คือลืมใส่เหตุผลว่า เราเป็นชะนีไม่รักเด็ก มีลูกคน จนไปสามสิบปี พ่อบอก แต่ไม่รำคาญไรหรอก เด็กยังไม่รู้ประสาร้องก็ยังพอทนได้ พ่อแม่คงไม่อยากให้ลูกร้องหรอก
เรื่องมันก็มีอยู่ว่า พี่ที่ทำงานเนี่ย แกเป็นคุณพ่อลูกอ่อน ลูกชายคนแรก มีลูกตอนที่พ่อมีหน้าที่การงาน หลักฐานมั่นคงแล้ว ตัวพ่อก็เลยเห่อหน่อย ก็ไม่หน่อยแหละในความรู้สึกเรา แกชอบเอาลูกมาที่ทำงาน เฉลี่ย อาทิตย์ละวันเลย(เมียแกทำงานที่เดียวกันด้วย) เอามานี้คือเอามาเลี้ยงทั้งวันนะคะ มาตั้งแต่เช้า พลัดกันมั่ง แผนกพ่อมั่ง แผนกแม่มั่ง เอามาไม่เอามาเปล่า มีคนช่วยเลี้ยงกันเกือบทั้งแผนก(เว้นเรา ตามเหตุผลอย่างที่บอก) คือที่ทำงานก็ต้องทำงานไง แกเลยไม่มีเวลาเลี้ยงลูกทั้ง 8 ชม เวลางาน ก็มีคนอื่นช่วยอุ้ม ป้อนนม เปลี่ยนผ้าอ้อม ให้ลูกตัวขี้ใส่ ตดใส่ เฮฮากันไป ชะนีโลกสวยรักเด็กนู้น นี่ นั้น เราคงเป็นคนเดียวมั้งที่ไม่เคยอุ้ม (แต่เราไม่เคยบอกเหตุผลใครๆ หรอกนะ เดี๋ยวเค้าจะหาว่าเราบ้า) เราก็ยิ้มๆ แซวๆ จับแขน ดึงขา ลูบหัวไป ลูบหางไปตามมารยาทสังคม(ที่พึงกระทำมั้ง)บ้าง เด็กร้องเราก็ไม่รำคาญอะไรหรอก เพราะเรามีสมาธิพอ ที่จะทำงาน งานไหนใช้สมาธิเราก็ตัดเสียงรบกวนจากภายนอกด้วยตัวเราเองได้อยู่แล้ว แต่ก็มานั่งๆคิดดู ว่าสถานที่ทำงานเนี่ย มันเป็นสถานที่ที่ควรจะเอาลูกมาเลี้ยงรึเปล่า ไม่ได้แค่ไปรับกลับมาจากโรงเรียนแล้วรอกลับบ้านด้วย แต่เอามาเลี้ยงตั้งแต่เช้าจนเลิกงาน
ถ้าโลกสวยหน่อยก็ควรจะบอกว่า พ่อแม่เค้าคงมีเหตุผลแหละ (ก็น่าจะใช่ เพราะไม่ได้เอามาทุกวัน ปกติน่าจะฝากหรือมีพี่เลี้ยง) น่าเห็นใจนะ งานก็ต้องทำ ลูกก็ต้องเลี้ยง ทั้งพ่อทั้งแม่ แต่ความคิดขวางโลกมันก็บอกเราว่า ถ้าไม่พร้อมแล้วจะมีทำมายยยยยย ลูกเนี่ยมันเป็นความรับผิดชอบเฉพาะพ่อ แม่ เท่านั้นไม่ใช่เหรอ อยากมี(หรือไม่อยากแต่มี) มีแล้วก็ต้องรับผิดชอบกันเองซิ เพื่อนร่วมงานไม่ใช่พี่ ป้า น้า อา (ถึงใช่ก็ไม่ควรหรอก ในความคิดเราอ่ะนะ เว้นแต่ใครเต็มใจก็ว่ากันไป)
แล้วแกก็เห่อลูกมากไง วันไหนไม่เอาลูกมา พูดถึงลูกทั้งวัน นู้น นี่ นั้น ตื่นกวนมั้ง ลูกชอบคุยมั้ง (ลูกแก 7 เดือน) ลูกโกรธพ่อมั้ง ตามประสาคนเห่อลูก (เราเข้าใจที่แกเห่อนะ แต่การมีลูก เลี้ยงลูกมันเป็นเรื่องธรรมดาของวิถีโลกป่ะ ทั่วบ้าน ทั่วเมืองทั่วโลก เค้าก็มีกัน) ไม่ก็เอารูปลูก คลิปวีดีโอที่ถ่ายไว้ มา(ยัดเยียด) ให้เราดู เราก็ต้องเออออ ห่อหมก หัวเราะไปตามเรื่องตามราว ตามประสา มนุษย์ผู้เป็นสัตว์ประเสริฐเขาทำกัน ถ้าถามเรา แล้วเราบอกได้แบบไม่มีใคร ครหา นินทา ไม่พอใจ เราจะบอกว่า ไม่สนใจค่ะ ไม่ตื่นเต้น เป็นเรื่องธรรมดามาก ใครๆเค้าก็มีกัน ลูกคนอื่นเค้าก็เป็น
แล้วลูกส่วนตัว(ลูกนะลูก เราตั้งใจจะพิมพ์) มันควรจะเอามาเลี้ยงที่ทำงานเหรอ ยิ่งเด็กเล็กๆ( 7 เดือน)ที่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ถ้าไม่หลับก็ตื่น เดินยังไม่ได้ ตื่นต้องมีคนอุ้ม เนี่ยมันยิ่งไม่น่าเอามาเข้าไปใหญ่รึเปล่า นานนนนนนนน ๆ ที แบบมีเหตุผลจริงๆค่อยว่าไปอย่างรึเปล่า เข้าโรงเรียนแล้ว โรงเรียนปิดเทอม ที่บ้านไม่มีคนอยู่ มานั่งเงียบๆ แม่หาไรให้ทำ ก็ว่าไปอย่าง นะเราว่า
ปล. พ่อกับแม่ไม่เคยเอาเรากับน้องไปเลี้ยงที่ทำงานนะ บอกไว้ก่อน มีคุณตาย คุณยาย อาม่า อากง(ที่รักหลาน และเต็มใจจะเลี้ยง เลี้ยงให้ โตหน่อยแม่ก็หาพี่เลี้ยงและ)
มาคิดๆดูอีกที เราคงเป็นเป็นไม่ดีเองรึเปล่า ที่ไม่เป็นนางงามรักเด็ก เฮ้ออออออออออออออ เบื่อตัวเองที่เป็นแบบนี้เหมือนกัน ทำใจรักเด็กไม่ได้ซักที
ลูกเนี่ย ควรเอามาเลี้ยงที่ทำงานรึเปล่าคะ
เรื่องมันก็มีอยู่ว่า พี่ที่ทำงานเนี่ย แกเป็นคุณพ่อลูกอ่อน ลูกชายคนแรก มีลูกตอนที่พ่อมีหน้าที่การงาน หลักฐานมั่นคงแล้ว ตัวพ่อก็เลยเห่อหน่อย ก็ไม่หน่อยแหละในความรู้สึกเรา แกชอบเอาลูกมาที่ทำงาน เฉลี่ย อาทิตย์ละวันเลย(เมียแกทำงานที่เดียวกันด้วย) เอามานี้คือเอามาเลี้ยงทั้งวันนะคะ มาตั้งแต่เช้า พลัดกันมั่ง แผนกพ่อมั่ง แผนกแม่มั่ง เอามาไม่เอามาเปล่า มีคนช่วยเลี้ยงกันเกือบทั้งแผนก(เว้นเรา ตามเหตุผลอย่างที่บอก) คือที่ทำงานก็ต้องทำงานไง แกเลยไม่มีเวลาเลี้ยงลูกทั้ง 8 ชม เวลางาน ก็มีคนอื่นช่วยอุ้ม ป้อนนม เปลี่ยนผ้าอ้อม ให้ลูกตัวขี้ใส่ ตดใส่ เฮฮากันไป ชะนีโลกสวยรักเด็กนู้น นี่ นั้น เราคงเป็นคนเดียวมั้งที่ไม่เคยอุ้ม (แต่เราไม่เคยบอกเหตุผลใครๆ หรอกนะ เดี๋ยวเค้าจะหาว่าเราบ้า) เราก็ยิ้มๆ แซวๆ จับแขน ดึงขา ลูบหัวไป ลูบหางไปตามมารยาทสังคม(ที่พึงกระทำมั้ง)บ้าง เด็กร้องเราก็ไม่รำคาญอะไรหรอก เพราะเรามีสมาธิพอ ที่จะทำงาน งานไหนใช้สมาธิเราก็ตัดเสียงรบกวนจากภายนอกด้วยตัวเราเองได้อยู่แล้ว แต่ก็มานั่งๆคิดดู ว่าสถานที่ทำงานเนี่ย มันเป็นสถานที่ที่ควรจะเอาลูกมาเลี้ยงรึเปล่า ไม่ได้แค่ไปรับกลับมาจากโรงเรียนแล้วรอกลับบ้านด้วย แต่เอามาเลี้ยงตั้งแต่เช้าจนเลิกงาน
ถ้าโลกสวยหน่อยก็ควรจะบอกว่า พ่อแม่เค้าคงมีเหตุผลแหละ (ก็น่าจะใช่ เพราะไม่ได้เอามาทุกวัน ปกติน่าจะฝากหรือมีพี่เลี้ยง) น่าเห็นใจนะ งานก็ต้องทำ ลูกก็ต้องเลี้ยง ทั้งพ่อทั้งแม่ แต่ความคิดขวางโลกมันก็บอกเราว่า ถ้าไม่พร้อมแล้วจะมีทำมายยยยยย ลูกเนี่ยมันเป็นความรับผิดชอบเฉพาะพ่อ แม่ เท่านั้นไม่ใช่เหรอ อยากมี(หรือไม่อยากแต่มี) มีแล้วก็ต้องรับผิดชอบกันเองซิ เพื่อนร่วมงานไม่ใช่พี่ ป้า น้า อา (ถึงใช่ก็ไม่ควรหรอก ในความคิดเราอ่ะนะ เว้นแต่ใครเต็มใจก็ว่ากันไป)
แล้วแกก็เห่อลูกมากไง วันไหนไม่เอาลูกมา พูดถึงลูกทั้งวัน นู้น นี่ นั้น ตื่นกวนมั้ง ลูกชอบคุยมั้ง (ลูกแก 7 เดือน) ลูกโกรธพ่อมั้ง ตามประสาคนเห่อลูก (เราเข้าใจที่แกเห่อนะ แต่การมีลูก เลี้ยงลูกมันเป็นเรื่องธรรมดาของวิถีโลกป่ะ ทั่วบ้าน ทั่วเมืองทั่วโลก เค้าก็มีกัน) ไม่ก็เอารูปลูก คลิปวีดีโอที่ถ่ายไว้ มา(ยัดเยียด) ให้เราดู เราก็ต้องเออออ ห่อหมก หัวเราะไปตามเรื่องตามราว ตามประสา มนุษย์ผู้เป็นสัตว์ประเสริฐเขาทำกัน ถ้าถามเรา แล้วเราบอกได้แบบไม่มีใคร ครหา นินทา ไม่พอใจ เราจะบอกว่า ไม่สนใจค่ะ ไม่ตื่นเต้น เป็นเรื่องธรรมดามาก ใครๆเค้าก็มีกัน ลูกคนอื่นเค้าก็เป็น
แล้วลูกส่วนตัว(ลูกนะลูก เราตั้งใจจะพิมพ์) มันควรจะเอามาเลี้ยงที่ทำงานเหรอ ยิ่งเด็กเล็กๆ( 7 เดือน)ที่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ถ้าไม่หลับก็ตื่น เดินยังไม่ได้ ตื่นต้องมีคนอุ้ม เนี่ยมันยิ่งไม่น่าเอามาเข้าไปใหญ่รึเปล่า นานนนนนนนน ๆ ที แบบมีเหตุผลจริงๆค่อยว่าไปอย่างรึเปล่า เข้าโรงเรียนแล้ว โรงเรียนปิดเทอม ที่บ้านไม่มีคนอยู่ มานั่งเงียบๆ แม่หาไรให้ทำ ก็ว่าไปอย่าง นะเราว่า
ปล. พ่อกับแม่ไม่เคยเอาเรากับน้องไปเลี้ยงที่ทำงานนะ บอกไว้ก่อน มีคุณตาย คุณยาย อาม่า อากง(ที่รักหลาน และเต็มใจจะเลี้ยง เลี้ยงให้ โตหน่อยแม่ก็หาพี่เลี้ยงและ)
มาคิดๆดูอีกที เราคงเป็นเป็นไม่ดีเองรึเปล่า ที่ไม่เป็นนางงามรักเด็ก เฮ้ออออออออออออออ เบื่อตัวเองที่เป็นแบบนี้เหมือนกัน ทำใจรักเด็กไม่ได้ซักที