พอพูดถึงขลุ่ยจีน คิดว่าหลาย ๆ คนคงต้องนึกถึงฉากที่พระเอกชอบเป่าในหนังจีนกำลังภายในแทบทุกเรื่อง หรือบางเรื่องอาจจะนางเอกเป่าก็ได้ หรือตัวประกอบเป่าก็ได้ หรือทั้งเรื่องอาจจะไม่มีคนเป่าขลุ่ยให้เห็นเลย แต่ก็ต้องได้ยินดนตรีประกอบเป็นขลุ่ยจีนกันมั่งแหละน่า ข้าน้อยขอเอาหัวเป็นประกันเลยแล้วอยากรู้มั้ยขลุ่ยจีนที่เห็นเสียงใส ๆ หรือขลุ่ยจีนอีกแบบหนึ่งที่เสียงนุ่มลึกฟังแล้วรู้สึกสงบร่มเย็นอยากนั่งสมาธิ แบบนั้นอ่ะ ทำมาจากอะไร แล้วอะไรทำให้มันมีเสียงที่ใสและนุ่มลึกแบบนั้น ในกระทู้นี้จะขอพูดถึงขลุ่ยจีนตี๋จื่อ และ เซียวนะครับ
"ขอเล่าประวัติสักหน่อยก็แล้วกันนะครับ"
เชื่อว่าทุก ๆ ประเทศก็คงมีเครื่องดนตรีที่ใช้เป่าที่ชื่อว่าขลุ่ยกันทั้งนั้นแหละครับ รวมถึงขลุ่ยไทยของบ้านเราด้วยนะ แต่ว่าลักษณะของขลุ่ยและเทคนิคการเล่นของแต่ละประเทศแต่ละพื้นที่อาจจะไม่เหมือนกัน โดยลักษณะเด่นของขลุ่ยจีนคือมีเยื่อไผ่ ด้วยเยื่อไผ่นี้เองทำให้เสียงที่ออกมาใสวิ้ง พลิ้วซะไม่มี ขลุ่ยจีนมีวิวัฒนาการมาจากขลุ่ยกระดูกสัตว์ซึ่งมีประวัติยาวนานถึง 7000 กว่าปีเลยที่เดียว สงสัยเวลาเป่าบ่อย ๆ แล้วรู้สึกเหม็นคาวก็เลยเปลี่ยนจากกระดูกสัตว์มาเป็นไม้แทนมั้งครับ แล้วก็เป็นไม้เรื่อย ๆ มาจนถึงปัจจุบันนี้ แต่ก็มีขลุ่ยโลหะ ขลุ่ยหยก ขลุ่ยหิน ขลุ่ยเซรามิค ขลุ่ยแก้ว รวมทั้งขลุ่ยไม้แข็งต่าง ๆ เช่นไม้มะเกลือ ไม้แดง ไม้ชิงชันด้วยนะเออ
อันนี้แหละขลุ่ยกระดูก ภาษาจีนเรียกว่า 古哨 Gǔ shào กู่เส้า
"แหล่งผลิตขลุ่ยจีนในปัจจุบัน"
ในปัจจุบันนี้แหล่งผลิตขลุ่ยจีนเจ้าใหญ่ ๆ และมีชื่อเสียงมักจะอยู่ที่ มณฑลเจ้อเจียง และเจียงซู มีหลายโรงงานมาก ๆ บางโรงงานผลิตกันตั้งแต่สมัยที่คนจีนยังไว้ผมแบบเกล้ามัดมวย ต่อด้วยทรงแมนจูโกนครึ่งหัวไว้ผมเปีย จนถึงปัจจุบันนี้เลยครับ ขลุ่ยกระดูกกู่เส้าในสมัยนั้นมันมีแค่สองรู้ครับ หนึ่งรูเป่า สองรูปิดโน๊ต อยากรู้เหมือนกันนะว่าเสียงจะออกมาเป็นยังไง แล้วก็พัฒนามาเรื่อย ๆ จนมี สามรู สี่รู ห้ารู จนถึงหกรู แต่ก็มีอีกนะ เจ็ดรู รู้สึกจะเป็นพวกขลุ่ย คีย์ Low มันแถมรูปิดนิ้วก้อยมาให้นิ้วนึง
มีเจ็ดรู แถมนิ้วก้อยมาให้นิ้วนึงแบบนี้ไง
"ประเภทของขลุ่ยจีน 梆笛 Bāng dí ปางตี๋ และ 曲迪 ฉวี่ตี๋ Qū dí "
ขลุ่ยจีนแบบ "ปางตี๋" เป็นที่นิยมมากในเขตภาคเหนือของประเทศจีน ขลุ่ย ปางตี๋ เป็นขลุ่ยที่สั้น ๆ เสียงที่ออกมาจะแหลมใส มักจะเป็นคีย์ F G A Bb Eb เนื่องจากเป็นขลุ่ยที่สั้น ทำให้ไม่เปลืองลมหน้ามืดเวลาเป่า จึงทำให้ขลุ่ย ปางตี๋ ชนิดนี้มักเข้ากับเพลงเร็ว ๆ ที่ต้องใช้เทคนิคแพรวพราวออกมาได้ดี ชนิดแบบว่า เป่าเร็วปิดนิ้วเร็วจนไม่มีเวลากลืนน้ำลายกันเลยทีเดียว และเป็นขลุ่ยที่เค้าใช้กันในวงงิ้วด้วย เช่น งิ้วปักกิ่ง (京剧)
นี่แหละ ขลุ่ย 梆笛 ปางตี๋
นี่เลยลองฟังเสียงขลุ่ย 梆笛 ปางตี๋
ขลุ่ยจีนแบบฉวี่ตี๋ เป็นที่นิยมในภาคใต้ของจีน เป็นขลุ่ยที่มีขนาดค่อนข้างยาว เช่น คีย์ C D E และคีย์ Low ทั้งหลายแหล่ และปัจจุบันขลุ่ยแบบฉวี่ตี๋ไม่ได้นิยมแต่เพียงภาคใต้เท่านั้นนะครับ แต่กลายเป็นที่นิยมไปทั่วโลกเลย เพราะสามารถใช้เล่นร่วมกับเพลงสมัยใหม่ ๆ ได้ดี
ขลุ่ยจีนแบบ 曲笛 ฉวี่ตี๋
วีดีโอการเป่าขลุ่ยจีน 曲笛 ฉวี่ตี๋ เพลงในนี้มาจากซีรีย์เรื่อง 步步惊心 ปู้ปู้จิงซิน
"ขลุ่ยจีนมีวัสดุอะไรบ้าง และแต่ละวัสดุให้เสียงแตกต่างกันอย่างไร"
พูดถึงวัสดุที่ใช้ทำขลุ่ยจีน สมัยก่อนก็จะมีการนำไม้ไผ่มาใช้ทำขลุ่ยจีนเป็นหลัก มีกระดูกบ้าง และก็มีดินเผา เครื่องเคลือบเซรามิกบ้าง แต่ในสมัยปัจจุบันนี้ เนื่องจากโลกเราพัฒนาไปเรื่อย ๆ จึงทำให้มีการนำวัสดุอื่น ๆ มาทำขลุ่ยจีน เช่น แก้ว โลหะ พลาสติก รวมถึงทั้งนำไม้เนื้อแข็งมากลึงให้กลมทำเป็นขลุ่ยครับ ซึ่งแต่ละวัสดุนั้นเสียงที่ได้ย่อมแตกต่างและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแน่นอนครับ
ขลุ่ยจีนที่ทำด้วยไม้ไผ่ สำหรับไม้ไผ่ที่นิยมนำมาทำขลุ่ยจีน ก็จะมีไผ่ขม ไผ่ม่วงป่า ไผ่เหลือง ไผ่เซียงเฟย(ลายด่าง) และทำไมถึงมีการใช้ไม้ไผ่หลากหลายขนาดนี้หละ เสียงที่เป่าออกมามันไม่เหมือนกันหรอกหรอ ? ใช่ครับ เสียงที่ออกมาไม่เหมือนกันครับ
-ขลุ่ยจีนที่ทำด้วยไม้ไผ่ขม เสียงที่ออกมาจะ สดใส ดังกังวาล สังเกตุได้ง่าย ๆ ว่าสีเนื้อไม้มักจะเป็นสีน้ำตาลแบบนี้
-ขลุ่ยจีนที่ทำจากไม้ไผ่ม่วง เสียงที่ได้จะออกมาเป็น กังวาลแบบกึกก้อง หวาน และนุ่ม เนื่องจากลำตัวของไผ่ม่วงโดยธรรมชาติเนี่ย มันจะลำ ปล้องใหญ่อยู่แล้วครับ และความหนาแน่นของเนื้อไผ่ค่อนข้างหนา เสียงออกมาจึงนุ่มและหวาน
-ขลุ่ยจีนที่ทำจากไม้ไผ่เซียงเฟย เสียงคอนข้างเอนไปทางไผขมครับ ลึกกึกก้องแบบสดใส แต่ไม้ไผ่เซียงเฟยมีลักษณะพิเศษตรงลำปล้องใหญ่ และทั้งต้นลำปล้องจะมีนาดเท่า ๆ กัน ไม่มีบิดเบี้ยว เป็นไผ่ที่เนื้อแข็งครับ แต่ความหนาแน่นจะไม่เท่าไม้ไผ่ม่วง เพราะฉะนั้นเสียงที่ออกมาจะเป็นครึ่ง ๆ กลาง ๆของไม้ไผ่ขมและไม้ไผ่ม่วงครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่ทุกคนจะสามารถฟังออกนะครับ ต้องเป็นคนที่เล่นขลุ่ยจีนมาได้ระยะหนึ่ง หรือไม่ก็เคยเล่นดนตรีฟังดนตรีมาบ้างถึงจะแยกแยะเสียงออกครับ ยิ่งถ้าเทพ ๆ กว่านั้นจะสามารถฟังเพลงแล้วบอกได้เลยว่านั่นใช้คีย์อะไร เจ๋งไปเลย
-ขลุ่ยจีนที่ทำจากแก้ว ขลุ่ยจีนที่ทำจากแก้วนั้นเสียงจะใส ๆ เล็ก ๆ ครับ ไม่ค่อยเป็นทีนิยมสักเท่าไหร่นะ เพราะเสียงที่ได้ออกมาได้เบาและไม่สะใจเท่ากับขุล่ยไม้ไผ่เหมาะกับเป็นของสะสมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในขลุ่ยจีนครับ
-ขลุ่ยจีนที่ทำจากหยกหรือหิน เสียงที่ได้จะเบาและนุ่มนวลหวาน ๆ ครับ ไม่มีความสดใสของเสียงมากนัก แต่เสียงที่ได้ก็พอเป็นเอกลักษณ์พอตัวอยู่ ไม่ค่อยเป็นที่นิยมครับ เพราะว่าถ้าขลุ่ยหยกจริงราคาแพงครับ ตกมาก็ไม่คุ้ม ถ้าเป็นหินก็หนักเกินไปครับ เมื่อยมือเวลาเล่น
-ขลุ่ยจีนที่ทำจากโลหะ เสียงที่ได้ออกมาจะเป็นเสียงที่นุ่มหวานครับ ไม่มีความสดใสของเสียงเท่าไรนัก
-ขลุ่ยจีนที่ทำจากพลาสติก เสียงที่ได้ ใกล้เคียงกับไม้ไผ่ครับ แต่เพียงขาดความกังวาล หลาย ๆ ท่านที่เล่นขลุ่ยไทยคงจะรู้ครับ ว่าขลุ่ยพลาสติกจะไม่กินลมเท่าขลุ่ยไม้ และเป่าง่ายกว่า แต่เสียงที่ได้นั้นสู้แบบไม้ไม่ได้ครับ
"ไม้ที่ใช้ทำขลุ่ยจีนก็มีการแบ่งเกรดเหมือนกันนะครับ"
ไม่ใช่ว่าทำจากไม้เหมือนกันแล้วเสียงจะเหมือนกันหมดนะครับ สมมุตว่าทำจากไม้ไผ่เหมือนกัน แต่ทำไมราคาถึงต่างกันมาก เพราะอะไร เรามาดูกันครับ สำหรับไม้ไผ่ที่จะนำมาทำขลุ่ยจีนนั้น ไม้ไผ่จะแบ่งเป็นสามเกรดครับ เกรดล่าง เกรดกลาง เกรดสูง เรามาพูดถึงเกรดสูงกันก่อน
สำหรับเกรดสูงจะใช้ไม้ไผ่ตั้งแต่เกือบ ๆ ติดรากเลยขึ้นไปถึง 100 CM โดยประมาณครับ เพราะว่าไม้ไผ่เตี้ย ๆ ปล้องจะใหญ่และตรงครับ ทำให้ขลุ่ยจีนที่ทำมาจากไม้ไผ่เตี้ย ๆ นี้ตั้งแต่หัวจรดปลายขลุ่ยจะมีลำปล้องที่เท่ากันแบบเด๊ะ ๆ เลยครับ และก็เพราะมันใกล้กับรากมากนั่นเอง ทำให้ได้รับสารอาหาร ได้รับได้ดูซึมแร่ธาตุต่าง ๆ จากดินมาสะสมไว้มากมาย จึงทำให้ไม้ไผ่มีความหนาแน่นสูง มีน้ำหนัก อ้วนท้วนสมบูรณ์ขายได้ราคาดีครับ
สำหรับขลุ่ยจีนเกรดกลางจะใช้ไม้ไผ่ตั้งแต่ 100 CM ขึ้นไปครับ ลำปล้องที่ได้บางทีอาจจะมีขนาดลำปล้องเท่ากันหมดตั้งแต่หัวจรดท้ายก็ได้ หรือบางทีอาจจะลำปล้องไม่เท่ากันหัวใหญ่ปลายเล็กก็มี แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่ เนื่องจากอยู่ห่างจากรากพอสมควรถ้าดินดีหน่อยไม้เกรดกลางก็จะเนื้อแน่นอยู่บ้างครับ แต่ถ้าดินไม่ดีสารอาหารไม่ดีละก็ จะค่อนข้างเปราะ ๆ เนื้อไม่ค่อยแน่นเท่าไรครับ
สำหรับขลุ่ยจีนเกรดล่างจะใช้ไม้ไผ่สูง ๆ จนถึงหมดปลายต้นเลยครับ แน่นอนเพราะว่าอยู่ห่างจากรากมาก อาจจะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ เนื้อไม้ที่ได้จะไม่แน่น มีน้ำหนักเบา และบางมาก แต่ก็ไม่บางเท่ากับกระบอกข้าวหลามแบบบาง ๆ หรอกนะครับ รู้สึกว่ากระบอกข้าวหลามหนองมนจะใช้ไม้ไผ่ดีอยู่นะ เพราะรู้สึกว่ามันหนาและหนักมากเลย
และไม้ไผ่เลี้ยงกับไม้ไผ่ตามป่าแบบไหนดีกว่ากันหละ ? ไม้ไผ่เลี้ยงเนื่องจากเราประคบประหงมมันมาก ใส่ปุ๋ย รดน้ำ ให้อาหารอย่างดี ทำให้อ้วนท้วมอุดมสมบูรณ์กันเลยทีเดียวแต่มันไม่สู้ชีวิตครับ จึงทำให้ความแข็งแรงไม่ถึกเท่าไม้ไผ่ที่ขึ้นเองตามป่าธรรมชาติครับ ไม้ไผ่ที่ขึ้นเองตามธรรมชาติจะแข็งแรงและเหนียวมากครับ ถ้านำไปแช่น้ำสักหน่อยนี้เหนียวแบบไร้เทียมทานดาบฟันไม่เข้าเลยนะ กลายเป็นไม้เท้าตีสุนัขไปเลย
"คีย์ของขลุ่ยจีน"
ตอนสุดท้ายของตอนที่ 1 นี้ผมขอพูดเรื่องคีย์ของขลุ่ยจีนนะครับ โดยทั่วไปแล้วขลุ่ยจีนที่คนทั่วไปนิยมใช้จะมีอยู่สองชุดด้วยกันครับ ชุดแรกมี 7 เลา 7 คีย์เหมาะสมหรับผู้เริ่มต้นหรือเล่นพอเป็นงานอดิเรกเป่าเพลงทั่วๆไป ตามยูทูปอะไรประมานนี้ครับ ชุดที่สองเป็นแบบ 12 เลา 12 คีย์ เหมาะสำหรับนักดนตรีที่ต้องการความหลากหลายของคีย์เพื่อนนำไปเล่นร่วมแจมกับเครื่องดนตรีอื่น ๆ ครับ
ชุดที่ 1 มี 7 เลา 7 คีย์ มีดังนี้ครับ A B C D E F G
ชุดที่ 2 มี 12 เลา 12 คีย์ มีดังนี้ครับ A B C D E F G bA Bb #C bE #F
***อันนี้เป็นเสียงสากลนะครับ ยังไม่รวมคีย์ของขลุ่ยเสียงจีนแบบดั้งเดิมนะ เพราะผมก็ไม่รู้เหมือนกัน
ต่อมาเป็นเรื่องโทนเสียงครับ หลาย ๆ บางคนที่ไม่มีความรู้ด้านดนตรีเลยอาจจะสงสัยครับ ว่าทำคีย์คืออะไร และทำไมมีหลายคีย์จัง คีย์เดียวเล่นทุกเพลงไม่ได้หรอ คีย์เดียวก็ใช้เล่นทุกเพลงได้ครับ แต่ต้องเล่นเดี่ยวๆ นะครับ เป่าอยู่คนเดียวอะครับได้ แต่ถ้าไปแจมแล้วคีย์ไม่ตรงกันหละก็มันจะเพี้ยนไปเลยครับ ทำเอาวงเขาแตกเลย หรือถ้าเป่าตามเพลงในยูทูป เราใช้ขลุ่ยไม่ตรงกับคีย์ของเขา เสียงมันก็จะออกมาไม่เหมือนกันครับ แต่ก็มีบางคีย์ที่คีย์ต่างกัน แต่เราสามารถเป่าให้โทนเสียงตรงกันได้ครับ จับคู่ได้ดังนี้นะครับ
A กับ D
B กับ E
C กับ F
D กับ G
ยกตัวอย่างง่าย ๆ นะครับ คีย์ D เนี่ย เลามันยาวกว่าคีย์ G ใช่มั้ยครับ เพราะฉะนั้นเราควรจะเป่ายังไงให้มันได้โทนเสียงเดียวกันกับคีย์ G ง่าย ๆ ครับก็แค่ปิดโน๊ตรูเดียวกัน ลองให้คนเป่าคีย์ D เป็นเสียงสูง แล้วให้คนเป่าคีย์ G ในเสียงธรรมดา ฟังดูครับเสียงมันเท่ากันเลย มันคล้าย ๆ กับการตั้งสายซอหนะครับ โดยเฉพาะซอเอ้อหูนะ
แวะมาคุยกันได้ครับ
https://www.facebook.com/chinesebambooflute?ref=hl
Line : kimtkd
Email : kimtkd2014@gmail.com
[CR] ขลุ่ยจีนเครื่องดนตรียอดฮิตของหนังจีนกำลังภายในที่มีประวัติถึง 7000 กว่าปี !!
พอพูดถึงขลุ่ยจีน คิดว่าหลาย ๆ คนคงต้องนึกถึงฉากที่พระเอกชอบเป่าในหนังจีนกำลังภายในแทบทุกเรื่อง หรือบางเรื่องอาจจะนางเอกเป่าก็ได้ หรือตัวประกอบเป่าก็ได้ หรือทั้งเรื่องอาจจะไม่มีคนเป่าขลุ่ยให้เห็นเลย แต่ก็ต้องได้ยินดนตรีประกอบเป็นขลุ่ยจีนกันมั่งแหละน่า ข้าน้อยขอเอาหัวเป็นประกันเลยแล้วอยากรู้มั้ยขลุ่ยจีนที่เห็นเสียงใส ๆ หรือขลุ่ยจีนอีกแบบหนึ่งที่เสียงนุ่มลึกฟังแล้วรู้สึกสงบร่มเย็นอยากนั่งสมาธิ แบบนั้นอ่ะ ทำมาจากอะไร แล้วอะไรทำให้มันมีเสียงที่ใสและนุ่มลึกแบบนั้น ในกระทู้นี้จะขอพูดถึงขลุ่ยจีนตี๋จื่อ และ เซียวนะครับ
เชื่อว่าทุก ๆ ประเทศก็คงมีเครื่องดนตรีที่ใช้เป่าที่ชื่อว่าขลุ่ยกันทั้งนั้นแหละครับ รวมถึงขลุ่ยไทยของบ้านเราด้วยนะ แต่ว่าลักษณะของขลุ่ยและเทคนิคการเล่นของแต่ละประเทศแต่ละพื้นที่อาจจะไม่เหมือนกัน โดยลักษณะเด่นของขลุ่ยจีนคือมีเยื่อไผ่ ด้วยเยื่อไผ่นี้เองทำให้เสียงที่ออกมาใสวิ้ง พลิ้วซะไม่มี ขลุ่ยจีนมีวิวัฒนาการมาจากขลุ่ยกระดูกสัตว์ซึ่งมีประวัติยาวนานถึง 7000 กว่าปีเลยที่เดียว สงสัยเวลาเป่าบ่อย ๆ แล้วรู้สึกเหม็นคาวก็เลยเปลี่ยนจากกระดูกสัตว์มาเป็นไม้แทนมั้งครับ แล้วก็เป็นไม้เรื่อย ๆ มาจนถึงปัจจุบันนี้ แต่ก็มีขลุ่ยโลหะ ขลุ่ยหยก ขลุ่ยหิน ขลุ่ยเซรามิค ขลุ่ยแก้ว รวมทั้งขลุ่ยไม้แข็งต่าง ๆ เช่นไม้มะเกลือ ไม้แดง ไม้ชิงชันด้วยนะเออ
ในปัจจุบันนี้แหล่งผลิตขลุ่ยจีนเจ้าใหญ่ ๆ และมีชื่อเสียงมักจะอยู่ที่ มณฑลเจ้อเจียง และเจียงซู มีหลายโรงงานมาก ๆ บางโรงงานผลิตกันตั้งแต่สมัยที่คนจีนยังไว้ผมแบบเกล้ามัดมวย ต่อด้วยทรงแมนจูโกนครึ่งหัวไว้ผมเปีย จนถึงปัจจุบันนี้เลยครับ ขลุ่ยกระดูกกู่เส้าในสมัยนั้นมันมีแค่สองรู้ครับ หนึ่งรูเป่า สองรูปิดโน๊ต อยากรู้เหมือนกันนะว่าเสียงจะออกมาเป็นยังไง แล้วก็พัฒนามาเรื่อย ๆ จนมี สามรู สี่รู ห้ารู จนถึงหกรู แต่ก็มีอีกนะ เจ็ดรู รู้สึกจะเป็นพวกขลุ่ย คีย์ Low มันแถมรูปิดนิ้วก้อยมาให้นิ้วนึง
ขลุ่ยจีนแบบ "ปางตี๋" เป็นที่นิยมมากในเขตภาคเหนือของประเทศจีน ขลุ่ย ปางตี๋ เป็นขลุ่ยที่สั้น ๆ เสียงที่ออกมาจะแหลมใส มักจะเป็นคีย์ F G A Bb Eb เนื่องจากเป็นขลุ่ยที่สั้น ทำให้ไม่เปลืองลมหน้ามืดเวลาเป่า จึงทำให้ขลุ่ย ปางตี๋ ชนิดนี้มักเข้ากับเพลงเร็ว ๆ ที่ต้องใช้เทคนิคแพรวพราวออกมาได้ดี ชนิดแบบว่า เป่าเร็วปิดนิ้วเร็วจนไม่มีเวลากลืนน้ำลายกันเลยทีเดียว และเป็นขลุ่ยที่เค้าใช้กันในวงงิ้วด้วย เช่น งิ้วปักกิ่ง (京剧)
ขลุ่ยจีนแบบฉวี่ตี๋ เป็นที่นิยมในภาคใต้ของจีน เป็นขลุ่ยที่มีขนาดค่อนข้างยาว เช่น คีย์ C D E และคีย์ Low ทั้งหลายแหล่ และปัจจุบันขลุ่ยแบบฉวี่ตี๋ไม่ได้นิยมแต่เพียงภาคใต้เท่านั้นนะครับ แต่กลายเป็นที่นิยมไปทั่วโลกเลย เพราะสามารถใช้เล่นร่วมกับเพลงสมัยใหม่ ๆ ได้ดี
พูดถึงวัสดุที่ใช้ทำขลุ่ยจีน สมัยก่อนก็จะมีการนำไม้ไผ่มาใช้ทำขลุ่ยจีนเป็นหลัก มีกระดูกบ้าง และก็มีดินเผา เครื่องเคลือบเซรามิกบ้าง แต่ในสมัยปัจจุบันนี้ เนื่องจากโลกเราพัฒนาไปเรื่อย ๆ จึงทำให้มีการนำวัสดุอื่น ๆ มาทำขลุ่ยจีน เช่น แก้ว โลหะ พลาสติก รวมถึงทั้งนำไม้เนื้อแข็งมากลึงให้กลมทำเป็นขลุ่ยครับ ซึ่งแต่ละวัสดุนั้นเสียงที่ได้ย่อมแตกต่างและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแน่นอนครับ
ขลุ่ยจีนที่ทำด้วยไม้ไผ่ สำหรับไม้ไผ่ที่นิยมนำมาทำขลุ่ยจีน ก็จะมีไผ่ขม ไผ่ม่วงป่า ไผ่เหลือง ไผ่เซียงเฟย(ลายด่าง) และทำไมถึงมีการใช้ไม้ไผ่หลากหลายขนาดนี้หละ เสียงที่เป่าออกมามันไม่เหมือนกันหรอกหรอ ? ใช่ครับ เสียงที่ออกมาไม่เหมือนกันครับ
-ขลุ่ยจีนที่ทำด้วยไม้ไผ่ขม เสียงที่ออกมาจะ สดใส ดังกังวาล สังเกตุได้ง่าย ๆ ว่าสีเนื้อไม้มักจะเป็นสีน้ำตาลแบบนี้
-ขลุ่ยจีนที่ทำจากไม้ไผ่ม่วง เสียงที่ได้จะออกมาเป็น กังวาลแบบกึกก้อง หวาน และนุ่ม เนื่องจากลำตัวของไผ่ม่วงโดยธรรมชาติเนี่ย มันจะลำ ปล้องใหญ่อยู่แล้วครับ และความหนาแน่นของเนื้อไผ่ค่อนข้างหนา เสียงออกมาจึงนุ่มและหวาน
-ขลุ่ยจีนที่ทำจากไม้ไผ่เซียงเฟย เสียงคอนข้างเอนไปทางไผขมครับ ลึกกึกก้องแบบสดใส แต่ไม้ไผ่เซียงเฟยมีลักษณะพิเศษตรงลำปล้องใหญ่ และทั้งต้นลำปล้องจะมีนาดเท่า ๆ กัน ไม่มีบิดเบี้ยว เป็นไผ่ที่เนื้อแข็งครับ แต่ความหนาแน่นจะไม่เท่าไม้ไผ่ม่วง เพราะฉะนั้นเสียงที่ออกมาจะเป็นครึ่ง ๆ กลาง ๆของไม้ไผ่ขมและไม้ไผ่ม่วงครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่ทุกคนจะสามารถฟังออกนะครับ ต้องเป็นคนที่เล่นขลุ่ยจีนมาได้ระยะหนึ่ง หรือไม่ก็เคยเล่นดนตรีฟังดนตรีมาบ้างถึงจะแยกแยะเสียงออกครับ ยิ่งถ้าเทพ ๆ กว่านั้นจะสามารถฟังเพลงแล้วบอกได้เลยว่านั่นใช้คีย์อะไร เจ๋งไปเลย
-ขลุ่ยจีนที่ทำจากแก้ว ขลุ่ยจีนที่ทำจากแก้วนั้นเสียงจะใส ๆ เล็ก ๆ ครับ ไม่ค่อยเป็นทีนิยมสักเท่าไหร่นะ เพราะเสียงที่ได้ออกมาได้เบาและไม่สะใจเท่ากับขุล่ยไม้ไผ่เหมาะกับเป็นของสะสมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในขลุ่ยจีนครับ
-ขลุ่ยจีนที่ทำจากหยกหรือหิน เสียงที่ได้จะเบาและนุ่มนวลหวาน ๆ ครับ ไม่มีความสดใสของเสียงมากนัก แต่เสียงที่ได้ก็พอเป็นเอกลักษณ์พอตัวอยู่ ไม่ค่อยเป็นที่นิยมครับ เพราะว่าถ้าขลุ่ยหยกจริงราคาแพงครับ ตกมาก็ไม่คุ้ม ถ้าเป็นหินก็หนักเกินไปครับ เมื่อยมือเวลาเล่น
-ขลุ่ยจีนที่ทำจากโลหะ เสียงที่ได้ออกมาจะเป็นเสียงที่นุ่มหวานครับ ไม่มีความสดใสของเสียงเท่าไรนัก
-ขลุ่ยจีนที่ทำจากพลาสติก เสียงที่ได้ ใกล้เคียงกับไม้ไผ่ครับ แต่เพียงขาดความกังวาล หลาย ๆ ท่านที่เล่นขลุ่ยไทยคงจะรู้ครับ ว่าขลุ่ยพลาสติกจะไม่กินลมเท่าขลุ่ยไม้ และเป่าง่ายกว่า แต่เสียงที่ได้นั้นสู้แบบไม้ไม่ได้ครับ
ไม่ใช่ว่าทำจากไม้เหมือนกันแล้วเสียงจะเหมือนกันหมดนะครับ สมมุตว่าทำจากไม้ไผ่เหมือนกัน แต่ทำไมราคาถึงต่างกันมาก เพราะอะไร เรามาดูกันครับ สำหรับไม้ไผ่ที่จะนำมาทำขลุ่ยจีนนั้น ไม้ไผ่จะแบ่งเป็นสามเกรดครับ เกรดล่าง เกรดกลาง เกรดสูง เรามาพูดถึงเกรดสูงกันก่อน
สำหรับเกรดสูงจะใช้ไม้ไผ่ตั้งแต่เกือบ ๆ ติดรากเลยขึ้นไปถึง 100 CM โดยประมาณครับ เพราะว่าไม้ไผ่เตี้ย ๆ ปล้องจะใหญ่และตรงครับ ทำให้ขลุ่ยจีนที่ทำมาจากไม้ไผ่เตี้ย ๆ นี้ตั้งแต่หัวจรดปลายขลุ่ยจะมีลำปล้องที่เท่ากันแบบเด๊ะ ๆ เลยครับ และก็เพราะมันใกล้กับรากมากนั่นเอง ทำให้ได้รับสารอาหาร ได้รับได้ดูซึมแร่ธาตุต่าง ๆ จากดินมาสะสมไว้มากมาย จึงทำให้ไม้ไผ่มีความหนาแน่นสูง มีน้ำหนัก อ้วนท้วนสมบูรณ์ขายได้ราคาดีครับ
สำหรับขลุ่ยจีนเกรดกลางจะใช้ไม้ไผ่ตั้งแต่ 100 CM ขึ้นไปครับ ลำปล้องที่ได้บางทีอาจจะมีขนาดลำปล้องเท่ากันหมดตั้งแต่หัวจรดท้ายก็ได้ หรือบางทีอาจจะลำปล้องไม่เท่ากันหัวใหญ่ปลายเล็กก็มี แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่ เนื่องจากอยู่ห่างจากรากพอสมควรถ้าดินดีหน่อยไม้เกรดกลางก็จะเนื้อแน่นอยู่บ้างครับ แต่ถ้าดินไม่ดีสารอาหารไม่ดีละก็ จะค่อนข้างเปราะ ๆ เนื้อไม่ค่อยแน่นเท่าไรครับ
สำหรับขลุ่ยจีนเกรดล่างจะใช้ไม้ไผ่สูง ๆ จนถึงหมดปลายต้นเลยครับ แน่นอนเพราะว่าอยู่ห่างจากรากมาก อาจจะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ เนื้อไม้ที่ได้จะไม่แน่น มีน้ำหนักเบา และบางมาก แต่ก็ไม่บางเท่ากับกระบอกข้าวหลามแบบบาง ๆ หรอกนะครับ รู้สึกว่ากระบอกข้าวหลามหนองมนจะใช้ไม้ไผ่ดีอยู่นะ เพราะรู้สึกว่ามันหนาและหนักมากเลย
และไม้ไผ่เลี้ยงกับไม้ไผ่ตามป่าแบบไหนดีกว่ากันหละ ? ไม้ไผ่เลี้ยงเนื่องจากเราประคบประหงมมันมาก ใส่ปุ๋ย รดน้ำ ให้อาหารอย่างดี ทำให้อ้วนท้วมอุดมสมบูรณ์กันเลยทีเดียวแต่มันไม่สู้ชีวิตครับ จึงทำให้ความแข็งแรงไม่ถึกเท่าไม้ไผ่ที่ขึ้นเองตามป่าธรรมชาติครับ ไม้ไผ่ที่ขึ้นเองตามธรรมชาติจะแข็งแรงและเหนียวมากครับ ถ้านำไปแช่น้ำสักหน่อยนี้เหนียวแบบไร้เทียมทานดาบฟันไม่เข้าเลยนะ กลายเป็นไม้เท้าตีสุนัขไปเลย
ตอนสุดท้ายของตอนที่ 1 นี้ผมขอพูดเรื่องคีย์ของขลุ่ยจีนนะครับ โดยทั่วไปแล้วขลุ่ยจีนที่คนทั่วไปนิยมใช้จะมีอยู่สองชุดด้วยกันครับ ชุดแรกมี 7 เลา 7 คีย์เหมาะสมหรับผู้เริ่มต้นหรือเล่นพอเป็นงานอดิเรกเป่าเพลงทั่วๆไป ตามยูทูปอะไรประมานนี้ครับ ชุดที่สองเป็นแบบ 12 เลา 12 คีย์ เหมาะสำหรับนักดนตรีที่ต้องการความหลากหลายของคีย์เพื่อนนำไปเล่นร่วมแจมกับเครื่องดนตรีอื่น ๆ ครับ
ชุดที่ 1 มี 7 เลา 7 คีย์ มีดังนี้ครับ A B C D E F G
ชุดที่ 2 มี 12 เลา 12 คีย์ มีดังนี้ครับ A B C D E F G bA Bb #C bE #F
***อันนี้เป็นเสียงสากลนะครับ ยังไม่รวมคีย์ของขลุ่ยเสียงจีนแบบดั้งเดิมนะ เพราะผมก็ไม่รู้เหมือนกัน
ต่อมาเป็นเรื่องโทนเสียงครับ หลาย ๆ บางคนที่ไม่มีความรู้ด้านดนตรีเลยอาจจะสงสัยครับ ว่าทำคีย์คืออะไร และทำไมมีหลายคีย์จัง คีย์เดียวเล่นทุกเพลงไม่ได้หรอ คีย์เดียวก็ใช้เล่นทุกเพลงได้ครับ แต่ต้องเล่นเดี่ยวๆ นะครับ เป่าอยู่คนเดียวอะครับได้ แต่ถ้าไปแจมแล้วคีย์ไม่ตรงกันหละก็มันจะเพี้ยนไปเลยครับ ทำเอาวงเขาแตกเลย หรือถ้าเป่าตามเพลงในยูทูป เราใช้ขลุ่ยไม่ตรงกับคีย์ของเขา เสียงมันก็จะออกมาไม่เหมือนกันครับ แต่ก็มีบางคีย์ที่คีย์ต่างกัน แต่เราสามารถเป่าให้โทนเสียงตรงกันได้ครับ จับคู่ได้ดังนี้นะครับ
A กับ D
B กับ E
C กับ F
D กับ G
ยกตัวอย่างง่าย ๆ นะครับ คีย์ D เนี่ย เลามันยาวกว่าคีย์ G ใช่มั้ยครับ เพราะฉะนั้นเราควรจะเป่ายังไงให้มันได้โทนเสียงเดียวกันกับคีย์ G ง่าย ๆ ครับก็แค่ปิดโน๊ตรูเดียวกัน ลองให้คนเป่าคีย์ D เป็นเสียงสูง แล้วให้คนเป่าคีย์ G ในเสียงธรรมดา ฟังดูครับเสียงมันเท่ากันเลย มันคล้าย ๆ กับการตั้งสายซอหนะครับ โดยเฉพาะซอเอ้อหูนะ
แวะมาคุยกันได้ครับ https://www.facebook.com/chinesebambooflute?ref=hl
Line : kimtkd
Email : kimtkd2014@gmail.com