เรารู้สึกว่าภาคนี้ก็ดีนะ อย่างน้อยเราก็ฟีลกู๊ดกว่า ที่ส่งพี่วูลฟ์ไปญี่ปุ่น...แต่มันก็ยังไม่แบบ ปังงง เลิฟๆ ชูป้ายไฟเท่าตอน First Class
แต่ก็จัดว่าใช้ได้ทีเดียว คิดถึงพี่ซิงเกอร์ค่ะ 555 ก็เอาเป็นว่าจะตามดู X-Men ต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ ไม่ว่ามันจะออกทะเล หรือจะเข้ารูปเข้ารอยต่อไปยังไงก็ตาม
ฮาาาาาาาาาาา ♥
สรุป
- ให้ 7.5/10
- สนุกดี ถ้าเป็นแฟนหนังเอกซ์เมนของไบรอัน ซิงเกอร์ก็คิดว่าเป็นการรวมรุ่นที่ดีมากๆ
อย่าลืมเข้ามาคุยกันนะคะ ว่าชอบไม่ชอบยังไง
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ