เมื่อประมาณปลายที่ผ่านมาผมกำลังมองหาโทรศัพท์มือถือแบบ smart phone เครื่องใหม่งบประมาณ 8-9,000 บาท
น้องชายเลยแนะนำแบรนด์ เสี่ยวมี่ ให้ผมรู้จัก
“เสี่ยวมี่” หรือ “Xiaomi” ครั้งแรกที่ผมได้ยินชื่อ ผมนึกขำในใจ เพราะว่าชื่อแบรนด์มันดูหน่อมแน้มและจีนมากกลัวเรื่องคุณภาพของสินค้า
แต่น้องชายผมบอกว่า Xiaomi นี่สเป็คขั้นเทพ ผมจึงได้เริ่มสนใจหาข้อมูล
โดยส่วนตัวผมเป็นผู้ใช้งานพวกอุปกรณ์ไอทีที่ไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดของสเปคมากนัก ครั้งแรกที่ผมเห็นรูปลักษณ์ “Xiaomi” ผมรู้สึกชอบ
เพราะมันดูท้าทายแบรนด์ใหญ่ๆ อย่าง Apple/Phone หรือ Sumsung/Galaxy รูปลักษณ์มันดูเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ ยิ่งพอดูราคา อุต๊ะ!!!
ราคามัน imobile บ้านเราเลย เลยตัดสินใจว่าจะซื้อมาลองใช้ดู
พอจะซื้อพี่อุปสรรคก็มาเยอะ หาซื้อในประเทศก็บวกราคากันเยอะมา แถม ยังมีพรายกระซิบมาบอกว่าของปลอมไม่น้อยนะ โอ เลยเลิกคิดเรื่องซื้อในประเทศ
พอจะฝากพรรคพวกซื้อเวลาที่เค้าไปประเทศที่มีขาย ผลคือไม่มีเลยซักกะเครื่อง หมดเกลี้ยง ไม่ว่าจะเป็น จีน, ไต้หวัน และ ฮ่องกง สรุปหมดเกลี้ยง
ไม่มี เลยเลิกคิดไป
แต่บังเอิญว่า “Xiaomi” ไปเปิดตัวที่สิงค์โปร ความเฮ้าส์เลี่ยนเลยกลับมาอีกรอบ เลยไปคุยกับเพื่อนที่สิงค์โปรว่าช่วยซื้อให้หน่อย ผลปรากฏว่า
เพื่อนเช็คให้บอกว่าขายหมดเร็วมากหลักวินาที อุเหม่ เลยตัดใจไปอีกรอบ
ด้วยความที่ยิ่งเสาะหายิ่งเจอว่ามันขายหมดในเวลาอันรวดเร็ว ผมยิ่งสงสัยว่าทำไมมันดีขนาดที่ขายหมดเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ เลยเกิดความ
พยายามขึ้นอีก จึงติดต่อไปหาเพื่อนไปที่ไต้หวัน ให้ช่วยซื้อให้ เพื่อนตรวจสอบพบว่าออร์เดอร์รอบใหม่จะมีตอนช่วงสิ้นเดือน เม.ย.
ผมเลยรบกวนให้เพื่อนช่วยจองเครื่องให้ ทางเวปของ Xiaomi ลุ้นตัวโกร่งงงงงงอยู่ 1 วัน สรุปว่าโชคดีได้มาครอง รอบนี้ที่ไต้หวันขายหมดใน
เวลา 2 นาที โดยผมเลือกซื้อรุ่น MI3 -16G ราคาประมาณ 9 พันกว่าดอลล่าห์ไต้หวัน ก็พอๆ กะค่าเงินบาทบ้านเราแหละ
หลังจากที่ได้มาอุปสรรคต่อไป คือ ส่งมายังไง อันนี้ก็มึนตึบ กลัวหาย แพงหรือเปล่าไม่รู้ แถมเจอปัญหาใหม่คือเรื่องของแบตเตอรี่ที่ถือว่าเป็นวัตถุอันตราย ส่งผ่านทางอากาศจำเป็นต้องแสดงเอกสาร ก็เยอะเรื่องเหมือนกันแต่สุดท้ายเราก็ผ่านมันมาได้โดยใช้บริการของ D…
รวดเร็วมาก ค่าส่งราคาแพงเอาเรื่องประมาณ 1,800 ดอลล่าห์ไต้หวัน
6 เดือนที่รอคอยมาถึงแล้ว เข้าเรื่องเริ่มเปิดกล่องกันเลยดีกว่า
[CR] [CR] Boxing Day : XIAOMI - MI3 / 6 เดือนที่รอคอย
น้องชายเลยแนะนำแบรนด์ เสี่ยวมี่ ให้ผมรู้จัก
“เสี่ยวมี่” หรือ “Xiaomi” ครั้งแรกที่ผมได้ยินชื่อ ผมนึกขำในใจ เพราะว่าชื่อแบรนด์มันดูหน่อมแน้มและจีนมากกลัวเรื่องคุณภาพของสินค้า
แต่น้องชายผมบอกว่า Xiaomi นี่สเป็คขั้นเทพ ผมจึงได้เริ่มสนใจหาข้อมูล
โดยส่วนตัวผมเป็นผู้ใช้งานพวกอุปกรณ์ไอทีที่ไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดของสเปคมากนัก ครั้งแรกที่ผมเห็นรูปลักษณ์ “Xiaomi” ผมรู้สึกชอบ
เพราะมันดูท้าทายแบรนด์ใหญ่ๆ อย่าง Apple/Phone หรือ Sumsung/Galaxy รูปลักษณ์มันดูเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ ยิ่งพอดูราคา อุต๊ะ!!!
ราคามัน imobile บ้านเราเลย เลยตัดสินใจว่าจะซื้อมาลองใช้ดู
พอจะซื้อพี่อุปสรรคก็มาเยอะ หาซื้อในประเทศก็บวกราคากันเยอะมา แถม ยังมีพรายกระซิบมาบอกว่าของปลอมไม่น้อยนะ โอ เลยเลิกคิดเรื่องซื้อในประเทศ
พอจะฝากพรรคพวกซื้อเวลาที่เค้าไปประเทศที่มีขาย ผลคือไม่มีเลยซักกะเครื่อง หมดเกลี้ยง ไม่ว่าจะเป็น จีน, ไต้หวัน และ ฮ่องกง สรุปหมดเกลี้ยง
ไม่มี เลยเลิกคิดไป
แต่บังเอิญว่า “Xiaomi” ไปเปิดตัวที่สิงค์โปร ความเฮ้าส์เลี่ยนเลยกลับมาอีกรอบ เลยไปคุยกับเพื่อนที่สิงค์โปรว่าช่วยซื้อให้หน่อย ผลปรากฏว่า
เพื่อนเช็คให้บอกว่าขายหมดเร็วมากหลักวินาที อุเหม่ เลยตัดใจไปอีกรอบ
ด้วยความที่ยิ่งเสาะหายิ่งเจอว่ามันขายหมดในเวลาอันรวดเร็ว ผมยิ่งสงสัยว่าทำไมมันดีขนาดที่ขายหมดเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ เลยเกิดความ
พยายามขึ้นอีก จึงติดต่อไปหาเพื่อนไปที่ไต้หวัน ให้ช่วยซื้อให้ เพื่อนตรวจสอบพบว่าออร์เดอร์รอบใหม่จะมีตอนช่วงสิ้นเดือน เม.ย.
ผมเลยรบกวนให้เพื่อนช่วยจองเครื่องให้ ทางเวปของ Xiaomi ลุ้นตัวโกร่งงงงงงอยู่ 1 วัน สรุปว่าโชคดีได้มาครอง รอบนี้ที่ไต้หวันขายหมดใน
เวลา 2 นาที โดยผมเลือกซื้อรุ่น MI3 -16G ราคาประมาณ 9 พันกว่าดอลล่าห์ไต้หวัน ก็พอๆ กะค่าเงินบาทบ้านเราแหละ
หลังจากที่ได้มาอุปสรรคต่อไป คือ ส่งมายังไง อันนี้ก็มึนตึบ กลัวหาย แพงหรือเปล่าไม่รู้ แถมเจอปัญหาใหม่คือเรื่องของแบตเตอรี่ที่ถือว่าเป็นวัตถุอันตราย ส่งผ่านทางอากาศจำเป็นต้องแสดงเอกสาร ก็เยอะเรื่องเหมือนกันแต่สุดท้ายเราก็ผ่านมันมาได้โดยใช้บริการของ D…
รวดเร็วมาก ค่าส่งราคาแพงเอาเรื่องประมาณ 1,800 ดอลล่าห์ไต้หวัน
6 เดือนที่รอคอยมาถึงแล้ว เข้าเรื่องเริ่มเปิดกล่องกันเลยดีกว่า