คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ถ้าจะใช้ software จริงก็มีทั้งแบบ เป็น app เช่น skype หรือ web conference ของผู้ให้บริการ internet ต่างๆ (TOT,True) ข้อดีของ conference แบบ software คือ ราคาครับ ราคาไม่แพง feature ค่อนข้างครบ โดยเฉพาะ web conference แต่ข้อเสียคือ คุณภาพ ของ ภาพ เสียง และ content(การ share หน้าจอcomputer จากเครื่องเราให้คนอื่นดูผ่านระบบ conference) ครับ เพราะ conference ต้องเชื่อมต่อกันผ่านระบบ internet ซึ่งโดยทั่วไป Internet ของเราต้องใช้งานหลายอย่างทั้ง ส่งเมล โหลดข้อมูล เล่นเนท ทำให้เมื่อเวลาใช้งาน conference จึงทำให้คุณภาพที่ออกมาไม่ดี ซึ่งconfernce ต้องใช้ Bandwaidth(speed ของ internet) ค่อนข้างสูง ยิ่งถ้าต้องการความละเอียดของภาพ เสียง content ที่สูง(HD) ยิ่งต้องใช้ bandwidth สูงขึ้นอีก ซึ่ง conference แบบ web หรือ software นั้น ใช้bandwidth ค่อนข้างเยอะ หากต้องการให้ได้ คุณภาพของ conferenceที่ดี
แต่ถ้าเป็นแบบ hardware ถึงราคาอุปกรณ์จะสูงแต่ ให้คุณภาพที่ดีกว่า ในส่วนของภาพ เสียง และ content แม้จะ ใช้ bandwidth ที่ค่อนข้างต่ำ
** แต่ทั้งแบบ softwareหรือ hardware จะได้คุณภาพที่ดีจริง ต้องขึ้นอยู่กับการจัดการในส่วนของ internet สำหรับไว้ใช้งาน conference โดยเฉพาะด้วย หรือต้องมีการทำ QOS นั่นเอง
แต่ถ้าเป็นแบบ hardware ถึงราคาอุปกรณ์จะสูงแต่ ให้คุณภาพที่ดีกว่า ในส่วนของภาพ เสียง และ content แม้จะ ใช้ bandwidth ที่ค่อนข้างต่ำ
** แต่ทั้งแบบ softwareหรือ hardware จะได้คุณภาพที่ดีจริง ต้องขึ้นอยู่กับการจัดการในส่วนของ internet สำหรับไว้ใช้งาน conference โดยเฉพาะด้วย หรือต้องมีการทำ QOS นั่นเอง
แสดงความคิดเห็น
ที่บริษัทจะทำระบบประชุมทางไกล พร้อมภาพและเสียง 3-8 คน เพื่อนๆ แนะนำไอเดียหน่อยค่ะใช้แบบไหนอย่างไรดี
คือฝั่งกทม. มี 3 คน และฝั่งระยองประมาณ ไม่เกิน 8 คน นั่งห้องประชุมเดียวกัน เห็นภาพและเสียง พร้อมกันบนจอ LCD ร่วมกัน
รบกวนเพื่อนๆ แนะนำไอเดียหน่อยค่ะว่าต้องใช้ sofeware และอุปกรณ์อะไรแบบไหนดีค่ะ