แชร์ประสบการณ์ร้อยไหม ได้ผลจริงหรือคิดไปเอง

คิดอยู่นานว่าจะมาเล่าดีไหม
แต่ก็อยากให้กระทู้นี้มีไว้ให้สำหรับคนที่สนใจหรืออยากไปร้อยไหมได้ตัดสินใจดีๆ ทบทวนไตร่ตรอง ให้รอบคอบไม่อยากให้เสียเงินฟรีๆ
อยากบอกเล่าประสบการณ์ว่าไปทำมาแล้วดีไหม ได้ผลยังไง เพื่อให้ข้อมูลสำหรับคนที่หาข้อมูลอยู่

ยาวหน่อยนะค่ะ หรือจะไปอ่าน 2 ย่อหน้าสุดท้ายก็ได้ค่ะ

ปกติ เราเป็นคนที่กรามใหญ่ แก้มเยอะอยู่แล้ว ก็โบท็อก เมโสแฟต หน้าก็เรียวลงเยอะ
แต่มาปีนี้คือก็ห่างหายการโบท็อกและเมโสแฟต ไปพอสมควร หน้ามันก็เริ่มกลับมาบานค่ะ
ถ้าใครที่เคยทำพวกนี้จะรู้ว่า มันก็ต้องทำไปเรื่อยๆ 3 เดือน 6 เดือนแล้วแต่ เพราะไม่งั้นหน้าจะกลับมาบานเป็นจานดาวเทียม

เราไม่เคยเชื่อว่าการร้อยไหมทำให้หน้าเรียวได้มาก่อนเราคิดแต่ว่ามันช่วยให้ตึงอย่างเดียว
แต่เนื่องจากเพื่อนสาวประเภทสองของเราไปทำแล้วนางก็เป็นกูรูเรื่องความงาม
นางชอบทำนั้นนี้ ก็มาเล่าๆ เราก็เฮ้ยเหมือนคนรู้จักจริงๆจะไปทำจริงๆมาเล่า ก็เริ่มอยากลอง
เพราะนางก็เมาส์ๆว่า อยู่ได้ 3 ปี เราก็คิดสิเออคุ้มกว่าฉีดหน้าอีก แต่ตอนนั้นเพื่อนยังไม่ได้ร้อยนะค่ะ
แค่ไปคุยกับหมอแล้วนัดคิวไว้รอหมอกลับจากเกาหลี (หมอไปเทรนที่เกาหลีบ่อยมาก)

ประจวบเหมาะเราซื้อดีลของคลินิคนี้เพื่อไปโบท็อก  100 unit ราคา 6000 บาทย่านทองหล่อ น่าจะเป็นโบท็อกของเกาหลี
พอไปฉีดโบท็อก ก็มีเชียร์ให้ฉีดโอมเพื่อลดแก้ม และแน่นอนโดนเซลล์เชียร์ให้ร้อยไหม
เซลล์เชียร์ให้เราซื้อไว้ก่อนแล้วค่อยมาทำได้ราคาพิเศษเส้นละ 350 บาท
เข้าใจกันไหมงะ คนอยากหน้าเรียวงะนะ ก็แบบว่าอยากลอง เราบอกเซลล์ว่าเดี่ยวรอดูหน้าเพื่อนก่อนว่าได้ผลไหม
เพราะก่อนหน้านี้เราก็หาข้อมูลในเนตพอสมควร
สำหรับผลกระทบ บางคนก็หน้าเป็นรอยบุ๋ม รอยปูด เราก็กลัวสิยังไม่กล้าทำหรอกบอกเซลล์ด้วยเหตุผลนี้
เซลล์ก็บอกว่าคนละหมอกันทำมาไม่เหมือนกัน คุณหมอเก่งมากไปเทรนที่เกาหลีบ่อยมาก สุดท้ายเซลล์เชียร์จนได้ผล
ด้วยราคาเส้น 350 จากปกติเส้นละ 450 ซื้อทีกลังไม่ได้ราคานี้

เราตัดสินใจว่าโอเคซื้อไว้ก่อนก็ได้ ก็ให้คุณหมอประเมิน หมอประเมินมาให้ร้อยไหม 120 เส้น
ค่ะ....ไม่ได้เขียนผิด แก้ม 2 ข้าง ข้างละ 50 เส้น เหนียงใต้คออีก 20 เส้น แหม..ตกใจใช่ไหมค่ะ
ทำไมร้อยเยอะจัง เพื่อนเราเยอะกว่านี้อีกเดี่ยวไว้เล่าตอนท้าย เบ็ดเสร็จก็ 42,000 บาท
ออกจากคลินิค ตัวเบาเลยค่ะ

มาถึงวันที่จะร้อย เพื่อนสาวเราร้อยไปก่อนแล้วเกือบเดือนนางก็ให้กำลังใจว่าไม่ต้องกลัว
คือเราซื้อไว้เกือบเดือนถึงนัดร้อย ช่วงนั้นก็หาข้อมูก็ยิ่งวิตกว่าเฮ้ยมันจะแย่กว่าเดิมไหมว๊าาา
จนวันที่เราจะขึ้นเขียง เอ๊ยขึ้นเตียงร้อย ก็มาถึง หมอก็ฉีดยาชา แล้วก็เริ่มร้อยไปเรื่อยๆ
จะบอกว่าตอนร้อยนี้คือไม่กล้าลืมตาขึ้นมามองเลยค่ะ มันน่าหวาดเสียวไงก็ไม่รู้
แต่จะมีเสียวแปลบๆ ตอนปลายเข็มหน่อยๆ แต่ก็อดทนหมอก็บอกผู้ช่วย ขอไหมยาวเฟือยยย
ผู้ช่วยที่แต่งตัวเหมือนพยาบาลก็พูดให้กำลังใจใหญเลยเรียวขึ้นละค่ะ ยกกระชับขึ้นละค่ะ ฉันจะสวยๆๆ ในใจมโนไปเรื่อย
แต่แบบอยากให้มันผ่านไปไวๆ มากๆๆ ลืมเล่าว่าเขาเชียร์ให้ฉีด มาเด้คอลลาเจน เข้าผิวตอนร้อยไหม
ให้หน้าใส อีก 4000 บาท จัดไปค่ะ นานๆที ใจง่ายจริงเนอะ

ร้อยเสร็จดูกระจก หน้าบวมบานยิ่งกว่าจานดาวเทียม หมอก็บอกเดียวจะยุบลงตอนนี้มันบวมยาที่ฉีดไป
คุณผู้ช่วยก็บอก 1 เดือนจะเริ่มสวย 2 เดือนนี้สวยเต็มที่มากๆ แล้วก็ได้ยากินแก้อักเสบกลับบ้าน
วันต่อมาก็บวมฉึ่งเลย หน้ามีรอยเข็มและก็เขียว ช้ำบ้าง ชีวิตสาวทำงานออฟฟิตก็ต้องออกไปทำมาหากิน
มาใช้จ่ายเรื่องความงาม 5555 ก็ไปทำงานค่ะแต่ไม่ได้บอกใครว่าไปทำไรมา
บอกเพื่อนร่วมงานว่าเป็นลมพิษแพ้ไรสักอย่าง หน้าเลยบวม
หน้าบวมอยู่เป็นเดือนค่ะ ผิวมันดูเต่งๆตึงๆดีเนอะ แบบรูขุมขนดูกระชับ หน้าดูเนียนขึ้นนิดนึง ก็แบบว่าเฮ้ยมาเด้ คอลลาเจนไปมันดีเว๊ยยย
แต่หน้าที่อยากให้เล็กลง ก็ไม่เห็นมันจะเล็กแก้มยังใหญ่เหมือนเดิม ก็เริ่มนอยด์ บ่นกับเพื่อน เพื่อนก็บอกว่าเออแก้มส้มนางก็ไม่ขึ้นเลย
แล้วแม่นางก็ร้อยมีแต่คนทักว่าหน้าตึงขึ้น แต่พอผ่านไป 2 เดือนได้ หน้าแม่เพื่อนที่เคยตึงๆก็เริ่มไม่ตึงเหมือนตอนร้อยมาแรกๆ
เราก็เลยจับจุดสังเกตุว่าจริงๆแล้ว การร้อยไหมที่หมอเอามาอ้างว่า หน้าเรียว รูขุมขนกระชับ ผิวเต่งตึง ยิ่งกว่าการดึงหน้า มันอะไรยังไง

จากประสบการณ์ของเรา,เพื่อนและแม่เพื่อน วิเคราะห์ออกมาได้ว่า
1.เดือนแรกตึงค่ะ ดูเต่งๆเลย เพราะว่ามันบวม หน้าเลยดูตึงขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้น แต่หลังจากนั้น 2 เดือนผิวก็เริ่มปกติไม่ได้เต่งตึงเหมือนตอนทำใหม่ๆ
หน้าแม่เพื่อนเราก็เหมือนกันที่ว่าตึงๆ ก็ไม่ตึงแล้วค่ะ (เพื่อนเราร้อยไหม 195 เส้น แม่เพื่อนประมาณ 250 เส้น)
2.สังเกตุดูค่ะ ว่าเวลาร้อยไหม หมอจะให้ฉีดโบท็อกไปด้วย คลินิคหลายๆที่ ที่เราเห็นก็จะมีโปรร้อยไหมแถมโบท็อก
  ก็เพราะว่าที่หน้าเรียวขึ้นจริงๆแล้วเป็นจากการฉีดโบท็อก  การร้อยไหมไม่ได้ทำให้หน้าเล็กลงเลย แก้มเรายังใหญ่เหมือนเดิม
3.เป็นประสบการณ์ส่วนตัวและคนข้างตัวที่ไปทำมา คลินิคอื่นอาจจะทำแล้วเล็กจริงก็ได้ แต่ก็ไม่ควรโบท็อกพร้อมกันจะได้รู้กันไปเลยว่าเรียวจริงไม่จริงจากการร้อยไหม
4.เราโชคดีที่ไม่มีผลกระทบจากการร้อยไหม มีแต่ว่ามันไม่ได้ผลเท่านั้นเอง โบท็อกที่คลินิคนี้กรามเราก็ไม่ลด กัดฟันยังเป็นก้อนอยู่เลย เพื่อนเรากับแม่เพื่อนก็โดนให้โบท็อกเหมือนกัน
   เพื่อนก็บอกว่าไม่ได้ผลจ๊ะ  เลยกลับไปฉีดที่เก่าดีกว่า แพงกว่าแต่ได้ผลกว่า
5.ช่วงที่ไหมยังไม่ละลายจะยิ้มไม่ได้ จะปวด เสียวๆ เหมือนมีไรทิ่มอยู่ที่หน้า ตอนนี้ผ่านมาเกือบ 3 เดือนแล้วอาการนี้หายไปแล้วค่ะ

ใครจะไปร้อยไหมเราไม่เชียร์เลย เพื่อนเราอยากไปทำมาปรึกษาเราก็ไม่ให้ทำ เปลืองเงินเสียดายเงิน โบท็อกไปดีกว่า เมโสแฟตลดแก้มได้ผลกว่า
แต่ก็เลือกที่โบดีๆ เพราะอาจจะไม่ได้ผลเหมือนเราที่ทำกับคลินิคนี้ เสียดายเงินนะแต่ก็ทำให้หายสงสัย หายอยาก 55555
เขียนยาวมาก คิดว่าจะเป็นแหล่งข้อมูลให้กับคนที่สนใจไปทำนะค่ะ ^___^
หรือใครทำมาแล้วได้ผลยังไง ช่วยแชร์ประสบการณ์ด้วยค่ะ ที่เราเล่าเป็นประสบการณ์ส่วนบุคคล บุคคลอื่นอาจจะได้ผลต่างกัน
หรือสอบถามเพิ่มเติมได้เช่นกันค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่