สวัสดีชาวพันทิป
เราเป็นเด็ก ม.6 ที่จะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัย และตอนนี้เราเองก็ยังไม่มีที่เรียน
ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อ3เดือนที่แล้ว ได้มีโควต้ามาให้เลือกที่เรียน เพื่อนๆแต่ละคนก็วางแผนที่จะลงคณะกัน
ส่วนตัวเราเอง ในขณะนั้นเราไม่เคยคิดว่าจะลงโควต้าเหมือนเพื่อนๆหรอก เพราะตอนนั้น เราก็มั่นใจว่าจะลงแอดมิดชั่นในคณะทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ
ซึ่งต้องใช้ pat2 ทีนี้คะแนนpat2 ออกมาแล้ว เราก็ลองไปคำนวณคะแนนดู ปรากฎว่าโอกาสที่เราจะติดนั้นคณะในฝันนั้น มันริบหรี่มาก
เราก็เลยตัดสินใจที่จะลงโควต้าที่เปิดไว้ (ลงทะเบียนปลายเดือนเมษา หลังประกาศคะแนน gat pat พอดี)
เราลงวิศวะA ของมหาลัยแห่งหนึ่งไว้ เค้ารับ 2 คน
ซึ่งก่อนหน้านั้น มีเพื่อนเราคนนึงก็กังวลมากว่ากลัวจะมีคนลงวิศวะAเหมือนมันเยอะ อาจจะมีโอกาสที่จะได้น้อยลง(ลงได้อันเดียว ถ้าไม่ได้ก็หลุดเลย)
ซึ่งเราเองก็เป็นคนปลอบมันนี่แหละว่า ไม่มีใครลงคณะวิศวะA เหมือนหรอกน่า เขาได้ที่เรียนกันไปเยอะละ
เพื่อนเราคนนี้ ก่อนหน้านี้มันอยากเรียนถาปัดย์ แต่ไปสอบมาสองที่แล้ว ไม่ติด เพื่อนเราเลยท้อ มันก็ไม่เอาอะไรอีกเลย ไม่สอบต่ออีกแล้ว
เพราะยังไงก็ยังมีโควต้าอันสุดท้ายรองจากแอดมิดชั่นให้ลงเลือกอยู่ (โควต้าอันนี้ใช้เกรดยื่น)
และในตอนนี้มีคนลงคณะวิศวะ A 3คน ซึ่งหมายความว่า ต้องมีอีก1คนที่ต้องหลุดไปหลังจากการสอบสัมภาษณ์สิ้นสุดลง
คือ เรารู้สึกแย่มากๆ ที่ไปแย่งที่เรียนเพื่อน คือเราไม่มีทางเลือกจริงๆว่า ถ้าเราไม่ลงวิศวะ A ไปก่อน
แล้วเราจะได้เรียนคณะวิทยาศาสตร์สุขภาพในฝันของเรา
เราก็บอกเพื่อนไปในทางเฟสบุ๊คประมาณว่า กูขอโทษนะที่ไปแย่งที่เรียน........... พิมพ์ไปประมาณ 5 กิโลได้ เพื่อนเราไม่ตอบกลับเลย
สงสัยคงจะโกรธเรามากแน่นอน
เราอึดอัดที่ต้องมีความรู้สึกแบบนี้กับเพื่อน ซึ่งเป็นเพื่อนที่เค้าเคยดีกับเราระดับหนึ่งเลย
ถ้าหลังการสัมภาษณ์สิ้นสุดลง แล้วประกาศผลออกมา ว่าเพื่อนของเราไม่ติด เราจะรู้สึกแย่ๆมากๆ แต่มันเป็นความรู้สึกแย่ที่เราไม่สามารถทำอะไรได้เลย
เรารู้สึกโกรธตัวเอง ที่ทำอะไรไม่ได้ ถ้าจะให้เราไม่ไปสัมภาษณ์ เราก็ไม่มั่นใจอีกว่าถ้าไม่เอาคณะนี้ไว้ก่อน แล้วเราก็จะยังมีที่เรียน
เรารู้สึกโกรธตัวเอง ที่ทำแบบนั้นกับเพื่อน เพื่อนที่ดูจะมีทางเลือกไม่มากนัก ซึ่งเมื่อถ้าเทียบกับตัวเราแล้ว เรายังมีทางเลือกมากกว่าเขา
ทำไปเราไม่ให้เขาไป บางทีก็แอบคิดในเชิงเห็นแก่ตัวนิดนึงนะว่า ถ้าเราไม่รู้จักกันมาก่อน มันคงจะดีกว่านี้
แล้วถ้าเป็นคุณล่ะ จะทำยังไง?
ทำยังไงดี เมื่อไปแย่งที่เรียนเพื่อน ?
เราเป็นเด็ก ม.6 ที่จะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัย และตอนนี้เราเองก็ยังไม่มีที่เรียน
ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อ3เดือนที่แล้ว ได้มีโควต้ามาให้เลือกที่เรียน เพื่อนๆแต่ละคนก็วางแผนที่จะลงคณะกัน
ส่วนตัวเราเอง ในขณะนั้นเราไม่เคยคิดว่าจะลงโควต้าเหมือนเพื่อนๆหรอก เพราะตอนนั้น เราก็มั่นใจว่าจะลงแอดมิดชั่นในคณะทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ
ซึ่งต้องใช้ pat2 ทีนี้คะแนนpat2 ออกมาแล้ว เราก็ลองไปคำนวณคะแนนดู ปรากฎว่าโอกาสที่เราจะติดนั้นคณะในฝันนั้น มันริบหรี่มาก
เราก็เลยตัดสินใจที่จะลงโควต้าที่เปิดไว้ (ลงทะเบียนปลายเดือนเมษา หลังประกาศคะแนน gat pat พอดี)
เราลงวิศวะA ของมหาลัยแห่งหนึ่งไว้ เค้ารับ 2 คน
ซึ่งก่อนหน้านั้น มีเพื่อนเราคนนึงก็กังวลมากว่ากลัวจะมีคนลงวิศวะAเหมือนมันเยอะ อาจจะมีโอกาสที่จะได้น้อยลง(ลงได้อันเดียว ถ้าไม่ได้ก็หลุดเลย)
ซึ่งเราเองก็เป็นคนปลอบมันนี่แหละว่า ไม่มีใครลงคณะวิศวะA เหมือนหรอกน่า เขาได้ที่เรียนกันไปเยอะละ
เพื่อนเราคนนี้ ก่อนหน้านี้มันอยากเรียนถาปัดย์ แต่ไปสอบมาสองที่แล้ว ไม่ติด เพื่อนเราเลยท้อ มันก็ไม่เอาอะไรอีกเลย ไม่สอบต่ออีกแล้ว
เพราะยังไงก็ยังมีโควต้าอันสุดท้ายรองจากแอดมิดชั่นให้ลงเลือกอยู่ (โควต้าอันนี้ใช้เกรดยื่น)
และในตอนนี้มีคนลงคณะวิศวะ A 3คน ซึ่งหมายความว่า ต้องมีอีก1คนที่ต้องหลุดไปหลังจากการสอบสัมภาษณ์สิ้นสุดลง
คือ เรารู้สึกแย่มากๆ ที่ไปแย่งที่เรียนเพื่อน คือเราไม่มีทางเลือกจริงๆว่า ถ้าเราไม่ลงวิศวะ A ไปก่อน
แล้วเราจะได้เรียนคณะวิทยาศาสตร์สุขภาพในฝันของเรา
เราก็บอกเพื่อนไปในทางเฟสบุ๊คประมาณว่า กูขอโทษนะที่ไปแย่งที่เรียน........... พิมพ์ไปประมาณ 5 กิโลได้ เพื่อนเราไม่ตอบกลับเลย
สงสัยคงจะโกรธเรามากแน่นอน
เราอึดอัดที่ต้องมีความรู้สึกแบบนี้กับเพื่อน ซึ่งเป็นเพื่อนที่เค้าเคยดีกับเราระดับหนึ่งเลย
ถ้าหลังการสัมภาษณ์สิ้นสุดลง แล้วประกาศผลออกมา ว่าเพื่อนของเราไม่ติด เราจะรู้สึกแย่ๆมากๆ แต่มันเป็นความรู้สึกแย่ที่เราไม่สามารถทำอะไรได้เลย
เรารู้สึกโกรธตัวเอง ที่ทำอะไรไม่ได้ ถ้าจะให้เราไม่ไปสัมภาษณ์ เราก็ไม่มั่นใจอีกว่าถ้าไม่เอาคณะนี้ไว้ก่อน แล้วเราก็จะยังมีที่เรียน
เรารู้สึกโกรธตัวเอง ที่ทำแบบนั้นกับเพื่อน เพื่อนที่ดูจะมีทางเลือกไม่มากนัก ซึ่งเมื่อถ้าเทียบกับตัวเราแล้ว เรายังมีทางเลือกมากกว่าเขา
ทำไปเราไม่ให้เขาไป บางทีก็แอบคิดในเชิงเห็นแก่ตัวนิดนึงนะว่า ถ้าเราไม่รู้จักกันมาก่อน มันคงจะดีกว่านี้
แล้วถ้าเป็นคุณล่ะ จะทำยังไง?