M79 ถล่ม อนุสาวรีย์ปชต.ดับ 2 เจ็บ 17 ราย
เมื่อเวลา 02.50 น. วันที่ 15 พฤษภาคม ร.ต.ท.เลิศชาย ผือลงชัย พงส.สน.สำราญราษฎร์ รับแจ้งเหตุมีผู้ยิงเครื่องยิงลูกระเบิดชนิด M79 ตกบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๋ง เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดหรือ อีโอดี
ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณฐานของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พบผู้บาดเจ็บจำนวนมาก เจ้าหน้าที่มูลนิธินำตัวส่งรพ.หัวเฉียวและรพ.กลาง โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 17 ราย เสียชีวิต 2 ราย ทราบชื่อนายนรายศ จันทร์เพชร อายุ 21 ปี ถูกยิงเข้าที่หน้าอก 1 นัด หน้าท้อง 1 นัดและนายสมควร นาลขนาย อายุ 51 ปี ถูกยิงเข้าที่หน้าอก 1 นัด และขาอีก 1 นัด สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บที่รพ.หัวเฉียว 6 ราย ทราบชื่อนายกิติชัน อิศรางกูร ณ อยุธยา อายุ 35ปี ได้รับบาดเจ็บที่แขนขวา 2.นายสุธรรม เมืองอินทร์ อายุ 55 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ไหล่ขวา 3. นายมนัส สุทรพิพาศ อายุ 64 ปีได้รับบาดเจ็บที่หลัง 4. นส.อ้อยใจ สรวงชัยภูมิ อายุ 52ปี ได้รับบาดเจ็บที่แขนขวา 5. นายสันติพงษ์ พฤกษ์วานิช อายุ 52 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ไหล่ขวา และ6.นางเปรมจิต พฤกษ์วานิช อายุ 47 ปีได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ส่วนที่ได้รับบาดเจ็บ รพ.กลาง อีก 11 ราย ยังไม่ทราบนาม โดยผู้บาดเจ็บมีทั้งถูกสะเก็ดวัตถุระเบิดและกระสุนปืน
จากการสอบสวนผู้บาดเจ็บให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้นอนหลับกันที่ฐานของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งห่างออกไปอยู่ใกล้กับเวทีชุมนุมผ่านฟ้าของกลุ่มกปท. จังหวะเกิดเหตุมีคนได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้น 2 นัดลงตรงที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ขณะที่มีโรงแรมบ้านดินสอซึ่งอยู่ใกล้กับอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยถูกระเบิดลงที่หลังคาทะลุ เข้าไปภายในห้องพัก ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ใกล้กันนั้นได้เร่งนำส่งผู้บาดเจ็บรพ.โดยด่วน ทั้งนี้หลังเกิดเหตุมีเสียงปืนดังขึ้นบริเวณโดยรอบจำนวนหลายนัด กินเวลานานหลายนาทีก่อนที่เสียงปืนจะเงียบลง อีกทั้งมีผู้พบเห็นรถยนต์ต้องสงสัยจำนวน 4 คัน เป็นระกระบะสีเทาเข้ม 1 คัน และรถเก๋งอีก3 คัน ไม่ทราบรายละเอียดขับตระเวณป้วนเปี้ยนโดยรอบจุดเกิดเหตุ
เบื้องต้นเจ้าหน้าตำรวจที่คาดว่าคนร้ายใช้เครื่องยิงลูกระเบิด M79 ยิงจากแยกคอกวัวเข้ามาทางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและมีเสียงปืนสาดเข้ามาหลายนัดก่อนหลบหนีไป ทั้งนี้ทางการ์ดไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวที่จุดเกิดเหตุ อ้างว่าต้องการเคลียร์พื้นที่ก่อน แต่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจจุดเกิดเหตุได้ ทำให้สื่อมวลชนเกาะกลุ่มรอกันอยู่ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจหาวัตถุพยานในจุดเกิดเหตุและสอบปากคำผู้บาดเจ็บผู้เห็นเหตุการณ์หาข้อเท็จจริงต่อไป
http://www.banmuang.co.th/2014/05/m79-%E0%B8%96%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1-%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%9B%E0%B8%8A%E0%B8%95-%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A-2-%E0%B9%80/
..................................................................................................................................................
โจรผู้ร้ายโดยทั่วไป สิ่งที่คิดเป็นอันดับแรกก่อนลงมือคือ "จะหนีเอาตัวรอดยังไง" ถึงจะได้ค่าจ้างสูงยังไง ถ้าเอาตัวไม่รอดเสี่ยงโดนตำรวจจับก็ไม่คุ้ม ยิ่งฆ่าคนทำร้ายคนหมู่มาก มือปืนทั่วไปก็คงไม่เอา ยิ่งเป็นข่าวใหญ่โต มีคู่กรณีจำนวนมาก ก็ยิ่งไม่รับงาน
.....พูดง่ายๆ ว่า คนร้าย ที่อยู่ตรงข้ามกับ กปปส "กล้า" ลงมือซ้ำแล้วซ้ำอีกได้ เป็นระเบิดรายวัน เพราะรู้ว่า "ตำรวจไม่จับ" !
แล้วก็ต้องเป็นคนร้ายมีปลอกคอนักการเมือง มี "เส้น" ใหญ่พอที่จะให้แน่ใจได้ว่าได้ไฟเขียว "ทางสะดวก" เพราะรอบๆ ผู้ชุมนุม มีด่านทั้งนั้น แล้วก็เป็นพื้นที่กลางใจเมือง อย่าแต่จะเอาปืนมายิงเลย แค่พกพาเอาเป็นขบวน "ผ่านด่าน" เข้ามาได้ง่ายๆ ตลอดทุกทีก็น่าสงสัยแล้ว ....ระยะเวลาจนถึงวันนี้ คนร้าย ยิงระเบิดไปแล้วกว่า 80 ลูก คนตายรวมกันนับสิบๆ
ถ้ายังมีตำรวจการเมืองอย่าง คำรณวิทย์ นั่งทับหัวตำรวจนครบาล แถมขยิบตา กระดิกตีนขวางทางอยู่ ก็อย่าหวังเลยว่าระเบิดในกทม มันจะหยุดง่ายๆ.....
.....5 กม จากอักษะ มา ราชดำเนิน.....มันไม่ไกลเลย !
ตาย 3 เจ็บ 24 -- ทำไมคนร้าย ถึงกล้าเอาอาวุธสงคราม อย่างเอ็ม79 กับ ปืนกลเอ็ม 16 มายิงใน กทมโดย "ไม่กลัว" ตำรวจจับ ?
เมื่อเวลา 02.50 น. วันที่ 15 พฤษภาคม ร.ต.ท.เลิศชาย ผือลงชัย พงส.สน.สำราญราษฎร์ รับแจ้งเหตุมีผู้ยิงเครื่องยิงลูกระเบิดชนิด M79 ตกบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๋ง เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดหรือ อีโอดี
ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณฐานของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พบผู้บาดเจ็บจำนวนมาก เจ้าหน้าที่มูลนิธินำตัวส่งรพ.หัวเฉียวและรพ.กลาง โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 17 ราย เสียชีวิต 2 ราย ทราบชื่อนายนรายศ จันทร์เพชร อายุ 21 ปี ถูกยิงเข้าที่หน้าอก 1 นัด หน้าท้อง 1 นัดและนายสมควร นาลขนาย อายุ 51 ปี ถูกยิงเข้าที่หน้าอก 1 นัด และขาอีก 1 นัด สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บที่รพ.หัวเฉียว 6 ราย ทราบชื่อนายกิติชัน อิศรางกูร ณ อยุธยา อายุ 35ปี ได้รับบาดเจ็บที่แขนขวา 2.นายสุธรรม เมืองอินทร์ อายุ 55 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ไหล่ขวา 3. นายมนัส สุทรพิพาศ อายุ 64 ปีได้รับบาดเจ็บที่หลัง 4. นส.อ้อยใจ สรวงชัยภูมิ อายุ 52ปี ได้รับบาดเจ็บที่แขนขวา 5. นายสันติพงษ์ พฤกษ์วานิช อายุ 52 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ไหล่ขวา และ6.นางเปรมจิต พฤกษ์วานิช อายุ 47 ปีได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ส่วนที่ได้รับบาดเจ็บ รพ.กลาง อีก 11 ราย ยังไม่ทราบนาม โดยผู้บาดเจ็บมีทั้งถูกสะเก็ดวัตถุระเบิดและกระสุนปืน
จากการสอบสวนผู้บาดเจ็บให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้นอนหลับกันที่ฐานของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งห่างออกไปอยู่ใกล้กับเวทีชุมนุมผ่านฟ้าของกลุ่มกปท. จังหวะเกิดเหตุมีคนได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้น 2 นัดลงตรงที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ขณะที่มีโรงแรมบ้านดินสอซึ่งอยู่ใกล้กับอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยถูกระเบิดลงที่หลังคาทะลุ เข้าไปภายในห้องพัก ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ใกล้กันนั้นได้เร่งนำส่งผู้บาดเจ็บรพ.โดยด่วน ทั้งนี้หลังเกิดเหตุมีเสียงปืนดังขึ้นบริเวณโดยรอบจำนวนหลายนัด กินเวลานานหลายนาทีก่อนที่เสียงปืนจะเงียบลง อีกทั้งมีผู้พบเห็นรถยนต์ต้องสงสัยจำนวน 4 คัน เป็นระกระบะสีเทาเข้ม 1 คัน และรถเก๋งอีก3 คัน ไม่ทราบรายละเอียดขับตระเวณป้วนเปี้ยนโดยรอบจุดเกิดเหตุ
เบื้องต้นเจ้าหน้าตำรวจที่คาดว่าคนร้ายใช้เครื่องยิงลูกระเบิด M79 ยิงจากแยกคอกวัวเข้ามาทางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและมีเสียงปืนสาดเข้ามาหลายนัดก่อนหลบหนีไป ทั้งนี้ทางการ์ดไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวที่จุดเกิดเหตุ อ้างว่าต้องการเคลียร์พื้นที่ก่อน แต่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจจุดเกิดเหตุได้ ทำให้สื่อมวลชนเกาะกลุ่มรอกันอยู่ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจหาวัตถุพยานในจุดเกิดเหตุและสอบปากคำผู้บาดเจ็บผู้เห็นเหตุการณ์หาข้อเท็จจริงต่อไป
http://www.banmuang.co.th/2014/05/m79-%E0%B8%96%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1-%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%9B%E0%B8%8A%E0%B8%95-%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A-2-%E0%B9%80/
..................................................................................................................................................
โจรผู้ร้ายโดยทั่วไป สิ่งที่คิดเป็นอันดับแรกก่อนลงมือคือ "จะหนีเอาตัวรอดยังไง" ถึงจะได้ค่าจ้างสูงยังไง ถ้าเอาตัวไม่รอดเสี่ยงโดนตำรวจจับก็ไม่คุ้ม ยิ่งฆ่าคนทำร้ายคนหมู่มาก มือปืนทั่วไปก็คงไม่เอา ยิ่งเป็นข่าวใหญ่โต มีคู่กรณีจำนวนมาก ก็ยิ่งไม่รับงาน
.....พูดง่ายๆ ว่า คนร้าย ที่อยู่ตรงข้ามกับ กปปส "กล้า" ลงมือซ้ำแล้วซ้ำอีกได้ เป็นระเบิดรายวัน เพราะรู้ว่า "ตำรวจไม่จับ" !
แล้วก็ต้องเป็นคนร้ายมีปลอกคอนักการเมือง มี "เส้น" ใหญ่พอที่จะให้แน่ใจได้ว่าได้ไฟเขียว "ทางสะดวก" เพราะรอบๆ ผู้ชุมนุม มีด่านทั้งนั้น แล้วก็เป็นพื้นที่กลางใจเมือง อย่าแต่จะเอาปืนมายิงเลย แค่พกพาเอาเป็นขบวน "ผ่านด่าน" เข้ามาได้ง่ายๆ ตลอดทุกทีก็น่าสงสัยแล้ว ....ระยะเวลาจนถึงวันนี้ คนร้าย ยิงระเบิดไปแล้วกว่า 80 ลูก คนตายรวมกันนับสิบๆ
ถ้ายังมีตำรวจการเมืองอย่าง คำรณวิทย์ นั่งทับหัวตำรวจนครบาล แถมขยิบตา กระดิกตีนขวางทางอยู่ ก็อย่าหวังเลยว่าระเบิดในกทม มันจะหยุดง่ายๆ.....
.....5 กม จากอักษะ มา ราชดำเนิน.....มันไม่ไกลเลย !