เกริ่น ....
เราจีบผู้ชายคนนึงเป็นเวลานานประมาณ 1 ปีครึ่ง เรารักเขามากๆ เขาเป็นผู้ชายที่เรียกว่าเพียบพร้อมเลยก็ว่าได้ แต่ติดอยู่ที่ว่าเราอยู่ห่างไกลกันมาก เราจีบเขาโดยไม่คิดว่าเขาจะมาสนใจเรา จนเมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้คุยกันมากขึ้น เขาก็มาขอเราเป็นแฟน แต่เราเองยังไม่แน่ใจว่าเขารักเราจริงหรือเปล่า จึงรอเวลาตัดสิน และในวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา เราจึงทำคลิปวิดิโอเป็น story ของเรา แล้วจบลงด้วยการขอเขาเป็นแฟน และแน่นอนว่าเราก็คบกัน เนื่องจากว่าแฟนเราอยู่ไกล เขาเลยยื่นข้อเสนอมาให้เราว่า 'จะคุยกับผู้ชายคนอื่นๆก็ได้นะ เปิดโอกาสให้ตัวเอง แต่ก็ดูแลหัวใจของเขาไว้ให้ดีด้วยล่ะ' และมันก็น่าตลกที่ในช่วงที่เรากำลังคบกับแฟนอยู่นั้น มีคนเข้ามาเยอะมาก แต่ทุกครั้งเราจะบอกคนเหล่านั้นว่าเรามีแฟนแล้ว และจะเล่าเรื่องนี้ให้แฟนฟังเสมอ (ขอแทนแฟนเราว่า G นะคะ)
จุดเริ่มต้นของเรื่อง ...
เราได้รู้จักคนๆนึงผ่านแอพแชทแอพหนึ่ง เขาเป็นศิลปิน ขอแทนว่า A เรารักในงานศิลปะ เห็นเขาแอดมา จึงรับแอดเขาไว้ และคุยกันในเรื่องศิลปะ นานวันไปก็คุยเรื่องอื่นๆกันมากขึ้น และเหมือนว่าเขาจะติดใจเรา เนื่องจากเรามีคนเข้ามาคุยเยอะ ความรู้สึกเราตอนนั้นที่ต่อเขาก็ไม่ได้ต่างจากคุยกับคนอื่นๆ และคิดว่าเขาแค่เข้ามาคุยเล่นๆ แล้วก็ผ่านไป เนื่องจากเราเองก็บอกสถานะชัดเจนว่ามีแฟนแล้ว แต่แล้วไม่ใช่ เมื่ออยู่ๆเขาก็อยากเจอเรา จะชวนเราไปวาดรูปทำนองนั้น เราก็ตอบตกลงไป ด้วยความไม่คิดอะไรของเรา สำหรับ A เราไม่ได้เล่าให้แฟนฟัง เพราะเราคิดว่าแค่คนในแชท มันไม่ได้จริงอะไร
และมาถึงวันที่ได้เจอกัน เราไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาเคยประสบอุบัติเหตุเมื่อนานมาแล้ว มี Lt. Brachial plexus injury ทำให้แขนพิการข้างดังกล่าว ซึ่งเห็นครั้งแรกเราเองก็ตกใจ แล้วเขาก็เล่าให้ฟังว่าด้วยสิ่งนี้ ทำให้เขารู้สึกว่าเป็นปมด้อยของตัวเองตลอด และเป็นเหตุผลที่ผู้หญิงที่เขาเคยเป็นแฟนด้วย ทิ้งเขาไป จากความคิดที่เราคิดว่าคงคุยเล่นๆ เปลี่ยนไป เรารู้สึกทันทีว่าเราจะทำแบบนี้ไม่ได้ เราสงสาร และรู้สึกผิดที่เหมือนดึงเขาเข้ามาโดยไม่ได้ตั้งใจ อีกเหตุผลที่ทำให้เรารู้สึกแบบนั้น เพราะเราเองก็มีฝาแฝดที่มีปัญหาทางสมอง ทำให้แขนพิการเช่นกัน มันยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าเราจะทิ้งเขาไม่ได้ เราสงสารเขามากๆ ประกอบกับเขาดูจริงจังกับเรามากๆด้วย ตอนนั้นทำให้เราอยู่ในสภาพกลืนไม่ได้คายไม่ออก แม้ว่าเขาจะพิการแขนข้างนึง แต่เขาดูแล เทคแคร์เราดีมาก เขาทำเหมือนว่าเราเป็นแฟนเขา แต่ขณะนั้นเราก็ยังคบกับแฟน ยังคุยกับแฟนเหมือนเดิมทุกอย่าง และ A ก็เห็น ทุกครั้งที่เขาเห็น เขาก็จะพูดเหมือนว่าไม่รู้สึกน้อยใจ หรือรู้สึกอะไร เขาบอกว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของเรา เขาจะไม่เข้ามาก้าวก่าย แต่เราก็รู้สึกได้ว่าเขารู้สึกแย่แค่ไหน
จนไม่กี่วัน หลังจากที่เขามาคอยเอาอกเอาใจเราอยู่เกือบสัปดาห์ เขาเริ่มถามว่าเรารักเขาไหม แน่นอนว่าเราไม่ได้รู้สึกรักเขาเลย เรามีแต่ความรู้สึกผิด ที่มีให้เขาคือความสงสาร แต่เราก็ไม่อยากทำร้ายเขา เราไม่อยากให้เขาเสียใจ เราเลยได้แต่ตอบเขาไปว่า 'ไม่บอก' ซึ่งช่วงนั้นเราค่อนข้างจะเย็นชากับเขามาก เราเห็นสีหน้า และแววตาของเขาเวลาที่ได้คำตอบเราแบบนั้น ทำให้เรายิ่งรู้สึกแย่ยิ่งไปใหญ่ เขาชอบไซโคเราว่า 'เธอกับแฟนนั้นโอกาสเป็นไปไม่ได้เลยซักนิด คนนั้นอยู่ตั้งไกล ทำไมไม่มองคนใกล้ๆที่คอยดูแลเธอได้ล่ะ' 'อยู่ไกลกันขนาดนั้น เดี๋ยว G ก็มีคนอื่น เธอเชื่อเราสิ ' มันเหมือนว่าเขากดดันเรา แค่นั้นไม่พอ เขาเริ่มขอให้เราโพสต์รูปเราลงวอลของเขา เขาเริ่มโปรโมตเราในหมู่เพื่อนของเขาว่าเรากับเขาคุยๆกัน เป็นแฟนกัน ตอนนั้นเราอึดอัดมากๆ แต่ด้วยความสงสาร เราก็เลยทำตามที่เขาขอ จนในที่สุดเรื่องของ A ก็เข้าหูแฟนของเรา และใช่เลย เรากับแฟนก็เลยทะเลาะกัน หลังทะเลาะกันแฟนเราก็เงียบไปหลายวัน ซึ่งเราก็คิดว่า แฟนเราคงโกรธเรามาก และไม่คิดว่าเขาจะกลับมาหาเราอีก เราจึงตัดสินใจคบกับ A ผู้ชายที่มีปม ผู้ชายที่เราคิดว่าเมื่อคบแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เริ่มบอกรักเขา และทุกครั้งที่บอก เรากลับตั้งคำถามให้ตัวเองเสมอว่า นี่เรารักเขาจริงหรอ ใช่จริงๆหรอ?
แต่แล้วสองสัปดาห์ต่อมา แฟนเราก็กลับมาขอรีเทิร์น แต่เราก็ยังจบด้วยการทะเลาะกันอีกเหมือนเดิม ใจจริงเราอยากจะรีเทิร์นกับเขามากๆ เพราะว่าเรารักเขา แต่กับอีกคนจะให้เราทิ้ง เราก็ทำไม่ลง ตอนนั้นเราอึดอัดมากๆ แต่ก็ต้องเลือก A เพราะเราอดสงสารเขาไม่ได้ โดยเรื่องขอรีเทิร์นของ G เราเล่าให้ A ฟัง แต่ A ทำเหมือนว่าไม่โกรธ บอกว่ามันเป็นเรื่องของเธอ เขาจะไม่มายุ่ง แต่เราเห็นหน้าและท่าทางเราก็อ่านออกว่าเขาต้องการอะไร แต่เขาเลี่ยงที่จะไม่พูด ทำเหมือนว่าเขาไม่รู้สึกอะไรต่อเรื่องนี้เลย ด้วยเหตุการณ์ครั้งนี้เองทำให้เรารู้ว่า การที่เลือกเขา คบเขา เพราะคิดว่าจะไม่มีปัญหาอะไรนั้น ก็เกิดปัญหาขึ้นจนได้ ช่วงนั้นเขาเริ่มติดโทรศัพท์มากขึ้น แชทแทบตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน แต่ด้วยความที่เราคิดว่าไม่มีอะไร และเราไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัว ของส่วนตัวของเขามาก เราเลยไม่เคยถาม ไม่เคยค้นโทรศัพท์เขาเลย แต่จะแค่บ่นเขาเท่านั้น เราปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปเนิ่นนาน…
(เดี๋ยวมาเล่าต่อนะคะ)
อยากระบายยยย 'เมื่อเราคบคนๆนึง โดยปราศจากความรัก มีเพียงแต่ความสงสาร...'
เราจีบผู้ชายคนนึงเป็นเวลานานประมาณ 1 ปีครึ่ง เรารักเขามากๆ เขาเป็นผู้ชายที่เรียกว่าเพียบพร้อมเลยก็ว่าได้ แต่ติดอยู่ที่ว่าเราอยู่ห่างไกลกันมาก เราจีบเขาโดยไม่คิดว่าเขาจะมาสนใจเรา จนเมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้คุยกันมากขึ้น เขาก็มาขอเราเป็นแฟน แต่เราเองยังไม่แน่ใจว่าเขารักเราจริงหรือเปล่า จึงรอเวลาตัดสิน และในวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา เราจึงทำคลิปวิดิโอเป็น story ของเรา แล้วจบลงด้วยการขอเขาเป็นแฟน และแน่นอนว่าเราก็คบกัน เนื่องจากว่าแฟนเราอยู่ไกล เขาเลยยื่นข้อเสนอมาให้เราว่า 'จะคุยกับผู้ชายคนอื่นๆก็ได้นะ เปิดโอกาสให้ตัวเอง แต่ก็ดูแลหัวใจของเขาไว้ให้ดีด้วยล่ะ' และมันก็น่าตลกที่ในช่วงที่เรากำลังคบกับแฟนอยู่นั้น มีคนเข้ามาเยอะมาก แต่ทุกครั้งเราจะบอกคนเหล่านั้นว่าเรามีแฟนแล้ว และจะเล่าเรื่องนี้ให้แฟนฟังเสมอ (ขอแทนแฟนเราว่า G นะคะ)
จุดเริ่มต้นของเรื่อง ...
เราได้รู้จักคนๆนึงผ่านแอพแชทแอพหนึ่ง เขาเป็นศิลปิน ขอแทนว่า A เรารักในงานศิลปะ เห็นเขาแอดมา จึงรับแอดเขาไว้ และคุยกันในเรื่องศิลปะ นานวันไปก็คุยเรื่องอื่นๆกันมากขึ้น และเหมือนว่าเขาจะติดใจเรา เนื่องจากเรามีคนเข้ามาคุยเยอะ ความรู้สึกเราตอนนั้นที่ต่อเขาก็ไม่ได้ต่างจากคุยกับคนอื่นๆ และคิดว่าเขาแค่เข้ามาคุยเล่นๆ แล้วก็ผ่านไป เนื่องจากเราเองก็บอกสถานะชัดเจนว่ามีแฟนแล้ว แต่แล้วไม่ใช่ เมื่ออยู่ๆเขาก็อยากเจอเรา จะชวนเราไปวาดรูปทำนองนั้น เราก็ตอบตกลงไป ด้วยความไม่คิดอะไรของเรา สำหรับ A เราไม่ได้เล่าให้แฟนฟัง เพราะเราคิดว่าแค่คนในแชท มันไม่ได้จริงอะไร
และมาถึงวันที่ได้เจอกัน เราไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาเคยประสบอุบัติเหตุเมื่อนานมาแล้ว มี Lt. Brachial plexus injury ทำให้แขนพิการข้างดังกล่าว ซึ่งเห็นครั้งแรกเราเองก็ตกใจ แล้วเขาก็เล่าให้ฟังว่าด้วยสิ่งนี้ ทำให้เขารู้สึกว่าเป็นปมด้อยของตัวเองตลอด และเป็นเหตุผลที่ผู้หญิงที่เขาเคยเป็นแฟนด้วย ทิ้งเขาไป จากความคิดที่เราคิดว่าคงคุยเล่นๆ เปลี่ยนไป เรารู้สึกทันทีว่าเราจะทำแบบนี้ไม่ได้ เราสงสาร และรู้สึกผิดที่เหมือนดึงเขาเข้ามาโดยไม่ได้ตั้งใจ อีกเหตุผลที่ทำให้เรารู้สึกแบบนั้น เพราะเราเองก็มีฝาแฝดที่มีปัญหาทางสมอง ทำให้แขนพิการเช่นกัน มันยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าเราจะทิ้งเขาไม่ได้ เราสงสารเขามากๆ ประกอบกับเขาดูจริงจังกับเรามากๆด้วย ตอนนั้นทำให้เราอยู่ในสภาพกลืนไม่ได้คายไม่ออก แม้ว่าเขาจะพิการแขนข้างนึง แต่เขาดูแล เทคแคร์เราดีมาก เขาทำเหมือนว่าเราเป็นแฟนเขา แต่ขณะนั้นเราก็ยังคบกับแฟน ยังคุยกับแฟนเหมือนเดิมทุกอย่าง และ A ก็เห็น ทุกครั้งที่เขาเห็น เขาก็จะพูดเหมือนว่าไม่รู้สึกน้อยใจ หรือรู้สึกอะไร เขาบอกว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของเรา เขาจะไม่เข้ามาก้าวก่าย แต่เราก็รู้สึกได้ว่าเขารู้สึกแย่แค่ไหน
จนไม่กี่วัน หลังจากที่เขามาคอยเอาอกเอาใจเราอยู่เกือบสัปดาห์ เขาเริ่มถามว่าเรารักเขาไหม แน่นอนว่าเราไม่ได้รู้สึกรักเขาเลย เรามีแต่ความรู้สึกผิด ที่มีให้เขาคือความสงสาร แต่เราก็ไม่อยากทำร้ายเขา เราไม่อยากให้เขาเสียใจ เราเลยได้แต่ตอบเขาไปว่า 'ไม่บอก' ซึ่งช่วงนั้นเราค่อนข้างจะเย็นชากับเขามาก เราเห็นสีหน้า และแววตาของเขาเวลาที่ได้คำตอบเราแบบนั้น ทำให้เรายิ่งรู้สึกแย่ยิ่งไปใหญ่ เขาชอบไซโคเราว่า 'เธอกับแฟนนั้นโอกาสเป็นไปไม่ได้เลยซักนิด คนนั้นอยู่ตั้งไกล ทำไมไม่มองคนใกล้ๆที่คอยดูแลเธอได้ล่ะ' 'อยู่ไกลกันขนาดนั้น เดี๋ยว G ก็มีคนอื่น เธอเชื่อเราสิ ' มันเหมือนว่าเขากดดันเรา แค่นั้นไม่พอ เขาเริ่มขอให้เราโพสต์รูปเราลงวอลของเขา เขาเริ่มโปรโมตเราในหมู่เพื่อนของเขาว่าเรากับเขาคุยๆกัน เป็นแฟนกัน ตอนนั้นเราอึดอัดมากๆ แต่ด้วยความสงสาร เราก็เลยทำตามที่เขาขอ จนในที่สุดเรื่องของ A ก็เข้าหูแฟนของเรา และใช่เลย เรากับแฟนก็เลยทะเลาะกัน หลังทะเลาะกันแฟนเราก็เงียบไปหลายวัน ซึ่งเราก็คิดว่า แฟนเราคงโกรธเรามาก และไม่คิดว่าเขาจะกลับมาหาเราอีก เราจึงตัดสินใจคบกับ A ผู้ชายที่มีปม ผู้ชายที่เราคิดว่าเมื่อคบแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เริ่มบอกรักเขา และทุกครั้งที่บอก เรากลับตั้งคำถามให้ตัวเองเสมอว่า นี่เรารักเขาจริงหรอ ใช่จริงๆหรอ?
แต่แล้วสองสัปดาห์ต่อมา แฟนเราก็กลับมาขอรีเทิร์น แต่เราก็ยังจบด้วยการทะเลาะกันอีกเหมือนเดิม ใจจริงเราอยากจะรีเทิร์นกับเขามากๆ เพราะว่าเรารักเขา แต่กับอีกคนจะให้เราทิ้ง เราก็ทำไม่ลง ตอนนั้นเราอึดอัดมากๆ แต่ก็ต้องเลือก A เพราะเราอดสงสารเขาไม่ได้ โดยเรื่องขอรีเทิร์นของ G เราเล่าให้ A ฟัง แต่ A ทำเหมือนว่าไม่โกรธ บอกว่ามันเป็นเรื่องของเธอ เขาจะไม่มายุ่ง แต่เราเห็นหน้าและท่าทางเราก็อ่านออกว่าเขาต้องการอะไร แต่เขาเลี่ยงที่จะไม่พูด ทำเหมือนว่าเขาไม่รู้สึกอะไรต่อเรื่องนี้เลย ด้วยเหตุการณ์ครั้งนี้เองทำให้เรารู้ว่า การที่เลือกเขา คบเขา เพราะคิดว่าจะไม่มีปัญหาอะไรนั้น ก็เกิดปัญหาขึ้นจนได้ ช่วงนั้นเขาเริ่มติดโทรศัพท์มากขึ้น แชทแทบตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน แต่ด้วยความที่เราคิดว่าไม่มีอะไร และเราไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัว ของส่วนตัวของเขามาก เราเลยไม่เคยถาม ไม่เคยค้นโทรศัพท์เขาเลย แต่จะแค่บ่นเขาเท่านั้น เราปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปเนิ่นนาน…
(เดี๋ยวมาเล่าต่อนะคะ)