ครั้งที่สองกับการเดินทางไปญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ครั้งแรกเลือกเดินทางไปในฤดูกาลใบไม้แดง ครั้งนี้เลยเลือกเดินทางในฤดูกาลที่แตกต่าง ฤดูใบไม้ผลิปลายฤดูกาลซากุระของภูมิภาคคันโต กับจุดมุ่งหมายปลายทางในการเดินทางครั้งนี้ คือ Sapporo , Biei , Otaru , Hakodate , Hirosaki , Takayama , Kyoto ปิดท้ายด้วย Tokyo ใช้เวลาในการเดินทาง 11 วันรวมวันเดินทางไปกลับจากประเทศไทย เราเดินทางโดยใช้สายการบิน China Eastern Airline โดยจองตั๋วเครื่องบินเกือบข้ามปี ผ่าน cheap ticket ... ได้ตั๋ว ไม่แพงไปกลับ 15700 บาท โดยรูทที่เราเลือกคือ Bangkok - Chitose ......ไปลงที่ Sapporo ก่อน แล้วกลับ Narita - Bangkok โดยทั้ง 2 flight ต้องไปรอต่อเครื่องที่ Pudong International Airport ที่เซี่ยงไฮ้ การต่อเครื่องไม่ได้ยุ่งยาก มีระบบ transit ที่เป็นระบบพร้อมทั้งมีป้ายบอกเป็นภาษาอังกฤษที่ชัดเจน พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่คอยสื่อสารเป็นระยะๆ แต่ที่ควรทำใจคือ สายการบินจีน จะมีการ Delayed เป็นปกติ เพราะนั่ง 4 flight late ทุก Flight ในสนามบินมี free wifi ให้ใช้ โดยนักท่องเที่ยวต้องเอา passport ไปลงทะเบียนเพื่อรับรหัสมา แต่ไม่สามารถเล่น facebook ได้นะค่ะ
ดาวแดง สัญลักษณ์ transit เพื่อให้แปะติดขณะลงจากเครื่องเพื่อรอ transit ที่เซี่ยงไฮ้
การเดินทางในประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากเราเดินทางไป 11 วัน จึงต้องมีการวางแผนเรื่องการใช้ JR PASS ในญี่ปุ่น ว่าจะเลือกแพลนไหนให้คุ้ม คิดไปคิดมาเราก็เลือก JR PASS 7 วัน ซื้อมาในราคา 8400 บาท ส่วนวันที่เหลืออีก 4 วัน เราจ่ายเป็นเงินสดไป เราเลือกใช้ JR PASS ใน 7 วันหลัง เพราะใน ช่วง 4 วันแรก เรามีแพลน ขับรถเอง 1 วัน และการเดินทางใน เกาะฮอกไกโดก็ไม่ได้แพงมากเหมือนนั่งชินคันเซ็นข้ามเมืองในตอนล่าง JR PASS ปัจจุบันหาซื้อได้ง่ายๆ ตามเวป บริษัทท่องเที่ยว แต่ถ้าจะให้ได้ในราคาดีก็รอซื้อในงานท่องเที่ยว ก็จะมีลดราคาลงมา แต่จะมีจำกัดเวลาในการใช้ เวลาซื้อต้องคำนวณเวลากันให้ดีนะค่ะ ส่วนการขับรถในประเทศญี่ปุ่น เราต้องทำใบขับขี่สากลจากประเทศเราไป ยื่นพร้อม passport เวลาเช่ารถ รถขับเลนส์ซ้ายเหมือนบ้านเรา ขับไม่ยาก เพราะคนเค้ามีระเบียบและขับรถตามกฏจราจรแบบเป๊ะมากกก อยู่แล้ว ขับไม่เร็วด้วย รถทุกคันมีระบบ GPRS ยิ่งทำให้ขับง่ายมาก ป้ายบอกทางก็มีภาษาอังกฤษบ้างเป็นระยะๆ หมดความกังกลได้ ขับง่ายกว่าประเทศไทยเยอะเลย
ที่พัก การเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะไปหาที่พักเอาดาบหน้าเหมือนประเทศอื่นๆ ที่พักทุกที่จึงต้องมีการจอง และ Confirm กันเป็นเรื่องเป็นราว โดยการจองผ่านตัวแทน เวปต่างๆ โดยเวปจะขอข้อมูลบัตรเครดิตเราไว้ ถ้าเราจองแล้วไม่เข้าพัก พอถึงเวลาจริงๆ บัตรก็จะถูกหักเต็มจำนวนทันที แต่ถ้าเรา cancel ในเวลาที่เป็นเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ก็จะไม่คิดค่าบริการ เวปต่างๆ ในการจองที่พัก
http://www.booking.com ,
http://www.agoda.com ,
http://www.japanican.com/en/hotel/ ,
http://travel.rakuten.com/ , www.hostelworld.com ... และอีกหลายๆเวป บางเวปก็หักเป็น deposit ไว้ เช่น hostelworld บางเวปก็จ่ายก่อนเต็มจำนวนเลย เช่น Japanican บางเวปก็ไม่ต้องจ่ายอะไรเลย หรือบางที่เราก็จองกับโรงแรมโดยตรงก็ได้ เช่น โรงแรมในเครือ Toyoko inn ถ้าเป็นสมาชิก มีส่วนลดพิเศษให้ด้วย ในช่วงที่เราไปเที่ยวนั้นคาบเกี่ยวกับช่วง Golden week วันหยุดยาวของคนญี่ปุ่นพอดี โรงแรมจึงค่อนข้างจองยากและราคาสูงพอสมควร ใครอยากหลีกเลี่ยงช่วงนี้ คือ 29 เมษา - 6 พฤษภาคม เพราะเดินไปทางไหนก็จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น
รายชื่อโรงแรมที่พักทั้งหมด
1 toyoko inn hokkaido sapporo - eki guchi ห้อง double room 8500 yen มีอาหารเช้า ใกล้สถานีรถไฟฟ้า JR sapporo
2 vibrant otaru ห้อง double room 9500 yen อาหารเช้าเป็นขนมปัง ใกล้คลองโอตารุมากๆๆ เดิน 10 นาที จาก JR otaru
3 smile hotel hakodate ห้อง double room 9721 yen ไม่มีอาหารเช้า อยู่ตรงข้ามกับ JR hakodate
4 toyoko inn hirisaki ห้อง double room 8480 yen มีอาหารเช้า อยู่ติดสถานี JR hirosaki
5 k house takayama ห้อง double ensuite room 8200 yen ไม่มีอาหารเช้า เดิน 5 นาทีจาก JR takayama เดิน 5 นาทีไปสะพานแดง และตลาด 100 ปี
6 kyoto hana hostel ห้อง delux twin private ensute 6800 yen ไม่มีอาหารเช้า ไม่มีผ้าเช็ดตัว ไม่มีลิฟท์ เดิน 7 นาที จาก JR Kyoto
7 sunnide resort ห้อง Japanese style room 34560 yen อยู่ริมทะเลสาป Kawaguchigo วิว ภูเขาฟูจิ มีรถรับส่งสถานี JR kawaguchigo มีอาหารเย็น อาหารเช้า
8 sakura hostel ikebukuro ห้อง besic double bed 9000 yen ไม่มีอาหารเช้า อยู่ใกล้ west exist C6 ของ JR ikebukuro ทางขึ้นลงสถานีรถไฟมีลิฟท์
เนื่องจากการเดินทางครั้งนี้แม้จะมีเวลาหลายวัน แต่ก็มีหลายจุดหมายปลายทาง และไม่ได้ใกล้กันเลย ถ้าใครเคยไปญี่ปุ่นก็จะรู้ว่า ค่อนข้างไกลกันเลยทีเดียว แต่ระบบการขนส่งที่ดีมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก ไม่เป็นอุปสรรคในการเดินทางครั้งนี้เลย แต่มีข้อแม้ว่า คุณจะต้องตื่นเช้า นอนดึก แล้วก็ขยันเดินกันหน่อยเท่านั้น .........
หนูบรรยายไม่ค่อยเก่ง หลังจากนี้ก็ดูรูปภาพที่ถ่ายมา สวยบ้าง ไม่สวยบ้างก็ติ ชม กันไปนะค่ะ
Sapporo ...
sapporo goverment buiding
ดอกแมกโนเลีย เมื่อเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนไม่ใช่เฉพาะซากุระชนิดเดียวที่เบ่งบาน มีดอกไม้หลายๆชนิดที่เริ่มผลิบาน ซึ่งถ้าใครสนใจต้นไม้ชนิดไหน สามารถหาข้อมูลได้จาก
http://www.yokosojapan.org/ ซึ่งตัวหนูเองก็หาข้อมูลหลักๆจากในนี้เหมือนกัน
Sapporo clock tower
จาก JR SAPPORO สามารถเดินเที่ยวได้ทั้ง clock tower และ goverment buiding
Ishiya Chocolate Factory
Ishiya Chocolate Factory
Ishiya Chocolate Factory
การเดินทางไป Ishiya Chocolate Factory เราสามารถซื้อ Sapporo welcome pass เป็น pass ราคาประหยัดสำหรับนักท่องเที่ยว สามารถซื้อที่ JR chitose , JR sapporo , JR otaru โดยเราสามารถใช้รถไฟ JR ได้จาก otaru , sapporo และสามารถใช้ subway ใน sapporo ได้ภายในหนึ่งวันของการเปิดใช้ การเดินทางไป Ishiya Chocolate Factory เดินทางโดยใช้รถ subway สาย tozai สุดสาย ลงสถานี miyanosawa exit 5 เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา แล้วข้ามถนน ถ้าหาไม่เจอ หรือหลงทาง เราสามารถถามเส้นทางกับคนญี่ปุ่นได้เลยค่ะ เค้าน่ารัก แม้จะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เค้าก็จะช่วยเราจนสุดความสามารถ หรือว่าพาไปส่งเลยทีเดียว ตรงข้าม Ishiya Chocolate Factory ข้างๆปั๊มน้ำมัน มีร้านคล้ายๆแฮมเบอเกอร์
อร่อยมาก ไม่แพงด้วย อย่าลืมไปลิ้มลองกันได้
Biei
bluepond คือจุดมุ่งหมายหลักของการเดินทางไปยัง biei ในครั้งนี้ และเนื่องจากเรามีเวลาเวิ่นเว้อไม่มาก ประกอบกับ JR ของเราก็ยังไม่ถึงเวลาต้องใช้เราจึงต้องประหยัดเงินค่าเดินทางในญี่ปุ่นกันพอสมควร ซึ่งก็พอจะรู้กันอยู่แล้วว่า ค่าเดินทางนั้นแสนแพงเพียงใด เลยวางแผนว่าเราจะเดินทางไป biei โดยใช้รถยนต์ ขับไป เพราะฉะนั้น ต้องทำใบขับขี่สากลก่อนอันดับแรก ขั้นตอน ตามนี้เลยค่ะ
http://www.dlt.go.th/th/index.php?option=com_content&view=article&id=3658:2012-12-06-07-52-23&catid=131:2011-09-08-02-09-23&Itemid=88
เมื่อได้มาแล้วเรานำมาประกอบกับ passport ในการเช่ารถ ที่นี่ หาข้อมูลไปพอสมควรได้ข้อสรุปว่าให้เช่ารถของ TOYOTA เพราะ GPRS มี version ภาษาอังกฤษ เราก็ทำตามอย่างเคร่งครัด ก่อนไปก็หาพิกัดของ TOYOTA ไปก่อน ว่าอยู่ตำแหน่งไหนบ้าง
http://www.toyotarentacar.net/english/ ตามนี้เลยนะค่ะ จะได้ไม่เสียเวลาหามาก เราสามารถจองรถไปก่อนก็ได้ โดยจะคิดคำนวณเวลา รุ่นรถ แล้วจะตัดบัตรเครดิต หรือสมัครสมาชิกได้ฟรี แต่หนูไม่ได้จองไปนะค่ะ เพราะต้องไปดูรุ่นรถว่าใส่กระเป๋าขนาด 24 นิ้ว 4 ใบได้รึปล่าว สรุปว่าไม่ได้ เปลี่ยนแผนค่ะ เช่ารถเหมือนเดิม แต่ต้องแบ่งเสื้อผ้า เพื่อจะไปนอนที่ otaru หลังจากกลับจาก biei ต้องเอากระเป๋าใหญ่ไปเก็บใส่ coin locker ที่สถานีรถไฟ coin locker ใหญ่ ราคาวันละ 700 yen แล้วเราก็เช่ารถได้ ในราคา 8875 yen ราคานี้สำหรับ 12 ชม. ราคานี้ลดแล้วเพราะถ้าจ่ายด้วยบัตรเครดิตจะลด 10 % ราคานี้รวมค่าประกันรถแล้ว แต่ถ้ามีอุบัติเหตุเราต้องรับผิดชอบเอง ถ้าโดนเสียค่าปรับเราต้องรับผิดชอบเอง โดยรถที่ได้มาจะมีน้ำมันเต็มถัง มีระบบ GPRS ติดมาอยู่แล้ว เค้าจะมาสอนเราใช้ระบบ GPRS ด้วย เราต้องจำให้ดี เพราะ English version ในความเข้าใจของเค้ากะของเราอาจจะไม่ตรงกัน
เมนูเป็นภาษาญี่ปุ่นคร้า แต่บอกเราเป็นภาษาอังกฤษ ทีนี้ก็ต้องจำปุ่มกันแล้วว่าปุ่มไหนคืออะไร แต่ไม่เป็นไร ทำข้อสอบยังมั่วได้ เรื่องแค่นี้ จิ๊บๆ ก็มั่วกันต่อไปค่ะ เค้ามี map code ค่ะ อยากไปตรงไหนก็ใส่ลงไปแล้วขับตามเลยค่ะ อย่าใส่ตัวเลขผิดอย่างเดียว ที่เหลือก็เชื่อมันค่ะ ก็เราไม่รู้เส้นทางนี่ค่ะ 5555 แล้วมีค่าทางด่วน เราต้องจ่ายเองค่ะ ขับเข้าช่องที่เป็นช่องที่จ่ายเอง แล้วหยิบ CARD จากเครื่องอัตโนมัติ ไปจ่ายทีเดียวขาออก เป็นการประหยัดทรัพยากรบุคคลได้อย่างดีเยี่ยมเลยค่ะ ขากลับต้องเติมน้ำมันให้เต็มถัง พร้อมทั้งเก็บใบเสร็จเติมน้ำมันเอาไว้ แล้วเก็บมาคืนที่จุดคืนรถค่ะ เราเช่าและคืนคนละจุดนะค่ะ สามารถทำได้ โดยเราเช่าจาก JR sapporo แล้วขับไป Biei , Furano แล้วกลับมาคืนรถที่ JR otaru
on the way to blue pond
ประมาณ สองชั่วโมงครึ่ง โดยใช้ทางด่วน จาก Sapporo ไป Biei ผ่าน Asahikawa เข้าสู่ biei ลักษณะเมืองเป็นท้องทุ่ง อากาศร้อน เริ่มมีการปรับหน้าดินเพื่อเตรียมการเพาะปลูก โดยส่วนใหญ่น่าจะเป็น มันฝรั่ง มีไร่มันฝรั่งขิง คาลบี อยู่ที่นี่ด้วย เรารีบไป blue pond ก่อน เพราะอยู่ไกลออกไป ทางไป blue pond สวยมาก สองข้างทางเป็นป่าสน หิมะยังละลายไม่หมด อากาศเริ่มเย็นสบาย แต่แสงแดด จ้ามาก
แม่น้ำริม blue pond
blue pond
blue pond
blue pond
blue pond วันนี้สีไม่ค่อยสีฟ้า ค่อนข้างไปทางสีเขียว ใสๆ แล้วเราก็ไปต่อใกล้คือ shirogene waterfall
shirogene waterfall
shirogene waterfall
น้ำตกรวมตัวกันเป็นแม่น้ำสีฟ้า ใส สวย
[CR] Japan again....Sapporo ,Biei ,Otaru ,Hakodate,Hirosaki,Takayama, Kyoto,Tokyo..11 วันตะลุยแดนซามูไร
ดาวแดง สัญลักษณ์ transit เพื่อให้แปะติดขณะลงจากเครื่องเพื่อรอ transit ที่เซี่ยงไฮ้
การเดินทางในประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากเราเดินทางไป 11 วัน จึงต้องมีการวางแผนเรื่องการใช้ JR PASS ในญี่ปุ่น ว่าจะเลือกแพลนไหนให้คุ้ม คิดไปคิดมาเราก็เลือก JR PASS 7 วัน ซื้อมาในราคา 8400 บาท ส่วนวันที่เหลืออีก 4 วัน เราจ่ายเป็นเงินสดไป เราเลือกใช้ JR PASS ใน 7 วันหลัง เพราะใน ช่วง 4 วันแรก เรามีแพลน ขับรถเอง 1 วัน และการเดินทางใน เกาะฮอกไกโดก็ไม่ได้แพงมากเหมือนนั่งชินคันเซ็นข้ามเมืองในตอนล่าง JR PASS ปัจจุบันหาซื้อได้ง่ายๆ ตามเวป บริษัทท่องเที่ยว แต่ถ้าจะให้ได้ในราคาดีก็รอซื้อในงานท่องเที่ยว ก็จะมีลดราคาลงมา แต่จะมีจำกัดเวลาในการใช้ เวลาซื้อต้องคำนวณเวลากันให้ดีนะค่ะ ส่วนการขับรถในประเทศญี่ปุ่น เราต้องทำใบขับขี่สากลจากประเทศเราไป ยื่นพร้อม passport เวลาเช่ารถ รถขับเลนส์ซ้ายเหมือนบ้านเรา ขับไม่ยาก เพราะคนเค้ามีระเบียบและขับรถตามกฏจราจรแบบเป๊ะมากกก อยู่แล้ว ขับไม่เร็วด้วย รถทุกคันมีระบบ GPRS ยิ่งทำให้ขับง่ายมาก ป้ายบอกทางก็มีภาษาอังกฤษบ้างเป็นระยะๆ หมดความกังกลได้ ขับง่ายกว่าประเทศไทยเยอะเลย
ที่พัก การเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะไปหาที่พักเอาดาบหน้าเหมือนประเทศอื่นๆ ที่พักทุกที่จึงต้องมีการจอง และ Confirm กันเป็นเรื่องเป็นราว โดยการจองผ่านตัวแทน เวปต่างๆ โดยเวปจะขอข้อมูลบัตรเครดิตเราไว้ ถ้าเราจองแล้วไม่เข้าพัก พอถึงเวลาจริงๆ บัตรก็จะถูกหักเต็มจำนวนทันที แต่ถ้าเรา cancel ในเวลาที่เป็นเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ก็จะไม่คิดค่าบริการ เวปต่างๆ ในการจองที่พัก http://www.booking.com , http://www.agoda.com , http://www.japanican.com/en/hotel/ , http://travel.rakuten.com/ , www.hostelworld.com ... และอีกหลายๆเวป บางเวปก็หักเป็น deposit ไว้ เช่น hostelworld บางเวปก็จ่ายก่อนเต็มจำนวนเลย เช่น Japanican บางเวปก็ไม่ต้องจ่ายอะไรเลย หรือบางที่เราก็จองกับโรงแรมโดยตรงก็ได้ เช่น โรงแรมในเครือ Toyoko inn ถ้าเป็นสมาชิก มีส่วนลดพิเศษให้ด้วย ในช่วงที่เราไปเที่ยวนั้นคาบเกี่ยวกับช่วง Golden week วันหยุดยาวของคนญี่ปุ่นพอดี โรงแรมจึงค่อนข้างจองยากและราคาสูงพอสมควร ใครอยากหลีกเลี่ยงช่วงนี้ คือ 29 เมษา - 6 พฤษภาคม เพราะเดินไปทางไหนก็จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น
รายชื่อโรงแรมที่พักทั้งหมด
1 toyoko inn hokkaido sapporo - eki guchi ห้อง double room 8500 yen มีอาหารเช้า ใกล้สถานีรถไฟฟ้า JR sapporo
2 vibrant otaru ห้อง double room 9500 yen อาหารเช้าเป็นขนมปัง ใกล้คลองโอตารุมากๆๆ เดิน 10 นาที จาก JR otaru
3 smile hotel hakodate ห้อง double room 9721 yen ไม่มีอาหารเช้า อยู่ตรงข้ามกับ JR hakodate
4 toyoko inn hirisaki ห้อง double room 8480 yen มีอาหารเช้า อยู่ติดสถานี JR hirosaki
5 k house takayama ห้อง double ensuite room 8200 yen ไม่มีอาหารเช้า เดิน 5 นาทีจาก JR takayama เดิน 5 นาทีไปสะพานแดง และตลาด 100 ปี
6 kyoto hana hostel ห้อง delux twin private ensute 6800 yen ไม่มีอาหารเช้า ไม่มีผ้าเช็ดตัว ไม่มีลิฟท์ เดิน 7 นาที จาก JR Kyoto
7 sunnide resort ห้อง Japanese style room 34560 yen อยู่ริมทะเลสาป Kawaguchigo วิว ภูเขาฟูจิ มีรถรับส่งสถานี JR kawaguchigo มีอาหารเย็น อาหารเช้า
8 sakura hostel ikebukuro ห้อง besic double bed 9000 yen ไม่มีอาหารเช้า อยู่ใกล้ west exist C6 ของ JR ikebukuro ทางขึ้นลงสถานีรถไฟมีลิฟท์
เนื่องจากการเดินทางครั้งนี้แม้จะมีเวลาหลายวัน แต่ก็มีหลายจุดหมายปลายทาง และไม่ได้ใกล้กันเลย ถ้าใครเคยไปญี่ปุ่นก็จะรู้ว่า ค่อนข้างไกลกันเลยทีเดียว แต่ระบบการขนส่งที่ดีมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก ไม่เป็นอุปสรรคในการเดินทางครั้งนี้เลย แต่มีข้อแม้ว่า คุณจะต้องตื่นเช้า นอนดึก แล้วก็ขยันเดินกันหน่อยเท่านั้น .........
หนูบรรยายไม่ค่อยเก่ง หลังจากนี้ก็ดูรูปภาพที่ถ่ายมา สวยบ้าง ไม่สวยบ้างก็ติ ชม กันไปนะค่ะ
Sapporo ...
sapporo goverment buiding
ดอกแมกโนเลีย เมื่อเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนไม่ใช่เฉพาะซากุระชนิดเดียวที่เบ่งบาน มีดอกไม้หลายๆชนิดที่เริ่มผลิบาน ซึ่งถ้าใครสนใจต้นไม้ชนิดไหน สามารถหาข้อมูลได้จาก http://www.yokosojapan.org/ ซึ่งตัวหนูเองก็หาข้อมูลหลักๆจากในนี้เหมือนกัน
Sapporo clock tower
จาก JR SAPPORO สามารถเดินเที่ยวได้ทั้ง clock tower และ goverment buiding
Ishiya Chocolate Factory
Ishiya Chocolate Factory
Ishiya Chocolate Factory
การเดินทางไป Ishiya Chocolate Factory เราสามารถซื้อ Sapporo welcome pass เป็น pass ราคาประหยัดสำหรับนักท่องเที่ยว สามารถซื้อที่ JR chitose , JR sapporo , JR otaru โดยเราสามารถใช้รถไฟ JR ได้จาก otaru , sapporo และสามารถใช้ subway ใน sapporo ได้ภายในหนึ่งวันของการเปิดใช้ การเดินทางไป Ishiya Chocolate Factory เดินทางโดยใช้รถ subway สาย tozai สุดสาย ลงสถานี miyanosawa exit 5 เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา แล้วข้ามถนน ถ้าหาไม่เจอ หรือหลงทาง เราสามารถถามเส้นทางกับคนญี่ปุ่นได้เลยค่ะ เค้าน่ารัก แม้จะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เค้าก็จะช่วยเราจนสุดความสามารถ หรือว่าพาไปส่งเลยทีเดียว ตรงข้าม Ishiya Chocolate Factory ข้างๆปั๊มน้ำมัน มีร้านคล้ายๆแฮมเบอเกอร์ อร่อยมาก ไม่แพงด้วย อย่าลืมไปลิ้มลองกันได้
Biei
bluepond คือจุดมุ่งหมายหลักของการเดินทางไปยัง biei ในครั้งนี้ และเนื่องจากเรามีเวลาเวิ่นเว้อไม่มาก ประกอบกับ JR ของเราก็ยังไม่ถึงเวลาต้องใช้เราจึงต้องประหยัดเงินค่าเดินทางในญี่ปุ่นกันพอสมควร ซึ่งก็พอจะรู้กันอยู่แล้วว่า ค่าเดินทางนั้นแสนแพงเพียงใด เลยวางแผนว่าเราจะเดินทางไป biei โดยใช้รถยนต์ ขับไป เพราะฉะนั้น ต้องทำใบขับขี่สากลก่อนอันดับแรก ขั้นตอน ตามนี้เลยค่ะ http://www.dlt.go.th/th/index.php?option=com_content&view=article&id=3658:2012-12-06-07-52-23&catid=131:2011-09-08-02-09-23&Itemid=88
เมื่อได้มาแล้วเรานำมาประกอบกับ passport ในการเช่ารถ ที่นี่ หาข้อมูลไปพอสมควรได้ข้อสรุปว่าให้เช่ารถของ TOYOTA เพราะ GPRS มี version ภาษาอังกฤษ เราก็ทำตามอย่างเคร่งครัด ก่อนไปก็หาพิกัดของ TOYOTA ไปก่อน ว่าอยู่ตำแหน่งไหนบ้าง http://www.toyotarentacar.net/english/ ตามนี้เลยนะค่ะ จะได้ไม่เสียเวลาหามาก เราสามารถจองรถไปก่อนก็ได้ โดยจะคิดคำนวณเวลา รุ่นรถ แล้วจะตัดบัตรเครดิต หรือสมัครสมาชิกได้ฟรี แต่หนูไม่ได้จองไปนะค่ะ เพราะต้องไปดูรุ่นรถว่าใส่กระเป๋าขนาด 24 นิ้ว 4 ใบได้รึปล่าว สรุปว่าไม่ได้ เปลี่ยนแผนค่ะ เช่ารถเหมือนเดิม แต่ต้องแบ่งเสื้อผ้า เพื่อจะไปนอนที่ otaru หลังจากกลับจาก biei ต้องเอากระเป๋าใหญ่ไปเก็บใส่ coin locker ที่สถานีรถไฟ coin locker ใหญ่ ราคาวันละ 700 yen แล้วเราก็เช่ารถได้ ในราคา 8875 yen ราคานี้สำหรับ 12 ชม. ราคานี้ลดแล้วเพราะถ้าจ่ายด้วยบัตรเครดิตจะลด 10 % ราคานี้รวมค่าประกันรถแล้ว แต่ถ้ามีอุบัติเหตุเราต้องรับผิดชอบเอง ถ้าโดนเสียค่าปรับเราต้องรับผิดชอบเอง โดยรถที่ได้มาจะมีน้ำมันเต็มถัง มีระบบ GPRS ติดมาอยู่แล้ว เค้าจะมาสอนเราใช้ระบบ GPRS ด้วย เราต้องจำให้ดี เพราะ English version ในความเข้าใจของเค้ากะของเราอาจจะไม่ตรงกัน เมนูเป็นภาษาญี่ปุ่นคร้า แต่บอกเราเป็นภาษาอังกฤษ ทีนี้ก็ต้องจำปุ่มกันแล้วว่าปุ่มไหนคืออะไร แต่ไม่เป็นไร ทำข้อสอบยังมั่วได้ เรื่องแค่นี้ จิ๊บๆ ก็มั่วกันต่อไปค่ะ เค้ามี map code ค่ะ อยากไปตรงไหนก็ใส่ลงไปแล้วขับตามเลยค่ะ อย่าใส่ตัวเลขผิดอย่างเดียว ที่เหลือก็เชื่อมันค่ะ ก็เราไม่รู้เส้นทางนี่ค่ะ 5555 แล้วมีค่าทางด่วน เราต้องจ่ายเองค่ะ ขับเข้าช่องที่เป็นช่องที่จ่ายเอง แล้วหยิบ CARD จากเครื่องอัตโนมัติ ไปจ่ายทีเดียวขาออก เป็นการประหยัดทรัพยากรบุคคลได้อย่างดีเยี่ยมเลยค่ะ ขากลับต้องเติมน้ำมันให้เต็มถัง พร้อมทั้งเก็บใบเสร็จเติมน้ำมันเอาไว้ แล้วเก็บมาคืนที่จุดคืนรถค่ะ เราเช่าและคืนคนละจุดนะค่ะ สามารถทำได้ โดยเราเช่าจาก JR sapporo แล้วขับไป Biei , Furano แล้วกลับมาคืนรถที่ JR otaru
on the way to blue pond
ประมาณ สองชั่วโมงครึ่ง โดยใช้ทางด่วน จาก Sapporo ไป Biei ผ่าน Asahikawa เข้าสู่ biei ลักษณะเมืองเป็นท้องทุ่ง อากาศร้อน เริ่มมีการปรับหน้าดินเพื่อเตรียมการเพาะปลูก โดยส่วนใหญ่น่าจะเป็น มันฝรั่ง มีไร่มันฝรั่งขิง คาลบี อยู่ที่นี่ด้วย เรารีบไป blue pond ก่อน เพราะอยู่ไกลออกไป ทางไป blue pond สวยมาก สองข้างทางเป็นป่าสน หิมะยังละลายไม่หมด อากาศเริ่มเย็นสบาย แต่แสงแดด จ้ามาก
แม่น้ำริม blue pond
blue pond
blue pond
blue pond
blue pond วันนี้สีไม่ค่อยสีฟ้า ค่อนข้างไปทางสีเขียว ใสๆ แล้วเราก็ไปต่อใกล้คือ shirogene waterfall
shirogene waterfall
shirogene waterfall
น้ำตกรวมตัวกันเป็นแม่น้ำสีฟ้า ใส สวย