โจโจ้ เป็นมังงะที่มีมากว่า 30 ปีแล้วนะครับ แต่ก็มีการดัดแปลงโจโจ้เป็น
อนิเมชั่นหรือสื่ออื่นๆน้อยมาก อาจเพราะวิชั่นแปลกๆของ อ.อารากิ ทำให้
ทีมงานอนิเมะยุคเก่า ไม่รู้จะดัดแปลงมันออกมายังไงดีนั่นเอง ...ก็ดูสิครับ
ในผลงานของจัมป์ยุค 80-90 เต็มไปหมดส่วนใหญ่ถูกดัดแปลงเป็นทีวีอนิเมะ
ตีคู่ไปกับมังงตีพิมพ์กันหมด มีแต่โจโจ้เรื่องเดียวที่กว่าจะถูกดัดแปลงเป็นสื่อ
อื่นก็ปาไปสิบกว่าปีแล้ว (แต่ระหว่างนั้นก็มีเกม RPG ของเรื่อง SFC ออกมา)

ผมเลยขอพาเพื่อนๆ ไปดูกันครับว่าสื่ออนิเมชั่นโจโจ้ที่ถูกทำออกมา
นั้นมีอะไรบ้าง และมีข้อเด่น-ข้อด้อย ยังไง.. (บางส่วนของบทความ
ผมเอามาจากที่ผมฝอยไว้ในเพจด้วยนะครับ หากสังเกตถึงความคล้าย
คลึงก็ไม่ต้องแปลกใจ)




JoJo's Bizarre Adventure OVA (1993-2001)

OVA จากทีมงาน APPP (Another Push Pin Planning) ที่หยิบเอาภาคที่
โด่งดังที่สุดอย่างภาค 3 Stardust Crusaders มาทำหลังจากมังงะภาค 3
เพิ่งจบไปไม่นาน แต่ทีม APPP ก็เลือกที่จะทำเนื้อหาช่วงหลัง (ช่วงอียิปต์)
โดยมีเนื้อหาหลักแค่ 4 ตอนเท่านั้นคือ ตอนเจอเอ็นดอร์, ดาร์บี้คนพี่, วานิล
ลาไอซ์ จนไปถึงตอนสู้กับดีโอ รวมเป็น 6 ตอน ...จนเวลาต่อมาทีม APPP
ก็กลับมาทำเนื้อช่วงต้นให้เนื้อหาสมบูรณ์ (ยึดเนื้อหาตั้งแต่โจทาโร่อยู่ในคุก
ตอนแรก, สู้กับคะเคียวอิง, เจอกับโปลนาเรฟบนเรือสเตรนจ์, สู้กับเจไกล์และ
ฮอลฮอร์ส จนถึงตอนสู้กับเมืองหมอกจัสติส รวมกันเป็น 7 ตอน)




ผลงานนี้ถือเป็นผลงานที่มีทั้งคนชอบและไม่ชอบนะครับ ที่น่าสังเกต
คือผลงานตอนปี 1993 มีลายเส้นและมู้ดเรื่องใกล้เคียงกับในมังงะมากๆ
อยู่แล้ว แต่ผลงานปี 2001 กลับเลือกที่จะพาโจโจ้ไปในทางมืดหม่น
ลายเส้นจริงจังขึงขัง และดูไม่เหมือนกับลายเส้นของ อ.อารากิ เลย แทน..
แต่ถึงยังไงผลงาน OVA นี้ก็ถือเป็นผลงานคลาสสิคที่แฟนๆโจโจ้ต้อง
ลองดูซักครั้งนะครับ




JoJo's Bizarre Adventure: Phantom Blood (2007)

เนื่องจากครบรอบ 20 ปี ในปี 2007 ทำให้ APPP ต้องกลับมาทำผลงาน
ฉลองครบรอบนี้อีกครั้ง โดยการเอาภาค 1 Phantom Blood มาทำเป็น
หนังยาวฉายในโรงภาพยนต์อย่างยิ่งใหญ่ ...ซึ่งส่วนตัวผมวิจารณ์อะไรไม่
ได้ครับ เพราะผมไม่เคยดูเลย และผมว่าแฟนๆบ้านเราก็คงไม่เคยดูหนัง
เรื่องนี้กันเลยแน่ๆ.. (ข้อมูลจาก Wikia นะครับ)

เพราะมันไม่เคยถูกเอามาวางจำหน่ายเป็น DVD เลยครับ หลังจากฉาย
ในโรงไปแล้ว ด้วยเหตุผลคือ มันเป็นผลงานที่ทั้งตัว อ.อารากิ และ
แฟนๆ พร้อมใจกันเบือนหน้าหนีถ้วนหน้า..

เหตุผลคือทำไม? ทั้งๆที่ดูจากในตัวอย่างแล้ว มันก็เป็นผลงานที่คุณภาพมาก
ภาพสวยงามหยดย้อย การเคลื่อนไหวออกมาดีเลยทีเดียว ...แต่ดูจากคอมเมนท์
ของแฟนๆที่เข้าไปชมหนังในโรงมานี้ คงจะตอบคำถามได้เป็นอย่างดี

- ในหนังไม่มีฉากในโอร์กสตรีท รวมทั้งหนังยังตัดตัวละครที่ อ.อารากิ
และแฟนๆ ชอบที่สุดในภาคนี้อย่าง สปีดวาก้อน ออกไป ...โจโจ้ภาค 1
ที่ไม่มีสปีดวาก้อน มันจะไปเหลืออะไรล่ะทีนี้?

- หนังเน้นแค่ โจนาธาน, ดีโอ, เซเปลี่ซัง แค่สามคนเท่านั้น นอกนั้นคนอื่น
แทบจะเป็นตัวประกอบที่ไม่ความสำคัญอะไรใดๆกับหนังเลยแม้แต่น้อย

- พลังคลื่นมนตรา ไม่ได้รับการอธิบายชัดเจนว่าคืออะไรในหนัง

- และหนังก็ยาวแค่ 90 นาทีเอง มันสั้นมากจนเหมือนทีม APPP พยายาม
จะยัดเนื้อหาในภาค 1 เข้ามาในหนังความยาวแค่นี้ ...และคอมเมนท์ของ
แฟนๆก็จบลงด้วยประโยคที่ว่า "เป็นหนังที่ทำลายต้นฉบับได้ยิ่งกว่า
OVA เสียอีก"




JoJo's Bizarre Adventure: The Animation (2012-2014)

ผลงานการดัดแปลงโจโจ้เป็นสื่ออนิเมะครั้งที่ 3 แต่เป็นครั้งแรกเลยที่
โจโจ้ได้เป็นทีวีอนิเมะออกอากาศทางทีวี หลังจากรอคอยมากว่า 25 ปี
โดยทีมงาน David Productions ...โดยเริ่มทำตั้งแต่ภาค 1-2 ในซีซั่นที่ 1
(26 ตอน) โดยไม่ตัดเนื้อหาอะไรออกไปเลย ล่าสุดตอนนี้อนิเมะถึงซีซั่นที่
2 หรือภาค 3 Stardust Crusaders โดยออกอากาศมาได้ 7 ตอนแล้ว
และมีแนวโน้มสูงว่าจะได้ทำไปจนถึง Jojolion ด้วยครับ ดูจากกระแส
ความฮิตที่แรงดีไม่มีตก




เพราะต้องยอมรับว่า David ทำอนิเมะชุดนี้ออกมาโดนจริงๆครับ แม้งาน
จะมีเผาบ้างตามประสาทีวีอนิเมะ แต่ทีมงานก็ถ่ายทอดอารากิสไตส์ในมังงะ
ออกมาได้เกือบจะ 100% เลยทีเดียว เชื่อว่าแฟนๆโจโจ้จะต้องชอบอนิเมะ
ชุดนี้กันหมดแน่นอน เพราะอารมณ์ ความสมบูรณ์ของเนื้อหานั้น ออกมาดี
จนนั่งดูกันฟินไปจนจบภาคเลยทีเดียว ...ผมว่าแฟนๆโจโจ้น่าจะรู้สึกเหมือน
กันคือ การถ่ายทอดมังงะที่เก่าถึง 30 กว่าปี ให้ออกมาสดใหม่และเต็มไป
ด้วยความบันเทิงขนาดนี้ มันทำให้แม้แฟนๆจะอ่านมังงะมาเป็นพันๆรอบ
แล้ว ก็ดูอนิเมะชุดนี้ได้สนุกอยู่ดี..




แต่ถ้าถามว่าอนิเมะเวอร์ชั่นไหนดีกว่าเวอร์ชั่นไหน ...ความจริงไม่มี
เวอร์ชั่นไหนออกมาแย่เลยครับ แต่ละแบบก็มีข้อดี-ข้อเสีย ในตัวเหมือน
กัน เพียงแต่ผมขอแจกแจงข้อดีข้อด้อยของ OVA และทีวีอนิเมะ
ตามความเห็นของผมนะครับ




มีหลายๆคนชอบ OVA ในความมืดหม่นและภาพสวยๆของมัน ในขณะเดียว
กันก็ไม่ชอบในงานเผาของทีวีอนิเมะเหมือนกัน สงสัยกันว่า คนที่ชอบทีวีอนิ
เมะ เขาชอบกันเพราะอะไร? ผมตอบอย่างง่ายๆแทนทุกคนได้เลยครับว่า
"การถ่ายทอดวิสัยทัศน์แบบ อารากิสไตส์ ของสองเวอร์ชั่นนี้ต่างกันมาก"




OVA นั้น ภาพสวยครับ สวยแบบที่ทีวีอนิเมะสู้ไม่ได้เลย ทั้งที่เป็นงานเก่าเป็น
สิบปีแล้ว แต่...บางครั้งแฟนๆก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่า มังงะที่เรารักถูก
เอามาดัดแปลงโดยที่อารมณ์ของมันยังคงเดิม ซึ่งต่อให้ภาพจะสวยขนาดไหน
ก็เป็นสิ่งที่ OVA ทำไม่ได้เลยครับ ภายใต้งานภาพที่สวยมากของมันนั้น กลับ
ไม่มีอารมณ์ของมังงะอยู่ในนั้นเลย เหมือนดูอนิเมะเรื่องอื่นที่ไม่ใช่โจโจ้ เพราะ
อารมณ์มันไม่ใช่...

แต่จริงๆก็เข้าใจในความคิดของทีมงาน APPP นะครับ เพราะในยุคนั้นทีมอนิเมะ
หลายทีมคงหนักใจกับการจะดัดแปลงอารากิสไตส์แปลกๆในมังงะออกมาเป็นสื่อ
อนิเมชั่น เลยตัดปัญหาด้วยการ ตีความโจโจ้ใหม่ในทางมืดหม่นและจริงจังไปเลย
ผลเลยทำให้ OVA ออกมาเป็นแบบนั้น

ซึ่งก็ถือเป็นผลงานอนิเมชั่นคุณภาพที่ดีครับ แต่สอบตกเรื่องการเอาอารมณ์
แบบโจโจ้ในมังงะมาไว้ OVA จนทำให้แฟนๆหลายคนไม่ค่อยปลื้มผลงานนี้กันมากนัก..




มาที่ทีวีอนิเมะกันบ้าง ...จะว่าไปงานภาพในซีซั่น 1 ก็ไม่ได้สวยงามอะไร
มากมายเลย งานบางตอนเผาจนแทบจะเสียดุลของภาพด้วยซ้ำ บางตอน
เราเห็นตัวละครหน้าเบี้ยว ภาพไม่สมส่วน อยู่หลายครั้ง ...แต่ทำไมแฟนๆ
โจโจ้ส่วนใหญ่ถึงถูกใจอนิเมะชุดนี้กันมาก? ตอบได้ง่ายๆเลยครับคือ ก็
เพราะมันสนุก และได้อารมณ์แบบในมังงะได้ดีมากๆ ทีมงาน David ดึง
สเน่ห์ที่มีในมังงะออกมาได้อย่าง 100% ไม่ใช่แค่เรื่องราวเท่านั้น แต่รวม
ไปถึงอารากิสไตส์แปลกๆที่หาไม่ได้ในอนิเมะเรื่องไหนในยุคนี้แน่นอน




...องค์ประกอบเล็กๆน้อยๆทั้ง บทพากย์ในเรื่องทั้งพากย์สดและไม่สด, สีสัน
สวยสดใส ทั้งหมดนี้คือส่วนที่ทำให้งานของทีม David ออกมาดี จนแทบจะ
ลืมเรื่องงานเผาไปเลย (แต่ในเมะภาค 3 เราไม่ค่อยเจองานเผาแล้วนะ
ครับ ซึ่งก็ดีแล้ว) แต่จุดที่แปลกๆของเมะชุดนี่ก็มีเหมือนกันคือ การที่มันเคารพ
ต้นฉบับทุกกระเบียดนิ้ว ก็ทำให้บางอย่างมันออกมาแปลกๆและไม่สมเหตุ
สมผลบ้างเหมือนกัน


พูดถึงเรื่องสีสัน มีอีกอย่างหนึ่งเกี่ยวกับอารากิ
สไตส์ครับที่เพื่อนๆน่าจะรู้กันไว้....




เอกลักษณ์ของอารากิสไตส์ ไม่ใช่แค่สไตส์ท่าโพสท์แอ่นๆเท่านั้นนะครับ
แต่ยังรวมไปถึง "สีสันสดใสฉูดฉาด" ด้วยครับ.. ดูจากในภาพที่ผมเอาอาร์ต
เวิร์คโจโจ้ตั้งแต่ภาค 1-8 มารวมๆกันครับ ได้สีสันละลานตาเลยทีเดียว ...งาน
ภาพแบบ อ.อารากิ นั้น แกใช้สีสันสดใสแบบนี้มาตั้งแต่เข้าวงการจนถึงบัดนี้
เลยครับ ทำให้สรุปได้ง่ายๆว่า การถ่ายทอดผลงานของ อ.อารากิ จะมาพร้อม
กับความสวยสดใสของภาพตลอดมา 30 ปีแล้ว สีสันสดใส ก็คือ วิสัยทัศน์
ของ อ.อารากิ นั่นเองครับ (สังเกตว่า อ.อารากิ จะเลือกใช้สีกับตัวละคร
ไม่ซ้ำกันเลย แถมยังชอบลงสีที่เล็บ หรือปาก ของตัวละครด้วย)

สาเหตุที่ OVA กับหนังใหญ่ภาค 1 ของทีม APPP ไม่ประสบความสำเร็จและ
ไม่ค่อยได้รับการยอมรับจากแฟนๆส่วนใหญ่ เพราะ OVA เลือกที่จะดัดแปลง
โจโจ้ออกมาในทางมืดหม่นและซีเรียสจริงจังมากจนเกินไป และตัดงานภาพ
สีสันสดใสฉูดฉาดออกไปหมด ซึ่งเท่ากับเป็นการไม่เคารพในวิสัยทัศน์ของ
อ.อารากิ นั่นเองครับ (ถึงจะเล่าเรื่องซีเรียส หรือมีฉากโหดๆยังไง สีสันก็ยัง
จัดจ้านเสมอ)




ยกตัวอย่างครับ ...ผมเอามังงะหน้าเดียวกัน แบบลงสี กับแบบลายเส้นขาว
ดำปกติ มาเปรียบเทียบให้ดูเล่นๆครับว่า แม้ในมังงะลายเส้นยุคแรกๆของ
อ.อารากิ จะลงดำเยอะ จนหลายคนคิดว่าอารมณ์มันจะต้องเข้มๆ มืดหม่น
..แต่พอมันเป็นสีปุ๊บ ทีมงานที่ลงสีก็เลือกใช้สีสันสดใส ตามวิสัยทัศน์ของ
อ.อารากิ เหมือนเช่นหน้าปก เพราะยังไงอารากิสไตส์กับความสดใสของ
ภาพ ต้องมาคู่กันเสมอ เป็นสิ่งที่แยกออกจากโจโจ้ไม่ได้พอๆกับท่า
โพสท์แอ่นๆนั่นแหละ

(แต่บางคนที่ไม่ได้ชอบโจโจ้ คงจะรู้สึกแปลกๆกับอารากิสไตส์ในเมะ
นะครับ XD อย่างเช่นโจโจ้โพสท์ หรือตรรกะแปลกๆในเรื่อง ที่สำหรับคน
ทั่วๆไป คงมองว่าแปลกไปเลย แต่สำหรับแฟนๆนั้น มันเป็นสิ่งที่พิเศษมาก
ที่สิ่งเหล่านี้ถูกเอามาขึ้นมาจอทีวีแบบเป๊ะๆนะครับ ^ ^ ต้องขอบคุณ
ทีม David อย่างแรงเลย ที่ทำอนิเมะชุดนี้ออกมา)




ทีนี้ผมว่าแฟนๆโจโจ้ไม่ควรจะพลาดโจโจ้ที่ดัดแปลงเป็นสื่ออื่นเลยซักอย่าง
นะครับ ไม่ว่าจะเป็น OVA หรืออนิเมะ ...หากสนใจอนิเมชั่นที่เอาโจโจ้มาตีความ
ใหม่ในทางมืดหม่น ก็ต้อง OVA แต่หากสนใจอนิเมชั่นที่คงความเป็นโจโจ้แบบ
ในมังงะเอาไว้อย่างเคร่งครัด ก็ต้องทีวีอนิเมะเลยครับ ^ ^