มันเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งที่เขาถูกจำคุกฐาน "พยายามสร้างความเกลียดชังทางศาสนา" ในขณะที่ความจริงเขาเพียงประกาศตัวว่าเป็นเอธิสเท่านั้น เขาไม่ได้พูดอะไรที่สร้างความเกลียดชัง หรือเรียกร้องให้โจมตีมุสลิมเลย ข้อสังเกตุเกี่ยวกับเรื่องนี้คือมันเหมือนกับสิ่งที่พวกคลั่งศาสนาอิสลามในตะวันตกใช้ในการตราหน้าใครก็ตามที่วิจารณ์ความน่ากลัวของการทำจีฮัด เป็นไปได้ว่าพวกเขาทั้งหมดอาจจะทำตามตำราเดียวกันหรือมันอาจจะเป็นมโนภาพที่ฝังแน่น ว่าใครก็ตามที่วิจารณ์ หรือแม้แต่แสดงความเห็นในทางใดก็ตามเกี่ยวกับอิสลามนั้น มีแรงจูงใจมาจากความเกลียดชัง
จาร์กาต้า,อินโดนีเซีย เขาเติบโตในครอบครัวมุสลิมอนุรักษ์นิยมในชนบทของสุมาตราตะวันตก , อเลคซานเดอร์ แอน ซ่อน ความลับในใจของเขามาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ เขาไม่เชื่อในพระเจ้า เขารู้สึกได้ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆเมื่อเขาอายุมากขึ้น และเขาต้อง แกล้งทำพิธีละหมาดไปวันๆ รวมทั้งพิธีทางศาสนาอื่นๆในเทศกาลต่างๆ
เขาหยุดละหมาดในปี 2008 เมื่อเขาอายุ 26 ปี และในที่สุดเขาก็บอกพ่อแม่และน้องอีก 3 คนว่าเขาเป็นเอธิส นับเป็น การเปิดเผยที่หาได้ยากยิ่งในประเทศอย่างอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นชาติมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขาตอบรับด้วยความผิดหวัง และแสดงความหวังว่าอเลคซานเดอร์ จะกลับเข้าสู่อิสลาม
แต่อเลคซานเดอร์ ไม่กลับเข้าสู่อิสลามและไม่ปิดบังครอบครัวของเขาต่อไป ในที่สุดเขาก็ถูกจำคุก หลังจากโดนกฎหมายจำกัดการสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ตเล่นงาน เขาได้เข้าร่วมกลุ่มเอธิสในเฟซบุ๊คที่ ก่อตั้งโดยชาวอินโดนีเซียที่อาศัยในเนเธอร์แลนด์ และในปี 2011 เขาก็เริ่มโพสข้อความเพื่ออธิบายว่าทำไมเขาจึงไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง
อเลคซานเดอร์ในวัย 32 ให้สัมภาษณ์ว่า "เมื่อฉันเห็นด้วยตาของฉัน คนจน,คนที่อยู่ภาวะสงคราม,คนที่หิวโหย หรือเจ็บป่วย มันทำให้ฉันไม่สบายใจ" ,"อะไรคือความหมายของสิ่งเหล่านี้ มันทำให้ฉันสงสัยในพระเจ้า อะไรคือความหมายของพระเจ้า?" เขาถูกปล่อยตัวอย่างมีทัณฑ์บนในเดือนมกราคม หลังจากถูกจองจำอยู่ 19 เดือน
อินโดนีเซีย จัดให้ อุดมคติ,ปัญจศีล,วัตถุบูชา,และการลบหลู่เป็นสิ่งผิดกฎหมาย อย่างไรก็ดีรัฐธรรมนูญได้รับประกันเสรีภาพในการนับถือศาสนาและการพูด และประเทศก็ได้เปลี่ยนแปลงจากระบอบอำนาจนิยมมาเป็นประชาธิปไตยถึง 16 ปีแล้ว
แต่กรณีของอเลคซานเดอร์ เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆกรณีจากการกดขี่เสรีภาพทางศาสนาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆในอินโดนีเซีย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าอินโดนีซียจะให้การรับรอง คริสต์ ฮินดู และพุทธ ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย แต่ทุกปีก็มีปัญหาเกิดขึ้นเป็นร้อยๆกรณี เช่นการใช้ความรุนแรงโจมตีโดยพุ่งเป้าไปที่ศาสนาของชนกลุ่มน้อย อย่างคริสต์ ชีอะห์ และ อะหฺมะดียะห์ รวมไปถึงการจับกุมด้วยข้อหาดูหมินอิสลามอีกจำนวนมาก โบสถ์คริสต์จำนวนมากถูกปิดเพราะไม่ได้รับอนุญาติ
จากการสำรวจขององค์กรสิทธิมนุษยชน การละเมิดสิทธิในการนับถือศาสนาเพิ่มสูงขึ้นในอินโดนีเซีย ซึ่งมีส่วนมาจากการเพิ่มอิทธิพลของกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงที่ใช้การประท้วงบนถนนและใช้ความรุนแรง ผลักดันไปสู่เป้าหมาย
"กรณีของอเลคซานเดอร์ได้ตอกย้ำแนวโน้มทั้งหมด" Benedict Rogers หัวหน้าทีมเอเชียตะวันออกขององค์กรสิทธิมนุษยชน "Christian Solidarity Worldwide" ที่ก่อตั้งในอังกฤษ ซึ่งได้ออกรายงานในเดือนกุทภาพันธ์เพื่อเตือนความไร้เสถียรภาพทางศาสนาในอินโดนีเซียได้แพร่กระจาย ในพื้นที่ของกลุ่มมุสลิมอนุรักษ์นิยมอย่างภาคตะวันตกของชวา
"แน่นอนว่ามันจะต้องเป็นบุคลกรทางศาสนาที่จะโจมตีใครก็ตามที่เปิดเผยมุมมองนี้ต่อสาธารณะ" Mr. Rogers พูดเกี่ยวกับเอธิส
"แต่ฉันคิดว่าถ้าไม่ใช่เพราะการเติบโตของลัทธิเคร่งศาสนากับพวกหัวรุนแรง กรณีของอเลคซานเดอร์ก็จะไม่เกิดขึ้น"
ปัญหาของ อเลคซานเดอร์ เริ่มต้นขึ้นในเดือนมกราคม 2012 เมื่อกลุ่มม๊อบในจังหวัด Dharmasraya ทางตะวันตกของเกาะสุมาตรา ออกตามล่าเขาที่สำนักงานวางแผนของรัฐ ในขณะที่เขากำลังทำงานเป็นนักวิเคราะห์ข้อมูล
"พวกเขาต้องการให้ผมหยุดพูดว่าไม่มีพระเจ้า" เขากล่าว "ฉันบอกพวกเขาว่ามันเป็นสิทธิของฉันที่จะแสดงออกถึงความเชื่อทางศาสนา"
เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกเรียกมาป้องกันเหตุรุนแรง แต่พวกเขากลับจับกุมอเลคซานเดอร์และขังไว้ที่สถานีตำรวจ ที่ซึ่งเขาถูกสอบสวนซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง ข้อมูลทั้งหมดถูกปะติดปะต่อโดยพุ่งเป้าไปที่การสร้างความเกลียดชังทางศาสนา ในวันต่อมา เขาก็ถูกจับกุมในข้อหาดูหมิ่นอิสลามและกระตุ้นให้ผู้อื่นเป็นเอธิส
ศาลใน Padang เมืองหลวงของจังหวัดสุมาตราตะวันตก ยกฟ้องข้อหาดูหมิ่นอิสลาม และกระตุ้นให้ผู้อื่นเป็นเอธิส แต่สั่งลงโทษ อเลคซานเดอร์ ในข้อหาพยายามสร้างความเกลียดชังทางศาสนา ภายใต้กฎหมายข้อมูลอิเลคทรอนิกส์ และสั่งลงโทษเขาให้จำคุกเป็นเวลา สองปีครึ่ง
"สิ่งที่ฉันโพสมีจุดประสงค์เพื่อการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเท่านั้น ไม่ได้สร้างความเกลียดชังเลย" เขากล่าว
http://www.jihadwatch.org/2014/05/indonesia-ex-muslim-imprisoned-for-inciting-religious-hatred-after-declaring-himself-atheist
http://en.wikipedia.org/wiki/Alexander_Aan
http://www.theguardian.com/world/2012/may/03/indonesia-atheists-religious-freedom-aan
อดีตมุสลิมอินโดนีเซียถูกจำคุกหลังจากประกาศตัวว่าเป็นเอธิส
มันเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งที่เขาถูกจำคุกฐาน "พยายามสร้างความเกลียดชังทางศาสนา" ในขณะที่ความจริงเขาเพียงประกาศตัวว่าเป็นเอธิสเท่านั้น เขาไม่ได้พูดอะไรที่สร้างความเกลียดชัง หรือเรียกร้องให้โจมตีมุสลิมเลย ข้อสังเกตุเกี่ยวกับเรื่องนี้คือมันเหมือนกับสิ่งที่พวกคลั่งศาสนาอิสลามในตะวันตกใช้ในการตราหน้าใครก็ตามที่วิจารณ์ความน่ากลัวของการทำจีฮัด เป็นไปได้ว่าพวกเขาทั้งหมดอาจจะทำตามตำราเดียวกันหรือมันอาจจะเป็นมโนภาพที่ฝังแน่น ว่าใครก็ตามที่วิจารณ์ หรือแม้แต่แสดงความเห็นในทางใดก็ตามเกี่ยวกับอิสลามนั้น มีแรงจูงใจมาจากความเกลียดชัง
จาร์กาต้า,อินโดนีเซีย เขาเติบโตในครอบครัวมุสลิมอนุรักษ์นิยมในชนบทของสุมาตราตะวันตก , อเลคซานเดอร์ แอน ซ่อน ความลับในใจของเขามาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ เขาไม่เชื่อในพระเจ้า เขารู้สึกได้ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆเมื่อเขาอายุมากขึ้น และเขาต้อง แกล้งทำพิธีละหมาดไปวันๆ รวมทั้งพิธีทางศาสนาอื่นๆในเทศกาลต่างๆ
เขาหยุดละหมาดในปี 2008 เมื่อเขาอายุ 26 ปี และในที่สุดเขาก็บอกพ่อแม่และน้องอีก 3 คนว่าเขาเป็นเอธิส นับเป็น การเปิดเผยที่หาได้ยากยิ่งในประเทศอย่างอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นชาติมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขาตอบรับด้วยความผิดหวัง และแสดงความหวังว่าอเลคซานเดอร์ จะกลับเข้าสู่อิสลาม
แต่อเลคซานเดอร์ ไม่กลับเข้าสู่อิสลามและไม่ปิดบังครอบครัวของเขาต่อไป ในที่สุดเขาก็ถูกจำคุก หลังจากโดนกฎหมายจำกัดการสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ตเล่นงาน เขาได้เข้าร่วมกลุ่มเอธิสในเฟซบุ๊คที่ ก่อตั้งโดยชาวอินโดนีเซียที่อาศัยในเนเธอร์แลนด์ และในปี 2011 เขาก็เริ่มโพสข้อความเพื่ออธิบายว่าทำไมเขาจึงไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง
อเลคซานเดอร์ในวัย 32 ให้สัมภาษณ์ว่า "เมื่อฉันเห็นด้วยตาของฉัน คนจน,คนที่อยู่ภาวะสงคราม,คนที่หิวโหย หรือเจ็บป่วย มันทำให้ฉันไม่สบายใจ" ,"อะไรคือความหมายของสิ่งเหล่านี้ มันทำให้ฉันสงสัยในพระเจ้า อะไรคือความหมายของพระเจ้า?" เขาถูกปล่อยตัวอย่างมีทัณฑ์บนในเดือนมกราคม หลังจากถูกจองจำอยู่ 19 เดือน
อินโดนีเซีย จัดให้ อุดมคติ,ปัญจศีล,วัตถุบูชา,และการลบหลู่เป็นสิ่งผิดกฎหมาย อย่างไรก็ดีรัฐธรรมนูญได้รับประกันเสรีภาพในการนับถือศาสนาและการพูด และประเทศก็ได้เปลี่ยนแปลงจากระบอบอำนาจนิยมมาเป็นประชาธิปไตยถึง 16 ปีแล้ว
แต่กรณีของอเลคซานเดอร์ เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆกรณีจากการกดขี่เสรีภาพทางศาสนาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆในอินโดนีเซีย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าอินโดนีซียจะให้การรับรอง คริสต์ ฮินดู และพุทธ ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย แต่ทุกปีก็มีปัญหาเกิดขึ้นเป็นร้อยๆกรณี เช่นการใช้ความรุนแรงโจมตีโดยพุ่งเป้าไปที่ศาสนาของชนกลุ่มน้อย อย่างคริสต์ ชีอะห์ และ อะหฺมะดียะห์ รวมไปถึงการจับกุมด้วยข้อหาดูหมินอิสลามอีกจำนวนมาก โบสถ์คริสต์จำนวนมากถูกปิดเพราะไม่ได้รับอนุญาติ
จากการสำรวจขององค์กรสิทธิมนุษยชน การละเมิดสิทธิในการนับถือศาสนาเพิ่มสูงขึ้นในอินโดนีเซีย ซึ่งมีส่วนมาจากการเพิ่มอิทธิพลของกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงที่ใช้การประท้วงบนถนนและใช้ความรุนแรง ผลักดันไปสู่เป้าหมาย
"กรณีของอเลคซานเดอร์ได้ตอกย้ำแนวโน้มทั้งหมด" Benedict Rogers หัวหน้าทีมเอเชียตะวันออกขององค์กรสิทธิมนุษยชน "Christian Solidarity Worldwide" ที่ก่อตั้งในอังกฤษ ซึ่งได้ออกรายงานในเดือนกุทภาพันธ์เพื่อเตือนความไร้เสถียรภาพทางศาสนาในอินโดนีเซียได้แพร่กระจาย ในพื้นที่ของกลุ่มมุสลิมอนุรักษ์นิยมอย่างภาคตะวันตกของชวา
"แน่นอนว่ามันจะต้องเป็นบุคลกรทางศาสนาที่จะโจมตีใครก็ตามที่เปิดเผยมุมมองนี้ต่อสาธารณะ" Mr. Rogers พูดเกี่ยวกับเอธิส
"แต่ฉันคิดว่าถ้าไม่ใช่เพราะการเติบโตของลัทธิเคร่งศาสนากับพวกหัวรุนแรง กรณีของอเลคซานเดอร์ก็จะไม่เกิดขึ้น"
ปัญหาของ อเลคซานเดอร์ เริ่มต้นขึ้นในเดือนมกราคม 2012 เมื่อกลุ่มม๊อบในจังหวัด Dharmasraya ทางตะวันตกของเกาะสุมาตรา ออกตามล่าเขาที่สำนักงานวางแผนของรัฐ ในขณะที่เขากำลังทำงานเป็นนักวิเคราะห์ข้อมูล
"พวกเขาต้องการให้ผมหยุดพูดว่าไม่มีพระเจ้า" เขากล่าว "ฉันบอกพวกเขาว่ามันเป็นสิทธิของฉันที่จะแสดงออกถึงความเชื่อทางศาสนา"
เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกเรียกมาป้องกันเหตุรุนแรง แต่พวกเขากลับจับกุมอเลคซานเดอร์และขังไว้ที่สถานีตำรวจ ที่ซึ่งเขาถูกสอบสวนซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง ข้อมูลทั้งหมดถูกปะติดปะต่อโดยพุ่งเป้าไปที่การสร้างความเกลียดชังทางศาสนา ในวันต่อมา เขาก็ถูกจับกุมในข้อหาดูหมิ่นอิสลามและกระตุ้นให้ผู้อื่นเป็นเอธิส
ศาลใน Padang เมืองหลวงของจังหวัดสุมาตราตะวันตก ยกฟ้องข้อหาดูหมิ่นอิสลาม และกระตุ้นให้ผู้อื่นเป็นเอธิส แต่สั่งลงโทษ อเลคซานเดอร์ ในข้อหาพยายามสร้างความเกลียดชังทางศาสนา ภายใต้กฎหมายข้อมูลอิเลคทรอนิกส์ และสั่งลงโทษเขาให้จำคุกเป็นเวลา สองปีครึ่ง
"สิ่งที่ฉันโพสมีจุดประสงค์เพื่อการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเท่านั้น ไม่ได้สร้างความเกลียดชังเลย" เขากล่าว
http://www.jihadwatch.org/2014/05/indonesia-ex-muslim-imprisoned-for-inciting-religious-hatred-after-declaring-himself-atheist
http://en.wikipedia.org/wiki/Alexander_Aan
http://www.theguardian.com/world/2012/may/03/indonesia-atheists-religious-freedom-aan