หนึ่งในปัญหาใหญ่ของ 4G LTE ก็คือการที่ตัวคลื่นนั้นทำงานเห็นทุกอย่างเป็นข้อมูลไปหมด แตกต่างจากยุค 2G/3G ที่มีการแยกแชนแนลของคลื่นสำหรับเสียง (voice) ข้อความ (sms) และอินเทอร์เน็ท (data) ออกจากกัน เมื่อทุกอย่างโดนมองเป็นข้อมูลไปหมด สิ่งที่หายไปก็คือการใช้เสียง หรือโทรศัพท์นั่นเอง โดยปัจจุบัน 4G LTE ทั้งหลายทั่วโลก เมื่อจะทำการโทรศัพท์ จะถูกย้ายไปใช้ช่องทางของ 3G นั่นเอง ทำให้เกิดการวิ่งไปๆ มาๆ ระหว่างเทคโนโลยีทั้งสองประเภท
และในเมื่อคลื่น 4G นั้นถูกให้บริการโดยผู้ให้บริการโทรศัพท์ การจะโยนเรื่องสื่อสารด้วยเสียงทิ้งก็คงไม่ใช่เรื่อง เทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาเข้ามาใช้ตรงนี้ก็คือ VoLTE (Voice Over LTE) นั่นเอง ซึ่งถูกพัฒนามานานหลายปีแล้วพอสมควร แต่การนำไปใช้ยังมีไม่มากนัก (ตอนนี้ในสหรัฐจะมี AT&T เริ่มดีพลอยระบบใหม่แล้ว) และเพื่ออธิบายผู้ใช้งานให้เข้าใจง่ายๆ ตามแบบสไตล์ญี่ปุ่น ก็จะมีวิดิโออธิบายให้เห็นกันง่ายๆ อีกด้วย มาดูกันว่า NTT DoCoMo จะอธิบายผู้ใช้งานอย่างไร
วิดิโอแรกนี้ชี้ให้เห็นถึงข้อแตกต่างระหว่างการคุยด้วย 3G (ดรอปสัญญาณเพื่อพูด) กับการใช้ VoLTE บนคลื่น 4G LTE ตรงๆ จะมีความแตกต่างของช่วงคลื่นที่สามารถใช้งานได้ คุณภาพที่เพิ่มขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด และที่สำคัญคือโทรศัพท์ที่ใช้ในการเปรียบเทียบนั้นมีความแตกต่างกัน แปลว่าการจะใช้ VoLTE นั้นจะต้องเปลี่ยนเครื่องด้วยนั่นเอง
วิดิโอที่สองนี้ชี้ให้เห็นว่าหลังการกดปุ่มโทรออก การลดสัญญาณลงมาเหลือ 3G เพื่อโทรออกนั้นใช้เวลานานกว่าพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการตัดคลื่น 4G หรือต่อใหม่เป็น 3G ในขณะที่ถ้าใช้ VoLTE จะไม่ต้องเปลี่ยนคลื่นให้เสียเวลา โทรออกได้เลย และรวดเร็วกว่ามาก
วิดิโอที่สามนี้ชี้ให้เห็นเรื่องราวที่ต่อเนื่องจากวิดิโอก่อนหน้านี้ ว่าถ้าคุยด้วย VoLTE จะสามารถใช้ข้อมูลได้เลยทันที ในขณะที่ถ้าเป็น 3G จะต้องรอการดาวน์โหลดที่สปีดตกลง (จากการใช้ Voice) นั่นเอง
วิดิโอสุดท้ายนี้แสดงให้เห็นการเชื่อมต่อที่มองทุกอย่างเป็น Data นั่นเอง โดยเปลี่ยนจากการโทรศัพท์คุยกันกลายเป็นวิดิโอ โดยแทบจะไม่ต้องรอ หรือตัดสายทิ้งเพื่อโทรใหม่ (3G มี Video Call แต่ต้องตัดแล้วต่อใหม่)
ส่วนสาเหตุที่นำมาให้ดูกันก็เพราะว่าบ้านเรามีสองเครือข่ายให้บริการ 4G แล้ว (dtac, TrueMove H) แต่แน่นอนว่ายังไม่มีเทคโนโลยีล่าสุดนี้ และการจะใช้ในบ้านเราก็แปลว่าการโทรศัพท์จะต้องลดสัญญาณลงมาเป็น 3G ก่อนอย่างแน่นอน ดังนั้นก็รับชมไปก่อนว่าประเทศผู้นำเทคโนโลยีโลกอย่างญี่ปุ่นกำลังจะแก้ปัญหานี้อย่างไร แล้วกว่าจะมาถึงมือเราจะต้องรอกันนานแค่ไหน
ที่มา:
Phone Arena ผ่าน
MXPhone
เครือข่ายญี่ปุ่นเตรียมใช้งาน VoLTE เทคโนโลยีเสียงผ่าน 4G
และในเมื่อคลื่น 4G นั้นถูกให้บริการโดยผู้ให้บริการโทรศัพท์ การจะโยนเรื่องสื่อสารด้วยเสียงทิ้งก็คงไม่ใช่เรื่อง เทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาเข้ามาใช้ตรงนี้ก็คือ VoLTE (Voice Over LTE) นั่นเอง ซึ่งถูกพัฒนามานานหลายปีแล้วพอสมควร แต่การนำไปใช้ยังมีไม่มากนัก (ตอนนี้ในสหรัฐจะมี AT&T เริ่มดีพลอยระบบใหม่แล้ว) และเพื่ออธิบายผู้ใช้งานให้เข้าใจง่ายๆ ตามแบบสไตล์ญี่ปุ่น ก็จะมีวิดิโออธิบายให้เห็นกันง่ายๆ อีกด้วย มาดูกันว่า NTT DoCoMo จะอธิบายผู้ใช้งานอย่างไร
วิดิโอแรกนี้ชี้ให้เห็นถึงข้อแตกต่างระหว่างการคุยด้วย 3G (ดรอปสัญญาณเพื่อพูด) กับการใช้ VoLTE บนคลื่น 4G LTE ตรงๆ จะมีความแตกต่างของช่วงคลื่นที่สามารถใช้งานได้ คุณภาพที่เพิ่มขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด และที่สำคัญคือโทรศัพท์ที่ใช้ในการเปรียบเทียบนั้นมีความแตกต่างกัน แปลว่าการจะใช้ VoLTE นั้นจะต้องเปลี่ยนเครื่องด้วยนั่นเอง
วิดิโอที่สองนี้ชี้ให้เห็นว่าหลังการกดปุ่มโทรออก การลดสัญญาณลงมาเหลือ 3G เพื่อโทรออกนั้นใช้เวลานานกว่าพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการตัดคลื่น 4G หรือต่อใหม่เป็น 3G ในขณะที่ถ้าใช้ VoLTE จะไม่ต้องเปลี่ยนคลื่นให้เสียเวลา โทรออกได้เลย และรวดเร็วกว่ามาก
วิดิโอที่สามนี้ชี้ให้เห็นเรื่องราวที่ต่อเนื่องจากวิดิโอก่อนหน้านี้ ว่าถ้าคุยด้วย VoLTE จะสามารถใช้ข้อมูลได้เลยทันที ในขณะที่ถ้าเป็น 3G จะต้องรอการดาวน์โหลดที่สปีดตกลง (จากการใช้ Voice) นั่นเอง
วิดิโอสุดท้ายนี้แสดงให้เห็นการเชื่อมต่อที่มองทุกอย่างเป็น Data นั่นเอง โดยเปลี่ยนจากการโทรศัพท์คุยกันกลายเป็นวิดิโอ โดยแทบจะไม่ต้องรอ หรือตัดสายทิ้งเพื่อโทรใหม่ (3G มี Video Call แต่ต้องตัดแล้วต่อใหม่)
ส่วนสาเหตุที่นำมาให้ดูกันก็เพราะว่าบ้านเรามีสองเครือข่ายให้บริการ 4G แล้ว (dtac, TrueMove H) แต่แน่นอนว่ายังไม่มีเทคโนโลยีล่าสุดนี้ และการจะใช้ในบ้านเราก็แปลว่าการโทรศัพท์จะต้องลดสัญญาณลงมาเป็น 3G ก่อนอย่างแน่นอน ดังนั้นก็รับชมไปก่อนว่าประเทศผู้นำเทคโนโลยีโลกอย่างญี่ปุ่นกำลังจะแก้ปัญหานี้อย่างไร แล้วกว่าจะมาถึงมือเราจะต้องรอกันนานแค่ไหน
ที่มา: Phone Arena ผ่าน MXPhone