นั่นแหละ นั่นแแหละ เรียนผูกอะไรเอาไว้หลายอย่างเละเทะเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปหมด จนไม่รู้แล้วว่าตัวเองจะลุกขึ้นมาทำอะไรแก้ไขตรงไหนก่อน มองไปตรงนั้นก็รู้สึกแย่ มองไปทางนี้ก็เจอแต่ความเกลียดชัง มองรอบ ๆ ตัวอีกครั้งก็ระลึกได้ว่าเขาหันหลังลากจากเราไป ที่นี้จึงได้แต่จมอยู่กับความเสียใจความรู้สึกผิดโลกมืดดับอยู่แต่เพียงผู้เดียว ชนิดที่กำลังคิด ๆ อยู่เลยเชียว ตาย ๆ ดับไปซะเลยดีไหม
แต่แล้วพุทธิปัญญาก็เกิด ... เสียใจมานานเกินไปรึยัง มันช่วยอะไรได้ไหม คนรอบข้างอีกมากมายเท่าไหร่ที่ต้องลำบากถ้าเราล้มลงไป "ธาตุแท้" ของเราคืออะไร คนในกระจกคนนั้น เคยล้มมาแล้ว เคยแพ้มาแล้ว แต่ก็ลุกได้ใช่ไหม ชั้นแรกอาจจะลุกขึ้นมาเพราะความแค้นความชิงชัง พลังด้านลบซึ่งเป็นแรงผลักดันให้กร้าวให้กร้านให้ชิงชังโลก แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมในานการแข่งขันเอาตัวรอด ก็มีสิ่งดี ๆ คนดี ๆ ให้เราพานพบนี่ แล้วเราจะเสียมันไปเพราะการคิดลบของตัวเองอีกหรือ
แล้วเพราะการคิดลบความแค้นชิงชังนั่นอีกใช่หรือเปล่าที่ทำให้เราพลาดโอกาสดี ๆ ที่จะได้หัวใจรักตัวเองกลับคืน วันนั้นเราลุกเพราะความชิงชังที่คิดว่าเธอลืม แต่วันนี้เราก็จะลุกขึ้นเหมือนกันลุกขึ้นมาเพราะความรัก เพราะความคิดในด้านบวก เมื่อตอนแค้นเคยจิกติดได้อย่างไร พอมีความรักยิ่งจิกติดได้มากกว่าเก่า ในเมื่อยอมรับว่า "หนี" ไปไหนไม่ได้อีก "ปล่อย" ก็ไม่ไป "ไล่" ก็ยังอยู่
ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะหนีความจริง คนอื่นเขาพุ่งชนปัญหากันหมดแล้ว ก็เหลือแต่เรา
ใช่สิ ที่ผ่านมารอดมาได้เพราะความพยายาม ฟาดฟันกับปัญหา แล้วเรื่องหัวใจตัวเองก็ให้รู้ไปสิ
ว่าจะไม่มีปัญญา ...
ดังนั้นก้มหน้ารับกรรมอย่างเดียว คุณเอื้ออาจจะบอกว่าถึงเขมใช้เวลาทั้งชีวิตอาจไม่ได้อย่างที่ต้องการ รูปการณ์อาจเป็นเช่นนั้น ถูกต้อง แต่ถ้าคุณเอื้อพิจารณาการวางแผนของเขมและความรู้สึกที่เขมมีต่อวดีซักนิด คุณเอื้อจะรู้ว่าเมื่อเขม "โฟกัส" แล้ว เมื่อล็อกเป้าแล้ว เหยียบคันเร่งมิดจ้ะ ฆ่าไม่ตาย ยิ่งกว่าเก้าชีวิต เจ็บเป็นเจ็บ ตายเป็นตาย ท้อแต่ไม่ถอย มิเช่นนั้นคงไม่ลุกขึ้นมาประสบความสำเร็จได้เมื่อวดีจากไป และ มิเช่นนั้นคงไม่เดิมพันหมดหน้าตักจนก่อแผน suicide attack ขึ้นมา
เมื่อเห็นแล้วว่ารอยทางแห่งความรักยังอยู่แม้มันจะเลือนลาง ผู้ชายคนนี้จะทำทุกวิถีทางให้มันกลับมา เอาซี้ แค้นหมดหน้าตักได้ "รัก" ชนิดทุ่มหมดหน้าตักก็ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งถ้าดูไปแล้วเขมชาติกับวดี "ดื้อ" ได้พอ ๆ กัน ก่อนหน้านี้วดียอมให้เขมโขกสับ เก็บ นิ่ง เงียบ เมื่อถึงคราวเขมต้องทำบ้าง เขาก็ทำได้เช่นกัน นิสัยบางอย่าง "เหมือนกัน" อย่างไม่น่าเชื่อ
ทั้งเขาและเธอ อาจจะมีท้อบ้างมีถอยบ้าง แต่ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันไม่เคยมีใคร "ยกธงขาว" ในความสัมพันธ์ ยอมในสิ่งที่ยอมได้ สู้ในสิ่งที่สู้ได้ ในสถานการณ์แม้จะเลวร้ายแค่ไหน ก็ไม่มีใครยอมปล่อยมือ ... ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร แต่สายใยบางอย่างยังอยู่กลางใจสองคนนั้นเสมอก็อยู่ที่ว่า
ในกรณีของหนูเล็กมันอยู่ที่การยอมรับ ... เธอจะยอมรับหรือเปล่าวว่าสายใยนั้นยังอยู่
ในกรณีของเขมชาติ ... เขาจะหาหนทางใดเพื่อรื้อฟื้นสายใยนั้นให้กลับคืนมา
ซึ่งไม่ว่าวดีจะคิดอย่างไร
ที่จริงแท้และแน่นอนในตอนนี้
เขาอาจะท้อเขาอาจเหนื่อย แต่ ..
จะไม่มีอาการ "ยอมแพ้" หรือ "ยกธงขาว"
จากเขมชาติเป็นแน่
I know you think that I shouldn't still love you,
Or tell you that.
But if I didn't say it, well I'd still have felt it
where's the sense in that?
คำว่ารักต้องห้ามไม่ควรเอ่ย
ควรเฉยเมยขว้างทิ้งให้ดับสูญ
ถึงไม่พูดฉันรู้อยู่มันเพิ่มพูน
บวกลบคูณหาเหตุผลเพราะเหตุใด
I promise I'm not trying to make your life harder
Or return to where we were
ขอสัญญาไม่ทำเธอให้เหนื่อยนัก
ไม่ค้นควักหาถ้อยคำไหนไหน
ไม่รั้งดึงให้หวนกลับที่จากไป
ฉันจะไม่คืนคำดังว่ามา
I will go down with this ship
And I won't put my hands up and surrender
There will be no white flag above my door
I'm in love and always will be
แต่อย่าห้ามกันเลยนะเธอนะ
หากฉันจะจมดิ่งถวิลหา
ไม่ยอมแพ้พ่ายแก่โชคชะตา
อีกกี่คราไม่มีวันยอมยกธง
I know I left too much mess and
destruction to come back again
And I caused nothing but trouble
I understand if you can't talk to me again
And if you live by the rules of "it's over"
then I'm sure that that makes sense
รู้ฉันรู้ว่าฉันเป็นคนผิด
เอาแต่คิดให้ได้ตามประสงค์
ก่อปัญหาให้เรื่องยากเย็นลง
หากเธอปลงฉันก็คงไม่ว่าไร
I will go down with this ship
And I won't put my hands up and surrender
There will be no white flag above my door
I'm in love and always will be
แต่ฉันคงดำดิ่งในจุดนี้
จะไม่มีวันยอมหนีไปไหน
ไม่ยอมยกธงขาวลังเลใจ
เพราะรักใคร่ฝังไว้ในอุรา
And when we meet
Which I'm sure we will
All that was there
Will be there still
I'll let it pass
And hold my tongue
And you will think
That I've moved on....
เราอาจเจอไม่วันใดก็วันหนึ่ง
จะซุกซ่อนความคิดถึงคะนึงหา
ปล่อยผ่านไปไม่ให้ระคายตา
ราวกับว่าเป็นลมที่ผ่านเลย
I will go down with this ship
And I won't put my hands up and surrender
There will be no white flag above my door
I'm in love and always will be
หากวันนี้ได้ตัดสินใจแน่
ไม่ปรวนแปรไม่ยอมอยู่นิ่งเฉย
ธงขาวฤาโบกใต้ลมลำเพย
ไม่มีเลยใจเอยมิยินยอม
อย่าลืมฉัน(กึ่งรีวิว)ในคืนนี้ : White Flag
นั่นแหละ นั่นแแหละ เรียนผูกอะไรเอาไว้หลายอย่างเละเทะเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปหมด จนไม่รู้แล้วว่าตัวเองจะลุกขึ้นมาทำอะไรแก้ไขตรงไหนก่อน มองไปตรงนั้นก็รู้สึกแย่ มองไปทางนี้ก็เจอแต่ความเกลียดชัง มองรอบ ๆ ตัวอีกครั้งก็ระลึกได้ว่าเขาหันหลังลากจากเราไป ที่นี้จึงได้แต่จมอยู่กับความเสียใจความรู้สึกผิดโลกมืดดับอยู่แต่เพียงผู้เดียว ชนิดที่กำลังคิด ๆ อยู่เลยเชียว ตาย ๆ ดับไปซะเลยดีไหม
แต่แล้วพุทธิปัญญาก็เกิด ... เสียใจมานานเกินไปรึยัง มันช่วยอะไรได้ไหม คนรอบข้างอีกมากมายเท่าไหร่ที่ต้องลำบากถ้าเราล้มลงไป "ธาตุแท้" ของเราคืออะไร คนในกระจกคนนั้น เคยล้มมาแล้ว เคยแพ้มาแล้ว แต่ก็ลุกได้ใช่ไหม ชั้นแรกอาจจะลุกขึ้นมาเพราะความแค้นความชิงชัง พลังด้านลบซึ่งเป็นแรงผลักดันให้กร้าวให้กร้านให้ชิงชังโลก แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมในานการแข่งขันเอาตัวรอด ก็มีสิ่งดี ๆ คนดี ๆ ให้เราพานพบนี่ แล้วเราจะเสียมันไปเพราะการคิดลบของตัวเองอีกหรือ
แล้วเพราะการคิดลบความแค้นชิงชังนั่นอีกใช่หรือเปล่าที่ทำให้เราพลาดโอกาสดี ๆ ที่จะได้หัวใจรักตัวเองกลับคืน วันนั้นเราลุกเพราะความชิงชังที่คิดว่าเธอลืม แต่วันนี้เราก็จะลุกขึ้นเหมือนกันลุกขึ้นมาเพราะความรัก เพราะความคิดในด้านบวก เมื่อตอนแค้นเคยจิกติดได้อย่างไร พอมีความรักยิ่งจิกติดได้มากกว่าเก่า ในเมื่อยอมรับว่า "หนี" ไปไหนไม่ได้อีก "ปล่อย" ก็ไม่ไป "ไล่" ก็ยังอยู่
ใช่สิ ที่ผ่านมารอดมาได้เพราะความพยายาม ฟาดฟันกับปัญหา แล้วเรื่องหัวใจตัวเองก็ให้รู้ไปสิ
ว่าจะไม่มีปัญญา ...
ดังนั้นก้มหน้ารับกรรมอย่างเดียว คุณเอื้ออาจจะบอกว่าถึงเขมใช้เวลาทั้งชีวิตอาจไม่ได้อย่างที่ต้องการ รูปการณ์อาจเป็นเช่นนั้น ถูกต้อง แต่ถ้าคุณเอื้อพิจารณาการวางแผนของเขมและความรู้สึกที่เขมมีต่อวดีซักนิด คุณเอื้อจะรู้ว่าเมื่อเขม "โฟกัส" แล้ว เมื่อล็อกเป้าแล้ว เหยียบคันเร่งมิดจ้ะ ฆ่าไม่ตาย ยิ่งกว่าเก้าชีวิต เจ็บเป็นเจ็บ ตายเป็นตาย ท้อแต่ไม่ถอย มิเช่นนั้นคงไม่ลุกขึ้นมาประสบความสำเร็จได้เมื่อวดีจากไป และ มิเช่นนั้นคงไม่เดิมพันหมดหน้าตักจนก่อแผน suicide attack ขึ้นมา
เมื่อเห็นแล้วว่ารอยทางแห่งความรักยังอยู่แม้มันจะเลือนลาง ผู้ชายคนนี้จะทำทุกวิถีทางให้มันกลับมา เอาซี้ แค้นหมดหน้าตักได้ "รัก" ชนิดทุ่มหมดหน้าตักก็ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งถ้าดูไปแล้วเขมชาติกับวดี "ดื้อ" ได้พอ ๆ กัน ก่อนหน้านี้วดียอมให้เขมโขกสับ เก็บ นิ่ง เงียบ เมื่อถึงคราวเขมต้องทำบ้าง เขาก็ทำได้เช่นกัน นิสัยบางอย่าง "เหมือนกัน" อย่างไม่น่าเชื่อ
ทั้งเขาและเธอ อาจจะมีท้อบ้างมีถอยบ้าง แต่ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันไม่เคยมีใคร "ยกธงขาว" ในความสัมพันธ์ ยอมในสิ่งที่ยอมได้ สู้ในสิ่งที่สู้ได้ ในสถานการณ์แม้จะเลวร้ายแค่ไหน ก็ไม่มีใครยอมปล่อยมือ ... ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร แต่สายใยบางอย่างยังอยู่กลางใจสองคนนั้นเสมอก็อยู่ที่ว่า
ในกรณีของเขมชาติ ... เขาจะหาหนทางใดเพื่อรื้อฟื้นสายใยนั้นให้กลับคืนมา
ที่จริงแท้และแน่นอนในตอนนี้
เขาอาจะท้อเขาอาจเหนื่อย แต่ ..
จะไม่มีอาการ "ยอมแพ้" หรือ "ยกธงขาว"
จากเขมชาติเป็นแน่
Or tell you that.
But if I didn't say it, well I'd still have felt it
where's the sense in that?
คำว่ารักต้องห้ามไม่ควรเอ่ย
ควรเฉยเมยขว้างทิ้งให้ดับสูญ
ถึงไม่พูดฉันรู้อยู่มันเพิ่มพูน
บวกลบคูณหาเหตุผลเพราะเหตุใด
I promise I'm not trying to make your life harder
Or return to where we were
ขอสัญญาไม่ทำเธอให้เหนื่อยนัก
ไม่ค้นควักหาถ้อยคำไหนไหน
ไม่รั้งดึงให้หวนกลับที่จากไป
ฉันจะไม่คืนคำดังว่ามา
I will go down with this ship
And I won't put my hands up and surrender
There will be no white flag above my door
I'm in love and always will be
แต่อย่าห้ามกันเลยนะเธอนะ
หากฉันจะจมดิ่งถวิลหา
ไม่ยอมแพ้พ่ายแก่โชคชะตา
อีกกี่คราไม่มีวันยอมยกธง
I know I left too much mess and
destruction to come back again
And I caused nothing but trouble
I understand if you can't talk to me again
And if you live by the rules of "it's over"
then I'm sure that that makes sense
รู้ฉันรู้ว่าฉันเป็นคนผิด
เอาแต่คิดให้ได้ตามประสงค์
ก่อปัญหาให้เรื่องยากเย็นลง
หากเธอปลงฉันก็คงไม่ว่าไร
I will go down with this ship
And I won't put my hands up and surrender
There will be no white flag above my door
I'm in love and always will be
แต่ฉันคงดำดิ่งในจุดนี้
จะไม่มีวันยอมหนีไปไหน
ไม่ยอมยกธงขาวลังเลใจ
เพราะรักใคร่ฝังไว้ในอุรา
And when we meet
Which I'm sure we will
All that was there
Will be there still
I'll let it pass
And hold my tongue
And you will think
That I've moved on....
เราอาจเจอไม่วันใดก็วันหนึ่ง
จะซุกซ่อนความคิดถึงคะนึงหา
ปล่อยผ่านไปไม่ให้ระคายตา
ราวกับว่าเป็นลมที่ผ่านเลย
I will go down with this ship
And I won't put my hands up and surrender
There will be no white flag above my door
I'm in love and always will be
หากวันนี้ได้ตัดสินใจแน่
ไม่ปรวนแปรไม่ยอมอยู่นิ่งเฉย
ธงขาวฤาโบกใต้ลมลำเพย
ไม่มีเลยใจเอยมิยินยอม