สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
ศิษย์เก่าจิตรลดานะคะ จบมาเกือบยี่สิบปีแล้ว
แต่เห็นเพื่อนๆพี่ๆน้องๆหลายคนเอาลูกเข้าที่นี่
เลยพอจะรู้อยู่บ้างว่าปัจจุบันโรงเรียนทำอะไรอยู่
1. สภาพแวดล้อมดีมาก ปลอดภัย อากาศดี
อาหารอร่อย เจ็บป่วยขึ้นมามีกองแพทย์หลวงอยู่ในวัง
น้องชายเราเคยแพ้ปลาหมึกในอาหารกลางวัน
โรงเรียนพาส่งไปที่แพทย์หลวงทันทีค่ะ แป๊ปเดียวถึงหมอ
เป็นข้อหนึ่งที่เราว่าดีมากในเรื่องการดูแลสุขภาพความปลอดภัยของเด็ก
2. สมัยเราเรียน ประถมมัธยมมีแค่สองห้อง ห้องละ 40 กว่าคน
แต่ครูประจำชั้นมีสามคนต่อหนึ่งห้อง ดูแลใกล้ชิดดี
ปัจจุบันไม่รู้อัตราส่วนเท่าไหร่แต่คิดว่าไม่น่าต่างจากนี้นัก
ยิ่งชั้นสูงๆ ม.ปลายนักเรียนต่อห้องยิ่งน้อย เพราะมีไปเตรียมทหารเยอะ
3. เพราะนักเรียนต่อรุ่นน้อย (100 กว่าคน) เลยสนิทกันมาก
รู้จักกันดีทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง และยังคบหาช่วยเหลือกันมาจนทุกวันนี้
ถ้าพูดถึงคอนเนคชั่นในอนาคต เด็กที่นี่ถือว่าเหนียวแน่นมาก
4. สังคมจิตรลดาไม่ได้ปิดขนาดภาพที่คนภายนอกมอง
เพราะในรุ่นๆนึงไม่ได้มีแต่ลูกท่านหลานเธอลูกคนใหญ่คนโต
แต่มีลูกข้าราชบริพารในวัง เช่นลูกชาวที่ คนงานในวังร่วมรุ่นด้วย
เท่าที่ทราบ ลูกท่านผู้หญิงกับลูกชาวที่ก็เห็นคบหากันได้เป็นปกติ
ไม่มีการแบ่งชนชั้นสังคมอะไร เพราะคนน้อย อาจารย์ปฏิบัติต่อทุกคนเท่ากัน
ก็มีแบ่งกลุ่มสนิทแบบสังคมทั่วไป แต่ก็เห็นทุกรุ่นไปเที่ยวเฮฮากันได้หมด
ไม่ว่าจะเป็นลูกคนงานในวังหรือลูกพลเอกก็เห็นนั่งกินข้าวหม้อเดียวกันเป็นปกติ
5. อาจารย์เข้มงวดแต่มีเหตุผลค่ะ ไม่ใช่สักแต่ว่าดุ
อาจารย์หลายท่านเป็นระดับคุณหญิงท่านผู้หญิงแต่ท่านก็สอนหนังสือสนุก
จะดุก็ดุเรื่องมารยาทพื้นฐาน เด็กจิตรลดาทุกคนน่าจะเคยได้ยินประโยคนี้
"เมื่อมีผู้พูด ต้องมีผู้ฟัง" เป็นคำที่อาจารย์ใช้สอนเวลาเด็กคุยในแถว
ระหว่างที่อาจารย์กำลังพูดหน้าแถวตอนเคารพธงชาติตอนเช้า
แล้วเด็กทุกคนจะรู้ตัวและหยุดคุยเล่น อาจารย์จะดุแนวๆนี้ล่ะค่ะ
เอาง่ายๆคือดุแบบผู้ดี พูดเรียบๆสุภาพแต่ได้ผล
6. อันนี้เราอาจจะคิดเอาเอง
แต่เพราะความที่อาจารย์โรงเรียนจิตรลดามีดีในตัวเองอยู่
และองค์อุปถัมภ์โรงเรียนคือสมเด็จพระเทพฯทรงดูแลใกล้ชิด
อาจารย์เลยไม่ต้องมากลัวหรือเกรงใจผู้ปกครองบางคนที่กร่างแบบงี่เง่า
เด็กทุกคนเลยจะได้รับการปฏิบัติที่ไม่เหลื่อมล้ำจนเกิดปัญหาได้
สมัยเรา สมุดพกของนักเรียนทุกคนถูกส่งขึ้นให้ทอดพระเนตรด้วยค่ะ
และท่านก็จำได้ด้วย เพราะผู้ปกครองเด็กหลายคนเล่ากันว่าท่านพูดเรื่องเกรดของลูก
สมัยนี้ไม่แน่ใจว่าจะยังเป็นอย่างนี้มั้ย แต่คิดว่าน่าจะใช่
7. ข้อห้ามต่างๆก็เหมือนโรงเรียนทั่วไป
เด็กผู้หญิงไว้ผมยาวได้แต่ต้องถักเปียให้เรียบร้อย
เด็กผู้ชายตัดผมทรงนักเรียน ไม่ต้องไถมากก็ได้แต่อย่าให้ยาวน่าเกลียด
ไม่งั้นโรงเรียนมีบริการตัดผมให้ฟรีค่ะ จากควาญช้างในวังที่ดูแลคุณพระ(ช้างหลวง)
จะเข้าไปรับส่งก็ต้องระวังแค่ว่าอยู่ในเขตพระราชฐาน ต้องแต่งตัวสุภาพ
ใส่รองเท้าหุ้มส้น ผู้หญิงสวมกระโปรง และไม่ควรแต่งดำค่ะ
ข้อห้ามหลักๆก็มีประมาณนี้ เราว่าไม่ยากและก็ไม่ได้เข้มงวดดว่าโรงเรียนอื่นเท่าไหร่
8. เราทำงานอยู่ต่างประเทศ ลูกเราคงไม่มีโอกาสเข้าเรียนที่นี่
แต่ถ้าเรากลับเมืองไทยและมีโอกาส จิตรลดาเป็นที่แรกและที่เดียวที่เราจะเลือกค่ะ
แต่เห็นเพื่อนๆพี่ๆน้องๆหลายคนเอาลูกเข้าที่นี่
เลยพอจะรู้อยู่บ้างว่าปัจจุบันโรงเรียนทำอะไรอยู่
1. สภาพแวดล้อมดีมาก ปลอดภัย อากาศดี
อาหารอร่อย เจ็บป่วยขึ้นมามีกองแพทย์หลวงอยู่ในวัง
น้องชายเราเคยแพ้ปลาหมึกในอาหารกลางวัน
โรงเรียนพาส่งไปที่แพทย์หลวงทันทีค่ะ แป๊ปเดียวถึงหมอ
เป็นข้อหนึ่งที่เราว่าดีมากในเรื่องการดูแลสุขภาพความปลอดภัยของเด็ก
2. สมัยเราเรียน ประถมมัธยมมีแค่สองห้อง ห้องละ 40 กว่าคน
แต่ครูประจำชั้นมีสามคนต่อหนึ่งห้อง ดูแลใกล้ชิดดี
ปัจจุบันไม่รู้อัตราส่วนเท่าไหร่แต่คิดว่าไม่น่าต่างจากนี้นัก
ยิ่งชั้นสูงๆ ม.ปลายนักเรียนต่อห้องยิ่งน้อย เพราะมีไปเตรียมทหารเยอะ
3. เพราะนักเรียนต่อรุ่นน้อย (100 กว่าคน) เลยสนิทกันมาก
รู้จักกันดีทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง และยังคบหาช่วยเหลือกันมาจนทุกวันนี้
ถ้าพูดถึงคอนเนคชั่นในอนาคต เด็กที่นี่ถือว่าเหนียวแน่นมาก
4. สังคมจิตรลดาไม่ได้ปิดขนาดภาพที่คนภายนอกมอง
เพราะในรุ่นๆนึงไม่ได้มีแต่ลูกท่านหลานเธอลูกคนใหญ่คนโต
แต่มีลูกข้าราชบริพารในวัง เช่นลูกชาวที่ คนงานในวังร่วมรุ่นด้วย
เท่าที่ทราบ ลูกท่านผู้หญิงกับลูกชาวที่ก็เห็นคบหากันได้เป็นปกติ
ไม่มีการแบ่งชนชั้นสังคมอะไร เพราะคนน้อย อาจารย์ปฏิบัติต่อทุกคนเท่ากัน
ก็มีแบ่งกลุ่มสนิทแบบสังคมทั่วไป แต่ก็เห็นทุกรุ่นไปเที่ยวเฮฮากันได้หมด
ไม่ว่าจะเป็นลูกคนงานในวังหรือลูกพลเอกก็เห็นนั่งกินข้าวหม้อเดียวกันเป็นปกติ
5. อาจารย์เข้มงวดแต่มีเหตุผลค่ะ ไม่ใช่สักแต่ว่าดุ
อาจารย์หลายท่านเป็นระดับคุณหญิงท่านผู้หญิงแต่ท่านก็สอนหนังสือสนุก
จะดุก็ดุเรื่องมารยาทพื้นฐาน เด็กจิตรลดาทุกคนน่าจะเคยได้ยินประโยคนี้
"เมื่อมีผู้พูด ต้องมีผู้ฟัง" เป็นคำที่อาจารย์ใช้สอนเวลาเด็กคุยในแถว
ระหว่างที่อาจารย์กำลังพูดหน้าแถวตอนเคารพธงชาติตอนเช้า
แล้วเด็กทุกคนจะรู้ตัวและหยุดคุยเล่น อาจารย์จะดุแนวๆนี้ล่ะค่ะ
เอาง่ายๆคือดุแบบผู้ดี พูดเรียบๆสุภาพแต่ได้ผล
6. อันนี้เราอาจจะคิดเอาเอง
แต่เพราะความที่อาจารย์โรงเรียนจิตรลดามีดีในตัวเองอยู่
และองค์อุปถัมภ์โรงเรียนคือสมเด็จพระเทพฯทรงดูแลใกล้ชิด
อาจารย์เลยไม่ต้องมากลัวหรือเกรงใจผู้ปกครองบางคนที่กร่างแบบงี่เง่า
เด็กทุกคนเลยจะได้รับการปฏิบัติที่ไม่เหลื่อมล้ำจนเกิดปัญหาได้
สมัยเรา สมุดพกของนักเรียนทุกคนถูกส่งขึ้นให้ทอดพระเนตรด้วยค่ะ
และท่านก็จำได้ด้วย เพราะผู้ปกครองเด็กหลายคนเล่ากันว่าท่านพูดเรื่องเกรดของลูก
สมัยนี้ไม่แน่ใจว่าจะยังเป็นอย่างนี้มั้ย แต่คิดว่าน่าจะใช่
7. ข้อห้ามต่างๆก็เหมือนโรงเรียนทั่วไป
เด็กผู้หญิงไว้ผมยาวได้แต่ต้องถักเปียให้เรียบร้อย
เด็กผู้ชายตัดผมทรงนักเรียน ไม่ต้องไถมากก็ได้แต่อย่าให้ยาวน่าเกลียด
ไม่งั้นโรงเรียนมีบริการตัดผมให้ฟรีค่ะ จากควาญช้างในวังที่ดูแลคุณพระ(ช้างหลวง)
จะเข้าไปรับส่งก็ต้องระวังแค่ว่าอยู่ในเขตพระราชฐาน ต้องแต่งตัวสุภาพ
ใส่รองเท้าหุ้มส้น ผู้หญิงสวมกระโปรง และไม่ควรแต่งดำค่ะ
ข้อห้ามหลักๆก็มีประมาณนี้ เราว่าไม่ยากและก็ไม่ได้เข้มงวดดว่าโรงเรียนอื่นเท่าไหร่
8. เราทำงานอยู่ต่างประเทศ ลูกเราคงไม่มีโอกาสเข้าเรียนที่นี่
แต่ถ้าเรากลับเมืองไทยและมีโอกาส จิตรลดาเป็นที่แรกและที่เดียวที่เราจะเลือกค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ให้ลูกเรียน รร.จิตรลดา หรือ สาธิตประสานมิตรดี ใครมีคำแนะนำบ้างคะ