พอดีเมื่อกี้ได้อ่านกระทู้ Rotring จากห้องสมุด เลยได้ไอเดียที่จะตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาค่ะ เราลองนึกย้อนดูก็พบว่าสมัยเด็กเราเป็นพวกบ้าใช้ดินสอกดมากเลยค่ะ ไม่รู้เพราะคิดว่ามันเท่หรือยังไง แต่ในใจตอนนั้นชอบที่เส้นมันคมสวย ไม่มีวันทู่แบบดินสอไม้น่ะค่ะ เรารบเร้าแม่บ่อยมากที่จะได้ใช้ดินสอกด แต่แม่เราชอบบอกว่าดินสอกดจะทำลายให้ลายมือเสีย มีใครเคยได้ยินผู้ใหญ่พูดแบบนี้มั้ยอะ เราละอยากรู้จริงๆ เพราะแม่เราชอบพูดว่าดินสอไม้คือเพื่อนแท้ ดินสอกดคือเพื่อนเทียม เราฟังแล้วแบบ โอยย แม่ชั้นมโนขั้นสุดยอดอะ ฮ่าๆๆ มีวันนึงตอนเตรียมประถมเราจำได้แม่นเลย นั่งคัดไทยลงสมุดอยู่ สังเกตเห็นยัยเด็กที่ภาพหน้าปกมันยังใช้ดินสอกดคัด เลยบอกแม่ไปว่าแล้วแม่จะมาหาว่าใช้ดินสอกดแล้วลายมือเสียได้ยังไง นี่ขนาดเขาคัดลายมือเขายังใช้ดินสอกดเลยเห็นมั้ย แล้วลายมือที่ออกมาก็ดูสวยดี ไม่มีปัญหาอะไร เส้นเล็กคมจะตายไป ไม่เหมือนดินสอไม้เวลามันทู่เส้นมันน่าเกลียดออกนะ จากนั้นแม่เลยเลิกว่าไปเลย แกจะใช้ดินสออะไรก็เชิญแกตามสบาย ไม่รู้เพราะเราพูดมีเหตุผลหรือเอือมเราแล้วกันแน่ กร๊ากกก
เราไม่แน่ใจว่าดินสอกดแท่งแรกที่ผ่านมือเราจริงๆเป็นยี่ห้อไหนรุ่นอะไร จำได้ว่าเป็นของที่มีๆอยู่แล้วในบ้านในห้องนี่ละ รูปร่างลักษณะดูเป็นของผู้ใหญ่ ไม่ค่อยเหมือนแบบที่เขาทำออกมาล่อตาล่อใจเด็กนักเรียนหรอก น่าจะเป็นของพ่อเราแหละมั้ง เพราะพ่อก็ชอบใช้ดินสอกดอยู่เหมือนกัน แต่ดินสอกดที่เราใช้ในนามเป็นของตัวเองแท่งแรกนี่เป็นดินสอกดของ Sanrio ค่ะ ลาย Little Twin Stars หรูหราน่ารักมากๆเลย คล้ายๆในภาพด้านล่างนี่แหละ มีตุ้งติ้งห้อยออกมาด้วย แต่ไม่เยอะเท่าในนี้นะ มีดาวแค่ดวงเดียวสีชมพู จำได้ว่าแท่งละ 120 บาทแน่ะ ถือว่าแพงมากสำหรับเด็ก 6-7 ขวบแบบนั้น อ้อนแม่ให้ซื้อให้จากห้างเยาฮัน รัชดา ฮ่าๆๆ ชื่อห้างบ่งบอกอายุเลยวุ้ย
จากนั้นมาก็จำไม่ค่อยได้เท่าไหร่ว่าใช้อะไรบ้าง เลือนลางเต็มที เหมือนจะผ่านมือมาหลายแท่งมากๆ มีอยู่แท่งนึงเด่นเลย เราคุ้ยๆรื้อของจากห้องพ่อแม่เลยไปเจอเข้า มันเป็นแท่งบางๆสีชมพู อ้วนกว่าหลอดยาคูลท์นิดเดียวจริงๆ แท่งมันจะคล้ายเป็นสี่เหลี่ยมมนๆอยู่ ยาวไม่มาก น่าจะไม่เกิน 3 นิ้วได้มั้ง เรียกว่าจับยากมากเลยด้วยความที่มันบางกว่าปกติ ต้องใช้กันนานกว่าจะรู้สึกจับถนัด แท่งนี้เราใช้ตอนป.5 โดนเพื่อนแฮ๊บไปใช้ด้วย โมโหมาก แต่สุดท้ายมันก็คืนมานะ มันเล็กบางเลยต้องระวังจะหายมากเป็นพิเศษเลยแหละ เพราะคงหาซื้อที่ไหนไม่ได้อีก
พอเข้าม.ต้นเหมือนเป็นยุคที่มีดินสอกดราคาถูกออกมาแข่งกันเยอะ ราคาไม่แพงมากแค่ 35 บาท สีสันสดใสโดนใจนักเรียน เราประเดิมที่ Pentel Techniclick ค่ะ ซื้อสีชมพูมา จำได้แม่นเลย ชอบที่สีมันสดดี แล้ววิธีการกดมันเปลี่ยนไปด้วย เขียนอยู่นานกว่าจะชิน เวลาจะกดมันต้องชะงักนิดนึง อิอิ รุ่นนี้คนนิยมใช้กันเยอะมากๆ ในรร.เรานี่มองไปทางไหนก็จะเห็นรุ่นนี้ตลอด ไม่ชมพูก็ดำ
ปีถัดมาเราก็เจอดินสอกดที่ชอบมากๆอีกรุ่นนึงค่ะ ยังเป็นของ Pentel เหมือนเดิม อันนี้รุ่น Caplet ค่ะ เราชอบตรงที่มันมีฝาปิดด้วยอะ ถือว่าแปลกใหม่สำหรับดินสอกดในยุคนั้นมาก เพราะไม่ค่อยมียี่ห้อไหนทำแบบนี้สักเท่าไหร่ ที่สำคัญราคาไม่แพงด้วย แท่งละแค่ 16-17 บาทเอง ซื้อได้ไม่คิดมาก แล้วบางที่เขาขายยกแพ็คด้วยนะ 3 แท่งขายกี่บาทจำไม่ได้ แต่ว่าไม่แพงเลย สมัยนั้นเราสะสมครบทุกสี แต่ชอบสีใสมากที่สุด จนถึงทุกวันนี้ยังเป็นดินสอกดที่ต้องพกติดกล่องดินสอตลอดเลย อารมณ์เหมือนยาสามัญประจำบ้านอะไรยังงั้น
จากนั้นข้ามไปม.ปลายเลยค่ะ เราไปเจอดินสอกด Kitty ลดในกระบะเซลล์ที่ห้างแถวรร. เป็นดินสอดกดลายน่ารักๆธรรมดานี่ละ คือสีมันฉูดฉาดนะ แต่ดีไซน์มันไม่เว่อร์เกิน ราคาก็น่ารักที่ 39 บาท รูปที่หามาอาจจะไม่เหมือนที่ตัวลาย แต่ทรงและวัสดุนี่ใช่เลย เราเอาไปใช้ที่ไหนคนก็ชอบ บอกว่าน่ารัก ถ้าหายนี่คือโดนชั้นขโมยนะเธออะไรงี้ สุดท้ายก็หายจริงๆเพราะเราฝากกระเป๋าไว้ที่ b2s ที่ห้างนั้นอะแหละ แล้วลืมเอากล่องดินสอคืน มานึกได้ตอนกลับบ้านแล้ว ดึกแล้วละ วุ่นวายใจมาก ของอื่นๆไม่เสียดายนะ แต่ดินสอกดแท่งนี้รักมากๆ เซ็งไปเป็นเดือนๆอะ
ข้ามมาอีกทีตอนเรียนจบแล้ว ช่วงนี้ฮิต Muji ค่ะ เราชอบเครื่องเขียนของมันมาก เรียบๆแต่ดูดี จำได้ว่าดินสอกดของมันนี่ซื้อที่เซ็นทรัลชิดลมพร้อมกับสมุดไซส์ A5 ที่ขายเป็นแพ็คน่ะ ถ้าจำไม่ผิดจะแท่งละ 35 บาทหรือไงแหละ เราชอบที่ดีไซน์มันเรียบๆและสีใสของมัน แท่งแรกเราใช้นานหลายปีมากๆ จากกลางปี 2007 ไปจนถึงปี 2010 เลยค่ะ มันไปเจ๊งเอาตอนเราอยู่ต่างประเทศ และเป็นเมืองที่หาซื้อ Muji ไม่ได้ด้วย ตอนนั้นพอรู้ว่าใครจะกลับไทยนี่เตรียมฝากซื้อเลย เพราะเป็นดินสอกดที่ใช้ประจำมากๆจนชินมือไปแล้ว ซึ่งตอนนี้เราไม่เห็นรุ่นนี้ทำขายอีกเลย มีแต่รุ่นเหล็กๆราคาแพงแล้ว ไม่สวยเลย
ช่วงที่อยู่ออสเตรเลียเราก็ซื้อดินสอกดที่เด่นๆของที่นั่นไว้เหมือนกันนะ เป็นของร้าน Smiggle ร้านนี้จะเหมือนเป็นร้านเครื่องเขียนสำหรับวัยรุ่น สีสันฉูดฉาดบาดตา ของค่อนขี้มีไอเดียนิดนึง วัยรุ่นที่นั่นบ้ากันมาก แต่คนไทยแบบเราๆจะรู้สึกว่าร้านตามสยามบ้านกรูมีขายมาเป็นสิบๆปีแล้วว่ะ นี่พวกเมิงเพิ่งมาเห่อกันรึ เชยจริง อิอิ ดินสอกดรุ่นที่เราซื้อมาเป็นรุ่นเรโทรค่ะ จะทำลักษณะเหมือนดินสอไม้ มียางลบติดตรงปลายด้วย ราคาแท่งละ 1$ เองมั้ง ซื้อไว้สองสีคือดำและฟ้าค่ะ ตอนนี้ยังเก็บไว้ นานๆใช้ทีค่ะ
กลางปี 2011 เราก็ได้ดินสอกดมาอีกแท่งค่ะ เป็น Kitty เกรด made in china แหละ ที่ตลกคือไปได้มาจากร้านทำผมของคนเกาหลีค่ะ เขาจะทำมุมขายของจุกจิกไว้ด้วย มีน้ำยาทาเล็บ มีเครื่องเขียนสไตล์น่ารัก เราก็ได้มาแท่งละ 1.50$ ได้มั้งคะ ลักษณะจะคล้ายๆในรูปนี่ละ แต่ของเราสีแดงเยอะกว่า ความรู้สึกที่ซื้อคือเอามาทดแทนดินสอกด Kitty อันเก่าที่หายไปน่ะค่ะ ถึงจะน่ารักไม่เท่า แต่ก็อทดแทนกันได้ ทุกวันนี้ใช้แท่งนี้เป็นหลักค่ะ
ส่วนไส้ดินสอกดนี่เราชอบแบบเข้มๆ เพราะเราเป็นคนกดหัวดินสอไม่หนักเวลาเขียน ถ้าใช้ 2B จะยังไม่เข้มพอที่ต้องการ เลยจะต้องใช้ที่เข้มกว่านั้นตลอดเลย เรามักซื้อ 3B หรือถ้ามี 4B ก็ยังเคยใช้มาแล้ว ฮ่าๆ ส่วนมากเราไม่มียี่ห้อประจำนะ แต่จะเลือกยี่ห้อดีๆหน่อยแบบ Pentel หรือ Tombow ค่ะ เพราะไว้ใจได้และถ้าซื้อตอนลดราคาก็ถูกดี เวลาเจอลดก็จะตุนไว้กล่องสองกล่องตลอด อย่างตอนไปเรียนต่อเราหาข้อมูลเจอว่าที่ออสเตรเลียเขาไม่ค่อยมีไส้เข้มๆขายกัน และเราไปเมืองบ้านนอกด้วยไง เลยบ้าตุนซื้อไปเยอะมากจนเพื่อนแซวว่าจะเอามาขายต่อเหรอ ปรากฎเอาจริงใช้ไม่ถึงกล่องเดียว เพราะใช้คอมเยอะกว่าเขียนเองมากๆ แจกคนไปก็หลายกล่องจนทุกวันนี้ยังเหลือกลับมาเลย กลับมาตั้งกี่ปีแล้วเนี่ย ฮ่าๆ
ส่วนยางลบนี่มีแค่เจ้าประจำสองยี่ห้อ คือ Mono กับ Sakura ค่ะ อิ Mono นี่เรารู้จักจากเพื่อนสมัยม.ปลายที่ชอบเขียนการ์ตูนค่ะ มันแนะนำให้เราใช้เพราะว่าใช้ดีมากๆ เราก็ซื้อตามมันค่ะ เป็นยางลบที่แพงที่สุดเท่าที่เคยใช้มาในตอนนั้นเลย หายทีนี่แทบกรี๊ดอะ หลังจากนั้นมาก็ได้ลอง Sakura บ้าง ก็ใช้ดีไม่แพ้กัน ตอนไปออสเตรเลียซื้อไว้ซะก้อนเบ้อเร่อ ใหญ่สุดที่มันทำออกขายเลย เอาไปก็ใช้ไม่ถึง 1/16 ของก้อน ฮ่าๆ ตลกมากเลย เพื่อนแซวอีกแล้วว่าทำยังกะจะมาอยู่ 10 ปี
จบแล้วในส่วนของเรา ยังไงขอเชิญพ่อแม่พี่น้องมาแชร์ละกันว่าชอบใช้ดินสอกดแบบไหน มีรุ่นไหนดีๆแนะนำมั่ง รวมทั้งไส้ดินสอกดด้วย เจอยี่ห้อดีๆก็เอามาบอกกันบ้างละ หรือที่ไหนมีลดยังงี้ อิอิ
*** มีใครชอบใช้ดินสอกดกันบ้างคะ ***
เราไม่แน่ใจว่าดินสอกดแท่งแรกที่ผ่านมือเราจริงๆเป็นยี่ห้อไหนรุ่นอะไร จำได้ว่าเป็นของที่มีๆอยู่แล้วในบ้านในห้องนี่ละ รูปร่างลักษณะดูเป็นของผู้ใหญ่ ไม่ค่อยเหมือนแบบที่เขาทำออกมาล่อตาล่อใจเด็กนักเรียนหรอก น่าจะเป็นของพ่อเราแหละมั้ง เพราะพ่อก็ชอบใช้ดินสอกดอยู่เหมือนกัน แต่ดินสอกดที่เราใช้ในนามเป็นของตัวเองแท่งแรกนี่เป็นดินสอกดของ Sanrio ค่ะ ลาย Little Twin Stars หรูหราน่ารักมากๆเลย คล้ายๆในภาพด้านล่างนี่แหละ มีตุ้งติ้งห้อยออกมาด้วย แต่ไม่เยอะเท่าในนี้นะ มีดาวแค่ดวงเดียวสีชมพู จำได้ว่าแท่งละ 120 บาทแน่ะ ถือว่าแพงมากสำหรับเด็ก 6-7 ขวบแบบนั้น อ้อนแม่ให้ซื้อให้จากห้างเยาฮัน รัชดา ฮ่าๆๆ ชื่อห้างบ่งบอกอายุเลยวุ้ย
จากนั้นมาก็จำไม่ค่อยได้เท่าไหร่ว่าใช้อะไรบ้าง เลือนลางเต็มที เหมือนจะผ่านมือมาหลายแท่งมากๆ มีอยู่แท่งนึงเด่นเลย เราคุ้ยๆรื้อของจากห้องพ่อแม่เลยไปเจอเข้า มันเป็นแท่งบางๆสีชมพู อ้วนกว่าหลอดยาคูลท์นิดเดียวจริงๆ แท่งมันจะคล้ายเป็นสี่เหลี่ยมมนๆอยู่ ยาวไม่มาก น่าจะไม่เกิน 3 นิ้วได้มั้ง เรียกว่าจับยากมากเลยด้วยความที่มันบางกว่าปกติ ต้องใช้กันนานกว่าจะรู้สึกจับถนัด แท่งนี้เราใช้ตอนป.5 โดนเพื่อนแฮ๊บไปใช้ด้วย โมโหมาก แต่สุดท้ายมันก็คืนมานะ มันเล็กบางเลยต้องระวังจะหายมากเป็นพิเศษเลยแหละ เพราะคงหาซื้อที่ไหนไม่ได้อีก
พอเข้าม.ต้นเหมือนเป็นยุคที่มีดินสอกดราคาถูกออกมาแข่งกันเยอะ ราคาไม่แพงมากแค่ 35 บาท สีสันสดใสโดนใจนักเรียน เราประเดิมที่ Pentel Techniclick ค่ะ ซื้อสีชมพูมา จำได้แม่นเลย ชอบที่สีมันสดดี แล้ววิธีการกดมันเปลี่ยนไปด้วย เขียนอยู่นานกว่าจะชิน เวลาจะกดมันต้องชะงักนิดนึง อิอิ รุ่นนี้คนนิยมใช้กันเยอะมากๆ ในรร.เรานี่มองไปทางไหนก็จะเห็นรุ่นนี้ตลอด ไม่ชมพูก็ดำ
ปีถัดมาเราก็เจอดินสอกดที่ชอบมากๆอีกรุ่นนึงค่ะ ยังเป็นของ Pentel เหมือนเดิม อันนี้รุ่น Caplet ค่ะ เราชอบตรงที่มันมีฝาปิดด้วยอะ ถือว่าแปลกใหม่สำหรับดินสอกดในยุคนั้นมาก เพราะไม่ค่อยมียี่ห้อไหนทำแบบนี้สักเท่าไหร่ ที่สำคัญราคาไม่แพงด้วย แท่งละแค่ 16-17 บาทเอง ซื้อได้ไม่คิดมาก แล้วบางที่เขาขายยกแพ็คด้วยนะ 3 แท่งขายกี่บาทจำไม่ได้ แต่ว่าไม่แพงเลย สมัยนั้นเราสะสมครบทุกสี แต่ชอบสีใสมากที่สุด จนถึงทุกวันนี้ยังเป็นดินสอกดที่ต้องพกติดกล่องดินสอตลอดเลย อารมณ์เหมือนยาสามัญประจำบ้านอะไรยังงั้น
จากนั้นข้ามไปม.ปลายเลยค่ะ เราไปเจอดินสอกด Kitty ลดในกระบะเซลล์ที่ห้างแถวรร. เป็นดินสอดกดลายน่ารักๆธรรมดานี่ละ คือสีมันฉูดฉาดนะ แต่ดีไซน์มันไม่เว่อร์เกิน ราคาก็น่ารักที่ 39 บาท รูปที่หามาอาจจะไม่เหมือนที่ตัวลาย แต่ทรงและวัสดุนี่ใช่เลย เราเอาไปใช้ที่ไหนคนก็ชอบ บอกว่าน่ารัก ถ้าหายนี่คือโดนชั้นขโมยนะเธออะไรงี้ สุดท้ายก็หายจริงๆเพราะเราฝากกระเป๋าไว้ที่ b2s ที่ห้างนั้นอะแหละ แล้วลืมเอากล่องดินสอคืน มานึกได้ตอนกลับบ้านแล้ว ดึกแล้วละ วุ่นวายใจมาก ของอื่นๆไม่เสียดายนะ แต่ดินสอกดแท่งนี้รักมากๆ เซ็งไปเป็นเดือนๆอะ
ข้ามมาอีกทีตอนเรียนจบแล้ว ช่วงนี้ฮิต Muji ค่ะ เราชอบเครื่องเขียนของมันมาก เรียบๆแต่ดูดี จำได้ว่าดินสอกดของมันนี่ซื้อที่เซ็นทรัลชิดลมพร้อมกับสมุดไซส์ A5 ที่ขายเป็นแพ็คน่ะ ถ้าจำไม่ผิดจะแท่งละ 35 บาทหรือไงแหละ เราชอบที่ดีไซน์มันเรียบๆและสีใสของมัน แท่งแรกเราใช้นานหลายปีมากๆ จากกลางปี 2007 ไปจนถึงปี 2010 เลยค่ะ มันไปเจ๊งเอาตอนเราอยู่ต่างประเทศ และเป็นเมืองที่หาซื้อ Muji ไม่ได้ด้วย ตอนนั้นพอรู้ว่าใครจะกลับไทยนี่เตรียมฝากซื้อเลย เพราะเป็นดินสอกดที่ใช้ประจำมากๆจนชินมือไปแล้ว ซึ่งตอนนี้เราไม่เห็นรุ่นนี้ทำขายอีกเลย มีแต่รุ่นเหล็กๆราคาแพงแล้ว ไม่สวยเลย
ช่วงที่อยู่ออสเตรเลียเราก็ซื้อดินสอกดที่เด่นๆของที่นั่นไว้เหมือนกันนะ เป็นของร้าน Smiggle ร้านนี้จะเหมือนเป็นร้านเครื่องเขียนสำหรับวัยรุ่น สีสันฉูดฉาดบาดตา ของค่อนขี้มีไอเดียนิดนึง วัยรุ่นที่นั่นบ้ากันมาก แต่คนไทยแบบเราๆจะรู้สึกว่าร้านตามสยามบ้านกรูมีขายมาเป็นสิบๆปีแล้วว่ะ นี่พวกเมิงเพิ่งมาเห่อกันรึ เชยจริง อิอิ ดินสอกดรุ่นที่เราซื้อมาเป็นรุ่นเรโทรค่ะ จะทำลักษณะเหมือนดินสอไม้ มียางลบติดตรงปลายด้วย ราคาแท่งละ 1$ เองมั้ง ซื้อไว้สองสีคือดำและฟ้าค่ะ ตอนนี้ยังเก็บไว้ นานๆใช้ทีค่ะ
กลางปี 2011 เราก็ได้ดินสอกดมาอีกแท่งค่ะ เป็น Kitty เกรด made in china แหละ ที่ตลกคือไปได้มาจากร้านทำผมของคนเกาหลีค่ะ เขาจะทำมุมขายของจุกจิกไว้ด้วย มีน้ำยาทาเล็บ มีเครื่องเขียนสไตล์น่ารัก เราก็ได้มาแท่งละ 1.50$ ได้มั้งคะ ลักษณะจะคล้ายๆในรูปนี่ละ แต่ของเราสีแดงเยอะกว่า ความรู้สึกที่ซื้อคือเอามาทดแทนดินสอกด Kitty อันเก่าที่หายไปน่ะค่ะ ถึงจะน่ารักไม่เท่า แต่ก็อทดแทนกันได้ ทุกวันนี้ใช้แท่งนี้เป็นหลักค่ะ
ส่วนไส้ดินสอกดนี่เราชอบแบบเข้มๆ เพราะเราเป็นคนกดหัวดินสอไม่หนักเวลาเขียน ถ้าใช้ 2B จะยังไม่เข้มพอที่ต้องการ เลยจะต้องใช้ที่เข้มกว่านั้นตลอดเลย เรามักซื้อ 3B หรือถ้ามี 4B ก็ยังเคยใช้มาแล้ว ฮ่าๆ ส่วนมากเราไม่มียี่ห้อประจำนะ แต่จะเลือกยี่ห้อดีๆหน่อยแบบ Pentel หรือ Tombow ค่ะ เพราะไว้ใจได้และถ้าซื้อตอนลดราคาก็ถูกดี เวลาเจอลดก็จะตุนไว้กล่องสองกล่องตลอด อย่างตอนไปเรียนต่อเราหาข้อมูลเจอว่าที่ออสเตรเลียเขาไม่ค่อยมีไส้เข้มๆขายกัน และเราไปเมืองบ้านนอกด้วยไง เลยบ้าตุนซื้อไปเยอะมากจนเพื่อนแซวว่าจะเอามาขายต่อเหรอ ปรากฎเอาจริงใช้ไม่ถึงกล่องเดียว เพราะใช้คอมเยอะกว่าเขียนเองมากๆ แจกคนไปก็หลายกล่องจนทุกวันนี้ยังเหลือกลับมาเลย กลับมาตั้งกี่ปีแล้วเนี่ย ฮ่าๆ
ส่วนยางลบนี่มีแค่เจ้าประจำสองยี่ห้อ คือ Mono กับ Sakura ค่ะ อิ Mono นี่เรารู้จักจากเพื่อนสมัยม.ปลายที่ชอบเขียนการ์ตูนค่ะ มันแนะนำให้เราใช้เพราะว่าใช้ดีมากๆ เราก็ซื้อตามมันค่ะ เป็นยางลบที่แพงที่สุดเท่าที่เคยใช้มาในตอนนั้นเลย หายทีนี่แทบกรี๊ดอะ หลังจากนั้นมาก็ได้ลอง Sakura บ้าง ก็ใช้ดีไม่แพ้กัน ตอนไปออสเตรเลียซื้อไว้ซะก้อนเบ้อเร่อ ใหญ่สุดที่มันทำออกขายเลย เอาไปก็ใช้ไม่ถึง 1/16 ของก้อน ฮ่าๆ ตลกมากเลย เพื่อนแซวอีกแล้วว่าทำยังกะจะมาอยู่ 10 ปี
จบแล้วในส่วนของเรา ยังไงขอเชิญพ่อแม่พี่น้องมาแชร์ละกันว่าชอบใช้ดินสอกดแบบไหน มีรุ่นไหนดีๆแนะนำมั่ง รวมทั้งไส้ดินสอกดด้วย เจอยี่ห้อดีๆก็เอามาบอกกันบ้างละ หรือที่ไหนมีลดยังงี้ อิอิ