เริ่มแรกเลยจะขอเกริ่นคร่าวๆ ถึงที่มาที่ไปของทริปฮ่องกง ในเดือนเมษายน ปี 2014 กันก่อนครับ
ก่อนอื่นเลย คงต้องขอขอบคุณ Admin และเจ้าของ Web -Bumres- ที่เป็นคนริเริ่มทริปขึ้นมา
ที่มาของทริปนี้เกิดจาก การที่พวกผมบังเอิญไปเห็นบทความของนักธุรกิจชื่อดังท่านหนึ่ง
ได้ให้ความเห็น เกี่ยวกับร้านอาหารที่ได้ดาวมิชลินไว้ว่า “ฮ่องกงเป็นเมืองที่ร้านอาหารได้ดาวมิชลินง่ายเกินไป”
สำหรับท่านที่ไม่เข้าใจว่า Michelin Star คืออะไร เกี่ยวอะไรกับยางมิชลินรึเปล่าลองอ่านที่นี่ครับ
http://www.bumres.com/index.php?route=article/information&path=8&article_id=24

สรุปคร่าวๆ ก็คือ ไกด์บุค สำหรับร้านอาหารแนะนำในแต่ละเมือง โดยพิมพ์เป็นหนังสือที่เรียกกันว่า Michelin Guide
ลำดับขั้นที่ให้คือ Michelin Recommed ( ไม่มีดาว ) และสูงสุดที่ 3 ดาว หมายถึงคุ้มที่จะข้ามน้ำข้ามทะเลไปกิน

ส่วนตัวแล้ว ผมยังขำตอนที่ ได้รับคำชวนไม่หาย เรื่องมันมีอยู่ว่า ท่านเจ้าของทริป
ส่ง Link รายชื่อร้านที่ได้ดาวมิชลินในฮ่องกง แล้วบอกว่า “มีร้านได้สามดาวห้าร้าน ไปกันเถอะ!”
เจอแบบนี้ถึงกับอึ้ง ไปสิบวินาทีเลยทีเดียว เมื่อคิดถึงค่ากินที่ต้องจ่าย ( Tasting Menu 1500 – 2000 HKD )
หลังจากหาข้อมูลอยู่พักใหญ่ และตัดร้านที่ไม่น่าไป หรือ Comment ไม่น่าประทับใจออกไป
ก็เลยตั้งเป้าไว้ว่า จะลองร้านอาหาร ทีไ่ด้ Michelin Star ให้ได้มากที่สุด ( ก็ยังทำร้ายกระเป๋าพอควรอยู่ดี )

สำหรับรายชื่อร้านอาหารที่ได้ดาวมิชลินในฮ่องกง และแผนที่การเดินทาง และข้อมูลหลักๆ
ผมได้ใช้ Website และ Application รีวิวร้านอาหารที่เป็นที่นิยมอันดับต้นๆในฮ่องกง คือ Web Openrice ครับ
http://www.openrice.com/english/restaurant/article/detail.htm?articleid=1859 << รายชื่อร้านอาหารติดาว ในฮ่องกงและมาเก๊า
ข้อมูลละเอียดมากเลยทีเดียว และที่สำคัญ มีรีวิวภาษาอังกฤษเยอะพอสมควร ( คนฮ่องกงพูดจีนเป็นส่วนใหญ่ครับ )
เนื่องจากร้านดัง ติดดาวเองก็มักจะมีมาตรฐานที่ค่อนข้างดีในระดับหนึ่งอยู่แล้วเลยกลายเป็นว่า
ได้ตามเก็บร้านใน List Asia’s 50 Best Restaurant ที่สนับสนุนการจัดอันดับโดยริษัท ที่ผลิตน้ำแร่ Acqua Panna ไปด้วย
http://www.theworlds50best.com/asia/en/asias-50-best-restaurants.html
สำหรับ ร้านอาหารแต่ละร้าน ในทริปนี้ ด้วยความที่กลัวจะไม่มีที่นั่ง
ผมเลยจองล่วงหน้า ราวๆ 3 – 4 สัปดาห์เกือบทุกร้านครับ โดยมีบางร้านถึงกับต้องมัดจำบัตรเครดิตยืนยันการจองเลยทีเดียว
การเดินทางไปยังร้านต่างๆ ในฮ่องกง ค่อนข้างจะสะดวกมาก เนื่องจากระบบขนส่งมวลชน อย่าง MTR (รถไฟใต้ดิน)
ครอบคลุมเกือบทุกพื้นที่ ที่เป็น Tourist Attraction ของเกาะเล็กๆ อย่างฮ่องกงเลยทีเดียว อันนี้ประทับใจมาก

สำหรับทริปนี้ ก็จะเป็นการตะลุยกินเป็นหลัก ส่วนเรื่องเที่ยวคงต้องรองลงมาเยอะๆลย
เพราะแต่ละมื้อดูจะเสียเวลากินมากเสียเหลือเกิ๊น . . .
แถมยังต้องแต่ง Smart Casual ทุกวัน . . . กะเหรี่ยงแบบพ้ม บอกเลยว่า ไม่ชินนน
แบบว่า คนที่ปกติเสื้อยืดกางเกงยีน ลากอีแตะแบบพ้ม ก็ไม่ชินสิคร้าบ แต่ไม่ใส่ก็กลัวเค้าถีบออกนอกร้าน หึหึ

เกริ่นมาเยอะเกินนน ไปละ เอาเป็นว่า เราไปเริ่มชมรีวิวกันเลยดีกว่าครับ

ตอนนี้คงมีคนอยากถีบผมแทน หรืออ่านข้าม ตรงนี้ไป 55+ ใครมีข้อมูลในหัวแล้ว ข้ามไปเลยก็ได้นะครับ