เอื้องเอื้องดอย คอยคอยใคร ใยใยเจ้า
หงอยหงอยเหงา เศร้าเศร้าหมอง ร้องร้องไห้
จรจรจัด พลัดพลัดพราก จากจากใคร
หมกหมกไหม้ ใคร่ใคร่ครุ่น ขุ่นขุ่นเคือง
ล่วงล่วงเดือน เคลื่อนเคลื่อนคลาย หายหายหม่น
ผลิผลิพ้น ยลยลยอ ช่อช่อเอื้อง
บังบังใบ ไหวไหวปลิว ริ้วริ้วเรือง
ฟุ้งฟุ้งเฟื่อง เหลืองเหลืองร้อย ลอยลอยลม
มองมองเมียง เคียงเคียงคืน รื่นรื่นเร้า
คล้ายคล้ายเจ้า เคล้าเคล้าขวย สวยสวยสม
ภู่ภู่ผึ้ง หึ่งหึ่งตอม ดอมดอมดม
ชิดชิดชม กลมกลมกลืน ชื่นชื่นใจ
ร้อนร้อนลม พรมพรมผิว หวิวหวิวโหวง
ยึดยึดโยง โคลงโคลงกลอน อ่อนอ่อนไหว
ซ่อนซ่อนกล ด้นด้นคำ ร่ำร่ำไร
เผลอเผลอไผล ไคล้ไคล้คลั่ง นั่งนั่งครวญ
ดื่มดื่มด่ำ ค่ำค่ำรอ คลอคลอเคลิ้ม
รักรักเริ่ม เพิ่มเพิ่มพร้อม หอมหอมหวน
งดงดงาม หวามหวามจิต ติดติดตรวน
แลแลล้วน ยวนยวนยิ้ม พริ้มพริ้มเพรา
เรียงเรียงเล่น เน้นเน้นนำ ย้ำย้ำยมก
คล้ายคล้ายครก ยกยกเคลื่อน เลื่อนเลื่อนขึ้นเขา
ขีดขีดเขียน เปลี่ยนเปลี่ยนถ้อย ร้อยร้อยลำเนา
เย็นเย็นเช้า เฝ้าเฝ้าปรับ ลับลับฝีมือ
เหนื่อยเหนื่อยอ่อน ห่อนห่อนโหย โอ๊ย โอ๊ย ลำบาก
พร่ำพร่ำพากย์ ยากยากยิ่ง จริงจริงล่ะหรือ
อึดอึดอัด ขัดขัดข้อง ต้องต้องฝึกปรือ
โฮ โฮ ฮือ...อื้ออื้อ...อึ้ง ซึ้งซึ้งกมล
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จึงรู้แจ้งใจ ว่าการแต่งกลอนกลบท มันยากปานใด เจ้าข้าเอ๊ยยยยยยยย แงๆๆๆๆๆ
เป็นกระทู้แรกในห้องดอกไม้ และห้องนักกลอนค่ะ (และเป็นกระทู้ที่สองของตัวเอง)
ชอบคุยในกระทู้เพื่อนๆมากกว่า แต่วันนี้ อารมณ์ดี ครึ้มอกครึ้มใจ
ดีใจที่เมื่อวานฝนตก ไม่ต้องรดน้ำต้นไม้ ก็เลยนำรูป
“เอื้องคำ” มาฝาก กำลังสวยรับฝนค่ะ
ได้มาจากบนดอยเมื่อสามปีก่อน ปีแรกออกดอกสวยมาก (น่าจะเป็นดอกที่ติดท้องมาจากบนดอย)
ปีต่อมา...ไม่ยอมดอกดอก...สงสัยคิดถึง
“คนบนดอย” เอ๊ย...ไม่ใช่ สงสัยเป็นระยะปรับตัว
ปีนี้ก็เลยดูแลมากหน่อย ค่อยๆรอจนได้ชม
“ช่องาม” สมใจ
ก็เลยเอาความรู้สึกตัวเอง ไปเปรียบเทียบกับเจ้าดอกเอื้อง
แล้วก็ร้อยเรียงมาเป็น
“กลอนกลบท” ให้เพื่อนๆอ่านเล่นเพลินๆค่ะ
...โอ้เอื้องดอย คอยใคร???...
เอื้องเอื้องดอย คอยคอยใคร ใยใยเจ้า
หงอยหงอยเหงา เศร้าเศร้าหมอง ร้องร้องไห้
จรจรจัด พลัดพลัดพราก จากจากใคร
หมกหมกไหม้ ใคร่ใคร่ครุ่น ขุ่นขุ่นเคือง
ล่วงล่วงเดือน เคลื่อนเคลื่อนคลาย หายหายหม่น
ผลิผลิพ้น ยลยลยอ ช่อช่อเอื้อง
บังบังใบ ไหวไหวปลิว ริ้วริ้วเรือง
ฟุ้งฟุ้งเฟื่อง เหลืองเหลืองร้อย ลอยลอยลม
มองมองเมียง เคียงเคียงคืน รื่นรื่นเร้า
คล้ายคล้ายเจ้า เคล้าเคล้าขวย สวยสวยสม
ภู่ภู่ผึ้ง หึ่งหึ่งตอม ดอมดอมดม
ชิดชิดชม กลมกลมกลืน ชื่นชื่นใจ
ร้อนร้อนลม พรมพรมผิว หวิวหวิวโหวง
ยึดยึดโยง โคลงโคลงกลอน อ่อนอ่อนไหว
ซ่อนซ่อนกล ด้นด้นคำ ร่ำร่ำไร
เผลอเผลอไผล ไคล้ไคล้คลั่ง นั่งนั่งครวญ
ดื่มดื่มด่ำ ค่ำค่ำรอ คลอคลอเคลิ้ม
รักรักเริ่ม เพิ่มเพิ่มพร้อม หอมหอมหวน
งดงดงาม หวามหวามจิต ติดติดตรวน
แลแลล้วน ยวนยวนยิ้ม พริ้มพริ้มเพรา
เรียงเรียงเล่น เน้นเน้นนำ ย้ำย้ำยมก
คล้ายคล้ายครก ยกยกเคลื่อน เลื่อนเลื่อนขึ้นเขา
ขีดขีดเขียน เปลี่ยนเปลี่ยนถ้อย ร้อยร้อยลำเนา
เย็นเย็นเช้า เฝ้าเฝ้าปรับ ลับลับฝีมือ
เหนื่อยเหนื่อยอ่อน ห่อนห่อนโหย โอ๊ย โอ๊ย ลำบาก
พร่ำพร่ำพากย์ ยากยากยิ่ง จริงจริงล่ะหรือ
อึดอึดอัด ขัดขัดข้อง ต้องต้องฝึกปรือ
โฮ โฮ ฮือ...อื้ออื้อ...อึ้ง ซึ้งซึ้งกมล
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เป็นกระทู้แรกในห้องดอกไม้ และห้องนักกลอนค่ะ (และเป็นกระทู้ที่สองของตัวเอง)
ชอบคุยในกระทู้เพื่อนๆมากกว่า แต่วันนี้ อารมณ์ดี ครึ้มอกครึ้มใจ
ดีใจที่เมื่อวานฝนตก ไม่ต้องรดน้ำต้นไม้ ก็เลยนำรูป “เอื้องคำ” มาฝาก กำลังสวยรับฝนค่ะ
ได้มาจากบนดอยเมื่อสามปีก่อน ปีแรกออกดอกสวยมาก (น่าจะเป็นดอกที่ติดท้องมาจากบนดอย)
ปีต่อมา...ไม่ยอมดอกดอก...สงสัยคิดถึง “คนบนดอย” เอ๊ย...ไม่ใช่ สงสัยเป็นระยะปรับตัว
ปีนี้ก็เลยดูแลมากหน่อย ค่อยๆรอจนได้ชม “ช่องาม” สมใจ
ก็เลยเอาความรู้สึกตัวเอง ไปเปรียบเทียบกับเจ้าดอกเอื้อง
แล้วก็ร้อยเรียงมาเป็น “กลอนกลบท” ให้เพื่อนๆอ่านเล่นเพลินๆค่ะ