ออกตัวก่อนเลยว่าเป็นแฟนพี่ก็อตมาจะเรียกว่าแต่กำเนิดเลยก็ว่าได้ โตมาก็ด้วยหนังพี่แกเนี่ยแหล่ะ
ทุกวันนี้ภาพของภาค Godzilla vs Mothra: battle for earth (1992) ภาคที่ประทับใจที่สุดยังอยู่ในใจให้นึกถึงตลอด
ดูมาหลายยุคหลายสมัย ตั้งแต่ยุค 90 และ ยุคมิลเลเนี่ยม
ดังนั้นภาค 2014 จึงเป็นอะไรที่ตั้งตารอมากๆตามตั้งแต่ข่าวลือการสร้างและก็ได้ดูเสียทีหลังจากที่รอมานาน.....
มาเริ่มกันเลยดีกว่า....
[Spoil จัดเต็มยังไม่ได้ดูปิดกระทู้ไปโลด]
Godzilla 2014 ภาคนี้ เลือกดู IMAX ครับเพราะจะได้เต็มตากับขนาดที่ใหญ่โตของพี่ก็อต
ในส่วน Part แรกหลายๆคนอาจจะมองว่าไม่สนุกหรือเอื่อย
แต่หนังช่วงปูเรื่องตอนนี้ผมมองว่ามันสนุกมากๆเมื่อเทียบกับ Part หลัง
มันกลมกล่อมดีมาก ตรงจุดนี้เหมือนทำมาเอาใน Greek รุ่นเดอะ
รายละเอียดการอธิบายที่มาที่ไปต่างๆทำได้ดี น่าติดตาม
จนกระทั่งฉากเปิดตัว MUTO ที่ทำได้ดีมากๆ
ข้อตำหนิเล็กๆน้อยๆนิดนึงตรงส่วนฉากเปิดตัว MUTO ไม่มีฉาก "ตั้งชื่อ"
ฉากบังคับที่เหมือนจะเป็นกิมมิคหลักของหนังไคจูเลยนะของหนังไคจูเลยนะ
ที่จะต้องมีฉากกำหนดชื่อของไคจูเพื่อใช้เรียกในปฏิบัติการทางทหาร
และเป็นการให้ผู้ชม"ทำความรู้จัก"กับไคจูนั้นๆไปในตัว
นี่อยู่ๆเรียกชื่อ MUTO เฉยเลย ไม่บอกที่มาของชื่อเลยด้วยซ้ำ
และเมื่อพี่ก๊อตจักรพันธ์พระเอกของเรื่องออกโรง ทุกอย่างก็ดูประดักประเดิดขึ้นมาทันที
ยอมรับเลยว่า หลังจากเห็นฉาก Monster Fight แบบวับๆแวมๆ ที่แซมมาตลอดเรื่อง
จุดนี้ทำได้ดีกว่าตอนท้ายนะผมกลับชอบมุมกล้องวับๆแวมๆมากกว่าฉากสู้ตัวต่อตัวในช่วงท้ายเสียอีก
ทำให้หวนนึกถึง Cloverfield ขึ้นมาเลย เข้าใจเลยว่าทำไมหนังเรื่องนั้นเน้นไปทาง Handheld มากกว่า
เพราะเสกลของไคจูทั้งสาม ค่อนข้างจะใหญ่โต เมื่อตัดสลับกับฉากมนุษย์ดูมันกระโดดไปเลย
การตัดต่อในช่วงท้าย ดูกระโดดไปมาและ Timing เหตุการณ์ระหว่างมนุษย์กับไคจูดูไม่ต่อเนื่องหลายจุด
อารมณ์เดียวกับ The Amazing Spiderman2 ที่เพิ่งดูหมาดๆ การตัดต่อทำได้ประดักประเดิดพอกัน
และที่ขัดใจมากคือ.....
Atomic breath............
เห็นแล้วฟีลมาเลยครับ เหมือนคนอกหักเลยครับ....... แบบ เฮ๊ยๆๆๆๆ
จะปล่อยแล้วเว่ย
แต่แบบ ฟู่ววววววว....ความรุนแรงดูไม่มีเลยยยยยยยยยย เหมือนเปิดเตาแก๊สใส่ศัตรูแค่นั้นเอ๊งงงงงงงง!!!! โอยยยยยยยย
อันนี้พยายามทำความเข้าใจว่าจะยึดหลักความเป็นจริงรึเปล่านะ
(ไฟของพี่ก็อตยุคมิลเลเนี่ยมโดย Toho ก็ดูไม่ค่อยไม่แรงนะ มีไซร้โค้งและปล่อยถี่อีกตะหาก)
และอีกจุดที่ขัดใจคือ ทำไมเอ็งชาร์จไฟไล่มาทางหาง หางเอ็งก็เรียวเล็กแค่นั้น แต่ไฟเอ็งไล่มาจากหาง
เออ เอากะเอ็งสิ ทำไมไม่ให้เริ่มวิ่งจากกลางลำตัว (ตรงส่วนนี้เข้าใจว่าอาจจะเล่นความต่อเนื่องของมุมกล้อง ณ ตอนนั้นด้วย)
ของจริงต้องแบบนี้!!!!!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ไม่ใช่แบบนี้!!!!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และเมื่อถึงจุดไคล์แม็คกลับทำได้ไม่พีคพอ ด้วยองค์ประกอบหลายๆอย่าง
เทียบกับ Pacificrim หนังเคารพญี่ปุ่นเรื่องก่อนหน้ายังทำได้ไม่ดีเท่าเลย
รายนั้นผมแทบจะออกเสียงเชีย์ทุกครั้งที่หุ่นต่อยกับไคจูเลยครับ มันส์ถึงใจมากๆ
โดยสรุปแล้ว Godzilla 2014 ผมให้เกรดคร่าวๆอยู่ที่ B-
นี่มันหลัง Drama/Thriller/Disaster ชั้นดีเรื่องนึงเท่านั้น
พี่ก็อตตามความรู้สึกผมเป็นเพียงแค่แขกรับเชิญ ที่ใส่มาเรียกเรทติ้ง
เพราะตัวหลักกลับเป็นมนุษย์และ MUTO ที่แอร์ไทม์เยอะกว่ามากๆ และในส่วนพวกนี้ก็ทำได้ดี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แต่อย่าว่า หนังสัตว์ประหลาดเฟ้ยยยยยยยยย
ใครเขาสนใจมนุษย์กันหล่ะ!!!!
หมายเหตุ : นี่เป็นเพียงความเห็นจากแฟนก็อตซิลล่าอกหักคนนึงเท่านั้น
[Spoil จัดเต็ม] Godzilla จากใจแฟนอวยแฟนพี่ก็อตโดยกำเนิดที่ไปดูมาแล้ว
ทุกวันนี้ภาพของภาค Godzilla vs Mothra: battle for earth (1992) ภาคที่ประทับใจที่สุดยังอยู่ในใจให้นึกถึงตลอด
ดูมาหลายยุคหลายสมัย ตั้งแต่ยุค 90 และ ยุคมิลเลเนี่ยม
ดังนั้นภาค 2014 จึงเป็นอะไรที่ตั้งตารอมากๆตามตั้งแต่ข่าวลือการสร้างและก็ได้ดูเสียทีหลังจากที่รอมานาน.....
Godzilla 2014 ภาคนี้ เลือกดู IMAX ครับเพราะจะได้เต็มตากับขนาดที่ใหญ่โตของพี่ก็อต
ในส่วน Part แรกหลายๆคนอาจจะมองว่าไม่สนุกหรือเอื่อย
แต่หนังช่วงปูเรื่องตอนนี้ผมมองว่ามันสนุกมากๆเมื่อเทียบกับ Part หลัง
มันกลมกล่อมดีมาก ตรงจุดนี้เหมือนทำมาเอาใน Greek รุ่นเดอะ
รายละเอียดการอธิบายที่มาที่ไปต่างๆทำได้ดี น่าติดตาม
จนกระทั่งฉากเปิดตัว MUTO ที่ทำได้ดีมากๆ
ข้อตำหนิเล็กๆน้อยๆนิดนึงตรงส่วนฉากเปิดตัว MUTO ไม่มีฉาก "ตั้งชื่อ"
ฉากบังคับที่เหมือนจะเป็นกิมมิคหลักของหนังไคจูเลยนะของหนังไคจูเลยนะ
ที่จะต้องมีฉากกำหนดชื่อของไคจูเพื่อใช้เรียกในปฏิบัติการทางทหาร
และเป็นการให้ผู้ชม"ทำความรู้จัก"กับไคจูนั้นๆไปในตัว
นี่อยู่ๆเรียกชื่อ MUTO เฉยเลย ไม่บอกที่มาของชื่อเลยด้วยซ้ำ
และเมื่อพี่ก๊อตจักรพันธ์พระเอกของเรื่องออกโรง ทุกอย่างก็ดูประดักประเดิดขึ้นมาทันที
ยอมรับเลยว่า หลังจากเห็นฉาก Monster Fight แบบวับๆแวมๆ ที่แซมมาตลอดเรื่อง
จุดนี้ทำได้ดีกว่าตอนท้ายนะผมกลับชอบมุมกล้องวับๆแวมๆมากกว่าฉากสู้ตัวต่อตัวในช่วงท้ายเสียอีก
ทำให้หวนนึกถึง Cloverfield ขึ้นมาเลย เข้าใจเลยว่าทำไมหนังเรื่องนั้นเน้นไปทาง Handheld มากกว่า
เพราะเสกลของไคจูทั้งสาม ค่อนข้างจะใหญ่โต เมื่อตัดสลับกับฉากมนุษย์ดูมันกระโดดไปเลย
การตัดต่อในช่วงท้าย ดูกระโดดไปมาและ Timing เหตุการณ์ระหว่างมนุษย์กับไคจูดูไม่ต่อเนื่องหลายจุด
อารมณ์เดียวกับ The Amazing Spiderman2 ที่เพิ่งดูหมาดๆ การตัดต่อทำได้ประดักประเดิดพอกัน
และที่ขัดใจมากคือ.....
Atomic breath............
เห็นแล้วฟีลมาเลยครับ เหมือนคนอกหักเลยครับ....... แบบ เฮ๊ยๆๆๆๆ จะปล่อยแล้วเว่ย
แต่แบบ ฟู่ววววววว....ความรุนแรงดูไม่มีเลยยยยยยยยยย เหมือนเปิดเตาแก๊สใส่ศัตรูแค่นั้นเอ๊งงงงงงงง!!!! โอยยยยยยยย
อันนี้พยายามทำความเข้าใจว่าจะยึดหลักความเป็นจริงรึเปล่านะ
(ไฟของพี่ก็อตยุคมิลเลเนี่ยมโดย Toho ก็ดูไม่ค่อยไม่แรงนะ มีไซร้โค้งและปล่อยถี่อีกตะหาก)
และอีกจุดที่ขัดใจคือ ทำไมเอ็งชาร์จไฟไล่มาทางหาง หางเอ็งก็เรียวเล็กแค่นั้น แต่ไฟเอ็งไล่มาจากหาง
เออ เอากะเอ็งสิ ทำไมไม่ให้เริ่มวิ่งจากกลางลำตัว (ตรงส่วนนี้เข้าใจว่าอาจจะเล่นความต่อเนื่องของมุมกล้อง ณ ตอนนั้นด้วย)
ของจริงต้องแบบนี้!!!!!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ไม่ใช่แบบนี้!!!!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และเมื่อถึงจุดไคล์แม็คกลับทำได้ไม่พีคพอ ด้วยองค์ประกอบหลายๆอย่าง
เทียบกับ Pacificrim หนังเคารพญี่ปุ่นเรื่องก่อนหน้ายังทำได้ไม่ดีเท่าเลย
รายนั้นผมแทบจะออกเสียงเชีย์ทุกครั้งที่หุ่นต่อยกับไคจูเลยครับ มันส์ถึงใจมากๆ
โดยสรุปแล้ว Godzilla 2014 ผมให้เกรดคร่าวๆอยู่ที่ B-
นี่มันหลัง Drama/Thriller/Disaster ชั้นดีเรื่องนึงเท่านั้น
พี่ก็อตตามความรู้สึกผมเป็นเพียงแค่แขกรับเชิญ ที่ใส่มาเรียกเรทติ้ง
เพราะตัวหลักกลับเป็นมนุษย์และ MUTO ที่แอร์ไทม์เยอะกว่ามากๆ และในส่วนพวกนี้ก็ทำได้ดี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หมายเหตุ : นี่เป็นเพียงความเห็นจากแฟนก็อตซิลล่าอกหักคนนึงเท่านั้น