สวัสดีค่ะ วันนี้แก้มใจยืมลอคอินคุณเพื่อนมา จริงๆ จะสมัครเองนั่น แต่เอ๊ะ เค้าบอกบัตร ปชช เรามีลอคอินแล้ว...หืม!! สักพักนึกได้ค่า เคยสมัครเมื่อนานมาแล้วแหละ เมลล์อะไร แอคเค้าอะไรก็ไม่รู้ เลยอ่ะ เอาของคุณเพื่อนละกัน
แก้มใจจะมารีวิวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้ามันโดยเฉพาะเลยนะคะ ซึ่งผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลถึงเรื่องสารเคมีตกค้างเลยจ้าซึ่งผลิตภัณฑ์ที่แก้มใจจะพูดถึงในวันนี้คือ Sebo Vegetal จาก Yves Rocher นั่นเองค่ะ
ขอท้าวความซักนิดก่อนเลยนะคะ ว่าทำไมถึงได้ผลิตภัณฑ์เซ็ตนี้ มาใช้ก่อนใครๆ เนื่องจากแก้มใจได้ติดตาม Fanpage ของ Yves Rocher(Thailand) อยู่แล้วค่ะและพบว่าเค้ามีกิจกรรม "30 วัน หน้ามันหายวั๊บ" ก็เลยลองร่วมสนุกเข้าไปเนื่องจากอยากลองใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ก่อนใครนั่นเองค่ะ อิอิ สำหรับผลิตภัณฑ์ชุดนี้จะเน้นในเรื่องของการจัดการความมันบนใบหน้าและช่วยกระชับรูขุมขน
ซึ่งแก้มใจเป็นคนปัญหาผิวมันบริเวณ T-zone ค่ะ แต่พอเจอแดดร้อนๆของตอนพักเที่ยงเข้าไป ตอนบ่าย T-zone หายไปเลยนะ ..กลายเป็นมันทั้งหน้า!!! ทั้งมันทั้งหมอง ทีนี้ก็ขาดความมั่นใจไปเยอะเลยค่ะ
เลยหวังว่า Sebo Vegetal เซ็ตนี้ของ Yves Rocher จะช่วยแก้มใจได้เนี่ยแหละค่ะ
ถ้าพูดถึง Yves Rocher แล้ว รับรองใครๆก็ต้องนึกถึงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมหลักจากธรรมชาติอย่างแน่นอนเพราะเค้ามีชื่อเสียงในด้านนี้อยู่แล้วเนอะ สำหรับเจ้า Sebo Vegetal เนี่ยก็มีส่วนผสมหลักเป็น Baikal Powder ซึ่งเป็นสารสกัดจากรากของ Skullcap มาเป็นส่วนผสมค่ะ ชื่ออาจจะไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไหร่แต่เจ้าตัวนี้นี่แหละค่ะที่ช่วยให้ความมันของเราหายวั๊บไปภายใน 30 วัน (30 วันคือเวลาที่เค้าบอกไว้นะคะ แต่ของแก้มใจ แค่ 7 วันก็เห็นผลอย่างชัดเจนแล้วจ้า อิอิ)
ก่อนที่ทาง Yves Rocher จะให้ผลิตภัณฑ์กับเรามาทดลองใช้นั้นก็ต้องมีการตรวจผิวกันก่อนค่ะ ซึ่งเป็นสิ่งที่แก้มใจไม่เคยทำเลย..แต่อยากทำมากกกกก ครั้งแรกก็เดินเข้าไปในร้านอย่างมั่นใจเลย มาดูผลการตรวจสภาพผิวของแก้มใจกันค่ะว่าครั้งแรกกับครั้งสุดท้ายหลังได้ทดลองใช้ Sebo Vegetal เซ็ตนี้เปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
สัปดาห์ที่ 1
ผลสภาพผิวที่ไปตรวจครั้งแรก ค่ะ ถ้าดูจากตาเปล่าผิวหน้าไม่มีปัญหาเลย แต่พอเครื่องตรวจมาแตะผิวเท่านั้นแหละ อึ้งเลยค่ะ นอกจากปัญหาความมันบริเวณ T-zone แล้ว ยังเจอสิวอุดตันเพียบ ผิวหน้าก็ยังขาดน้ำอีก แต่โล่งไปได้หน่อยที่ตาข่ายผิวยังแข็งแรงอยู่ค่ะ พอทราบว่าปัญหาผิวของเรามีอะไรบ้างเรียบร้อยแล้ว ทาง Yves Rocher ก็ได้ให้ผลิตภัณฑ์ Sebo Vegetal มาใช้ถึง 7 ตัวด้วยกันค่ะ และเรามีนัดมาตรวจผิวรอบที่ 2 หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ครบ 7 วันนั่นเองค่ะ
สัปดาห์ที่ 2
ผลจากการตรวจผิวครั้งที่ 2 หลังจากใช้ครบ 1 สัปดาห์ ตอนแรกก็หวั่นๆนะคะ เนื่องจากการตรวจครั้งแรกสภาพผิวค่อนข้างจะแย่กว่าที่เรามองเห็น ..เยอะเลย ครั้งนี้ก็ทำใจไว้ซักเล็กน้อยค่ะ 555 และแล้วเมื่อตรวจสภาพผิวก็พบว่าสิวอุดตันยังคงมีอยู่บ้าง ผิวที่ขาดน้ำก็ยังมีอยู่เล็กน้อยค่ะ แต่..ความมันคะ ความมันหายไปไหนคะ ?? ตอนนี้สำหรับเรื่องของความมันเหลืออยู่น้อยนิดจริงๆในส่วนของ T-zone ^^
สัปดาห์ที่ 3
ครั้งที่ 3 นี้เว้นระยะนานหน่อยคือ 2 สัปดาห์เนื่องจากติดวันหยุดช่วงสงกรานต์ แต่ก็ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ครบ 30 วันพอดีค่ะ พูดเลยว่าการตรวจครั้งนี้กังวลสุด แหม..คุณคะ จะต้องมาตรวจสภาพผิวหน้าหลังวันสงกรานต์เนี่ยนะคะ ตากแดดมาขนาดไหน โดนน้ำสะอาดบ้างไม่สะอาดบ้าง ผิวจะเป็นยังไงน้า.. แต่พอได้ตรวจปุ๊บ ผิดคาดเลยค่ะ พี่ที่ตรวจบอกเลยว่า น้องไม่เห็นจะมีปัญหาผิวเลยอ่ะ ต้องรีบกลับไปอ่านบันทึกของครั้งแรกกับครั้งที่ 2 เลยค่ะว่าผิวหน้าเป็นยังไง อิอิ เรียกว่าสิวอุดตันก็หายไป หน้ามันก็หายวั๊บ เหลือไว้แต่ผิวหน้านุ่มๆ มั่นใจไปได้ทั้งวันว่าความมันจะไม่มาเยือนอีกแล้ว
หลังจากเห็นพัฒนาการของผิวกันแล้วคราวนี้เรามาดูกันเลยดีกว่าค่ะว่าผลิตภัณฑ์ในตระกูล Sebo Vegetal ที่ได้พูดถึงไปแล้วนั้นมีอะไรกันบ้าง ..แก้มใจขอเรียงตามลำดับการใช้เลยละกันโดยขอเริ่มจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นประจำทุกวันก่อนนะคะ
1. Purifying Micellar Water 2-in-1
ผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่เราจะพูดถึงคือตัวนี้เลยค่ะ ขวดทรงสูงกับน้ำใสๆด้านใน เค้าบอกว่าเป็น 2-in-1 ก็เพราะว่าเป็นได้ทั้ง Cleanser เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางก่อนล้างหน้าและใช้เป็น Toner เพื่อปรับสภาพผิวค่ะ บอกเลยค่ะว่าใช้แล้วปลื้มม๊ากกกก เนื่องจากเป็นน้ำใสๆ เวลาเช็ดไปนี่รู้สึกเย็นสบายผิวสุดๆค่ะ ลืมไปเลยว่ากำลังเช็ดคราบเครื่องสำอางอยู่นะ 555 แต่พอดูที่สำลีเท่านั้นแหละ เห็นเลยว่าสามารถดึงเอาสิ่งสกปรกออกมาจากผิวหน้าเราได้อย่างสุดยอด ถ้าวันไหนแต่งหน้าเต็มหน่อย แก้มใจจะเช็ดซ้ำอีกซักรอบนึงค่ะ ยังไงก็ไม่ทำร้ายผิวหน้าอยู่แล้ว เพราะเค้ามี "น้ำสกัดจากออร์แกนิค คอร์นฟลาวเวอร์" ที่ช่วยปลอบโยนผิวให้รู้สึกสบาย หายห่วงเลยค่ะ ^^
สำหรับใครที่ปกติใช้ Toner ด้วย ก็สามารถใช้ตัวนี้ซ้ำอีกรอบหลังจากการล้างหน้าได้เลยนะคะ เพื่อช่วยปรับสมดุลให้ผิวด้วยค่ะ
2. Purifying Cleansing Gel
ผลิตภัณฑ์ตัวที่ 2 มาถึงขั้นตอนทำความสะอาดผิวหน้า เรียกว่าเป็นอีก item ที่ชอบมากกกกกกกกก สังเกตได้จากปริมาณค่ะ จะหมดแล้ว แหะๆ สำหรับเจ้าเจลล้างหน้าตัวนี้ แก้มใจว่าเหมาะกับทุกช่วงเวลาและทุกระดับความสกปรกบนใบหน้าเลยค่ะ เพราะล้างได้สะอาดสุดๆ แถมยังอ่อนโยนมากรู้สึกผิวสบ๊าย..สบาย ด้วย "น้ำสกัดจากออร์แกนิค คอร์นฟลาวเวอร์" ที่เป็นส่วนผสมเพิ่มเติมอีกด้วย ล้างเสร็จแล้วลองสัมผัสผิวหน้าของตัวเอง นุ่มเชียวค่ะ ล้างแล้วหน้าใสเลย ชอบๆ
3. Pore Minimizing Serum
ผลิตภัณฑ์ตัวที่ 3 เป็นตัวโปรดอีกตัวของแก้มใจอีกเช่นเดียวกันค่ะ ..เหลืออยู่ไม่ถึงครึ่งแย้ว สำหรับผลิตภัณฑ์นี้ก็คือเซรั่มสูตรเข้มข้นนั่นเองค่ะมาในขวดแก้วและหัวปั๊ม ดูสวยดูดีสุดๆ ใช้หลังจากที่ใช้เจ้าตัว 2-in-1 เป็น Toner นะคะ ต้องบอกก่อนว่าปกติแก้มใจเป็นคนชอบใช้เซรั่มอยู่แล้วค่ะ เนื่องจากชอบเนื้อเซรั่มที่บางเบาและซึมสู่ผิวง่ายเหมาะกับอากาศเมืองไทยสุดๆ ยิ่งมาเจอเจ้าตัวนี้บอกเลยค่ะว่าเลิฟเลย เนื้อเซรั่ม ซึมลงผิวเร็วมาก คุณสมบัติที่สำคัญอีกอย่างของเจ้าเซรั่มนี้คือใช้แล้วรู้สึกเลยว่ารูขุมขนกระชับ ผิวแข็งแรงขึ้นค่ะ เนื่องจากมี "กรดมาลิก" ที่เพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจน และช่วยเติมเต็มร่องรอยบนใบหน้าของเราให้เรียบเนียนสวยนั่นเองค่ะ นอกจากนี้ยังมี"อะโฟย่า" ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสีความร้อน และ "ซิงค์กลูโคเนท" ที่ช่วยลดปัญหาการอุดตันของต่อมไขมันและช่วยลดร่องรอยจากการแกะสิวอีกด้วยค่ะ เรียกว่าทั้งช่วยปกป้องผิวไม่ให้โดนทำร้ายและยังช่วยรักษาผิวสวยๆ ให้กลับมาดีเหมือนเดิม แล้วอย่างนี้จะไม่ให้รักได้ยังไงกัน อิอิ
4. Matifying Gel Cream
ผลิตภัณฑ์ตัวที่ 4 นี้ คุณสมบัติเด่นๆ คือต่อต้านความมันเงาได้ 24 ชม. เลยค่ะ นอกจากนี้ยังช่วยให้เครื่องสำอางของเราติดทนไปทั้งวันอีกด้วยนะคะ สำหรับตัวนี้แก้มใจจะใช้เป็น Day Cream ต่อจากเซรั่มค่ะหรือถ้าใครอยากนำมาทาเป็น Night Cream ด้วยก็ได้เช่นกันนะคะ
ถ้าอ่านตามชื่อของผลิตภัณฑ์จะเห็นว่าเจ้าตัวนี้เนี่ยเป็นครีมเจล ซึ่งก็คือเป็นครีมแต่เนื้อเจล..แปลว่าเป็นครีมที่ไม่หนักหน้าค่ะ ซึ่งมันดีมากเลยนะคะสำหรับผิวของเราในสภาพอากาศที่ร้อนขนาดนี้ อาจจะซึมเข้าผิวช้ากว่าเซรั่มซักหน่อย แต่ก็ไม่เหนียวเหนอะหนะค่ะ นอกจากนี้เจ้าตัวนี้เนี่ยแหละค่ะที่จะช่วยดูดซับความมันส่วนเกินและลดความมันเงาบนผิวหน้าของเรา ดังนั้นถ้าใครมีปัญหาความมันเฉพาะจุด อย่างเช่นบริเวณ T-Zone เหมือนแก้มใจ ก็สามารถเลือกทาเฉพาะบริเวณหรือเน้นทาในจุดดังกล่าวให้มากขึ้นอีกนิดก็ได้ค่ะ พูดเลยว่าไปต่างจังหวัดตากแดดทั้งวันเหงื่อออกทั้งหน้า ..แต่ก็ไม่ทำให้หน้ามันหรือหมองซักนิดเลยค่ะ
5. Zero Blemish Gel Cream
ผลิตภัณฑ์ตัวที่ 5 ของเรา มาในทรงกระปุกน่ารักทีเดียว แต่อย่าประมาทไปกระปุกนี้เรียกว่าอัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติที่สาวๆอย่างเราต้องการ อย่างที่บอกว่าคุณสมบัติที่อยู่ในตัวนี้เรียกว่าเกือบจะครบเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยดูดซับน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า, ช่วยกระชับรูขุมขน, ช่วยให้ผิวเรียบเนียน และยังเก็บความชุ่มชื้นไว้ให้ผิวได้ถึง 24 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว เห็นมั๊ยหล่ะคะว่าอัดแน่นจริงๆ
สำหรับผลิตภัณฑ์ตัวนี้แก้มใจนำมาใช้เป็น Night Cream เพราะความรู้สึกส่วนตัวที่อยากให้เจ้าครีมตัวนี้โบกความชุ่มชื้นไว้บนผิวหน้าของแก้มใจในเวลานอนค่ะ ตื่นมาผิวหน้าจะได้สดชื่นนนนนน เหมือนเป็นการเตรียมผิวไว้รับการบำรุงในช่วงเช้าเพื่อฝ่าฟันมลภาวะไปได้ทั้งวันค่ะ ซึ่งสำหรับคนที่มีลักษณะผิวขาดน้ำอย่างแก้มใจ (เนื่องจากดื่มน้ำน้อยเกินไป ><) ก็ไม่ผิดหวังเลยสำหรับผลิตภัณฑ์ตัวนี้ เพราะตื่นมาตอนเช้าแล้วรู้สึกว่าผิวหน้าเรียบเนียน และยังนุ๊ม..นุ่ม รู้สึกอิ่มน้ำสุดๆ ช่วยให้ทุกเช้าเป็นเช้าที่สดชื่นและสดใสจริงๆค่ะ
มาถึงผลิตภัณฑ์ 2 ตัวสุดท้าย ที่แก้มใจจะใช้สัปดาห์ละ 2 ครั้งค่ะ เรียกว่าเป็นการบำรุงผิวหน้าให้พิเศษขึ้นกว่าเดิมกันซักหน่อย
6. Purifying Scrub
สำหรับผลิตภัณฑ์ตัวที่ 6 ในตระกูล Sebo Vegetal นี้ ได้แก่.. ได้แก่.. ชื่อก็บอกอยู่แล้วเนอะว่าเป็นสครับ ได้เวลาของการขัดๆถูๆซะหน่อยแล้ว แหม..พูดซะดูรุนแรงน่ากลัวเกินไปมั๊ยคะเนี่ย แต่จริงๆแล้วอ่อนโยนสุดๆไปเลยค่ะสำหรับเจ้าสครับตัวนี้ เรียกว่าเป็นการผลัดผิวด้วยการขจัดสิ่งสกปรก, น้ำมันส่วนเกินในรูขุมขน และเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออกไปอย่างอ่อนโยน เพื่อให้ผิวสะอาด สดใส และนุ่มกว่าเดิมค่ะ สำหรับเจ้าตัวสครับนี้นะคะ แก้มใจแทบจะไม่ต้องออกแรงถูใดๆเลยค่ะ แต่กลายเป็นต้องออกแรงยั้งมือตัวเองไม่ถูแรงเกินไปซะด้วยซ้ำ 555 เนื่องจากเคยใช้สครับอื่นมา แทบจะไม่เจอเม็ดสครับเลยค่ะ เหมือนขัดหน้าด้วยครีมซะมากกว่า แต่สำหรับสครับตัวนี้ เห็นเม็ด "แอพริคอตซีด พาวเดอร์" ที่จะมาช่วยเราขัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพแล้วให้ออกไปอย่างอ่อนโยน นอกจากนี้ยังมี "กรดซาลิไซลิค" ที่จะช่วยกระตุ้นการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว ลดการอุดตัน พร้อมยังช่วยยับยั้งแบคทีเรียอีกด้วย อีกส่วนผสมที่สำคัญ คือ "ซิงค์กลูโคเนท" ซึ่งจะลดการอุดตันของต่อมไขมัน พร้อมช่วยลดร่องรอยของสิว เห็นส่วนผสมแต่ละอย่างดูมีมาเพื่อผลัดผิวของเราขนาดนี้ อย่าเพิ่งตกใจไปนะคะ เค้าไม่ปล่อยให้ผิวของเราแห้งเสียไปแน่ๆ เพราะเค้ามีตัวนี้มาคงความนุ่มนวลให้ผิวหน้าของเราด้วย นั่นก็คือ "โคโค่นัท ออย" นั่นเองค่ะ ที่ใช้โคโค่นัทออย เพราะว่าเป็นไขมันชนิดดีที่ละลายน้ำได้ ช่วยให้ผิวเราชุ่มชื้นแต่ไม่มันนั่นเองค่ะ หลังจากที่แก้มใจได้ใช้สครับตัวนี้ก็รู้สึกได้ชัดเจนเลยค่ะว่าผิวหน้านุ่มขึ้น เพราะได้ผิวใหม่ขึ้นมาแทนที่เซลล์ผิวที่ตายแล้วนั่นเองค่ะ ครั้งแรกที่ใช้แก้มใจรู้สึกแสบนิดๆ อาจจะเป็นเพราะไม่ได้สครับมานาน และไม่รู้น้ำหนักมือของตัวเองด้วยแหละค่ะ พอครั้งที่ 2-3 กลายเป็นสนุกกับการได้สครับผิวหน้าตัวเองไปเลย ก็เค้าชอบจับหน้านุ่มๆหนิ อิอิ
[SR] รีวิวสกินแคร์เลิศๆ สาวหน้ามันเชิญทางนี้เลยค่า
แก้มใจจะมารีวิวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้ามันโดยเฉพาะเลยนะคะ ซึ่งผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลถึงเรื่องสารเคมีตกค้างเลยจ้าซึ่งผลิตภัณฑ์ที่แก้มใจจะพูดถึงในวันนี้คือ Sebo Vegetal จาก Yves Rocher นั่นเองค่ะ
ขอท้าวความซักนิดก่อนเลยนะคะ ว่าทำไมถึงได้ผลิตภัณฑ์เซ็ตนี้ มาใช้ก่อนใครๆ เนื่องจากแก้มใจได้ติดตาม Fanpage ของ Yves Rocher(Thailand) อยู่แล้วค่ะและพบว่าเค้ามีกิจกรรม "30 วัน หน้ามันหายวั๊บ" ก็เลยลองร่วมสนุกเข้าไปเนื่องจากอยากลองใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ก่อนใครนั่นเองค่ะ อิอิ สำหรับผลิตภัณฑ์ชุดนี้จะเน้นในเรื่องของการจัดการความมันบนใบหน้าและช่วยกระชับรูขุมขน
ซึ่งแก้มใจเป็นคนปัญหาผิวมันบริเวณ T-zone ค่ะ แต่พอเจอแดดร้อนๆของตอนพักเที่ยงเข้าไป ตอนบ่าย T-zone หายไปเลยนะ ..กลายเป็นมันทั้งหน้า!!! ทั้งมันทั้งหมอง ทีนี้ก็ขาดความมั่นใจไปเยอะเลยค่ะ
เลยหวังว่า Sebo Vegetal เซ็ตนี้ของ Yves Rocher จะช่วยแก้มใจได้เนี่ยแหละค่ะ
ถ้าพูดถึง Yves Rocher แล้ว รับรองใครๆก็ต้องนึกถึงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมหลักจากธรรมชาติอย่างแน่นอนเพราะเค้ามีชื่อเสียงในด้านนี้อยู่แล้วเนอะ สำหรับเจ้า Sebo Vegetal เนี่ยก็มีส่วนผสมหลักเป็น Baikal Powder ซึ่งเป็นสารสกัดจากรากของ Skullcap มาเป็นส่วนผสมค่ะ ชื่ออาจจะไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไหร่แต่เจ้าตัวนี้นี่แหละค่ะที่ช่วยให้ความมันของเราหายวั๊บไปภายใน 30 วัน (30 วันคือเวลาที่เค้าบอกไว้นะคะ แต่ของแก้มใจ แค่ 7 วันก็เห็นผลอย่างชัดเจนแล้วจ้า อิอิ)
ก่อนที่ทาง Yves Rocher จะให้ผลิตภัณฑ์กับเรามาทดลองใช้นั้นก็ต้องมีการตรวจผิวกันก่อนค่ะ ซึ่งเป็นสิ่งที่แก้มใจไม่เคยทำเลย..แต่อยากทำมากกกกก ครั้งแรกก็เดินเข้าไปในร้านอย่างมั่นใจเลย มาดูผลการตรวจสภาพผิวของแก้มใจกันค่ะว่าครั้งแรกกับครั้งสุดท้ายหลังได้ทดลองใช้ Sebo Vegetal เซ็ตนี้เปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
สัปดาห์ที่ 1
ผลสภาพผิวที่ไปตรวจครั้งแรก ค่ะ ถ้าดูจากตาเปล่าผิวหน้าไม่มีปัญหาเลย แต่พอเครื่องตรวจมาแตะผิวเท่านั้นแหละ อึ้งเลยค่ะ นอกจากปัญหาความมันบริเวณ T-zone แล้ว ยังเจอสิวอุดตันเพียบ ผิวหน้าก็ยังขาดน้ำอีก แต่โล่งไปได้หน่อยที่ตาข่ายผิวยังแข็งแรงอยู่ค่ะ พอทราบว่าปัญหาผิวของเรามีอะไรบ้างเรียบร้อยแล้ว ทาง Yves Rocher ก็ได้ให้ผลิตภัณฑ์ Sebo Vegetal มาใช้ถึง 7 ตัวด้วยกันค่ะ และเรามีนัดมาตรวจผิวรอบที่ 2 หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ครบ 7 วันนั่นเองค่ะ
สัปดาห์ที่ 2
ผลจากการตรวจผิวครั้งที่ 2 หลังจากใช้ครบ 1 สัปดาห์ ตอนแรกก็หวั่นๆนะคะ เนื่องจากการตรวจครั้งแรกสภาพผิวค่อนข้างจะแย่กว่าที่เรามองเห็น ..เยอะเลย ครั้งนี้ก็ทำใจไว้ซักเล็กน้อยค่ะ 555 และแล้วเมื่อตรวจสภาพผิวก็พบว่าสิวอุดตันยังคงมีอยู่บ้าง ผิวที่ขาดน้ำก็ยังมีอยู่เล็กน้อยค่ะ แต่..ความมันคะ ความมันหายไปไหนคะ ?? ตอนนี้สำหรับเรื่องของความมันเหลืออยู่น้อยนิดจริงๆในส่วนของ T-zone ^^
สัปดาห์ที่ 3
ครั้งที่ 3 นี้เว้นระยะนานหน่อยคือ 2 สัปดาห์เนื่องจากติดวันหยุดช่วงสงกรานต์ แต่ก็ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ครบ 30 วันพอดีค่ะ พูดเลยว่าการตรวจครั้งนี้กังวลสุด แหม..คุณคะ จะต้องมาตรวจสภาพผิวหน้าหลังวันสงกรานต์เนี่ยนะคะ ตากแดดมาขนาดไหน โดนน้ำสะอาดบ้างไม่สะอาดบ้าง ผิวจะเป็นยังไงน้า.. แต่พอได้ตรวจปุ๊บ ผิดคาดเลยค่ะ พี่ที่ตรวจบอกเลยว่า น้องไม่เห็นจะมีปัญหาผิวเลยอ่ะ ต้องรีบกลับไปอ่านบันทึกของครั้งแรกกับครั้งที่ 2 เลยค่ะว่าผิวหน้าเป็นยังไง อิอิ เรียกว่าสิวอุดตันก็หายไป หน้ามันก็หายวั๊บ เหลือไว้แต่ผิวหน้านุ่มๆ มั่นใจไปได้ทั้งวันว่าความมันจะไม่มาเยือนอีกแล้ว
หลังจากเห็นพัฒนาการของผิวกันแล้วคราวนี้เรามาดูกันเลยดีกว่าค่ะว่าผลิตภัณฑ์ในตระกูล Sebo Vegetal ที่ได้พูดถึงไปแล้วนั้นมีอะไรกันบ้าง ..แก้มใจขอเรียงตามลำดับการใช้เลยละกันโดยขอเริ่มจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นประจำทุกวันก่อนนะคะ
1. Purifying Micellar Water 2-in-1
ผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่เราจะพูดถึงคือตัวนี้เลยค่ะ ขวดทรงสูงกับน้ำใสๆด้านใน เค้าบอกว่าเป็น 2-in-1 ก็เพราะว่าเป็นได้ทั้ง Cleanser เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางก่อนล้างหน้าและใช้เป็น Toner เพื่อปรับสภาพผิวค่ะ บอกเลยค่ะว่าใช้แล้วปลื้มม๊ากกกก เนื่องจากเป็นน้ำใสๆ เวลาเช็ดไปนี่รู้สึกเย็นสบายผิวสุดๆค่ะ ลืมไปเลยว่ากำลังเช็ดคราบเครื่องสำอางอยู่นะ 555 แต่พอดูที่สำลีเท่านั้นแหละ เห็นเลยว่าสามารถดึงเอาสิ่งสกปรกออกมาจากผิวหน้าเราได้อย่างสุดยอด ถ้าวันไหนแต่งหน้าเต็มหน่อย แก้มใจจะเช็ดซ้ำอีกซักรอบนึงค่ะ ยังไงก็ไม่ทำร้ายผิวหน้าอยู่แล้ว เพราะเค้ามี "น้ำสกัดจากออร์แกนิค คอร์นฟลาวเวอร์" ที่ช่วยปลอบโยนผิวให้รู้สึกสบาย หายห่วงเลยค่ะ ^^
สำหรับใครที่ปกติใช้ Toner ด้วย ก็สามารถใช้ตัวนี้ซ้ำอีกรอบหลังจากการล้างหน้าได้เลยนะคะ เพื่อช่วยปรับสมดุลให้ผิวด้วยค่ะ
2. Purifying Cleansing Gel
ผลิตภัณฑ์ตัวที่ 2 มาถึงขั้นตอนทำความสะอาดผิวหน้า เรียกว่าเป็นอีก item ที่ชอบมากกกกกกกกก สังเกตได้จากปริมาณค่ะ จะหมดแล้ว แหะๆ สำหรับเจ้าเจลล้างหน้าตัวนี้ แก้มใจว่าเหมาะกับทุกช่วงเวลาและทุกระดับความสกปรกบนใบหน้าเลยค่ะ เพราะล้างได้สะอาดสุดๆ แถมยังอ่อนโยนมากรู้สึกผิวสบ๊าย..สบาย ด้วย "น้ำสกัดจากออร์แกนิค คอร์นฟลาวเวอร์" ที่เป็นส่วนผสมเพิ่มเติมอีกด้วย ล้างเสร็จแล้วลองสัมผัสผิวหน้าของตัวเอง นุ่มเชียวค่ะ ล้างแล้วหน้าใสเลย ชอบๆ
3. Pore Minimizing Serum
ผลิตภัณฑ์ตัวที่ 3 เป็นตัวโปรดอีกตัวของแก้มใจอีกเช่นเดียวกันค่ะ ..เหลืออยู่ไม่ถึงครึ่งแย้ว สำหรับผลิตภัณฑ์นี้ก็คือเซรั่มสูตรเข้มข้นนั่นเองค่ะมาในขวดแก้วและหัวปั๊ม ดูสวยดูดีสุดๆ ใช้หลังจากที่ใช้เจ้าตัว 2-in-1 เป็น Toner นะคะ ต้องบอกก่อนว่าปกติแก้มใจเป็นคนชอบใช้เซรั่มอยู่แล้วค่ะ เนื่องจากชอบเนื้อเซรั่มที่บางเบาและซึมสู่ผิวง่ายเหมาะกับอากาศเมืองไทยสุดๆ ยิ่งมาเจอเจ้าตัวนี้บอกเลยค่ะว่าเลิฟเลย เนื้อเซรั่ม ซึมลงผิวเร็วมาก คุณสมบัติที่สำคัญอีกอย่างของเจ้าเซรั่มนี้คือใช้แล้วรู้สึกเลยว่ารูขุมขนกระชับ ผิวแข็งแรงขึ้นค่ะ เนื่องจากมี "กรดมาลิก" ที่เพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจน และช่วยเติมเต็มร่องรอยบนใบหน้าของเราให้เรียบเนียนสวยนั่นเองค่ะ นอกจากนี้ยังมี"อะโฟย่า" ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสีความร้อน และ "ซิงค์กลูโคเนท" ที่ช่วยลดปัญหาการอุดตันของต่อมไขมันและช่วยลดร่องรอยจากการแกะสิวอีกด้วยค่ะ เรียกว่าทั้งช่วยปกป้องผิวไม่ให้โดนทำร้ายและยังช่วยรักษาผิวสวยๆ ให้กลับมาดีเหมือนเดิม แล้วอย่างนี้จะไม่ให้รักได้ยังไงกัน อิอิ
4. Matifying Gel Cream
ผลิตภัณฑ์ตัวที่ 4 นี้ คุณสมบัติเด่นๆ คือต่อต้านความมันเงาได้ 24 ชม. เลยค่ะ นอกจากนี้ยังช่วยให้เครื่องสำอางของเราติดทนไปทั้งวันอีกด้วยนะคะ สำหรับตัวนี้แก้มใจจะใช้เป็น Day Cream ต่อจากเซรั่มค่ะหรือถ้าใครอยากนำมาทาเป็น Night Cream ด้วยก็ได้เช่นกันนะคะ
ถ้าอ่านตามชื่อของผลิตภัณฑ์จะเห็นว่าเจ้าตัวนี้เนี่ยเป็นครีมเจล ซึ่งก็คือเป็นครีมแต่เนื้อเจล..แปลว่าเป็นครีมที่ไม่หนักหน้าค่ะ ซึ่งมันดีมากเลยนะคะสำหรับผิวของเราในสภาพอากาศที่ร้อนขนาดนี้ อาจจะซึมเข้าผิวช้ากว่าเซรั่มซักหน่อย แต่ก็ไม่เหนียวเหนอะหนะค่ะ นอกจากนี้เจ้าตัวนี้เนี่ยแหละค่ะที่จะช่วยดูดซับความมันส่วนเกินและลดความมันเงาบนผิวหน้าของเรา ดังนั้นถ้าใครมีปัญหาความมันเฉพาะจุด อย่างเช่นบริเวณ T-Zone เหมือนแก้มใจ ก็สามารถเลือกทาเฉพาะบริเวณหรือเน้นทาในจุดดังกล่าวให้มากขึ้นอีกนิดก็ได้ค่ะ พูดเลยว่าไปต่างจังหวัดตากแดดทั้งวันเหงื่อออกทั้งหน้า ..แต่ก็ไม่ทำให้หน้ามันหรือหมองซักนิดเลยค่ะ
5. Zero Blemish Gel Cream
ผลิตภัณฑ์ตัวที่ 5 ของเรา มาในทรงกระปุกน่ารักทีเดียว แต่อย่าประมาทไปกระปุกนี้เรียกว่าอัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติที่สาวๆอย่างเราต้องการ อย่างที่บอกว่าคุณสมบัติที่อยู่ในตัวนี้เรียกว่าเกือบจะครบเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยดูดซับน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า, ช่วยกระชับรูขุมขน, ช่วยให้ผิวเรียบเนียน และยังเก็บความชุ่มชื้นไว้ให้ผิวได้ถึง 24 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว เห็นมั๊ยหล่ะคะว่าอัดแน่นจริงๆ
สำหรับผลิตภัณฑ์ตัวนี้แก้มใจนำมาใช้เป็น Night Cream เพราะความรู้สึกส่วนตัวที่อยากให้เจ้าครีมตัวนี้โบกความชุ่มชื้นไว้บนผิวหน้าของแก้มใจในเวลานอนค่ะ ตื่นมาผิวหน้าจะได้สดชื่นนนนนน เหมือนเป็นการเตรียมผิวไว้รับการบำรุงในช่วงเช้าเพื่อฝ่าฟันมลภาวะไปได้ทั้งวันค่ะ ซึ่งสำหรับคนที่มีลักษณะผิวขาดน้ำอย่างแก้มใจ (เนื่องจากดื่มน้ำน้อยเกินไป ><) ก็ไม่ผิดหวังเลยสำหรับผลิตภัณฑ์ตัวนี้ เพราะตื่นมาตอนเช้าแล้วรู้สึกว่าผิวหน้าเรียบเนียน และยังนุ๊ม..นุ่ม รู้สึกอิ่มน้ำสุดๆ ช่วยให้ทุกเช้าเป็นเช้าที่สดชื่นและสดใสจริงๆค่ะ
มาถึงผลิตภัณฑ์ 2 ตัวสุดท้าย ที่แก้มใจจะใช้สัปดาห์ละ 2 ครั้งค่ะ เรียกว่าเป็นการบำรุงผิวหน้าให้พิเศษขึ้นกว่าเดิมกันซักหน่อย
6. Purifying Scrub
สำหรับผลิตภัณฑ์ตัวที่ 6 ในตระกูล Sebo Vegetal นี้ ได้แก่.. ได้แก่.. ชื่อก็บอกอยู่แล้วเนอะว่าเป็นสครับ ได้เวลาของการขัดๆถูๆซะหน่อยแล้ว แหม..พูดซะดูรุนแรงน่ากลัวเกินไปมั๊ยคะเนี่ย แต่จริงๆแล้วอ่อนโยนสุดๆไปเลยค่ะสำหรับเจ้าสครับตัวนี้ เรียกว่าเป็นการผลัดผิวด้วยการขจัดสิ่งสกปรก, น้ำมันส่วนเกินในรูขุมขน และเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออกไปอย่างอ่อนโยน เพื่อให้ผิวสะอาด สดใส และนุ่มกว่าเดิมค่ะ สำหรับเจ้าตัวสครับนี้นะคะ แก้มใจแทบจะไม่ต้องออกแรงถูใดๆเลยค่ะ แต่กลายเป็นต้องออกแรงยั้งมือตัวเองไม่ถูแรงเกินไปซะด้วยซ้ำ 555 เนื่องจากเคยใช้สครับอื่นมา แทบจะไม่เจอเม็ดสครับเลยค่ะ เหมือนขัดหน้าด้วยครีมซะมากกว่า แต่สำหรับสครับตัวนี้ เห็นเม็ด "แอพริคอตซีด พาวเดอร์" ที่จะมาช่วยเราขัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพแล้วให้ออกไปอย่างอ่อนโยน นอกจากนี้ยังมี "กรดซาลิไซลิค" ที่จะช่วยกระตุ้นการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว ลดการอุดตัน พร้อมยังช่วยยับยั้งแบคทีเรียอีกด้วย อีกส่วนผสมที่สำคัญ คือ "ซิงค์กลูโคเนท" ซึ่งจะลดการอุดตันของต่อมไขมัน พร้อมช่วยลดร่องรอยของสิว เห็นส่วนผสมแต่ละอย่างดูมีมาเพื่อผลัดผิวของเราขนาดนี้ อย่าเพิ่งตกใจไปนะคะ เค้าไม่ปล่อยให้ผิวของเราแห้งเสียไปแน่ๆ เพราะเค้ามีตัวนี้มาคงความนุ่มนวลให้ผิวหน้าของเราด้วย นั่นก็คือ "โคโค่นัท ออย" นั่นเองค่ะ ที่ใช้โคโค่นัทออย เพราะว่าเป็นไขมันชนิดดีที่ละลายน้ำได้ ช่วยให้ผิวเราชุ่มชื้นแต่ไม่มันนั่นเองค่ะ หลังจากที่แก้มใจได้ใช้สครับตัวนี้ก็รู้สึกได้ชัดเจนเลยค่ะว่าผิวหน้านุ่มขึ้น เพราะได้ผิวใหม่ขึ้นมาแทนที่เซลล์ผิวที่ตายแล้วนั่นเองค่ะ ครั้งแรกที่ใช้แก้มใจรู้สึกแสบนิดๆ อาจจะเป็นเพราะไม่ได้สครับมานาน และไม่รู้น้ำหนักมือของตัวเองด้วยแหละค่ะ พอครั้งที่ 2-3 กลายเป็นสนุกกับการได้สครับผิวหน้าตัวเองไปเลย ก็เค้าชอบจับหน้านุ่มๆหนิ อิอิ