" โย โว ภิกฺขเว มํ อุปฏฺฐเหยฺย โส คิลานํ อุปฏฺฐเหยฺย "
ผู้ใดปราถนาอุปัฏฐากเราตถาคต ผู้นั้นพึงอุปัฏฐากภิกษุไข้เถิด
ตึกวชิรญานวงศ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ติดถนนพระราม4 และ ถนนอังรีดูนังค์ เป็นสถานพยาบาล รักษาอาการอาพาธของพระภิกษุสงฆ์ ในแต่ละวันจะมีพระภิกษุสงฆ์ เข้ารับรักษาอาการอาพาธ ชั้นล่าง ประมาณ 20-30 รูป และชั้น 3 มีพระสงฆ์รักษาอาการอาพาธ ประมาณ 19 รูป ส่วนใหญ่มีอาการอาพาธหนักกว่าปกติ(ห้องรวม) ชั้น 4 จะมีห้องรับการรักษาอาการอาพาธ (ห้องส่วนบุคคล)ประมาณ 4-6 ห้อง
ตึกวชิรญานวงศ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์เป็น อีกสถานที่พยาบาลอาพาธของพระภิกษุสงฆ์นอกจาก โรงพยาบาลสงฆ์ที่อยู่ไม่ไกลจาก สีลม สยาม สวนลุมพิณี
สำหรับผู้สนใจถวายภัตตาหารแก่พระภิกษุอาพาธ สามารถติดต่อมาถวายภัตตาหารด้วยตัวเองได้(ถ้าเป็นอาหารที่สามารถทานง่าย ดีกับสุขภาพ ทานกับข้าวต้มได้จะดีมากครับ) ทางโรงพยาบาลจะถวายภัตตาหาร กับพระท่าน ช่วง 8.00 น. และ 11:00 น. หรือสามารถถวายน้ำปานะ (น้ำผลไม้) หลัง ฉันเพล ดังนั้นถ้าจะมาถวายภัตตาหาร ควรมาก่อนเวลา ดังกล่าว
หรือถ้าต้องการให้ ทางโรงพยาบาลจัดเลี้ยงภัตตาหารทำบุญสำหรับพระภิกษุอาพาธเอง ค่าภัตตาหารถวายพระอาพาธชุดละ 60 บาท
และ ทางตึกวชิรญานรับจัดทำบุญเลี้ยงพระทางศาสนา ในงานมงคลต่างๆ โดยมีห้องจัดทำบุญเลี้ยงพระ (มีการรับส่งพระภิกษุจากวัด)
สามารถติดต่อ โทร 02-256-4382 ,02-256-4505 โทรสาร 02-251-7901
การเดินทา่งไป รพ. จุฬา สามารถเดินทางลงที่ สถานีรถไฟฟ้า ศาลาแดง(เดินจากสีลมมาตรงสี่แยกสวนลุมไม่ไกล) ถ้าลงจากสถานีรถไฟฟ้าราชดำริจะค่อนข้างไกลกว่า
หรือถ้าเดินทางด้วยรถเมล์ สายที่ผ่าน ราชดำริ พระราม4 ผ่านได้หมด
ตึกวชิรญานวงศ์จะอยู่ใกล้ตึกภปร. อยู่เกือบติด ถนนราชดำริ (ถ้าเข้าจาก หน้าป้ายคณะแพทย์ศาสตร์จุฬา ตรงถนนอังรีดูนังค์ก็ตรงดิ่งเข้ามา ผ่านห้องสมุดคณะแพทย์ก็จะถึง ตึกวชิรญานที่มี พระพุทธรูปอยู่ข้างหน้าตึกดังรูปครับ)
ประวัติตึกวชิรญาณวงศ์
http://www.oknation.net/blog/phithikarn/2012/09/25/entry-1
สวัสดีครับวันนี้จะขอกล่าวถึงประวัติของ " ตึกวชิรญาณวงศ์ " ในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ใช้เป็นที่รักษาพยาบาลพระภิกษุและสามเณรอาพาธ และใช้ประกอบพิธีทำบุญเลี้ยงพระ รวมถึงการเปิดรับบริจาคเงินเพื่อบำรุงพระภิกษุและสามเณรอาพาธ ในเรื่องการรักษาพยาบาลทางการแพทย์ ตลอดรวมถึงการรับบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และสำนักงานต่างๆ ของสภากาชาดไทย
" ตึกวชิรญาณวงศ์ " เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ๔ ชั้น แบบทรงไทยประยุกต์ ได้ดำเนินการก่อสร้างมาแต่ต้นปี ๒๕๒๕ และเสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ในปี ๒๕๒๖ ทดแทนอาคารหลังเก่า ( ตึกวชิรญาณ ) และเพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึง สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ( ชื่น นพวงศ์ ) พระราชอุปัธยาจารย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และพระอุปัชฌาจารย์สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดตึกฯ ในวันที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๖ เวลา ๑๖.๐๐ น.
นับถึงวันนี้ก็เป็นเวลา ๒๙ ปี แล้วครับ ซึ่งในวันที่ ๙ ธันวาคม ของทุกปี ฝ่ายพิธีการจะจัดพิธีทำบุญเลี้ยงพระ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ มาโดยตลอด และสำหรับปีนี้ ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๕ ถ้าท่านใดสะดวกก็ขอเรียนเชิญมาร่วมบุญกันนะครับ โดยจะเริ่มพิธีเวลา ๑๐.๐๐ น. ณ ตึกวชิรญาณวงศ์ ชั้น ๑ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ หมายเลขโทรศัพท์ ๐-๒๒๕๖-๔๓๘๒ และ ๐-๒๒๕๖-๔๕๐๕
ขอนำท่านชม " ตึกวชิรญาณวงศ์ "
องค์จำลองพระทีฆายุมหมงคล ( หลวงพ่อดำ )
ชั้น ๓ สถานรักษาพยาบาลพระภิกษุสามเณรอาพาธ จำนวนระหว่าง 19-22 เตียง
ชั้น ๔ ประดิษฐานพระพุทธรูป ภ.ป.ร. และห้องรักษาพระภิกษุสงฆ์อาพาธ 6-7 เตียง จะเป็นพระเถระผู้ใหญ่ และพรรษามาก(60-100ปี)
ชั้น ๑ ห้องรับบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของสำนักงานต่างๆ ในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยเช่น ค่าอาหาร ค่าเวชภัณฑ์ พระภิกษุสามเณรอาพาธ, ค่าจัดหาครุภัณฑ์ทางการแพทย์, ค่าก่อสร้าง/ซ่อมแซมอาคาร เป็นต้น
รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้จากในเว็บครับ
http://www.oknation.net/blog/phithikarn/2012/09/25/entry-1
ประสบการณ์จากการไปถวายสังฆทานแด่พระภิกษุสงฆ์อาพาธ
ได้ข่าวว่ามีตึกรักษาอาการอาพาธของพระสงฆ์จากชมรมพุทธที่.. จุฬา มาหลายครั้ง มีโอกาสช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยวันเกิด ของตัวผมเอง ของมารดาผมเอง และของแฟน จึงได้มีโอกาสรวบรวมของจากผู้ร่วมบุญหลายท่านไปถวายพระที่อาพาธจากที่ต่างๆ ที่ตึกวชิรญานวงศ์มา ได้มีโอกาสถวาย ผลไม้ นมถั่วเหลือง น้ำผลไม้สด กระดาษชำระ ซึ่งจากภาพที่เห็นได้พบเห็นอาการอาพาธของพระท่านหลายๆรูป (ชั้น 3 และ ชั้น 4) ซึ่งพอมีโอกาสได้ถวายสังฆทาน กับพระท่านเหล่านั้น รู้สึกเอิบอิ่มใจมาก อย่างน้อยของที่เราได้รวมรวมจากท่านผู้ใจบุญทั้งหลาย มาถวายท่าน ก็พอมีประโยชน์เล็กๆน้อยๆกับ ท่านที่อาพาธอยู่บนเตียงคนไข้ หลายรูปท่านชรามาก หลายรูปท่านก็เดินไม่ได้ หลายรูปท่านต้องให้อาหารทางสายยาง หลายรูปท่านฉันได้แต่ของเหลว หลายรูปท่านก็ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
บางที่ถวายสังฆทาน กับท่าน บางรูปท่านลุกมานั่งไม่ได้ ท่านก็ขอให้เราช่วยจับท่านลุกขึ้นมา เพื่อท่านจะสวดมนต์ให้พร รู้สึกทราบซึ้งกับความเมตตาที่ท่านให้
กับความรู้สึกที่ ถวายสังฆทานกับพระท่าน ทุกรูปเสร็จ... คุณพี่พยาบาลทั้งชายทั้งหญิง(ที่นี่ใจดีมีเมตตามาก ขอบคุณที่ช่วยเหลือและแนะนำมากๆครับ) ก็ช่วยจัดแจงหาโต๊ะมาให้เรานั่งตรงกลางห้องเพื่อกรวดน้ำ พระท่านที่อาพาธ ก็ร่วมกันสวดมนต์ให้พร ช่วงนั้นพอหลับตา ก็รับรู้ได้ถึง อนิงสงห์ของบุญที่ได้ทำและ รับพรจากพระท่านทั้งหลาย ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก
สำหรับท่านที่อยากจะทำบุญกับพระสงฆ์ที่อาพาธ และไม่ไกลจาก สีลม สยาม สวนลุม นอกจากโรงพยาลสงฆ์ ก็แนะนำที่นี่นะครับ(ที่นี่ไม่ค่อยมีมีคนพลุกพล่านนัก)
ที่นี่มีโครงการทำบุญเพื่อเป็นค่ารักษาอาการอาพาธของ ภิกษุ สามเณรที่อาพาธ (ฟังจากหลวงพี่ที่รู้จักที่วัดบวรนิเวศ ว่า ทางโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ รักษาให้ฟรี ส่วนที่ได้มาเป็นค่ารักษา ก็มาจากทำบุญทอดผ้าป่า จากสภากาชาดไทย และ เงินบริจาคจากโครงการต่างๆ) เครื่องมือทางการแพทย์ที่ปัจจุบันเริ่มเสื่อมลงเรื่อยๆ และ จัดหาเพิ่มเติม
อนุโมทนากับทุกท่านที่ร่วมกันทำเพื่อรักษาสาวกของพระพุทธเจ้า ให้เผยแพร่และทำรง พุทธศาสนาต่อไป ครับ
พระวินัยปิฎก มหาวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้าที่ 302
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งให้ประชุมภิกษุสงฆ์ ในเพราะเหตุ
เป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า
ในวิหารหลังโน้น มีภิกษุอาพาธหรือ ภิกษุทั้งหลาย ?
ภิ. มี พระพุทธเจ้าข้า.
พ. ภิกษุรูปนั้นอาพาธเป็นโรคอะไร ภิกษุทั้งหลาย ?
ภิ. ท่านรูปนั้น อาพาธเป็นโรคท้องร่วง พระพุทธเจ้าข้า.
พ. ภิกษุรูปนั้น มีผู้พยาบาลไหมเล่า ภิกษุทั้งหลาย ?
ภิ. ไม่มี พระพุทธเจ้าข้า.
พ. เพราะเหตุไร ภิกษุทั้งหลายจึงไม่พยาบาลเธอ ?
ภิ. เพราะท่านรูปนั้นมิได้ทำอุปการะแก่ภิกษุทั้งหลาย ฉะนั้น ภิกษุ
ทั้งหลายจึงไม่พยาบาลท่านรูปนั้น พระพุทธเจ้าข้า.
พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอไม่มีมารดาไม่มีบิดา ผู้ใดเล่าจะพึง
พยาบาลพวกเธอ ถ้าพวกเธอจักไม่พยาบาลกันเอง ใครเล่าจักพยาบาล ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดจะพึงอุปัฏฐากเรา ผู้นั้นพึงพยาบาลภิกษุอาพาธ ถ้ามี
อุปัชฌายะๆ พึงพยาบาลจนตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะหาย ถ้ามีอาจารย์ ๆ
พึงพยาบาลจนตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะหาย ถ้ามีสัทธิวิหาริก ๆ พึงพยาบาล
จนตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะหาย ถ้ามีอันเตวาสิก ๆ พึงพยาบาลจนตลอดชีวิต
หรือจนกว่าจะหาย ถ้ามีภิกษุผู้ร่วมอุปัชฌายะ ภิกษุผู้ร่วมอุปัชฌายะพึงพยาบาล
จนตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะหาย ถ้ามีภิกษุผู้ร่วมอาจารย์ ภิกษุผู้ร่วมอาจารย์
พึงพยาบาลจนตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะหาย ถ้าไม่มีอุปัชฌายะ อาจารย์
สัทธิวิหาริก อันเตวาสิก ภิกษุผู้ร่วมอุปัชฌายะ หรือภิกษุผู้ร่วมอาจารย์ สงฆ์
ต้องพยาบาล ถ้าไม่พยาบาลต้องอาบัติทุกกฏ.
อานิสงส์การบริจาคเงินบำรุงภิกษุสามเณรอาพาธ
๑. ชื่อว่าเสมือนอุปัฏฐากพระพุทธเจ้า ดังพระพุทธพจน์ที่ว่า "ผู้ใดต้องการอุปัฏฐากเราตถาคต ผู้นั้นจงไปอุปัฏฐากภิกษุไข้เถิด"
๒. อกุศลกรรมในอดีตชาติ จะเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นสูญ ถือเป็นการสเดาะเคราะห์อย่างหนึ่งได้
๓. เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติ เมื่อได้รับส่วนบุญนี้จะเลิกจองเวรจองกรรม ช่วยให้พ้นเวรพ้นกรรม
๔. สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง เทวดารักษา สรรพวิญญาณเมตตาปราณี
๕. เหล่าวิญญาณร้ายไม่อาจเบียดเบียนบีฑาได้
๖. จิตใจสงบร่มเย็น ปวงภัยไม่เกิด ฝันร้ายไม่มี มีสง่าราศีผ่องใส สุขภาพเเข็งเเรง กิจการงานเป็นมงคลแก่ ตัว อายุยืนยาว ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย
๗. คุณธรรมเจริญมั่นคง ปฏิบัติธรรมก้าวหน้า ปัญญาเกิด
๘. ไม่พลัดพรากจากคนรัก ของรัก ก่อนเวลาอันควร
๙. ชื่อว่าได้อุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนาให้มั่นคง ยั่งยืน
๑๐. ถือเป็นการทำสังฆทานอย่างหนึ่ง เพราะเป็นการถวายการอุปัฏฐากบำรุงแก่พระภิกษุสงฆ์จำนวนมาก
๑๑. จะไม่ไร้ญาติขาดมิตร เวลาแก่ เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยจะมีคนคอยดูเเล ไม่ถูกทอดทิ้งให้อยู่คนเดียว
๑๒. มีเดชบารมีมาก มียศวาสนา เป็นใหญ่เป็นโต ไม่มีใครข่มขี่เบียดเบียนได้
๑๓. จะเป็นที่รักแก่คนทั้งปวง ไปที่ใดจะมีผู้คอยช่วยเหลือเกื้อหนุน ไม่ถูกปล่อยให้ขัดข้องในเรื่องทั้งปวง
๑๔. จะมีสมบัติมาก และสมบัติจะไม่ถูกทำลายโดยราชภัย โจรภัย อัคคีภัย อุทกภัย วาตภัย ฯลฯ
๑๕. จะได้พบพระอริยสงฆ์ ได้พบพระอรหันต์ ได้พบพระดี ได้พบพระเครื่องพระบูชาที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ไม่เจอพระปลอม ไม่เจอพระเก๊ พระทุศีล
๑๖. จะได้ฟังธรรมจากพระอริยเจ้า และเข้าถึงธรรมได้โดยง่ายดาย
๑๗. จะได้เจอครูบาอาจารย์และเพื่อนที่ทรงคุณธรรม
๑๘. ด้วยบุญที่อุปัฏฐากภิกษุอาพาธนี้จะเป็นปัจจัยแก่สวรรค์และนิพพาน
๑๙. ด้วยบุญที่อุปัฏฐากภิกษุอาพาธนี้ สามารถอธิษฐานให้เป็นปัจจัยแก่การบรรลุเป็นพระมหาสาวก พระอัครสาวก พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในอนาคตกาลได้
Source:www.sbntwn.com
เชิญชวน..จัดทำบุญวันวิสาขาบูชา ขึ้น15ค่ำเดือน6 ถวายค่ายา ค่ารักษา พระภิกษุอาพาธ ตึกวชิรญานวงศ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
ผู้ใดปราถนาอุปัฏฐากเราตถาคต ผู้นั้นพึงอุปัฏฐากภิกษุไข้เถิด
ตึกวชิรญานวงศ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ติดถนนพระราม4 และ ถนนอังรีดูนังค์ เป็นสถานพยาบาล รักษาอาการอาพาธของพระภิกษุสงฆ์ ในแต่ละวันจะมีพระภิกษุสงฆ์ เข้ารับรักษาอาการอาพาธ ชั้นล่าง ประมาณ 20-30 รูป และชั้น 3 มีพระสงฆ์รักษาอาการอาพาธ ประมาณ 19 รูป ส่วนใหญ่มีอาการอาพาธหนักกว่าปกติ(ห้องรวม) ชั้น 4 จะมีห้องรับการรักษาอาการอาพาธ (ห้องส่วนบุคคล)ประมาณ 4-6 ห้อง
ตึกวชิรญานวงศ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์เป็น อีกสถานที่พยาบาลอาพาธของพระภิกษุสงฆ์นอกจาก โรงพยาบาลสงฆ์ที่อยู่ไม่ไกลจาก สีลม สยาม สวนลุมพิณี
สำหรับผู้สนใจถวายภัตตาหารแก่พระภิกษุอาพาธ สามารถติดต่อมาถวายภัตตาหารด้วยตัวเองได้(ถ้าเป็นอาหารที่สามารถทานง่าย ดีกับสุขภาพ ทานกับข้าวต้มได้จะดีมากครับ) ทางโรงพยาบาลจะถวายภัตตาหาร กับพระท่าน ช่วง 8.00 น. และ 11:00 น. หรือสามารถถวายน้ำปานะ (น้ำผลไม้) หลัง ฉันเพล ดังนั้นถ้าจะมาถวายภัตตาหาร ควรมาก่อนเวลา ดังกล่าว
หรือถ้าต้องการให้ ทางโรงพยาบาลจัดเลี้ยงภัตตาหารทำบุญสำหรับพระภิกษุอาพาธเอง ค่าภัตตาหารถวายพระอาพาธชุดละ 60 บาท
และ ทางตึกวชิรญานรับจัดทำบุญเลี้ยงพระทางศาสนา ในงานมงคลต่างๆ โดยมีห้องจัดทำบุญเลี้ยงพระ (มีการรับส่งพระภิกษุจากวัด)
สามารถติดต่อ โทร 02-256-4382 ,02-256-4505 โทรสาร 02-251-7901
การเดินทา่งไป รพ. จุฬา สามารถเดินทางลงที่ สถานีรถไฟฟ้า ศาลาแดง(เดินจากสีลมมาตรงสี่แยกสวนลุมไม่ไกล) ถ้าลงจากสถานีรถไฟฟ้าราชดำริจะค่อนข้างไกลกว่า
หรือถ้าเดินทางด้วยรถเมล์ สายที่ผ่าน ราชดำริ พระราม4 ผ่านได้หมด
ตึกวชิรญานวงศ์จะอยู่ใกล้ตึกภปร. อยู่เกือบติด ถนนราชดำริ (ถ้าเข้าจาก หน้าป้ายคณะแพทย์ศาสตร์จุฬา ตรงถนนอังรีดูนังค์ก็ตรงดิ่งเข้ามา ผ่านห้องสมุดคณะแพทย์ก็จะถึง ตึกวชิรญานที่มี พระพุทธรูปอยู่ข้างหน้าตึกดังรูปครับ)
http://www.oknation.net/blog/phithikarn/2012/09/25/entry-1
สวัสดีครับวันนี้จะขอกล่าวถึงประวัติของ " ตึกวชิรญาณวงศ์ " ในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ใช้เป็นที่รักษาพยาบาลพระภิกษุและสามเณรอาพาธ และใช้ประกอบพิธีทำบุญเลี้ยงพระ รวมถึงการเปิดรับบริจาคเงินเพื่อบำรุงพระภิกษุและสามเณรอาพาธ ในเรื่องการรักษาพยาบาลทางการแพทย์ ตลอดรวมถึงการรับบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และสำนักงานต่างๆ ของสภากาชาดไทย
" ตึกวชิรญาณวงศ์ " เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ๔ ชั้น แบบทรงไทยประยุกต์ ได้ดำเนินการก่อสร้างมาแต่ต้นปี ๒๕๒๕ และเสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ในปี ๒๕๒๖ ทดแทนอาคารหลังเก่า ( ตึกวชิรญาณ ) และเพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึง สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ( ชื่น นพวงศ์ ) พระราชอุปัธยาจารย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และพระอุปัชฌาจารย์สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดตึกฯ ในวันที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๖ เวลา ๑๖.๐๐ น.
นับถึงวันนี้ก็เป็นเวลา ๒๙ ปี แล้วครับ ซึ่งในวันที่ ๙ ธันวาคม ของทุกปี ฝ่ายพิธีการจะจัดพิธีทำบุญเลี้ยงพระ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ มาโดยตลอด และสำหรับปีนี้ ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๕ ถ้าท่านใดสะดวกก็ขอเรียนเชิญมาร่วมบุญกันนะครับ โดยจะเริ่มพิธีเวลา ๑๐.๐๐ น. ณ ตึกวชิรญาณวงศ์ ชั้น ๑ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ หมายเลขโทรศัพท์ ๐-๒๒๕๖-๔๓๘๒ และ ๐-๒๒๕๖-๔๕๐๕
ขอนำท่านชม " ตึกวชิรญาณวงศ์ "
องค์จำลองพระทีฆายุมหมงคล ( หลวงพ่อดำ )
ชั้น ๓ สถานรักษาพยาบาลพระภิกษุสามเณรอาพาธ จำนวนระหว่าง 19-22 เตียง
ชั้น ๔ ประดิษฐานพระพุทธรูป ภ.ป.ร. และห้องรักษาพระภิกษุสงฆ์อาพาธ 6-7 เตียง จะเป็นพระเถระผู้ใหญ่ และพรรษามาก(60-100ปี)
ชั้น ๑ ห้องรับบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของสำนักงานต่างๆ ในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยเช่น ค่าอาหาร ค่าเวชภัณฑ์ พระภิกษุสามเณรอาพาธ, ค่าจัดหาครุภัณฑ์ทางการแพทย์, ค่าก่อสร้าง/ซ่อมแซมอาคาร เป็นต้น
รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้จากในเว็บครับ http://www.oknation.net/blog/phithikarn/2012/09/25/entry-1
ได้ข่าวว่ามีตึกรักษาอาการอาพาธของพระสงฆ์จากชมรมพุทธที่.. จุฬา มาหลายครั้ง มีโอกาสช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยวันเกิด ของตัวผมเอง ของมารดาผมเอง และของแฟน จึงได้มีโอกาสรวบรวมของจากผู้ร่วมบุญหลายท่านไปถวายพระที่อาพาธจากที่ต่างๆ ที่ตึกวชิรญานวงศ์มา ได้มีโอกาสถวาย ผลไม้ นมถั่วเหลือง น้ำผลไม้สด กระดาษชำระ ซึ่งจากภาพที่เห็นได้พบเห็นอาการอาพาธของพระท่านหลายๆรูป (ชั้น 3 และ ชั้น 4) ซึ่งพอมีโอกาสได้ถวายสังฆทาน กับพระท่านเหล่านั้น รู้สึกเอิบอิ่มใจมาก อย่างน้อยของที่เราได้รวมรวมจากท่านผู้ใจบุญทั้งหลาย มาถวายท่าน ก็พอมีประโยชน์เล็กๆน้อยๆกับ ท่านที่อาพาธอยู่บนเตียงคนไข้ หลายรูปท่านชรามาก หลายรูปท่านก็เดินไม่ได้ หลายรูปท่านต้องให้อาหารทางสายยาง หลายรูปท่านฉันได้แต่ของเหลว หลายรูปท่านก็ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
บางที่ถวายสังฆทาน กับท่าน บางรูปท่านลุกมานั่งไม่ได้ ท่านก็ขอให้เราช่วยจับท่านลุกขึ้นมา เพื่อท่านจะสวดมนต์ให้พร รู้สึกทราบซึ้งกับความเมตตาที่ท่านให้
กับความรู้สึกที่ ถวายสังฆทานกับพระท่าน ทุกรูปเสร็จ... คุณพี่พยาบาลทั้งชายทั้งหญิง(ที่นี่ใจดีมีเมตตามาก ขอบคุณที่ช่วยเหลือและแนะนำมากๆครับ) ก็ช่วยจัดแจงหาโต๊ะมาให้เรานั่งตรงกลางห้องเพื่อกรวดน้ำ พระท่านที่อาพาธ ก็ร่วมกันสวดมนต์ให้พร ช่วงนั้นพอหลับตา ก็รับรู้ได้ถึง อนิงสงห์ของบุญที่ได้ทำและ รับพรจากพระท่านทั้งหลาย ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก
สำหรับท่านที่อยากจะทำบุญกับพระสงฆ์ที่อาพาธ และไม่ไกลจาก สีลม สยาม สวนลุม นอกจากโรงพยาลสงฆ์ ก็แนะนำที่นี่นะครับ(ที่นี่ไม่ค่อยมีมีคนพลุกพล่านนัก)
ที่นี่มีโครงการทำบุญเพื่อเป็นค่ารักษาอาการอาพาธของ ภิกษุ สามเณรที่อาพาธ (ฟังจากหลวงพี่ที่รู้จักที่วัดบวรนิเวศ ว่า ทางโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ รักษาให้ฟรี ส่วนที่ได้มาเป็นค่ารักษา ก็มาจากทำบุญทอดผ้าป่า จากสภากาชาดไทย และ เงินบริจาคจากโครงการต่างๆ) เครื่องมือทางการแพทย์ที่ปัจจุบันเริ่มเสื่อมลงเรื่อยๆ และ จัดหาเพิ่มเติม
อนุโมทนากับทุกท่านที่ร่วมกันทำเพื่อรักษาสาวกของพระพุทธเจ้า ให้เผยแพร่และทำรง พุทธศาสนาต่อไป ครับ
พระวินัยปิฎก มหาวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้าที่ 302
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งให้ประชุมภิกษุสงฆ์ ในเพราะเหตุ
เป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า
ในวิหารหลังโน้น มีภิกษุอาพาธหรือ ภิกษุทั้งหลาย ?
ภิ. มี พระพุทธเจ้าข้า.
พ. ภิกษุรูปนั้นอาพาธเป็นโรคอะไร ภิกษุทั้งหลาย ?
ภิ. ท่านรูปนั้น อาพาธเป็นโรคท้องร่วง พระพุทธเจ้าข้า.
พ. ภิกษุรูปนั้น มีผู้พยาบาลไหมเล่า ภิกษุทั้งหลาย ?
ภิ. ไม่มี พระพุทธเจ้าข้า.
พ. เพราะเหตุไร ภิกษุทั้งหลายจึงไม่พยาบาลเธอ ?
ภิ. เพราะท่านรูปนั้นมิได้ทำอุปการะแก่ภิกษุทั้งหลาย ฉะนั้น ภิกษุ
ทั้งหลายจึงไม่พยาบาลท่านรูปนั้น พระพุทธเจ้าข้า.
พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอไม่มีมารดาไม่มีบิดา ผู้ใดเล่าจะพึง
พยาบาลพวกเธอ ถ้าพวกเธอจักไม่พยาบาลกันเอง ใครเล่าจักพยาบาล ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดจะพึงอุปัฏฐากเรา ผู้นั้นพึงพยาบาลภิกษุอาพาธ ถ้ามี
อุปัชฌายะๆ พึงพยาบาลจนตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะหาย ถ้ามีอาจารย์ ๆ
พึงพยาบาลจนตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะหาย ถ้ามีสัทธิวิหาริก ๆ พึงพยาบาล
จนตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะหาย ถ้ามีอันเตวาสิก ๆ พึงพยาบาลจนตลอดชีวิต
หรือจนกว่าจะหาย ถ้ามีภิกษุผู้ร่วมอุปัชฌายะ ภิกษุผู้ร่วมอุปัชฌายะพึงพยาบาล
จนตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะหาย ถ้ามีภิกษุผู้ร่วมอาจารย์ ภิกษุผู้ร่วมอาจารย์
พึงพยาบาลจนตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะหาย ถ้าไม่มีอุปัชฌายะ อาจารย์
สัทธิวิหาริก อันเตวาสิก ภิกษุผู้ร่วมอุปัชฌายะ หรือภิกษุผู้ร่วมอาจารย์ สงฆ์
ต้องพยาบาล ถ้าไม่พยาบาลต้องอาบัติทุกกฏ.
๑. ชื่อว่าเสมือนอุปัฏฐากพระพุทธเจ้า ดังพระพุทธพจน์ที่ว่า "ผู้ใดต้องการอุปัฏฐากเราตถาคต ผู้นั้นจงไปอุปัฏฐากภิกษุไข้เถิด"
๒. อกุศลกรรมในอดีตชาติ จะเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นสูญ ถือเป็นการสเดาะเคราะห์อย่างหนึ่งได้
๓. เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติ เมื่อได้รับส่วนบุญนี้จะเลิกจองเวรจองกรรม ช่วยให้พ้นเวรพ้นกรรม
๔. สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง เทวดารักษา สรรพวิญญาณเมตตาปราณี
๕. เหล่าวิญญาณร้ายไม่อาจเบียดเบียนบีฑาได้
๖. จิตใจสงบร่มเย็น ปวงภัยไม่เกิด ฝันร้ายไม่มี มีสง่าราศีผ่องใส สุขภาพเเข็งเเรง กิจการงานเป็นมงคลแก่ ตัว อายุยืนยาว ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย
๗. คุณธรรมเจริญมั่นคง ปฏิบัติธรรมก้าวหน้า ปัญญาเกิด
๘. ไม่พลัดพรากจากคนรัก ของรัก ก่อนเวลาอันควร
๙. ชื่อว่าได้อุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนาให้มั่นคง ยั่งยืน
๑๐. ถือเป็นการทำสังฆทานอย่างหนึ่ง เพราะเป็นการถวายการอุปัฏฐากบำรุงแก่พระภิกษุสงฆ์จำนวนมาก
๑๑. จะไม่ไร้ญาติขาดมิตร เวลาแก่ เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยจะมีคนคอยดูเเล ไม่ถูกทอดทิ้งให้อยู่คนเดียว
๑๒. มีเดชบารมีมาก มียศวาสนา เป็นใหญ่เป็นโต ไม่มีใครข่มขี่เบียดเบียนได้
๑๓. จะเป็นที่รักแก่คนทั้งปวง ไปที่ใดจะมีผู้คอยช่วยเหลือเกื้อหนุน ไม่ถูกปล่อยให้ขัดข้องในเรื่องทั้งปวง
๑๔. จะมีสมบัติมาก และสมบัติจะไม่ถูกทำลายโดยราชภัย โจรภัย อัคคีภัย อุทกภัย วาตภัย ฯลฯ
๑๕. จะได้พบพระอริยสงฆ์ ได้พบพระอรหันต์ ได้พบพระดี ได้พบพระเครื่องพระบูชาที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ไม่เจอพระปลอม ไม่เจอพระเก๊ พระทุศีล
๑๖. จะได้ฟังธรรมจากพระอริยเจ้า และเข้าถึงธรรมได้โดยง่ายดาย
๑๗. จะได้เจอครูบาอาจารย์และเพื่อนที่ทรงคุณธรรม
๑๘. ด้วยบุญที่อุปัฏฐากภิกษุอาพาธนี้จะเป็นปัจจัยแก่สวรรค์และนิพพาน
๑๙. ด้วยบุญที่อุปัฏฐากภิกษุอาพาธนี้ สามารถอธิษฐานให้เป็นปัจจัยแก่การบรรลุเป็นพระมหาสาวก พระอัครสาวก พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในอนาคตกาลได้
Source:www.sbntwn.com