พาชม สำนักสงฆ์พุทธศิลาภูม่านฟ้า อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์

กระทู้สนทนา
เมื่อวันที่ 17  พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปนมัสการ  (หลวงพ่อแดง)  ณ สำนักสงฆ์พุทธศิลาภูม่านฟ้า  อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์  ณ ที่แห่งนี้ได้ซ่อนความสงบเงียบ และพุทธศิลป์ที่กำลังก่อสร้างอย่างงดงาม เอาไว้เพื่อดำรงซึ่งพุทธศาสนา  แต่มีผู้คนไม่น้อยที่อาจจะยังไม่เคยเห็นและไม่รู้จัก สำนักสงฆ์พุทธศิลา ภูม่านฟ้า  ผมจึงขออนุญาตพาชม จากภาพถ่ายของผมเอง โดยใช้เวลาที่เหลือจากการฟังธรรมเทศนา ของหลวงพ่อแดง ออกเดินบันทึกภาพมาฝากครับ  

ประวัติ ที่มา : http://www.phanomrungpuri.co.th/th/node/33#.U3tmpfl_uSo
สำนักสงฆ์พุทธศิลาภูม่านฟ้า   ตั้งอยู่ในอำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นสำนักสงฆ์ที่หลายๆท่านอาจเคยได้ยินชื่อ เพราะมีเกจิอาจารย์ดัง คือ หลวงพ่อแดง หรือ พระอาจารย์แดงที่คนในหมู่บ้านใน อ.ชำนิ, อ.ลำปลายมาศ อ.นางรอง รวมถึงอำเภอใกล้เคียงในจังหวัดบุรีรัมย์และผู้คนจากที่อื่นรู้จักและเคารพท่านเป็นอย่างยิ่ง เหตุเนื่องจากว่าท่านเป็นสงฆ์ที่แสดงธรรมเทศนาได้อย่างน่าฟัง บริเวณสำนักสงฆ์ภูม่านฟ้า อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ มีพื้นที่ทั้งหมด 200 ไร่ บรรยากาศร่มรื่น เต็มไปด้วยก้อนหินที่นำมาแกะเป็นรูปลักษณ์อักษรทางพระพุทธศาสนา โดยมีพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธ์ภายในวัดภูม่านฟ้า คือ หลวงปู่หิน ซึ่งเป็นจุดแรกที่เมื่อเดินมาถึงแล้วต้องเข้าไปกราบไหว้ก่อนเข้าเดินชม ณ จุดอื่นๆ ทั้งนี้ก็ยังมีศาลาที่รวบรวมของโบราณที่น่าสนใจหลาย
      ลักษณะเด่น คือ รูปแบบงานศิลปะเป็นการแกะสลักซึ่งต้องใช้ความอดทน ความประณีต จิตศรัทธาของประชาชน รวมถึงกำลังทรัพย์ที่หลั่งไหลมาอย่างไม่ขาดสาย การสร้างและการจำลองกุศโลบายต่างๆของทางพระพุทธศาสนาด้วยบริเวณที่กว้าง บรรยากาศร่มรื่น เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนเป็นเงียบๆ อิงธรรมะและธรรมชาติ อีกอย่างการเดินทางก็ไม่ห่างจากอำเภอนางรองมาก จึงเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวแบบครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง
     การเดินทางสู่วัดภูม่านฟ้าและหลวงปู่หิน : เดินทางโรงแรมพนมรุ้งปุรีให้มุ่งหน้าสู่อ.ชำนิ หรือ อ.ลำปลายมาศ ใช้ทางหลวงหมายเลข 2073 (ถนนนางรอง-ลำปลายมาศ) เพียง 12 กิโลเมตร





หลังจากฟังธรรมเทศนา เสร็จหลวงพ่อ ก็พาเดินไปชมพระมหาเจดีย์ สถานที่ประดิษฐาน - พระบรมสารีริกธาตุ สร้างขึ้นจากหิน และแกะสลักด้วยมือทั้งหมด ถ้าอยู่นะจุดนั้นจะรู้สึกว่ายิ่งใหญ่และสวยงามมาก ทั้งที่ยังไม่เสร็จสมบรูณ์ แต่ผมเชื่อได้ ว่าหากแล้วเสร็จจะเป็นอีกหนึ่งพระมหาเจดีย์ที่สวยงามที่สุดอีกที่หนึ่งของเมืองไทย



ภาพนี้เป็นภาพหนึ่งที่มีประวัติความเป็นมาซึ่งผมไม่อาจจะเล่าให้ฟังได้ เพราะมัวแต่ถ่ายภาพและไม่ได้ฟัง ขณะหลวงพ่อเล่า (ช่างหน้าเสียดาย) รู้แต่ว่า เป็นเจ้าพ่อสิงโตผู้สระศิลาเพื่อสร้างพุทธบูชานี้ นานวันก้อนหินกะเทาะออกมาเป็นภาพสิงโต ดูจากรูปแล้วเพื่อนคิดว่าเป็นภาพอะไรครับ ผมรับประกันจากการเข้าไปมองใกล้ได้ว่าเกิดขึ้นตามธรรมชาติจริงๆ


ภาพนี้หลวงพ่อทรงเล่าถึง ประวัติ ณ ที่ตั้งพระมหาเจดีย์ ให้ฟังครับ(ไม่ขอเล่าให้ฟังนะครับT_Tไว้ใครมีโอกาศไปรับฟังจากหลวงพ่อเองดีกว่า)



ภาพสุดท้ายก่อนจะค่ำมืด แล้วฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก ไม่สามารถออกไปไหนได้อีกอย่างไฟฟ้าจะมีเป็นจุดๆเท่านั้น


หลังจากฝนตกลงมาจนเกือบเช้า ผมก็รีบตื่นขึ้นมาเพื่อจะถ่ายภาพยามเช้า แต่น่าเสียดายฟ้าไม่เปิดพระอาทิตย์ไม่อวดโฉมยามเช้าให้เห็น



พอตอนสายฟ้าเริ่มเปิดผมก็เดินเก็บภาพมาฝากต่อครับ






เมื่อเดินเข้าสู้ในพระมหาเจดีย์ ก็จะพบกับ พระพุทธรูปศิลา ที่ ดูสง่างามสวยแบบพระพุทธรูปหินสลัก พร้อมภาพสลักภายใน ที่มีเรื่องราว และที่ขึ้นโครง หรือ แกะสลักไปแล้วหลายส่วน งดงามยิ่งนัก  (ทั้งหมดพระท่านสลักด้วยมือนะครับ คงต้องใช้เวลาอีกนานพอดู)













ภาพรวมพระมหาเจดีย์






บรรยากาศโดยรอบในก็จะมีทางเดินที่ทำแล้วบางส่วนดูร่มรื่นเย็นสบายครับ



มาถึง สำนักสงฆ์พุทธศิลาภูม่านฟ้าแล้ว  ต้องเข้าไปสัก สักการบูชา  “หลวงปูหิน”  ท่านทั้งหลายว่าสักสิทธิ์นักแลครับ


กราบหลวงปูหิน เสร็จ ก็เดินต่อไปขอพรพระพุทธรูปนอน กันต่อเลยครับผมเก็บภาพบางส่วนมาฝากนิดหน่อยครับ (แค่บางส่วนนะครับ)










ก่อนกลับฟังฟังธรรมเทศนาจากหลวงพ่อ แล้วกราบลามุ่งสู่บางกอกครับ


ภาพถ่ายชุดนี้ผมถ่ายมาเพื่อท่านผู้มีจิตศรัทราในพุทธศาสนาได้ชม หากท่านได้มีโอกาสเดินทางไป จ. บุรีรัมย์ อาจจะอยากเข้าไปเยี่ยมชม สักการะ ในโอกาสต่อไปครับ
ปล. ผมถ่ายภาพมาแค่บางส่วนยังมีอีกหลายส่วน ที่ไม่ได้ถ่ายมาให้ชมครับยังมีอีกมาก หากผมพิมพ์อธิบายผิดพลาดหรือทำอะไรไม่ถูกต้องกระผมขออภัยไว้ที่นี้ด้วยครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่