ขอบคุณเพื่อนคนนี้จริงๆที่ทำให้ผมอยากเขียนกระทู้นี้ขึ้นมา
ผมยอมรับเลยว่าตัวผมเองเป็นคนเจ้าชู้มากๆ เพราะกับแฟนที่คบอยู่ตอนนี้ก็ยังแอบคบกับอีกคนอยู่
แต่เพื่อนคนนี้ ชอบปรึกษาเรื่องแบบนี้กับผม จริงๆก็หลายคนอ่านะ ไม่งั้นไม่มาเขียนยาวๆ
เพราะฉันก็เบื่อเหมือนกันที่ 7 วันต้องพูดเรื่องเดิมๆกะแกถึง 5 วัน เอาเป็นว่า อยากรู้ใช่ไหมว่าทำไม
ผู้ชายถึงเจ้าชู้ ผู้ชายเขารู้สึกอะไรยังไงแบบไหน ถ้าแค่พูดสรุปสั้นๆก็คงไม่เข้าใจหรอก
หรือเข้าใจก็คงได้แค่วันเดียว ก็เลยเล่าให้ฟังแม่มเหอะ จะได้เห็นเป็น ฉากๆและแทรกเหตุและผลลงไป
ไม่ต้องเอาเรื่องใครหรอก เอาเรื่องผมเองเลยนิแหละ
กับแฟนคนแรกที่จะเล่า คนนี้มันตอนผมสมัยเด็กมากๆ มัธยมต้นๆ ตอนนั้นไม่เคยมีแฟน
ฟังจากคนเขาพูดๆกัน ว่าผู้ชาย เจ้าชู้ หลายใจ เป็นผู้ชายเลื้อยคลาน นิสัยไม่ดี
ตอนนั้นก็เข้าใจนะว่าสื่อถึงอะไร ฮ่าๆ เอาเถอะ ฉันยังไม่มีแฟนอา ฉันก็ไม่รู้สิน๊ะ ผู้ชายแบบนี้เลวจริงนะเธอ
โอเคปลูกฝั่งมาแบบนั้น จนแล้วก็มีแฟนกับเขา ตอนแรกคนนี้อ่า รักนะ สมัยเด็กตอนนั้นคิดได้แต่ว่าคนนี้แหละ
อนาคตของฉัน โอ้วให้ตายเถอะ ขอบคุณพระเจ้าที่มอบเธอมาให้ผม คบกันมาตลอด 6 เดือน ตลอดเวลาที่คบกัน
เหมือนกับมีพลังงานดึงดูดและเวทมนต์สะกด แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ เมื่อมีพลังงานดึงดูด
แน่นอน มันก็ต้องมีพลังงานลับ!!! นั้นคือพลังงานที่อยากจะคุยกับคนอื่น พลังงานที่อยากจะลองของใหม่
พลังงานที่อยากจะรู้จักใครหลายๆคน หรือเรียกสั้นๆว่า พลังงานความเจ้าชู้
จริงแล้วแฟนผมเธอก็ดีนิสัยดี แต่เพราะตอนนั้นยังเด็กกันเกินนน จึงยังไม่มีประสบการณ์ทั้งคู่
ผมกับแฟนและก็กุล่มเพื่อนๆของแฟน เราต่างใช้เวลาด้วยกันเสมอ และแน่นอนครับ สาเหตุคือเพื่อนมันเองนิแหละ
ผมยอมรับครับ ว่าผมเริ่มชอบที่จะมองเพื่อนแฟนคนนึง และนี่คือครั้งแรกที่ผมหลายใจ แน่นอนครับ เพื่อนแฟนคนนี้
หน้าตาหน้ารักกกว่าแฟนผมมากกกกจริงๆ แล้วก็ดันสนิทกับแฟนผมอีกด้วย ทะเลาะกันก็โทรหาเพื่อนแฟนคนนี้
ไปคุย ปรึกษา รับสายแทน ไปไหนเป็นเพื่อน โอ้วววว แต่ตอนแรกนะ ไม่ได้คิดไรจริงๆมันคงเพราะมีคนนึงมาจุดประเด็น
เพื่อนในห้องผม มันทักว่า เฮ้ย แกนิสนิท กันทั้งคู่เลยนะ(แฟนกับเพื่อนแฟน) เพื่อนมันก็น่ารัก จะเอาสองเลยหรอ??
เอาแล้วไง มาพูดแบบนี้ฉันก็คิดสิว่ะห๊ะ แล้วหลังจากนั่น ฉันก็คิดจริงๆ เอาสอง อืม....คงเจ๋งน่าดู
แล้วก็มองมันแอบมองทำเนียนคุยบางบ่อยๆขึ้น จนตอนนั้นความรู้สึกผมเองเริ่มขัดแย้งกัน
ก็ขนาดที่ว่า แฟนว่างคุยโทรศัพท์ทั้งวัน แต่กลับโทรหาเพื่อนมันแล้วคุยกันทั้งวันซะงั้น
แล้วบอกแฟนว่าทำงาน แม่ม ตอนนั้นไม่รู้จริงๆว่านี่มันเริ่มนอกใจแล้ว แล้วเพราะยังเด็ก
เลยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการไปชอบเพื่อนของแฟนมันโคตะระเลื้อยคลานแบบลากเลื้อยเลื้อยลากกเลย
แต่แน่ล่ะ ของใหม่ น่าตาดีกว่า มันก็ย่อมต้องเลือกก่อน กับแฟนทีหลัง เพราะอะไรนะหรอ
คงเพราะว่าเราคบกันแล้วยังไงๆก็ได้คุยกันอยู่แล้ว พอได้คุยกับคนที่เราไม่ค่อยได้คุยหรือได้คุยแต่เป็นแบบกล้าๆกลัวๆใครรู้
มันรู้สึกแบบตื่นเต้น นึกออกไหม เหมือนดั่งคำว่าเพื่อนกันที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกันย่อมเข้าใจกัน
มันประมาณนั้นจริงๆ พอความตื่นเต้นนี้มันเริ่มกลายเป็นเรื่องของความชอบ
จนบอกเพื่อนแฟนไปเลยว่าโทรมาเพราะอยากคุย จากแต่ก่อนหาข้ออ้างโน่นนี่มาคุย
เพื่อนแฟนก็คงเริ่มรู้สึกแล้ว แต่ทะว่า เธอก็ดันยอมคุยกับฉันนิสิ สาเหตุคงเพราะเราผ่านอะไรที่ทำให้ตื่นเต้น
ที่ทำให้กลัว ที่ทำเสียใจ พูดง่ายๆว่าทุกความรู้สึกของผมกับเพื่อนแฟนเราผ่านมาด้วยกัน เพราะทุกครั้งมีอะไรจะพูดกับเพื่อนแฟนเสมอ
จนมันกลายเป็นว่าเพื่อนมันเข้าใจทุกอย่างไปแล้ว และเหมือนจะขาดไม่ได้ด้วยสิ
และแน่นอน ความลับไม่มีในโลก ไม่ว่าจะปกปิดแค่ไหนสักวันก็ต้องรู้ แฟนผมเริ่มสงสัย
โทรมาก็รอสาย(ตอนนั้นใช้โทรศัพท์ไม่เป็นครับ) จนวันนั้น แฟนโทรมาหาผมแล้วผมคุยกับเพื่อนแฟน
พอผมไม่ได้รับก็ไม่รู้นึกไง แฟนเลยโทรหาเพื่อนคนที่ผมคุย ชัดสิครับ เพื่อนแฟนก็ขึ้นรอสาย เอาแล้วไง
เพิ่งแอบคุยได้แค่ อาทิตย์เดียวเอง แฟนโทรมาหาผมหยิกๆเลยครับ คิดในใจ ตายแน่ฉัน!!!แฟนคงรู้แล้ว
ตอนนี้ทั้งผมกับแฟนเพื่อนคุยกันจะเอาไง ต่างคนต่างไม่รับ ด้วยความที่ยังเด็ก ยังแก้ไขปัญหาไม่เป็น
จนสุดท้ายผมรับสาย แล้วแฟนก็ถามว่าคุยกับ บลาๆๆๆๆ ใช่ไหม ทีแรกก็ปฏิเสธ ครับแต่แฟนมันดันบอกว่า
รู้ตั้งนานแล้วล่ะว่าผมกับเพื่อนแฟนคุยกัน พอพูดงี้ ก็เลยยอมรับสิครับ ว่าแอบคุยกันจริงๆ
(เอาเข้าจริงๆเธอยังไม่รู้หรอก แต่พูดล่อให้เรากลัว คนเมื่อมีความผิด แค่บอกว่ารู้นิดหน่อนยๆคนมันก็กลัวแน่นอน แล้วตอนนั้นผมก็ยังรักแฟนผมอยู่นะครับ แต่เพราะความผูกผันก่อน จึงทำให้ผมคิดว่าเธอสำคัญ เพียงแต่ความรู้สึกผม มันกลับมีให้ต่อเพื่อนแฟนอย่างไม่ตั้งใจ ก็เพราะการที่ได้คุยได้ปรึกษากันนิแหละครับ)
พอผมยอมรับหลังจากนั้นแฟนก็วางไป ผมถึงกับตกใจ ปกติทะเลาะกันก็เป็นงี้
แต่ครั้งนั่นมันรู้สึกแปลกๆมากครับ ผมทำใจได้สักระยะว่าจะทำไง ผมไม่มีเวลาได้คิดเลย
ก่อนหน้านี้ก็ทะเลาะกันเรื่องแต่รอสายกันเป็นเรื่อยๆ เพียงแต่ยังไม่รู้ว่าใคร แต่ตอนนี้เธอรู้แล้ว
สักพักเธอโทรมา พร้อมกับประชุมสาย ทั้งเพื่อน แฟน และผม แฟนผมถามเลยครับ จะเอายังไง แฟนผมให้ตัดสินใจเลือก
แฟนผมก็ร้องไห้ใหญ่ เพื่อนก็ไม่กะพูดไรมากมาย นอกจากขอโทษๆ ผมก็สงสารนะครับ แต่วินาทีนั้นผมคิดว่า
ผมคงไม่ได้รักแฟนผมแล้วจริงๆ ถ้าผมเลือกแฟน ผมคงเลือกเพราะความสงสาร
ผมจึงเลือกเพื่อนแฟนครับ ผมบอกไปแค่นั้น แฟนผมร้องไห้ใหญ่เลย แล้วก็อวยพรด้วยน้ำตา แล้วก็วางไป
จากนั้นก็โทรหาไม่ติดตลอด(ช่วงนั้นปิดเทอม) แล้วผมก็คบกับเพื่อนแฟนคนนี้ครับ พอเปิด
เทอมต่างคนต่างมองกันไม่ติด ผมเองก็ละอายใจ ก็ได้แต่กลับบ้านมาคุยกัน ไม่กล้าคุยกันที่ ร.ร.เลย
(ในเรื่องของคนแรกนี้เป็นเกี่ยวกับการนอกใจด้วยคนใกล้ตัว ทำให้เห็นว่าเพื่อนกันชอบกันได้ยังไง ทำไมถึงมีเรื่องแอบชอบเพื่อนของแฟนอยู่เสมอๆ ในช่วงนี้เริ่มมีโรงเรียนมัธยม เริ่มเปิดเทอมกันแล้ว ก็อ่านไว้ เป็นแนวทางที่จะป้องกันและห้ามความรู้สึกของตัวเองไว้ ก่อนที่จะเริ่มไม่สามารถที่จะควบคุมความรู้สึกตัวเองได้ ทุกคนล้วนมีเหตุผลที่จะคุยกับคนอื่น บางเหตุผลพูดได้ บางเหตุผลพูดยากแต่มันย่อมมีสาเหตุ ที่มาที่ไปเสมอ อยู่ที่เราจะมองเห็นหรือยอมรับมันได้รึเปล่า)
((แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เมื่อเราตัดสินใจที่จะคบกับคนๆนึงแล้ว นั้นถือว่าคุณเลือกที่จะยอมรับในตัวตนคนคนนั้น ไม่ว่าจะดีไม่ดีแค่ไหน คุณก็ต้องรักเดียวใจเดียว ซื่อสัตย์กับเขาคนเดียว เพราะฉะนั้นอย่าหาเหตุผลที่จะมีคนใหม่ เพื่อทำให้ตัวเองถูกหรือดูดี))
เรื่องคนแรกนี้ผมเล่าแค่ในส่วนย่อๆ แต่สรุปออกมาให้ได้ใจความที่สุดและเล่าแค่ในส่นวที่ผมเริ่มนอกใจเท่านั้น จึงอาจทำให้หมั่นไส้ผมได้
แค่เข้าใจว่าการนอกใจ การหลายใจ ความไม่พอ หรือที่เรียกว่าเจ้าชู้มันเป็นแบบนี้ ก็ยังเหมือนเดิม เมื่อเคยทำแล้วก็ยากที่จะหยุดสันดานได้ กับคนต่อไป....
ความรู้สึกของคนจ้าชู้
ผมยอมรับเลยว่าตัวผมเองเป็นคนเจ้าชู้มากๆ เพราะกับแฟนที่คบอยู่ตอนนี้ก็ยังแอบคบกับอีกคนอยู่
แต่เพื่อนคนนี้ ชอบปรึกษาเรื่องแบบนี้กับผม จริงๆก็หลายคนอ่านะ ไม่งั้นไม่มาเขียนยาวๆ
เพราะฉันก็เบื่อเหมือนกันที่ 7 วันต้องพูดเรื่องเดิมๆกะแกถึง 5 วัน เอาเป็นว่า อยากรู้ใช่ไหมว่าทำไม
ผู้ชายถึงเจ้าชู้ ผู้ชายเขารู้สึกอะไรยังไงแบบไหน ถ้าแค่พูดสรุปสั้นๆก็คงไม่เข้าใจหรอก
หรือเข้าใจก็คงได้แค่วันเดียว ก็เลยเล่าให้ฟังแม่มเหอะ จะได้เห็นเป็น ฉากๆและแทรกเหตุและผลลงไป
ไม่ต้องเอาเรื่องใครหรอก เอาเรื่องผมเองเลยนิแหละ
กับแฟนคนแรกที่จะเล่า คนนี้มันตอนผมสมัยเด็กมากๆ มัธยมต้นๆ ตอนนั้นไม่เคยมีแฟน
ฟังจากคนเขาพูดๆกัน ว่าผู้ชาย เจ้าชู้ หลายใจ เป็นผู้ชายเลื้อยคลาน นิสัยไม่ดี
ตอนนั้นก็เข้าใจนะว่าสื่อถึงอะไร ฮ่าๆ เอาเถอะ ฉันยังไม่มีแฟนอา ฉันก็ไม่รู้สิน๊ะ ผู้ชายแบบนี้เลวจริงนะเธอ
โอเคปลูกฝั่งมาแบบนั้น จนแล้วก็มีแฟนกับเขา ตอนแรกคนนี้อ่า รักนะ สมัยเด็กตอนนั้นคิดได้แต่ว่าคนนี้แหละ
อนาคตของฉัน โอ้วให้ตายเถอะ ขอบคุณพระเจ้าที่มอบเธอมาให้ผม คบกันมาตลอด 6 เดือน ตลอดเวลาที่คบกัน
เหมือนกับมีพลังงานดึงดูดและเวทมนต์สะกด แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ เมื่อมีพลังงานดึงดูด
แน่นอน มันก็ต้องมีพลังงานลับ!!! นั้นคือพลังงานที่อยากจะคุยกับคนอื่น พลังงานที่อยากจะลองของใหม่
พลังงานที่อยากจะรู้จักใครหลายๆคน หรือเรียกสั้นๆว่า พลังงานความเจ้าชู้
จริงแล้วแฟนผมเธอก็ดีนิสัยดี แต่เพราะตอนนั้นยังเด็กกันเกินนน จึงยังไม่มีประสบการณ์ทั้งคู่
ผมกับแฟนและก็กุล่มเพื่อนๆของแฟน เราต่างใช้เวลาด้วยกันเสมอ และแน่นอนครับ สาเหตุคือเพื่อนมันเองนิแหละ
ผมยอมรับครับ ว่าผมเริ่มชอบที่จะมองเพื่อนแฟนคนนึง และนี่คือครั้งแรกที่ผมหลายใจ แน่นอนครับ เพื่อนแฟนคนนี้
หน้าตาหน้ารักกกว่าแฟนผมมากกกกจริงๆ แล้วก็ดันสนิทกับแฟนผมอีกด้วย ทะเลาะกันก็โทรหาเพื่อนแฟนคนนี้
ไปคุย ปรึกษา รับสายแทน ไปไหนเป็นเพื่อน โอ้วววว แต่ตอนแรกนะ ไม่ได้คิดไรจริงๆมันคงเพราะมีคนนึงมาจุดประเด็น
เพื่อนในห้องผม มันทักว่า เฮ้ย แกนิสนิท กันทั้งคู่เลยนะ(แฟนกับเพื่อนแฟน) เพื่อนมันก็น่ารัก จะเอาสองเลยหรอ??
เอาแล้วไง มาพูดแบบนี้ฉันก็คิดสิว่ะห๊ะ แล้วหลังจากนั่น ฉันก็คิดจริงๆ เอาสอง อืม....คงเจ๋งน่าดู
แล้วก็มองมันแอบมองทำเนียนคุยบางบ่อยๆขึ้น จนตอนนั้นความรู้สึกผมเองเริ่มขัดแย้งกัน
ก็ขนาดที่ว่า แฟนว่างคุยโทรศัพท์ทั้งวัน แต่กลับโทรหาเพื่อนมันแล้วคุยกันทั้งวันซะงั้น
แล้วบอกแฟนว่าทำงาน แม่ม ตอนนั้นไม่รู้จริงๆว่านี่มันเริ่มนอกใจแล้ว แล้วเพราะยังเด็ก
เลยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการไปชอบเพื่อนของแฟนมันโคตะระเลื้อยคลานแบบลากเลื้อยเลื้อยลากกเลย
แต่แน่ล่ะ ของใหม่ น่าตาดีกว่า มันก็ย่อมต้องเลือกก่อน กับแฟนทีหลัง เพราะอะไรนะหรอ
คงเพราะว่าเราคบกันแล้วยังไงๆก็ได้คุยกันอยู่แล้ว พอได้คุยกับคนที่เราไม่ค่อยได้คุยหรือได้คุยแต่เป็นแบบกล้าๆกลัวๆใครรู้
มันรู้สึกแบบตื่นเต้น นึกออกไหม เหมือนดั่งคำว่าเพื่อนกันที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกันย่อมเข้าใจกัน
มันประมาณนั้นจริงๆ พอความตื่นเต้นนี้มันเริ่มกลายเป็นเรื่องของความชอบ
จนบอกเพื่อนแฟนไปเลยว่าโทรมาเพราะอยากคุย จากแต่ก่อนหาข้ออ้างโน่นนี่มาคุย
เพื่อนแฟนก็คงเริ่มรู้สึกแล้ว แต่ทะว่า เธอก็ดันยอมคุยกับฉันนิสิ สาเหตุคงเพราะเราผ่านอะไรที่ทำให้ตื่นเต้น
ที่ทำให้กลัว ที่ทำเสียใจ พูดง่ายๆว่าทุกความรู้สึกของผมกับเพื่อนแฟนเราผ่านมาด้วยกัน เพราะทุกครั้งมีอะไรจะพูดกับเพื่อนแฟนเสมอ
จนมันกลายเป็นว่าเพื่อนมันเข้าใจทุกอย่างไปแล้ว และเหมือนจะขาดไม่ได้ด้วยสิ
และแน่นอน ความลับไม่มีในโลก ไม่ว่าจะปกปิดแค่ไหนสักวันก็ต้องรู้ แฟนผมเริ่มสงสัย
โทรมาก็รอสาย(ตอนนั้นใช้โทรศัพท์ไม่เป็นครับ) จนวันนั้น แฟนโทรมาหาผมแล้วผมคุยกับเพื่อนแฟน
พอผมไม่ได้รับก็ไม่รู้นึกไง แฟนเลยโทรหาเพื่อนคนที่ผมคุย ชัดสิครับ เพื่อนแฟนก็ขึ้นรอสาย เอาแล้วไง
เพิ่งแอบคุยได้แค่ อาทิตย์เดียวเอง แฟนโทรมาหาผมหยิกๆเลยครับ คิดในใจ ตายแน่ฉัน!!!แฟนคงรู้แล้ว
ตอนนี้ทั้งผมกับแฟนเพื่อนคุยกันจะเอาไง ต่างคนต่างไม่รับ ด้วยความที่ยังเด็ก ยังแก้ไขปัญหาไม่เป็น
จนสุดท้ายผมรับสาย แล้วแฟนก็ถามว่าคุยกับ บลาๆๆๆๆ ใช่ไหม ทีแรกก็ปฏิเสธ ครับแต่แฟนมันดันบอกว่า
รู้ตั้งนานแล้วล่ะว่าผมกับเพื่อนแฟนคุยกัน พอพูดงี้ ก็เลยยอมรับสิครับ ว่าแอบคุยกันจริงๆ
(เอาเข้าจริงๆเธอยังไม่รู้หรอก แต่พูดล่อให้เรากลัว คนเมื่อมีความผิด แค่บอกว่ารู้นิดหน่อนยๆคนมันก็กลัวแน่นอน แล้วตอนนั้นผมก็ยังรักแฟนผมอยู่นะครับ แต่เพราะความผูกผันก่อน จึงทำให้ผมคิดว่าเธอสำคัญ เพียงแต่ความรู้สึกผม มันกลับมีให้ต่อเพื่อนแฟนอย่างไม่ตั้งใจ ก็เพราะการที่ได้คุยได้ปรึกษากันนิแหละครับ)
พอผมยอมรับหลังจากนั้นแฟนก็วางไป ผมถึงกับตกใจ ปกติทะเลาะกันก็เป็นงี้
แต่ครั้งนั่นมันรู้สึกแปลกๆมากครับ ผมทำใจได้สักระยะว่าจะทำไง ผมไม่มีเวลาได้คิดเลย
ก่อนหน้านี้ก็ทะเลาะกันเรื่องแต่รอสายกันเป็นเรื่อยๆ เพียงแต่ยังไม่รู้ว่าใคร แต่ตอนนี้เธอรู้แล้ว
สักพักเธอโทรมา พร้อมกับประชุมสาย ทั้งเพื่อน แฟน และผม แฟนผมถามเลยครับ จะเอายังไง แฟนผมให้ตัดสินใจเลือก
แฟนผมก็ร้องไห้ใหญ่ เพื่อนก็ไม่กะพูดไรมากมาย นอกจากขอโทษๆ ผมก็สงสารนะครับ แต่วินาทีนั้นผมคิดว่า
ผมคงไม่ได้รักแฟนผมแล้วจริงๆ ถ้าผมเลือกแฟน ผมคงเลือกเพราะความสงสาร
ผมจึงเลือกเพื่อนแฟนครับ ผมบอกไปแค่นั้น แฟนผมร้องไห้ใหญ่เลย แล้วก็อวยพรด้วยน้ำตา แล้วก็วางไป
จากนั้นก็โทรหาไม่ติดตลอด(ช่วงนั้นปิดเทอม) แล้วผมก็คบกับเพื่อนแฟนคนนี้ครับ พอเปิด
เทอมต่างคนต่างมองกันไม่ติด ผมเองก็ละอายใจ ก็ได้แต่กลับบ้านมาคุยกัน ไม่กล้าคุยกันที่ ร.ร.เลย
(ในเรื่องของคนแรกนี้เป็นเกี่ยวกับการนอกใจด้วยคนใกล้ตัว ทำให้เห็นว่าเพื่อนกันชอบกันได้ยังไง ทำไมถึงมีเรื่องแอบชอบเพื่อนของแฟนอยู่เสมอๆ ในช่วงนี้เริ่มมีโรงเรียนมัธยม เริ่มเปิดเทอมกันแล้ว ก็อ่านไว้ เป็นแนวทางที่จะป้องกันและห้ามความรู้สึกของตัวเองไว้ ก่อนที่จะเริ่มไม่สามารถที่จะควบคุมความรู้สึกตัวเองได้ ทุกคนล้วนมีเหตุผลที่จะคุยกับคนอื่น บางเหตุผลพูดได้ บางเหตุผลพูดยากแต่มันย่อมมีสาเหตุ ที่มาที่ไปเสมอ อยู่ที่เราจะมองเห็นหรือยอมรับมันได้รึเปล่า)
((แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เมื่อเราตัดสินใจที่จะคบกับคนๆนึงแล้ว นั้นถือว่าคุณเลือกที่จะยอมรับในตัวตนคนคนนั้น ไม่ว่าจะดีไม่ดีแค่ไหน คุณก็ต้องรักเดียวใจเดียว ซื่อสัตย์กับเขาคนเดียว เพราะฉะนั้นอย่าหาเหตุผลที่จะมีคนใหม่ เพื่อทำให้ตัวเองถูกหรือดูดี))
เรื่องคนแรกนี้ผมเล่าแค่ในส่วนย่อๆ แต่สรุปออกมาให้ได้ใจความที่สุดและเล่าแค่ในส่นวที่ผมเริ่มนอกใจเท่านั้น จึงอาจทำให้หมั่นไส้ผมได้ แค่เข้าใจว่าการนอกใจ การหลายใจ ความไม่พอ หรือที่เรียกว่าเจ้าชู้มันเป็นแบบนี้ ก็ยังเหมือนเดิม เมื่อเคยทำแล้วก็ยากที่จะหยุดสันดานได้ กับคนต่อไป....