วันที่ 9 พ.ค. 57 >> วันเดินทาง + สะพานมอญ
เราเริ่มเดินทางจากบ้านประมาณ 8 โมงเช้ามุ่งหน้าตรงไปยังสังขละบุรี
ขับไปง่วงไปเพราะแดดร้อนมากเลยแวะหาของกินตามทางเรื่อยไปจนมาถึงกาญนะจ๊ะบุรีประมาณ 11 โมงกว่าๆ เที่ยวสะพานข้ามแม่น้ำแควและพักกินข้าว จากนั้นขับยาวๆรวดเดียวถึงสังขละบุรี (ถ้าใครที่ขับรถใช้ LPG มาสังขละบุรี ที่สุดท้ายที่จะเติม LPG ได้คือ อ.ทองผาภูมิ) ประมาณบ่ายสองจึงถึงที่พัก ที่ๆเราใช้ชีวิตอยู่ตลอด 3 วัน 2 คืน ก็คือ พนธ์นที รีสอร์ท อยู่ฝั่งหมู่บ้านคนไทย ติดกับที่พักสองแห่ง คือ พีเกสต์เฮาส์ กับ forget me not
รูปวิวจากบริเวณที่พักครับ ด้านซ้ายจะเป็นที่นั่งชมวิวของทาง พนธ์นที รีสอร์ท เราสามารถเดินลงไปได้ถึงริมน้ำเลยครับ
รูปที่พัก พนธ์นที รีสอร์ท ทำจากไม้เกือบทั้งหลัง ก็สวยไปอีกแบบครับ (เครื่องใช้ในห้องน้อยมากครับ ตู้เย็น ทีวี กาน้ำร้อน สบู่ แชมพู หามีไม่ครับ)
จากท่าน้ำที่พักเราจะมองเห็นฝั่งหมู่บ้านคนมอญ และสะพานไม้อุตตมานุสรณ์(สะพานมอญ)ได้ค่อนข้างครบถ้วนครับ
พอวางกระเป๋าเสร็จก็ชีพจรลงเท้ากันเลย มุ่งตรงไปหาสะพานก่อนเลย ต้องถ่ายรูปกับสะพานให้ได้เดี๋ยวหาว่าเรามาไม่จริง อิอิ
ข้างๆสะพานมอญจะเต็มไปด้วยแพให้เช่าเยอะมากเลย แต่เราไม่รู้ว่าจะจองยังไง แต่น่าพักมากครับสามารถกระโดดน้ำเล่นได้ทั้งวันเลย
ไหนๆก็เข้ามาอ่านรีวิวเราแล้ว ขอชักภาพคู่สุดสวีทหน่อยแล้วกันครับ
ทางลงไปสะพานลูกบวบค่อนข้างเดินลำบากมาก ไงก็เดินระวังๆกันด้วยนะครับ
พอแฟนเผลอก็จัดการ selfie จั๊กกะหน่อย
พอแฟนหันมาเห็นก็จัดการเรียกให้ไปประจำตำแหน่งเหมือนเดิม (เอา 1 2 3 แชะ)
เดินถ่ายรูปเพลินๆจนตะวันจะลับขอบฟ้า
หลังจากนั้นก็ไปเดินห้างในตัวเมืองสังขละบุรี ห้างสรรพสินค้า 7-11 ตอนเดินเข้าไปก็เจอเด็กแว้นซ์จอดรถอยู่ นั่งยิ้มให้เราด้วย
วันที่ 10 พ.ค. 57 >> ตักบาตรหมู่บ้านมอญ + วัดวังก์วิเวการาม + เจดีย์พุทธคยา + เจดีย์สามองค์ + พม่า + แม่น้ำซองกาเลีย
วันที่สองเราตื่นประมาณตีห้า รีบอาบน้ำ แปรงฟัน เพื่อจะไปตักบาตรฝั่งมอญ กิจกรรมตักบาตรจะเริ่มประมาณ 6:30 น. หากใครไม่ได้เตรียมอาหารมาตักบาตร ที่นั้นจะมีขายครับ ชุดละร้อยถอนบาทเดียว เชิญเลือกได้ตามใจชอบครับ
ยืนรอพระมาบิณฑบาตร ไปเจอขนมชาวมอญเลยจัดสักหน่อย โดนัทกลมๆ ค่อนข้างแข็ง ส่วนแป้งขาวๆอร่อยดีแต่เย็นชืดไปหน่อย
เตงเค้าขอรูปนึงนะ (1 2 3 แชะ) มีรูปเป็นของตัวเองแล้ว YES !!!
ตั้งแถวรอใส่บาตรกันโดยพร้อมเพียงกัน สวยงานตามแบบชาวมอญ
ประมาณ 6 โมงครึ่งพระท่านก็มาถึงที่ตักบาตรพอดี ทำบุญก่อนออกเที่ยวก็มีความสุขทั้งกายทั้งใจครับ
หลังจากตักบาตรเสร็จก็มุ่งหน้าสู่ วัดวังก์วิเวการาม เพื่อทำการถ่ายรูปครับ เนื่องจากเราตักบาตรเสร็จแล้วตรงไปวัดวังก์วิเวการาม วัดเลยยังปิดอยู่เข้าไปด้านในไม่ได้ เราเข้าใจว่าพระคงออกไปบิณฑบาตรหมด เลยต้องปิดวัดไว้ชั่วคราว (เดาเอานะ) จึงทำได้เพียงถ่ายรูปภายนอก
หมูบินเรียกร้องขอเข้ากล้องด้วย ไม่งั้นไม่พากลับบ้าน เลยต้องตามใจเขาหน่อย
จากนั้นเดินทางมาอีกนิดหน่อยก็ถึง เจดีย์พุทธคยา ตอนกลางวันดูไม่สวยเท่าไหร่ ตอนกลางคืนเปิดไฟเหลืองอาหร่ามมากครับ (เรามองจากที่พักเห็นชัดเจน)
หลังจากตระเวณไหว้พระจนหนำใจแล้ว เราก็เดินทางกลับที่พักเพื่อกินข้าวเช้า พอสายๆก็เดินทางไป เจดีย์สามองค์ ใช้เวลาประมาณ 30-45 นาทีก็ถึงครับชิวๆ เราทำเรื่องนำรถออกนอกประเทศ ค่าดำเนินการฝั่งไทย(ค่ารถ 50 บาท ค่าคน คนละ 10 บาท) ค่าดำเนินการฝั่งพม่า(ค่ารถ 80 บาท) สถานที่แรกที่เราไปคือตลาดพม่า ต่อจากนั้นก็ไปวัดเสาร้อยต้น แล้วก็ไปเจดีย์ทอง การขับรถในพม่ามันชั่งวุ่นวายมากครับ ป้ายอะไรก็ไม่มีบอกขับกันมั่วเลยกว่าจะเจอ เราขับตามรถทะเบียนสุราษฯคิดว่าคงไปทางเดียวกันแน่ๆ ขับไปเรื่อยเลยครับมาเอะใจตอนหลังว่าตรงด่านเจ้าหน้าที่บอกว่าประมาณกิโลสองกิโลก็ถึง เราขับไป 4-5 กิโลได้มั้งถนนจากลาดยางเริ่มเป็นดินแดง ในใจคิดกลัวว่าจะมีกองกำลังสักกองมาลักพาตัว เลยย้อนกลับและปล่อยทะเบียนสุราษฯขับต่อไป 555 สุดท้ายเราก็มาถึงวัดเสาร้อยต้นจนได้ นึกว่าจะไม่เจอซะแล้ว
เราใช้เวลาในพม่าประมาณ ชั่วโมงกว่าๆเองก็กลับเข้าฝั่งไทย สงสัยพม่าไม่ใช้ทางของเรา 555 จากนั้นก็เริ่มหิวเลยออกเดินทางหาของกิน ก่อนมาก็สอบถามทางเจ้าหน้าที่โรงแรม เขาแนะนำร้านอาหารริมแม่น้ำซองกาเลีย เราก็ไม่ได้คาดหวังกับร้านอาหารที่เขาแนะนำมากมาย แต่พอไปถึงร้านอาหารแบบว่าใช่เลย นี้คือที่พักผ่อนของเราจริงๆ มันใช่อ่ะ ริมแม่น้ำซองกาเลียจะมีร้านขายส้มตำ ไก่ย่าง หลายร้าน แต่ละร้านก็จะมีบ้านไม่ไผ่ริมน้ำให้นั่งกินแบบเอาเท้าจุ่มน้ำกันเลย น้ำก็เย็นและใสมาก เป็นสถานที่ๆเราชอบมากเลย
หลังจากหนังท้องตึง หนังตาก็หย่อน จึงเดินทางกลับที่พัก จบ Day 2
วันที่ 11 พ.ค. 57 >> เดินทางกลับกรุงเทพ
จบการรีวิว เป็นการรีวิวครั้งแรกของเรา ขอบคุณครับ
[CR] รีวิว สังขละบุรี แบบฉบับมั่วสุดยอด 9-11 พ.ค. 57
เราเริ่มเดินทางจากบ้านประมาณ 8 โมงเช้ามุ่งหน้าตรงไปยังสังขละบุรี
ขับไปง่วงไปเพราะแดดร้อนมากเลยแวะหาของกินตามทางเรื่อยไปจนมาถึงกาญนะจ๊ะบุรีประมาณ 11 โมงกว่าๆ เที่ยวสะพานข้ามแม่น้ำแควและพักกินข้าว จากนั้นขับยาวๆรวดเดียวถึงสังขละบุรี (ถ้าใครที่ขับรถใช้ LPG มาสังขละบุรี ที่สุดท้ายที่จะเติม LPG ได้คือ อ.ทองผาภูมิ) ประมาณบ่ายสองจึงถึงที่พัก ที่ๆเราใช้ชีวิตอยู่ตลอด 3 วัน 2 คืน ก็คือ พนธ์นที รีสอร์ท อยู่ฝั่งหมู่บ้านคนไทย ติดกับที่พักสองแห่ง คือ พีเกสต์เฮาส์ กับ forget me not
รูปวิวจากบริเวณที่พักครับ ด้านซ้ายจะเป็นที่นั่งชมวิวของทาง พนธ์นที รีสอร์ท เราสามารถเดินลงไปได้ถึงริมน้ำเลยครับ
รูปที่พัก พนธ์นที รีสอร์ท ทำจากไม้เกือบทั้งหลัง ก็สวยไปอีกแบบครับ (เครื่องใช้ในห้องน้อยมากครับ ตู้เย็น ทีวี กาน้ำร้อน สบู่ แชมพู หามีไม่ครับ)
จากท่าน้ำที่พักเราจะมองเห็นฝั่งหมู่บ้านคนมอญ และสะพานไม้อุตตมานุสรณ์(สะพานมอญ)ได้ค่อนข้างครบถ้วนครับ
พอวางกระเป๋าเสร็จก็ชีพจรลงเท้ากันเลย มุ่งตรงไปหาสะพานก่อนเลย ต้องถ่ายรูปกับสะพานให้ได้เดี๋ยวหาว่าเรามาไม่จริง อิอิ
ข้างๆสะพานมอญจะเต็มไปด้วยแพให้เช่าเยอะมากเลย แต่เราไม่รู้ว่าจะจองยังไง แต่น่าพักมากครับสามารถกระโดดน้ำเล่นได้ทั้งวันเลย
ไหนๆก็เข้ามาอ่านรีวิวเราแล้ว ขอชักภาพคู่สุดสวีทหน่อยแล้วกันครับ
ทางลงไปสะพานลูกบวบค่อนข้างเดินลำบากมาก ไงก็เดินระวังๆกันด้วยนะครับ
พอแฟนเผลอก็จัดการ selfie จั๊กกะหน่อย
พอแฟนหันมาเห็นก็จัดการเรียกให้ไปประจำตำแหน่งเหมือนเดิม (เอา 1 2 3 แชะ)
เดินถ่ายรูปเพลินๆจนตะวันจะลับขอบฟ้า
หลังจากนั้นก็ไปเดินห้างในตัวเมืองสังขละบุรี ห้างสรรพสินค้า 7-11 ตอนเดินเข้าไปก็เจอเด็กแว้นซ์จอดรถอยู่ นั่งยิ้มให้เราด้วย
วันที่ 10 พ.ค. 57 >> ตักบาตรหมู่บ้านมอญ + วัดวังก์วิเวการาม + เจดีย์พุทธคยา + เจดีย์สามองค์ + พม่า + แม่น้ำซองกาเลีย
วันที่สองเราตื่นประมาณตีห้า รีบอาบน้ำ แปรงฟัน เพื่อจะไปตักบาตรฝั่งมอญ กิจกรรมตักบาตรจะเริ่มประมาณ 6:30 น. หากใครไม่ได้เตรียมอาหารมาตักบาตร ที่นั้นจะมีขายครับ ชุดละร้อยถอนบาทเดียว เชิญเลือกได้ตามใจชอบครับ
ยืนรอพระมาบิณฑบาตร ไปเจอขนมชาวมอญเลยจัดสักหน่อย โดนัทกลมๆ ค่อนข้างแข็ง ส่วนแป้งขาวๆอร่อยดีแต่เย็นชืดไปหน่อย
เตงเค้าขอรูปนึงนะ (1 2 3 แชะ) มีรูปเป็นของตัวเองแล้ว YES !!!
ตั้งแถวรอใส่บาตรกันโดยพร้อมเพียงกัน สวยงานตามแบบชาวมอญ
ประมาณ 6 โมงครึ่งพระท่านก็มาถึงที่ตักบาตรพอดี ทำบุญก่อนออกเที่ยวก็มีความสุขทั้งกายทั้งใจครับ
หลังจากตักบาตรเสร็จก็มุ่งหน้าสู่ วัดวังก์วิเวการาม เพื่อทำการถ่ายรูปครับ เนื่องจากเราตักบาตรเสร็จแล้วตรงไปวัดวังก์วิเวการาม วัดเลยยังปิดอยู่เข้าไปด้านในไม่ได้ เราเข้าใจว่าพระคงออกไปบิณฑบาตรหมด เลยต้องปิดวัดไว้ชั่วคราว (เดาเอานะ) จึงทำได้เพียงถ่ายรูปภายนอก
หมูบินเรียกร้องขอเข้ากล้องด้วย ไม่งั้นไม่พากลับบ้าน เลยต้องตามใจเขาหน่อย
จากนั้นเดินทางมาอีกนิดหน่อยก็ถึง เจดีย์พุทธคยา ตอนกลางวันดูไม่สวยเท่าไหร่ ตอนกลางคืนเปิดไฟเหลืองอาหร่ามมากครับ (เรามองจากที่พักเห็นชัดเจน)
หลังจากตระเวณไหว้พระจนหนำใจแล้ว เราก็เดินทางกลับที่พักเพื่อกินข้าวเช้า พอสายๆก็เดินทางไป เจดีย์สามองค์ ใช้เวลาประมาณ 30-45 นาทีก็ถึงครับชิวๆ เราทำเรื่องนำรถออกนอกประเทศ ค่าดำเนินการฝั่งไทย(ค่ารถ 50 บาท ค่าคน คนละ 10 บาท) ค่าดำเนินการฝั่งพม่า(ค่ารถ 80 บาท) สถานที่แรกที่เราไปคือตลาดพม่า ต่อจากนั้นก็ไปวัดเสาร้อยต้น แล้วก็ไปเจดีย์ทอง การขับรถในพม่ามันชั่งวุ่นวายมากครับ ป้ายอะไรก็ไม่มีบอกขับกันมั่วเลยกว่าจะเจอ เราขับตามรถทะเบียนสุราษฯคิดว่าคงไปทางเดียวกันแน่ๆ ขับไปเรื่อยเลยครับมาเอะใจตอนหลังว่าตรงด่านเจ้าหน้าที่บอกว่าประมาณกิโลสองกิโลก็ถึง เราขับไป 4-5 กิโลได้มั้งถนนจากลาดยางเริ่มเป็นดินแดง ในใจคิดกลัวว่าจะมีกองกำลังสักกองมาลักพาตัว เลยย้อนกลับและปล่อยทะเบียนสุราษฯขับต่อไป 555 สุดท้ายเราก็มาถึงวัดเสาร้อยต้นจนได้ นึกว่าจะไม่เจอซะแล้ว
เราใช้เวลาในพม่าประมาณ ชั่วโมงกว่าๆเองก็กลับเข้าฝั่งไทย สงสัยพม่าไม่ใช้ทางของเรา 555 จากนั้นก็เริ่มหิวเลยออกเดินทางหาของกิน ก่อนมาก็สอบถามทางเจ้าหน้าที่โรงแรม เขาแนะนำร้านอาหารริมแม่น้ำซองกาเลีย เราก็ไม่ได้คาดหวังกับร้านอาหารที่เขาแนะนำมากมาย แต่พอไปถึงร้านอาหารแบบว่าใช่เลย นี้คือที่พักผ่อนของเราจริงๆ มันใช่อ่ะ ริมแม่น้ำซองกาเลียจะมีร้านขายส้มตำ ไก่ย่าง หลายร้าน แต่ละร้านก็จะมีบ้านไม่ไผ่ริมน้ำให้นั่งกินแบบเอาเท้าจุ่มน้ำกันเลย น้ำก็เย็นและใสมาก เป็นสถานที่ๆเราชอบมากเลย
หลังจากหนังท้องตึง หนังตาก็หย่อน จึงเดินทางกลับที่พัก จบ Day 2
วันที่ 11 พ.ค. 57 >> เดินทางกลับกรุงเทพ