เมื่อปีที่แล้ว จขกท. ได้มีโอกาสทำตามหนึ่งในความฝันที่ตัวเองอยากทำ คือ การไปเยือนศรีพันวา ภูเก็ต
ได้เกิดความประทับใจมาก ทั้งวิว บรรยากาศ การบริการของโรงแรม
จนตั้งปณิธานว่าปีนี้จะต้องกลับไปอีกรอบ (แต่จริงๆตั้งไว้ว่าจะกลับไปปีล่ะครั้ง)
และแล้วความฝันก็เป็นจริงอีกครั้ง ไปเที่ยวนี้เลือกไปฤดูร้อน ปลายเมษายน เพื่อที่จะได้ไม่เจอฝนฟ้ากระหน่ำแบบคราวที่แล้ว
พักแบบจุใจ4วัน3คืน
จขกท จะขอรีวิว ส่วนvilla ที่พักก่อนนะคะ
ห้องที่พัก ยังเป็นห้องเดิม คือ luxury pool villa (LV17) เพราะมันตราตรึงใจกับห้องนี้จริงๆ
เริ่มต้นจากด้านนอกก่อนนะคะ
เปิดประตูมาก็เจอวิวที่คุ้นเคย ถึงจะเคยมาแล้วแต่ก็ยังตื่นเต้นกับวิวที่จะได้เห็นข้างหน้าอีกอยู่ดี
ก้าวข้ามผ่านประตูบานเดิม เจอต้นไม้ที่เป็น signature
ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ ศาลา เห็นวิวทะเลทุกที่ มันทำให้ จขกท ไม่เคยคิดจะออกไปไหนเมื่ออยู่ในvilla
บรรยากาศยามค่ำคืน
ได้มีโอกาสตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ภูเก็ต อากาศดี สดชื่นมาก ได้บรรยากาศไปอีกแบบค่ะ
วิวทิวทัศน์จากบนvilla จะเห็นท่าเทียบเรือของโรงแรม และชายหาดของโรงแรมนึง ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็น Cape panwa
ต่อไปจะพาไปชมข้างในvillaค่ะ เปิดประตูเข้ามาจะเจอห้องนั่งเล่นค่ะ
มีipod link กับเครื่องเสียง หรือใครอยากฟังเพลงจากมือถือก็มีสายเชื่อมต่อ
เครื่องเสียงที่นี่สะใจมากสามารถเปิดระบบ surround ทั่วvilla
วิวชิลๆจากห้องนั่งเล่นแค่นั่งฟังเพลง อ่านหนังสือ จากตรงนี้ก็ฟินแล้วค่ะ
ห้องต่อไป...ห้องนอนค่ะ
ปลายเตียงยังคงมีgift setมาวางไว้ให้เหมือนเดิมแต่ปีนี้เป็น ชุดกระเป๋าแปรงสีฟันกับผ้าปิดตา ปีที่แล้วเป็นผ้าขาวม้า
เตียงนอนนุ่มสบายมาก นอนไป3คืน ทุกเช้าที่ตื่นรู้สึกตลอดว่าไม่อยากลุกจากเตียง
ถัดเข้าไปจากห้องนอน คือ ห้องน้ำค่ะ อ่างล้างมือสำหรับ2คน ไม่ต้องแย่งกันแปรงฟัน ดีค่ะ อ่างjacuzziสามารถแช่ได้2คน
นอนแช่อ่างjacuzziไป ดูวิวไป เพลินจนตัวเปื่อยค่ะ
วิวจากห้องน้ำ เมษายนเดือนนี้ท้องฟ้าแจ่มใส อากาศดี มาก ไม่เจอฝนเวลากลางวันเลย
Outdoor rain shower แต่จริงๆก็มี indoor นะคะ แนะนำกลางวันใช้indoor ดีกว่าค่ะ
ไปดูบรรยากาศส่วนกลางของโรงแรมบ้างนะคะ ลงมาเดินที่ท่าเทียบเรือของโรงแรม เห็นLV17ที่พักอยู่ไกลๆ
Lobby check in & check out ปีนี้มาชาวต่างชาตินั่งเต็มเลยกว่าจะได้รูปแบบไม่มีคน รอนานมากค่ะ
ต่อไปเป็นส่วนของ Baba pool club ค่ะ เป็นห้องอาหาร โดยจะทานอาหารเช้ากันที่นี่
มีสระว่ายน้ำส่วนกลาง บริเวณนี้ด้วยนะคะ แต่ไม่เคยได้ใช้บริการเลย แค่ในvillaก็เพียงพอแล้ว
โต๊ะทานข้าว กลางวันตรงนี้แดดแรงมาก เหมาะสำหรับทานอาหารช่วงเย็นมากกว่าค่ะสำหรับคนกลัวดำ
พักทานอาหารกันก่อนค่ะ ปีนี้ราคาปรับขึ้นนะคะ ส่วนตัวคิดว่ารสชาติไม่ค่อยเหมือนเดิมเท่าไร เหมือนความอร่อยจะลดลง
แต่การกินไม่ใช่ประเด็นหลักของการมาที่นี่
ส่วนใหญ่จขกท จะชอบลงไปทานร้านอาหารเคียงเลปลาเผาด้านล่างโรงแรม
ซึ่งมีรถโรงแรมไปส่งและเมื่อกินเสร็จ พนง.ที่ร้านก็จะโทรตามรถโรงแรมให้
อาหารเช้าค่ะ (รูปนี้เป็นรูปเดียวที่ถ่ายด้วยiphone) อาหารเช้ายังคงความอร่อยเหมือนเดิม โดยเฉพาะขนมจีน
ทานอาหารเสร็จ พักสักนิด แล้วไปนวดต่อ ที่ cool spa ไหนๆก็ได้ส่วนลดมาแล้ว20% นวดที่นี่รู้สึกผ่อนคลายมากๆค่ะ
ต่อไป เป็นส่วนกลางที่ประทับใจที่สุด "Baba nest" จุดชมพระอาทิตย์ตกดิน ติดใจมากนั่ง2วันเลยค่ะ
เครื่องดื่ม เติมบรรยากาศ
ลากันไปด้วยรูปจากvilla ค่ะ
มาเที่ยวนี้ เน้นพักผ่อน ว่ายน้ำ ชมวิว ถ่ายรูป ดื่มดำ่บรรยากาศของโรงแรมโดยเฉพาะ
การกลับมาครั้งนี้ทุกอย่างก็ยังคงความประทับใจได้เหมือนเดิม ไม่เคยผิดหวัง
มีคืนสุดท้ายไฟดับกลางคืน ตื่นค่ะ ร้อนมาก ยุงกัด
พนักงานของโรงแรมรีบโทรมาขอโทษก่อนเลยค่ะโดยที่ จขกท.ยังไม่ได้โทรไปโวยวายเลย
ดับไป4ชั่วโมง นานมากเพราะฝนตกหนักช่วงกลางคืนและมีรถชนเสาไฟฟ้า
ทำใจและเข้าใจค่ะ เพราะมันเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ศรีพันวายังคงเป็นโรงแรมอันดับ1ในใจ จขกท.ค่ะ แล้วพบกันอีกครั้ง
[CR] Dream again @Sri Panwa, Phuket ~กลับไปฝันอีกครั้งที่ศรีพันวา ภูเก็ต~
ได้เกิดความประทับใจมาก ทั้งวิว บรรยากาศ การบริการของโรงแรม
จนตั้งปณิธานว่าปีนี้จะต้องกลับไปอีกรอบ (แต่จริงๆตั้งไว้ว่าจะกลับไปปีล่ะครั้ง)
และแล้วความฝันก็เป็นจริงอีกครั้ง ไปเที่ยวนี้เลือกไปฤดูร้อน ปลายเมษายน เพื่อที่จะได้ไม่เจอฝนฟ้ากระหน่ำแบบคราวที่แล้ว
พักแบบจุใจ4วัน3คืน
จขกท จะขอรีวิว ส่วนvilla ที่พักก่อนนะคะ
ห้องที่พัก ยังเป็นห้องเดิม คือ luxury pool villa (LV17) เพราะมันตราตรึงใจกับห้องนี้จริงๆ
เริ่มต้นจากด้านนอกก่อนนะคะ
เปิดประตูมาก็เจอวิวที่คุ้นเคย ถึงจะเคยมาแล้วแต่ก็ยังตื่นเต้นกับวิวที่จะได้เห็นข้างหน้าอีกอยู่ดี
ก้าวข้ามผ่านประตูบานเดิม เจอต้นไม้ที่เป็น signature
ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ ศาลา เห็นวิวทะเลทุกที่ มันทำให้ จขกท ไม่เคยคิดจะออกไปไหนเมื่ออยู่ในvilla
บรรยากาศยามค่ำคืน
ได้มีโอกาสตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ภูเก็ต อากาศดี สดชื่นมาก ได้บรรยากาศไปอีกแบบค่ะ
วิวทิวทัศน์จากบนvilla จะเห็นท่าเทียบเรือของโรงแรม และชายหาดของโรงแรมนึง ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็น Cape panwa
ต่อไปจะพาไปชมข้างในvillaค่ะ เปิดประตูเข้ามาจะเจอห้องนั่งเล่นค่ะ
มีipod link กับเครื่องเสียง หรือใครอยากฟังเพลงจากมือถือก็มีสายเชื่อมต่อ
เครื่องเสียงที่นี่สะใจมากสามารถเปิดระบบ surround ทั่วvilla
วิวชิลๆจากห้องนั่งเล่นแค่นั่งฟังเพลง อ่านหนังสือ จากตรงนี้ก็ฟินแล้วค่ะ
ห้องต่อไป...ห้องนอนค่ะ
ปลายเตียงยังคงมีgift setมาวางไว้ให้เหมือนเดิมแต่ปีนี้เป็น ชุดกระเป๋าแปรงสีฟันกับผ้าปิดตา ปีที่แล้วเป็นผ้าขาวม้า
เตียงนอนนุ่มสบายมาก นอนไป3คืน ทุกเช้าที่ตื่นรู้สึกตลอดว่าไม่อยากลุกจากเตียง
ถัดเข้าไปจากห้องนอน คือ ห้องน้ำค่ะ อ่างล้างมือสำหรับ2คน ไม่ต้องแย่งกันแปรงฟัน ดีค่ะ อ่างjacuzziสามารถแช่ได้2คน
นอนแช่อ่างjacuzziไป ดูวิวไป เพลินจนตัวเปื่อยค่ะ
วิวจากห้องน้ำ เมษายนเดือนนี้ท้องฟ้าแจ่มใส อากาศดี มาก ไม่เจอฝนเวลากลางวันเลย
Outdoor rain shower แต่จริงๆก็มี indoor นะคะ แนะนำกลางวันใช้indoor ดีกว่าค่ะ
ไปดูบรรยากาศส่วนกลางของโรงแรมบ้างนะคะ ลงมาเดินที่ท่าเทียบเรือของโรงแรม เห็นLV17ที่พักอยู่ไกลๆ
Lobby check in & check out ปีนี้มาชาวต่างชาตินั่งเต็มเลยกว่าจะได้รูปแบบไม่มีคน รอนานมากค่ะ
ต่อไปเป็นส่วนของ Baba pool club ค่ะ เป็นห้องอาหาร โดยจะทานอาหารเช้ากันที่นี่
มีสระว่ายน้ำส่วนกลาง บริเวณนี้ด้วยนะคะ แต่ไม่เคยได้ใช้บริการเลย แค่ในvillaก็เพียงพอแล้ว
โต๊ะทานข้าว กลางวันตรงนี้แดดแรงมาก เหมาะสำหรับทานอาหารช่วงเย็นมากกว่าค่ะสำหรับคนกลัวดำ
พักทานอาหารกันก่อนค่ะ ปีนี้ราคาปรับขึ้นนะคะ ส่วนตัวคิดว่ารสชาติไม่ค่อยเหมือนเดิมเท่าไร เหมือนความอร่อยจะลดลง
แต่การกินไม่ใช่ประเด็นหลักของการมาที่นี่
ส่วนใหญ่จขกท จะชอบลงไปทานร้านอาหารเคียงเลปลาเผาด้านล่างโรงแรม
ซึ่งมีรถโรงแรมไปส่งและเมื่อกินเสร็จ พนง.ที่ร้านก็จะโทรตามรถโรงแรมให้
อาหารเช้าค่ะ (รูปนี้เป็นรูปเดียวที่ถ่ายด้วยiphone) อาหารเช้ายังคงความอร่อยเหมือนเดิม โดยเฉพาะขนมจีน
ทานอาหารเสร็จ พักสักนิด แล้วไปนวดต่อ ที่ cool spa ไหนๆก็ได้ส่วนลดมาแล้ว20% นวดที่นี่รู้สึกผ่อนคลายมากๆค่ะ
ต่อไป เป็นส่วนกลางที่ประทับใจที่สุด "Baba nest" จุดชมพระอาทิตย์ตกดิน ติดใจมากนั่ง2วันเลยค่ะ
เครื่องดื่ม เติมบรรยากาศ
ลากันไปด้วยรูปจากvilla ค่ะ
มาเที่ยวนี้ เน้นพักผ่อน ว่ายน้ำ ชมวิว ถ่ายรูป ดื่มดำ่บรรยากาศของโรงแรมโดยเฉพาะ
การกลับมาครั้งนี้ทุกอย่างก็ยังคงความประทับใจได้เหมือนเดิม ไม่เคยผิดหวัง
มีคืนสุดท้ายไฟดับกลางคืน ตื่นค่ะ ร้อนมาก ยุงกัด
พนักงานของโรงแรมรีบโทรมาขอโทษก่อนเลยค่ะโดยที่ จขกท.ยังไม่ได้โทรไปโวยวายเลย
ดับไป4ชั่วโมง นานมากเพราะฝนตกหนักช่วงกลางคืนและมีรถชนเสาไฟฟ้า
ทำใจและเข้าใจค่ะ เพราะมันเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ศรีพันวายังคงเป็นโรงแรมอันดับ1ในใจ จขกท.ค่ะ แล้วพบกันอีกครั้ง