เนื่องด้วยคุณพ่อของผมได้เกิดอุบัติเหตุ และเป็นแผลทางยาว เย็บประมาณ 8 เข็ม โดยการใช้สิทธิประกันสังคม
หมอก็แนะนำว่าให้ไปล้างแผลทุกวัน แต่เนื่องจาก รพ.อยู่ค่อนข้างไกล จึงเกิดเรื่องราวนี้ขึ้นครับ
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 17 พค 57 ที่ผ่านมานี้ เนื่องจาก รพ.อยู่ไกลจึงหาสถานพยาบาลในเครือที่ใกล้บ้านเพื่อไปล้างแผล และพบว่าเจอคลีนิกหน้าปากซอย(เพชรเกษมแห่งหนึ่ง ย่านหนองแขม) ซึ่งรับประกันสังคมของ รพ.นี้ด้วย
ครั้งแรกก็ให้พี่สาวพาพ่อไปล้างแผล ที่สาวก็โทรกลับมาบอกผมว่าทางคลีนิกขอเก็บตังค์เพิ่ม 100 บาท เพราะเค้าบอกว่าเค้าเบิก รพ.ต้นสังกัดได้แค่ 30 ขอเป็นค่าผ้าก๊อตเพิ่ม 100 บาท ก็เลยบอกพี่สาวไม่เป็นไร ให้พ่อล้างไปก่อน จ่ายก็จ่ายไปก่อน
ผมเองก็งงว่าจะเก็บเพิ่มได้ไง เลยโทรถามสายด่วนประกันสังคมทัน ก็เล่าเรื่องให้เจ้าหน้าที่ฟัง จนท.ที่รับสายก็ดีมาก ชี้แจ้งเลยว่ายังไงก็ไม่ต้องเสียค่าล้างแผลสักบาทให้กับสถานพยาบาลในเครือนั้น
ผมเลยรีบออกไปที่คลีนิก เพราะเริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่ล่ะ อีกฝ่ายบอกไม่ต้องเสีย อีกฝ่ายบอกต้องเสีย
พอไปถึง เจอคนเต็มคลีนิกเลย พ่อล้างแผลเสร็จพอดี และกำลังจ่ายเงิน
ผมก็เลยถามเจ้าหน้าที่ที่เคาร์เตอร์ หน้าตาไม่รับแขก ตอบบหงุดหงิด ผมบอกก่อนเลยว่าผมพูดดีมากๆ ไม่ได้โกรธหรือใส่อารมณ์ใดๆ เลย บทสนทนาประมาณนี้ คร่าวๆ ครับ
ผม : ขอสอบถามหน่อยครับ ใช่สิทธิประกันสังคมแล้วทำไมต้องจ่ายเงินเพิ่มด้วยครับ
จนท : ที่นี่ไปเบิก รพ.ได้แค่ 30 บาทเอง ก็เลยต้องเก็บเพิ่ม(หน้าเหวี่ยงมาก) นี่ก็ล้างแผลไม่ได้เก็บตังค์นะ เก็บแค่ค่าผ้าก๊อต ถ้าไม่อยากเสียก็ไปซื้อผ้าก๊อตมาเองดิ
ผม : ผมคุยกับประกันสังคมมาแล้วไม่ต้องเสียนี่ (เริ่มเซ็ง)
จนท : ที่อื่นไม่รู้ แต่ที่นี่เป็นแบบนี้
ผม : ??????
จนท : ไม่พอใจก็ไม่ต้องมาแล้วนะ ถ้าไม่อยากเสียเงินก็ไป รพ. โน้น
ผม : เฮ้ย พูดงี้เลยเหรอ(คิดในใจ...กำลังอึ้ง)
จนท : พรุ่งนี้ไม่ต้องมาล้างที่นี่แล้วนะ (น้ำเสียงใส่อารมณ์มาก)
ผม : งั้นผมต่อสายให้คุยกับประกันสังคมนะ
จนท : ไปเรียกผู้หญิงคนนึงมาคุย เห็นว่าเป็นภรรยาหมอเจ้าของคลีนิก(เค้าบอกกับ จนท ประกันสังคมในสาย)
ภรรยาหมอ คุยกับประกันสังคมอยู่พักใหญ่ ใจความประมาณว่า เค้าไปเบิก รพ. ได้แค่ 30 บาทจริง เลยขอเก็บค่าผ้าก๊อต
และก็บอกว่าคุณลุง(พ่อผม) ก็ยินยอมเองที่จะจ่าย แต่ผมมาถึงก็มาโว้ยวาย เค้าแจ้งก่อนแล้ว
แล้วก็ส่งมาให้ผมคุยกับประกันสังคมต่อ จนท.ก็ยืนยันว่าไม่ต้องเสีย เคลสนี้คลีนิกผิดเอง แต่คุยไม่ทันรู้เรื่องสายก็ตัด
ผมเลยมาคุยกับคลีนิค ว่าที่ผมมาถามเนี่ยผมแค่อยากได้คำชี้แจงว่าเพราะอะไร อย่างไง แต่พนักงานหน้าร้านคุณนี่แหละมาพูดจากไม่ดี และดูถูกผมก่อน
100 บาท ถ้าถามว่าผมโอเคไหม ผมยินดีนะถ้าคุณชี้แจ้ง และพูดกันดีดี เพราะยังไงก็ถูกกว่าค่าน้ำมัน ค่าเสียเวลาไปล้างที่ รพ. แต่นี่คุณทำผิด และคุณก็ยังจะมาพูดแบบนี้ ที่ผมต้องต่อสายกับประกันสังคมเพราะทั้งสองฝ่ายให้ข้อเท็จจริงไม่ตรงกัน
เรื่องวันนั้นก็เลยจบ และผมก็ให้พ่อไปล้างแผลที่ รพ. แทน เพราะไม่อยากไปรบกับคลีนิกนี้อีกแล้ว ใบเสร็จก็ไม่ให้มา
ในกรณีแบบนี้ ผมควรทำอย่างไงกับคลีนิกนี้ดีครับ แบบนี้มันเอาเปรียบกันชัดๆเลย ในเมื่อแค่ล้างแผลเป็นบริการพื้นฐานยังมาเก็บตังค์เพิ่ม แถมมาอ้างอีกว่าคนไข้ยอมรับแล้ว แปลว่าถ้าพ่อไม่ยอมรับก็ไม่ล้าง ทั้งที่ใช้สิทธิที่คุณยอมรับมาเอง
ผมไม่ได้โกรธหรืออะไรเค้าหรอก แต่ถ้าผมปล่อยไว้แบบนี้ คนไข้ คนป่วย อีกกี่คนที่จะถูกเอาเปรียบแบบนี้
เลยอยากจะขอคำแนะนำวิธีจัดการกับคลีนิกพวกนี้ด้วยครับ
ร้องเรียนไปก็กลัวจะเงียบหาย เพราะขนาดให้คุยโทรศัพท์กันขนาดนี้ ยังไม่สามารถทำอะไรได้เลย
ใช้สิทธิประกันสังคมไปล้างแผลโดนเก็บค่าผ้าก๊อตเพิ่มด้วย
หมอก็แนะนำว่าให้ไปล้างแผลทุกวัน แต่เนื่องจาก รพ.อยู่ค่อนข้างไกล จึงเกิดเรื่องราวนี้ขึ้นครับ
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 17 พค 57 ที่ผ่านมานี้ เนื่องจาก รพ.อยู่ไกลจึงหาสถานพยาบาลในเครือที่ใกล้บ้านเพื่อไปล้างแผล และพบว่าเจอคลีนิกหน้าปากซอย(เพชรเกษมแห่งหนึ่ง ย่านหนองแขม) ซึ่งรับประกันสังคมของ รพ.นี้ด้วย
ครั้งแรกก็ให้พี่สาวพาพ่อไปล้างแผล ที่สาวก็โทรกลับมาบอกผมว่าทางคลีนิกขอเก็บตังค์เพิ่ม 100 บาท เพราะเค้าบอกว่าเค้าเบิก รพ.ต้นสังกัดได้แค่ 30 ขอเป็นค่าผ้าก๊อตเพิ่ม 100 บาท ก็เลยบอกพี่สาวไม่เป็นไร ให้พ่อล้างไปก่อน จ่ายก็จ่ายไปก่อน
ผมเองก็งงว่าจะเก็บเพิ่มได้ไง เลยโทรถามสายด่วนประกันสังคมทัน ก็เล่าเรื่องให้เจ้าหน้าที่ฟัง จนท.ที่รับสายก็ดีมาก ชี้แจ้งเลยว่ายังไงก็ไม่ต้องเสียค่าล้างแผลสักบาทให้กับสถานพยาบาลในเครือนั้น
ผมเลยรีบออกไปที่คลีนิก เพราะเริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่ล่ะ อีกฝ่ายบอกไม่ต้องเสีย อีกฝ่ายบอกต้องเสีย
พอไปถึง เจอคนเต็มคลีนิกเลย พ่อล้างแผลเสร็จพอดี และกำลังจ่ายเงิน
ผมก็เลยถามเจ้าหน้าที่ที่เคาร์เตอร์ หน้าตาไม่รับแขก ตอบบหงุดหงิด ผมบอกก่อนเลยว่าผมพูดดีมากๆ ไม่ได้โกรธหรือใส่อารมณ์ใดๆ เลย บทสนทนาประมาณนี้ คร่าวๆ ครับ
ผม : ขอสอบถามหน่อยครับ ใช่สิทธิประกันสังคมแล้วทำไมต้องจ่ายเงินเพิ่มด้วยครับ
จนท : ที่นี่ไปเบิก รพ.ได้แค่ 30 บาทเอง ก็เลยต้องเก็บเพิ่ม(หน้าเหวี่ยงมาก) นี่ก็ล้างแผลไม่ได้เก็บตังค์นะ เก็บแค่ค่าผ้าก๊อต ถ้าไม่อยากเสียก็ไปซื้อผ้าก๊อตมาเองดิ
ผม : ผมคุยกับประกันสังคมมาแล้วไม่ต้องเสียนี่ (เริ่มเซ็ง)
จนท : ที่อื่นไม่รู้ แต่ที่นี่เป็นแบบนี้
ผม : ??????
จนท : ไม่พอใจก็ไม่ต้องมาแล้วนะ ถ้าไม่อยากเสียเงินก็ไป รพ. โน้น
ผม : เฮ้ย พูดงี้เลยเหรอ(คิดในใจ...กำลังอึ้ง)
จนท : พรุ่งนี้ไม่ต้องมาล้างที่นี่แล้วนะ (น้ำเสียงใส่อารมณ์มาก)
ผม : งั้นผมต่อสายให้คุยกับประกันสังคมนะ
จนท : ไปเรียกผู้หญิงคนนึงมาคุย เห็นว่าเป็นภรรยาหมอเจ้าของคลีนิก(เค้าบอกกับ จนท ประกันสังคมในสาย)
ภรรยาหมอ คุยกับประกันสังคมอยู่พักใหญ่ ใจความประมาณว่า เค้าไปเบิก รพ. ได้แค่ 30 บาทจริง เลยขอเก็บค่าผ้าก๊อต
และก็บอกว่าคุณลุง(พ่อผม) ก็ยินยอมเองที่จะจ่าย แต่ผมมาถึงก็มาโว้ยวาย เค้าแจ้งก่อนแล้ว
แล้วก็ส่งมาให้ผมคุยกับประกันสังคมต่อ จนท.ก็ยืนยันว่าไม่ต้องเสีย เคลสนี้คลีนิกผิดเอง แต่คุยไม่ทันรู้เรื่องสายก็ตัด
ผมเลยมาคุยกับคลีนิค ว่าที่ผมมาถามเนี่ยผมแค่อยากได้คำชี้แจงว่าเพราะอะไร อย่างไง แต่พนักงานหน้าร้านคุณนี่แหละมาพูดจากไม่ดี และดูถูกผมก่อน
100 บาท ถ้าถามว่าผมโอเคไหม ผมยินดีนะถ้าคุณชี้แจ้ง และพูดกันดีดี เพราะยังไงก็ถูกกว่าค่าน้ำมัน ค่าเสียเวลาไปล้างที่ รพ. แต่นี่คุณทำผิด และคุณก็ยังจะมาพูดแบบนี้ ที่ผมต้องต่อสายกับประกันสังคมเพราะทั้งสองฝ่ายให้ข้อเท็จจริงไม่ตรงกัน
เรื่องวันนั้นก็เลยจบ และผมก็ให้พ่อไปล้างแผลที่ รพ. แทน เพราะไม่อยากไปรบกับคลีนิกนี้อีกแล้ว ใบเสร็จก็ไม่ให้มา
ในกรณีแบบนี้ ผมควรทำอย่างไงกับคลีนิกนี้ดีครับ แบบนี้มันเอาเปรียบกันชัดๆเลย ในเมื่อแค่ล้างแผลเป็นบริการพื้นฐานยังมาเก็บตังค์เพิ่ม แถมมาอ้างอีกว่าคนไข้ยอมรับแล้ว แปลว่าถ้าพ่อไม่ยอมรับก็ไม่ล้าง ทั้งที่ใช้สิทธิที่คุณยอมรับมาเอง
ผมไม่ได้โกรธหรืออะไรเค้าหรอก แต่ถ้าผมปล่อยไว้แบบนี้ คนไข้ คนป่วย อีกกี่คนที่จะถูกเอาเปรียบแบบนี้
เลยอยากจะขอคำแนะนำวิธีจัดการกับคลีนิกพวกนี้ด้วยครับ
ร้องเรียนไปก็กลัวจะเงียบหาย เพราะขนาดให้คุยโทรศัพท์กันขนาดนี้ ยังไม่สามารถทำอะไรได้เลย