คิดว่าพวกเราน่าจะเคยได้ยินเรื่องมารยาทการให้ทิปของประเทศอเมริกากันมาบ้างแล้ว แต่ก็นะ น้องเราที่ทำเสริฟอยู่ ก็ยังมีบ่นให้ฟังเป็นระยะ ๆ ว่านักท่องเที่ยวไม่เข้าใจ งอแง ไม่ยอมจ่าย แต่ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นคนไทยนะคะ เพราะดูเหมือนประเทศไหน ๆ ฝั่งยุโรปเค้าก็ไม่มีมารยาทการกึ่งบังคับทิปเหมือนประเทศนี้

กติกา การให้ทิปของรัฐนิวยอร์ก อยู่ 15 - 20% ของค่าอาหาร ที่เน้นว่านิวยอร์กเพราะว่า แต่ละรัฐมีขั้นต่ำของทิป ไม่เท่ากันค่ะ แล้วแต่ค่าครองชีพของรัฐนั้นๆ อีกที

ทีนี้ ตั้งแต่เดือนมกรา 2014 ได้มีการผ่านร่างกฏหมายให้ร้านอาหารสามารถ เพิ่มสิ่งที่เรียก ว่า service fees เข้าไปในใบแจ้งค่าบริการ (bill) ได้ และข้อมูลจาก service fees นี้จะกลายเป็นรายรับของร้านอาหารที่รัฐสามารถนำไปคำนวณภาษี เรียกเก็บจากร้านได้ แต่ร้านจะใส่ หรือไม่ใส่ item นี้เข้าไปในบิลก็ได้ ร้านไม่ใส่ก็ไม่โดนภาษี

เอาหล่ะสิ ภาระตกอยู่กะผู้บริโภคอย่างพวกเราแล้วหล่ะสิ มาดูลูกเล่นของร้านอาหารกันว่า มีอะไรได้บ้าง
Gratuity fee หรือ Service charge แต่ก่อนถ้าเราไปกินข้าวกันเป็นหมู่คณะตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ร้านจะเพิ่ม Gratuity fee เข้าไปในใบแจ้งหนี้ โดยอัตโนมัติประมาณ 18% เพราะเค้าถือว่าเรามากันเยอะ เค้าค่อนข้างวุ่นวายในการให้บริการ เพราะฉะนั้นตามมารยาทควรจ่ายไปค่ะ

คราวนี้ พออิกฎหมายใหม่นี่มา ร้านก็ใส่ item นี้เข้าไปในใบแจ้งหนี้ได้ไม่ว่าเราจะมากันกี่คน แต่แทนที่เค้าจะใส่ “service fees” เค้ากลับใส่ “Gratuity fee” แทน และมันไม่ได้มีผลทางกฎหมาย เพราะจริง ๆ Gratuity เป็นแค่ suggestion tip หรือ ทิปที่ทางร้านแนะนำ เราไม่จำเป็นต้องจ่ายตามนั้นก็ได้ เราแค่คำนวณทิปที่ (15-20%) จากค่าอาหาร ย้ำนะคะ ค่าอาหาร ไม่ใช่ค่าอาหารรวม tax แล้วกรอกตามนั้นในช่อง Grand Total (บรรทัดสุดท้าย) แม้ว่าจำนวนเงินที่เค้ารูดบัตรเรามาจะสูงกว่าที่เราคำนวณได้ก็ตาม การยืนยันของเราถือเป็นสิทธิขาดค่ะ ตามนั้น

เพราะฉะนั้นก่อนจ่ายตังค์ทุกครั้ง ควรดูข้อมูลในใบบิลทุกครั้งนะคะ
ขอให้สนุกกับการท่องเที่ยวค่ะ

อ้างอิง: http://www.tripadvisor.com/Travel-g60763-c71510/New-York-City:New-York:Tipping.In.Nyc.html

สวัสดีค่ะ

ตอนเก่า ๆ
ตอน Speakeasy bar (20+) : http://ppantip.com/topic/32018787
ตอน จักรยานคนเมือง Citibike : http://ppantip.com/topic/32015119
ตอน ทะเลนิวยอร์ก : http://ppantip.com/topic/32013880