Outlast : Whistleblower ก็เป็นเนื้อเรื่อง DLC เสริมของ Outlast ภาคหลัก เกมแนวสยองขวัญนี้จะทำให้ทุกคนไม่ผิดหวังแน่นอนเพราะทาง Red Barrels นั่นเป็นค่ายเกมที่เต็มไปด้วยอดีตทีมงาน Ubisoft ทั้งหมดและตัวเกม Outlast เองก็มียอดขายที่ดีด้วยก่อนที่จะปล่อย DLC เสริมออกมา และผมเองก็ไม่พลาดที่จะเขียน รีวิว Outlast : Whistleblower ให้ทุกคนได้อ่านครับ
กราฟิก & เสียง
ระบบภาพทำให้ผู้เล่นรู้สึกถึงความสยองขวัญและความโหดร้ายภายในเกม เช่น ห้องที่เต็มไปด้วยศพและกองเลือด และ ฉากห้องครัวที่มีมือคนถูกยัดลงหม้อต้มซุป รวมถึงสภาพแวดล้อมที่มืดพร้อมกับเสียงลุ้นระทึกของตัวละครเอกที่ทำเอาผู้เล่นลุ้นไปด้วยเลยว่าจะหลบหนีศัตรูรอดจากความมืดไหม ?
บรรยากาศภายในเกม
Outlast : Whistleblower ยังคงนำความสยองขวัญสั่นประสาทมาให้ผ็เล่นได้รู้สึกกันเหมือนกับ Outlast ภาคก่อนหน้านี้ โดยผู้เล่นจะต้องอยู่กับฉากที่มืดจนมองไม่เห็นอะไรกับฉากที่เต็มไปด้วยซากศพและกองเลือด และ บางฉากก็จะมี Cutscene ที่เต็มไปด้วยความโหดเลือดสาดถึงขั้นเรียกได้ว่า Outlast : Whistleblower เป็นเกมที่เต็มไปด้วยความโรคจิต วิปริต ของค่าย Red Barrels จริงๆ แถมยังมีเหล่าศัตรูอยู๋รอบๆภายในฉากแต่เราก็ไม่ต้องกังวลอะไรมากเพราะตัวเกมมีแสงจาก กล้องถ่ายวีดิโอจึงทำให้เราสามารถมองเห็นในความมืดได้ ซึ่ง ก็ต้องระวังอย่าให้กล้องถ่ายวีดิโอถ่านหมด เพราะจะทำให้ไม่สามารถใช้แสงภายในความมืดได้ นอกจากนี้ผู้เล่นยังสามารถนำเอาความมืดของฉากในเกมมาเป็นที่หลบหนีศัตรูได้ (แต่ก็ไม่ใช่หลบศัตรูได้ทุกตัวนะ) ทางด้านระบบการเล่น ตัวเกมยังคงมีระบบการเล่นเเบบเดิมๆที่เป็นแนวเดินไปข้างหน้าสำรวจเส้นทางและหลบหนีศัตรูไม่มีอิสระในการสำรวจมากนักนะแต่ระบบควบคุมตัวละครไม่ว่าจะเป็น วิ่ง กระโดด หลบเข้ากำแพง ดูลื่นไหล
ศัตรูในเกม
Outlast : Whistleblower ได้มีการเพิ่มศัตรูเข้ามาใหม่จากเดิมภาคก่อนหน้านี้มีแค่ คนป่วยโรคจิตเดินเพ่นพ่านไปมาและยักษ์ที่ชอบเดินลากโซ่ แต่ภาค Outlast : Whistleblower ได้เพิ่ม มนุษย์กินคน และ บอสเข้ามาใหม่ซึ่งจะทำให้ผลู้เล่นจะได้เห็นฉากเลือดสาดกระจายและ Cutscene โหดๆรวมถึงการต้องระวังเอาตัวรอดจากศัตรูให้มากขึ้นกว่าเดิม และ ยังเพิ่มความสยองให้กับเกมเพิ่มขึ้นอีกด้วย
สรุปคะแนน
7 คะแนน
จุดเด่นของเกม
สร้างความสยองขวัญให้กับผู้เล่นอย่างต่อเนื่องและไม่น่าเบื่อ
ระบบควบคุมตัวละคร เช่น วิ่ง กระโดด หลบเข้ากำแพง ลื่นไหล
สามารถหนีศัตรูได้หลากหลายวิธี
สิ่งที่ทำให้ผิดหวัง
ศัตรูยังดูซ้ำไปซ้ำมา เหมือนจะเพิ่มแค่บอสเท่านั้น
ปริศนานั้นง่ายเกินไป
เนื้อเรื่องที่สั้นเกินไป
รวมภาพฉากสยอง Outlast : Whistleblower
http://www.ps4-geek.com/?p=575
[รีวิว] สยองขวัญสั่นประสาทกับ Outlast : Whistleblower
Outlast : Whistleblower ก็เป็นเนื้อเรื่อง DLC เสริมของ Outlast ภาคหลัก เกมแนวสยองขวัญนี้จะทำให้ทุกคนไม่ผิดหวังแน่นอนเพราะทาง Red Barrels นั่นเป็นค่ายเกมที่เต็มไปด้วยอดีตทีมงาน Ubisoft ทั้งหมดและตัวเกม Outlast เองก็มียอดขายที่ดีด้วยก่อนที่จะปล่อย DLC เสริมออกมา และผมเองก็ไม่พลาดที่จะเขียน รีวิว Outlast : Whistleblower ให้ทุกคนได้อ่านครับ
กราฟิก & เสียง
ระบบภาพทำให้ผู้เล่นรู้สึกถึงความสยองขวัญและความโหดร้ายภายในเกม เช่น ห้องที่เต็มไปด้วยศพและกองเลือด และ ฉากห้องครัวที่มีมือคนถูกยัดลงหม้อต้มซุป รวมถึงสภาพแวดล้อมที่มืดพร้อมกับเสียงลุ้นระทึกของตัวละครเอกที่ทำเอาผู้เล่นลุ้นไปด้วยเลยว่าจะหลบหนีศัตรูรอดจากความมืดไหม ?
บรรยากาศภายในเกม
Outlast : Whistleblower ยังคงนำความสยองขวัญสั่นประสาทมาให้ผ็เล่นได้รู้สึกกันเหมือนกับ Outlast ภาคก่อนหน้านี้ โดยผู้เล่นจะต้องอยู่กับฉากที่มืดจนมองไม่เห็นอะไรกับฉากที่เต็มไปด้วยซากศพและกองเลือด และ บางฉากก็จะมี Cutscene ที่เต็มไปด้วยความโหดเลือดสาดถึงขั้นเรียกได้ว่า Outlast : Whistleblower เป็นเกมที่เต็มไปด้วยความโรคจิต วิปริต ของค่าย Red Barrels จริงๆ แถมยังมีเหล่าศัตรูอยู๋รอบๆภายในฉากแต่เราก็ไม่ต้องกังวลอะไรมากเพราะตัวเกมมีแสงจาก กล้องถ่ายวีดิโอจึงทำให้เราสามารถมองเห็นในความมืดได้ ซึ่ง ก็ต้องระวังอย่าให้กล้องถ่ายวีดิโอถ่านหมด เพราะจะทำให้ไม่สามารถใช้แสงภายในความมืดได้ นอกจากนี้ผู้เล่นยังสามารถนำเอาความมืดของฉากในเกมมาเป็นที่หลบหนีศัตรูได้ (แต่ก็ไม่ใช่หลบศัตรูได้ทุกตัวนะ) ทางด้านระบบการเล่น ตัวเกมยังคงมีระบบการเล่นเเบบเดิมๆที่เป็นแนวเดินไปข้างหน้าสำรวจเส้นทางและหลบหนีศัตรูไม่มีอิสระในการสำรวจมากนักนะแต่ระบบควบคุมตัวละครไม่ว่าจะเป็น วิ่ง กระโดด หลบเข้ากำแพง ดูลื่นไหล
ศัตรูในเกม
Outlast : Whistleblower ได้มีการเพิ่มศัตรูเข้ามาใหม่จากเดิมภาคก่อนหน้านี้มีแค่ คนป่วยโรคจิตเดินเพ่นพ่านไปมาและยักษ์ที่ชอบเดินลากโซ่ แต่ภาค Outlast : Whistleblower ได้เพิ่ม มนุษย์กินคน และ บอสเข้ามาใหม่ซึ่งจะทำให้ผลู้เล่นจะได้เห็นฉากเลือดสาดกระจายและ Cutscene โหดๆรวมถึงการต้องระวังเอาตัวรอดจากศัตรูให้มากขึ้นกว่าเดิม และ ยังเพิ่มความสยองให้กับเกมเพิ่มขึ้นอีกด้วย
สรุปคะแนน
7 คะแนน
จุดเด่นของเกม
สร้างความสยองขวัญให้กับผู้เล่นอย่างต่อเนื่องและไม่น่าเบื่อ
ระบบควบคุมตัวละคร เช่น วิ่ง กระโดด หลบเข้ากำแพง ลื่นไหล
สามารถหนีศัตรูได้หลากหลายวิธี
สิ่งที่ทำให้ผิดหวัง
ศัตรูยังดูซ้ำไปซ้ำมา เหมือนจะเพิ่มแค่บอสเท่านั้น
ปริศนานั้นง่ายเกินไป
เนื้อเรื่องที่สั้นเกินไป
http://www.ps4-geek.com/?p=575